บัฟเฟตต์ vs เกรแฮม

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 46

บัฟเฟตต์ vs เกรแฮม

โพสต์ที่ 1

โพสต์

สืบเนื่องจาก  

หมู่เฮาชาว VI ของ ดร.นิเวศน์
Value Investor นับถือและยกย่อง วอเร็น บัฟเฟตต์ มากที่สุด แต่แนวทางการลงทุนนั้น ส่วนใหญ่จะเน้นการลงทุนในแนวของ เกรแฮม นั่นก็คือ นักลงทุนจะเน้นการซื้อหุ้นราคาถูกและขายหุ้นเมื่อราคาปรับตัวขึ้นหรือราคาแพงแล้วในสไตล์ของ เกรแฮม คุณภาพของกิจการที่เป็นจุดเน้นของ วอเร็น บัฟเฟตต์ นั้น นักลงทุนจะให้ความสนใจน้อยกว่าเรื่องของราคา ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะเขายังอาจจะไม่เข้าใจในคุณสมบัติที่แท้จริงของธุรกิจดีพอ อีกส่วนหนึ่งอาจจะมองว่าการเทรดหุ้นบ้างน่าจะช่วยให้สามารถเพิ่มผลตอบแทนการลงทุนได้มากกว่าการถือหุ้นตัวใดตัวหนึ่งยาวเกินไป
ท่านใดมีข้อวิพากษ์วิจารณ์เพิ่มเติมบ้างครับ  เพื่อที่เราจะได้พัฒนาแนวทางการลงทุนของพวกเราต่อไปในอนาคต
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
MO101
Verified User
โพสต์: 3226
ผู้ติดตาม: 2

บัฟเฟตต์ vs เกรแฮม

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ผมเห็นด้วยกะ ดร. เลยครับ
เล่นแนว เกรแฮมเข้าใจง่าย และไม่ต้องการความรู้ในธรกิจ หรือ model มากๆ
น่าจะมีคนเล่นแนวนี้เยอะ
ส่วนพวกเซียนหุ้นมือโปรส่วนใหญ่น่าจะเล่นแบบ บัฟเฟตต์

การเทรดหุ้นบ้างน่าจะช่วยให้สามารถเพิ่มผลตอบแทนการลงทุนได้มากกว่าการถือหุ้นตัวใดตัวหนึ่งยาวเกินไป
อันนี้ไม่แน่ใจเนื่องจากไม่ทราบการถือหุ้นเฉลี่ยของคนในเว็บนี้ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
cryptonian_man
Verified User
โพสต์: 585
ผู้ติดตาม: 0

บัฟเฟตต์ vs เกรแฮม

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ผมในฐานะมือใหม่คิดว่า แนวทางแบบบัฟเฟตต์ค่อนข้างจะทำได้ยากในตลาดหุ้นไทย แถมความอดทนของคนไทยเราก็น้อย ดังนั้น แนวทางแบบเกรแฮม จึงเป็นไปได้มากกว่าในความคิดของนักลงทุน VI

โดยเฉพาะตัวผมเอง เริ่มศึกษาจาก NEW BUFFETTOLOGY แต่รู้สึกว่า VALUE INVESTING MADES EASY อ่านแล้วใช้ได้ง่าย และเข้ากับตลาดไทยมากกว่าด้วย

เพราะการหากิจการดี ราคาเหมาะสมค่อนข้างยาก แต่ถ้าหากิจการดีหรือไม่ก็ได้ แต่ราคาถูกเนี่ย หาได้ไม่ยาก แถมที่สำคัญถ้าขึ้นก็ขายได้อีก
เขาว่า "หลังจากปากพองจากการดื่มนมร้อน เราจะเป่าโยเกิร์ตให้เย็นก่อนตักเข้าปาก"
แต่ทำไมตรูไม่เข็ด เคาะขวาไวตลอดเนี่ย
ภาพประจำตัวสมาชิก
Doramon007
Verified User
โพสต์: 110
ผู้ติดตาม: 0

บัฟเฟตต์ vs เกรแฮม

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ผมคิดว่าแนวเกรแฮมจะทำได้ง่ายกว่าครับ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นก้นบุหรี่ ที่พอราคาถูกมากก็ซื้อ พอขึ้นเกินไปก็ขายครับ แต่แนวทางแบบบัฟเฟตการลงทุนแนวนี้ต้องมองข้ามกาลเวลาและสิ่งนั้นต้องเปลี่ยนแปลงได้ยาก พูดง่าย ๆ ก็คือเราต้องสามารถเห็นภาพในอนาคตว่าธุรกิจใดในอนาคตจะดีและสิ่งที่จะเกิดขึ้นจะเปลี่ยนแปลงได้ยากครับ ถ้าหากเราทำสำเร็จโอกาสที่จะได้กำไรก็น่าจะมากกว่าแนวทางของเกรแฮมมากน่ะครับ (หากผิดพลาดประการใดโปรดแนะนำด้วยครับ)
เมื่อมีสติ ก็จะเกิดปัญญา
ภาพประจำตัวสมาชิก
HI.ผมเอง
Verified User
โพสต์: 811
ผู้ติดตาม: 0

