รวยแบบผ่อนส่ง

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
mahayosanan
Verified User
โพสต์: 27
ผู้ติดตาม: 0

รวยแบบผ่อนส่ง

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ถ้าต้องการรวยแบบผ่อนส่ง  ซื้อหุ้นเดือน ละ  10000   บาท  ในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี  เงินปันผลก็ทบต้นไปเรื่อยๆ  พอเกษียณมา ก็จะมีเงินเกษียณประมาณ  14-15 ล้านน่าสนมัยล่ะ  
หุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานที่ดี    อย่าง  HANA  BANPU  RATCH  PTTEP  SCC
สนใจหุ้นแบบเน้นคุณค่ามากที่สุด
Unexpected
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 222
ผู้ติดตาม: 0

รวยแบบผ่อนส่ง

โพสต์ที่ 2

โพสต์

หุ้นที่ว่านีพื้นฐานดียังงัยเหรอครับ? แล้วพื้นฐานดีนี่หมายถึงซื้อที่ราคาไหนก็ได้เลยรึป่าวครับ?
ภาพประจำตัวสมาชิก
mahayosanan
Verified User
โพสต์: 27
ผู้ติดตาม: 0

หุ้นขนาดใหญ่ ประมาณการไว้แต่โตไม่เท่าไร

โพสต์ที่ 3

โพสต์

หุ้นขนาดใหญ่  อย่าง  SCC  RATCH  HANA  PTT  PTTEP  BANPU  
ถึงจุดอิ่มตัวคงโตไม่เกิน 5 %  แต่กิจการมั่นคง  โตไม่เท่าไร
สนใจหุ้นแบบเน้นคุณค่ามากที่สุด
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 84

รวยแบบผ่อนส่ง

โพสต์ที่ 4

โพสต์

เก็บเงินซื้อหุ้นเดือนละ 10000 บาท  ปีละแสนสอง

10 ปี  ล้านสอง

20 ปี  สองล้านสี่

30 ปี  สามล้านหก

40 ปี  สี่ล้านแปด

โอยรอไม่ไหวแล้ว

คุณ mahayosanan  ฃ่วยบอกหน่อยซิว่าจะได้ 14 -15 ล้าน  ในระยะเวลากี่ปี  แล้วลงทุนในหุ้นเหล่านี้แต่ละปีจะได้รับผลตอบแทนเท่าไร

และสุดท้าย  ทำไมถึงคิดว่าจะได้รับผลตอบแทนขนาดนั้นได้ครับ  ถ้าวิเคราะห์เป็นรายบริษัทได้คงเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆมากครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
ภาพประจำตัวสมาชิก
Little Boy
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1318
ผู้ติดตาม: 0

รวยแบบผ่อนส่ง

โพสต์ที่ 5

โพสต์

:shock:  เข้ามารอฟังเหตุผล ถ้าสมเหตุสมผลทำได้จริงๆ ใน 10 ปี จะกู้แบงค์ไปผ่อน ช่วงนี้ MLR แค่ 7% เอง กำไรเห็นๆ
ความรู้..อาจมีขอบเขตจำกัด แต่จินตนาการ..ไร้ขีดจำกัด
akekarat
Verified User
โพสต์: 1746
ผู้ติดตาม: 0

รวยแบบผ่อนส่ง

โพสต์ที่ 6

โพสต์

14-15 ล้าน ตอนเกษียณ จะซื้อก๋วยเตี๋ยวกับข้าวมันไก่ได้อย่างละกี่ชาม (จาน) ครับ? เผื่อผมจะลองสะสมดูด้วยคน  :lol:   :lol:

แล้วจะดูหนังที่ New Paragon (เผื่อทุบสร้างใหม่) ได้กี่เรื่องครับ?
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 33

Re: รวยแบบผ่อนส่ง

โพสต์ที่ 7

โพสต์

mahayosanan เขียน:ถ้าต้องการรวยแบบผ่อนส่ง  ซื้อหุ้นเดือน ละ  10000   บาท  ในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี  เงินปันผลก็ทบต้นไปเรื่อยๆ  พอเกษียณมา ก็จะมีเงินเกษียณประมาณ  14-15 ล้านน่าสนมัยล่ะ  
หุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานที่ดี    อย่าง  HANA  BANPU  RATCH  PTTEP  SCC
ซื้อบ้านปู  พี่เทพ  ปูน   ซื้อไม่ได้1ล๊อต=100หุ้นครับ  อิอิ
หรือจะซื้อเศษหุ้น  ผมไม่แน่ใจอะ  อธิบายหน่อย
หรือมีแต่หลักการ  การปฎิบัติ  บ่อได้ดอก
ภาพประจำตัวสมาชิก
Sumotin
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1145
ผู้ติดตาม: 51

Re: รวยแบบผ่อนส่ง

โพสต์ที่ 8

โพสต์

[quote="ปรัชญา"][quote="mahayosanan"]ถ้าต้องการรวยแบบผ่อนส่ง
Timing is everything, no matter what you do.

CAGR of 34% in the past 15 years of investment
Capo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1067
ผู้ติดตาม: 1

รวยแบบผ่อนส่ง

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ขอต่อเหลือเดือนละ 4,500 ได้ป่าวครับ  :oops:
... จุดเริ่มต้นของคนเราไม่สำคัญ

มันสำคัญที่ว่าเขาวิ่งได้เร็วแค่ไหนตะหาก ...
sunrise
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2273
ผู้ติดตาม: 1

Re: หุ้นขนาดใหญ่ ประมาณการไว้แต่โตไม่เท่าไร

โพสต์ที่ 10

โพสต์

[quote="mahayosanan"]หุ้นขนาดใหญ่
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
akekarat
Verified User
โพสต์: 1746
ผู้ติดตาม: 0

รวยแบบผ่อนส่ง

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่เชื่อว่า จะมีบริษัทไหนที่จะ สามารถรับประกันได้ว่า อนาคตจะเป็นบริษัทที่ดี หรือมั่นคง ผูกขาด ครอบครองตลาด ได้ในระยะยาว เพราะอนาคตเป็นเรื่องที่ไม่มีใครรู้ชัดเจนแน่นอน ตัวเลขทางการเงินต่าง ๆ ค่าต่าง ๆ ที่พูด ๆ กันไม่ว่า PE, PBV, Growth ก็เป็นตัวเลขที่ได้มาจากอดีต ไม่ได้บอกว่า อนาคตจะทำได้เหมือนเดิม จากดีเป็นแย่ (RPC, CPI, PICNI  :oops: ) จากแย่เป็นดี (PTT สมัย 35 บาทไม่ใครเอา) มีให้เห็นเยอะแยะ

ส่วนเรื่องผลตอบแทนทบต้นเหมือนกัน  ผมยอมรับว่า การทบต้น จะทำให้เกิดมูลค่ามหาศาล (ในปีท้าย ๆ ) แต่ปัจจัยหนึ่งที่เป็นความเสี่ยงที่หลาย ๆ คนมักมองข้ามคือ ค่าเงินเฟ้อ, ค่าเสียโอกาสจากการที่ต้องทบกำไรในแต่ละปีเป็นทุนปีถัดไป และที่สำคัญคือ ถ้าปีสุดท้าย เกิดขาดทุนขึ้นมา ถามว่า ผลขาดทุนปีสุดท้าย สมมติ 10% ถ้าเทียบกับเงินต้นตอนปีแรก 10% ที่ว่า อาจจะ = 1000% ก็ได้

สุดท้ายแล้วก็นานาจิตตังครับ เกิดมาก็ตายไป ทำวันนี้ให้มีความสุข และวางแผนอนาคตให้มั่นคงดีกว่ามานั่งคำนวณ 20 ปี 30 ปี จะได้เท่าไหร่
ภาพประจำตัวสมาชิก
Doramon007
Verified User
โพสต์: 110
ผู้ติดตาม: 0

รวยแบบผ่อนส่ง

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ผมคิดว่าอาจจะทำได้จริง แต่คงต้องบอกปี ราคาที่จะซื้อ และไม่จำเป็นต้องกำหนดว่าเป็นหุ้นตัวนี้เท่านั้นครับ เพราะเวลาเปลี่ยนคนยังเปลี่ยน หุ้นก็เหมือนกันครับ เวลาที่เปลี่ยนไปตัวหุ้นก็เปลี่ยนไปครับ
เมื่อมีสติ ก็จะเกิดปัญญา
javoel
Verified User
โพสต์: 383
ผู้ติดตาม: 0