บัฟเฟตต์ vs เกรแฮม

โพสต์ที่ 5

โพสต์

คงหมายถึง
ถ้าแนว เกรแฮม ต้องซื้อ เซเว่นเมื่อสองเดือนก่อน
ถ้าแนวบัฟเฟตต์ ซื้อตอนนี้ ก็ยังไม่สาย
:rofl:  :rofl:  :nm:
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 85

บัฟเฟตต์ vs เกรแฮม

โพสต์ที่ 6

โพสต์

คุณภาพที่ดี  หมายถึงว่า  บริษัทต้องมีผลการดำเนินงานที่ดีสม่ำเสมอ  จาก  อดีต  ปัจจุบัน  ไปถึงอนาคต  ใช่ไหมครับ

คงไม่ใช่ว่าเพิ่งมาดีปีนี้  เดือนนี้  เท่านั้น  แต่น่าจะดีมานานแล้ว

ซึ่งเมื่อพิจารณาจากผลการดำเนินงานในอดีตของบริษัททั้งตลาดหลักทรัพย์   ผมว่าคงเหลือบริษัทลักษณะนี้น้อยเต็มทน

อีกทั้งบริษัทเหล่านี้ก็ไม่มี story ที่เร้าใจซะด้วย

แต่ถ้าจะคัดแบบ  เพิ่งดีมาซักปีสองปีนี้  และมี story ที่สามารถชักชวนให้นักลงทุนทั่วไป (รวมทั้ง  ผู้จัดการกองทุน  นักวิเคราะห์) เชื่อว่าดี  ก็คงพอมีเยอะหน่อย

ซึ่งการลงทุนในบริษัทลักษณะหลังนี้  ก็อาจจะให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะเวลาอันรวดเร็วได้  ซึ่งกว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะสะท้อนภาพที่แท้จริงของกิจการ  ราคาหุ้นก็คงขึ้นไปสูงลิ่ว  จนนักลงทุนที่ซื้อก่อนสามารถขายทำกำไรได้อย่างงดงามและรวดเร็ว
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดาวหางสีแดง
Verified User
โพสต์: 635
ผู้ติดตาม: 0

บัฟเฟตต์ vs เกรแฮม

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ผมว่าขนาดของพอร์ตน่าจะมีส่วนสำคัญ ในแนวทางการลงทุน
ถ้าพอร์ตเล็ก ลงทุนในแนวทางของเกรแฮมก็น่าจะใช้ได้ดี
แต่ถ้าพอร์ตใหญ่มากๆ แนวทางของบัฟเฟตต์เป็นแนวทางที่น่าจะเหมาะกว่า
sunnyvi
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 187
ผู้ติดตาม: 1

พอร์ตใหญ่ หรือเล็ก

โพสต์ที่ 8

โพสต์

เกิดข้อสงสัยว่านับอย่างไรครับ

เช่น นับว่า 10 ล้านหรือ 20 ล้านขึ้นไป ซึ่งอาจต้องคิดต่อว่า  ซื้อหุ้นไว้กี่ตัวถ้าซื้อหลายตัว
เดินให้ถึงจุดหมาย
อย่างมีความสุข
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดาวหางสีแดง
Verified User
โพสต์: 635
ผู้ติดตาม: 0

Re: พอร์ตใหญ่ หรือเล็ก

โพสต์ที่ 9

โพสต์

[quote="suirya"]เกิดข้อสงสัยว่านับอย่างไรครับ

เช่น นับว่า 10 ล้านหรือ 20 ล้านขึ้นไป ซึ่งอาจต้องคิดต่อว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
cryptonian_man
Verified User
โพสต์: 585
ผู้ติดตาม: 0

บัฟเฟตต์ vs เกรแฮม

โพสต์ที่ 10

โพสต์

[quote="HI.ผมเอง"]คงหมายถึง
ถ้าแนว เกรแฮม ต้องซื้อ เซเว่นเมื่อสองเดือนก่อน
ถ้าแนวบัฟเฟตต์ ซื้อตอนนี้ ก็ยังไม่สาย
:rofl:
เขาว่า "หลังจากปากพองจากการดื่มนมร้อน เราจะเป่าโยเกิร์ตให้เย็นก่อนตักเข้าปาก"
แต่ทำไมตรูไม่เข็ด เคาะขวาไวตลอดเนี่ย
ภาพประจำตัวสมาชิก
naris
Verified User
โพสต์: 6726
ผู้ติดตาม: 60

บัฟเฟตต์ vs เกรแฮม

โพสต์ที่ 11

โพสต์

เพราะฉะนั้นเราควรมองหาหุ้น ในราคาเกรแฮม(เชิงปริมาณ) และเป็นหุ้นบัฟเฟตต์(เชิงคุณภาพ)ในอนาคตใช่ไหมครับ

แต่ผมว่าข้อจำกัดของหลายคนที่ต้องการหุ้นบัฟเฟตต์ มีความต้องการกำไร มากกว่า20-30%ต่อปีในระยะยาว ทำให้ต้องมีการกระโดดเปลี่ยนม้าระหว่างทำศึก ซึ่งเราจะต้องมีmargins of safety มากพอควร เพื่อไม่ให้เราพลาดตกม้าได้ และผมจะใช้วิธีทฤษฎีการเปลี่ยนถ่ายน้ำปลา มาใช้ในการลงทุนครับ :lol:
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดาวหางสีแดง
Verified User
โพสต์: 635
ผู้ติดตาม: 0

บัฟเฟตต์ vs เกรแฮม

โพสต์ที่ 12

โพสต์

naris เขียน:เพราะฉะนั้นเราควรมองหาหุ้น ในราคาเกรแฮม(เชิงปริมาณ) และเป็นหุ้นบัฟเฟตต์(เชิงคุณภาพ)ในอนาคตใช่ไหมครับ

แต่ผมว่าข้อจำกัดของหลายคนที่ต้องการหุ้นบัฟเฟตต์ มีความต้องการกำไร มากกว่า20-30%ต่อปีในระยะยาว ทำให้ต้องมีการกระโดดเปลี่ยนม้าระหว่างทำศึก ซึ่งเราจะต้องมีmargins of safety มากพอควร เพื่อไม่ให้เราพลาดตกม้าได้ และผมจะใช้วิธีทฤษฎีการเปลี่ยนถ่ายน้ำปลา มาใช้ในการลงทุนครับ :lol:
รบกวนคุณ naris อธิบายทฤษฎีการเปลี่ยนถ่ายน้ำ(ตู้)ปลา ด้วยครับ

ขอความรู้หน่อยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
naris
Verified User
โพสต์: 6726
ผู้ติดตาม: 60

บัฟเฟตต์ vs เกรแฮม

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ดาวหางสีแดง เขียน: รบกวนคุณ naris อธิบายทฤษฎีการเปลี่ยนถ่ายน้ำ(ตู้)ปลา ด้วยครับ

ขอความรู้หน่อยครับ
การเปลี่ยนน้ำตู้ปลามีหลักง่ายๆอยู่2อย่างคือ
1ต้องเป็นน้ำสะอาดที่ผ่านการคัดเลือกมาแล้วว่าบริสุทธิ์จริง และต้องดีกว่าน้ำเก่า
2ต้องทะยอยเปลี่ยนไม่เกินครึ่งของน้ำเก่า ถ้าน้ำเก่ายังดีอยู่ก็อาจเปลี่ยนทีละ25%

สรุปว่าถ้าพอร์ตเรา มีหุ้นที่ดีอยู่ แต่ราคาค่อนข้างจะมีupsideต่ำกว่าที่เราต้องการแล้ว แต่ยังรักชอบพอกันอยู่ เพราะยังเป็นบริษัทที่ดี ก็อาจจะขายไปครึ่ง แล้วไปซื้อตัวที่คิดว่าดี มีupsideมากกว่า แต่เราอาจจะยังไม่รู้ปัจจัยพื้นฐานดีเท่าบริษัทเดิม เราก็ทะยอยเปลี่ยนน้ำปลาตามความมั่นใจของเราเองครับ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดาวหางสีแดง
Verified User
โพสต์: 635
ผู้ติดตาม: 0

บัฟเฟตต์ vs เกรแฮม

โพสต์ที่ 14

โพสต์

naris เขียน:
สรุปว่าถ้าพอร์ตเรา มีหุ้นที่ดีอยู่ แต่ราคาค่อนข้างจะมีupsideต่ำกว่าที่เราต้องการแล้ว แต่ยังรักชอบพอกันอยู่ เพราะยังเป็นบริษัทที่ดี ก็อาจจะขายไปครึ่ง แล้วไปซื้อตัวที่คิดว่าดี มีupsideมากกว่า แต่เราอาจจะยังไม่รู้ปัจจัยพื้นฐานดีเท่าบริษัทเดิม เราก็ทะยอยเปลี่ยนน้ำปลาตามความมั่นใจของเราเองครับ
สั้นๆ ได้ใจความ
มีประโยชน์สำหรับมือใหม่อย่างผมมาก

ขอบคุณ คุณ naris มากครับ
โพสต์โพสต์