รวยแบบผ่อนส่ง

โพสต์ที่ 13

โพสต์

นับถือทุกๆ ท่านครับ
ผมคงต้องรียนรู้อีกเยอะ
chartchai madman
Verified User
โพสต์: 7514
ผู้ติดตาม: 6

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ที่ 14

โพสต์

mahayosanan wrote:
ถ้าต้องการรวยแบบผ่อนส่ง  ซื้อหุ้นเดือน ละ  10000   บาท  ในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี  เงินปันผลก็ทบต้นไปเรื่อยๆ  พอเกษียณมา ก็จะมีเงินเกษียณประมาณ  14-15 ล้านน่าสนมัยล่ะ  
หุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานที่ดี    อย่าง  HANA  BANPU  RATCH  PTTEP  SCC

ขอร่วมแสดงความเห็นด้วยคนดังนี้ครับ
1)หุ้นที่คุณกล่าวถึงคือ HANA  BANPU  RATCH  PTTEP  SCC นั่น ผมเห็นด้วยครับว่าเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีครับ แต่อนาคตจะเป็นเช่นนั้นตลอดไปหรือไม่ เป็นเรื่องที่ผู้ที่นักลงทุนในหุ้นๆต้องติดตามครับ

2)ลงทุนซื้อหุ้น เดือนละหมื่นทุกๆเดือนไปเรื่อยจนเกษียร นั้นผมเองก็สนับสนุนครับ เหมือนการออมอย่างหนึ่งครับ ผมเองก็ลงทุนในลักษณะนี้ครับ คือลงทุนโดยการซื้อหุ้นตลอด โดยแบ่งเงินมาจากเงินเดือนประจำ หรือส่วนหนึ่งมาจากเงินปันผลทั้งหมดที่ได้ แต่ไม่ได้ซื้อทุกเดือนครับ บางเดือนหุ้นที่เราเฝ้ามองไว้ราคาแพงเกินไป  หรือบางเดือนเงินที่ได้มาไม่พอจะซื้อตามขั้นต่ำได้ คือ100หุ้น อย่างที่มีคนแสดงความเห็นไว้ ผมก็จะรวบรวมเงินไว้ได้ครบแล้วซื้อ บางครั้งมีเหมือนกันที่พอรวบรวมเงินได้ครับ แต่ราคาดันแพงไป ก็อด แต่ก็รอต่อไป ผมไม่ได้ซื้อทุกราคาครับ ส่วนใหญ่มีราคาของแต่ละตัวไว้เป็นช่วงๆ หากราคาต่ำกว่านี้ซื้อ แต่หากสูงกว่านี้ไม่ซื้อ แต่ราคาก็ปรับไปตามผลประกอบการหรือการคาดการกำไรที่คาดว่าบริษัทจะทำได้ด้วยครับ

3)ผมยังเห็นว่าการลงทุนเป็นจำนวนเงินเป็นเดือนๆไป ยังมีข้อดีอยู่บ้างนะครับ สำหรับคนที่ไม่ได้มีเงินก้อน คือออมจากเงินเดือนประจำ และหากไม่มีความรู้และทักษะการควบคุมอารมณ์,วินัยและความอดทนไม่เพียงพอ การลงทุนด้วยเงินก้อนใหญ่ๆดูจะเสี่ยงมากเกินไปอาจเกิดความเสียหายได้  การที่ค่อยๆลงทุนควบคู่ไปกับการเพิ่มพูนความรู้เรื่องหุ้นและทักษะการควบคุมอารมณ์,วินัยและฝึกความอดทน น่าจะดีกว่า

4)การลงทุนด้วยเงินขนาดนี้ไปเรื่อยๆจนเกษียร จะได้ตามที่คาดคือ14-15ล้านบาทหรือป่าวนั้น เป็นเรื่องของอนาคต แต่หากทำได้คุณจะต้องลงทุนให้ได้ผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย15% ตลอด23ปีทีเดียวครับ ซึ่งถือว่าฝีมือชั้นยอดทีเดียว หากผลตอบแทนเฉลี่ยต่ำกว่านั้น ระยะเวลาที่จะได้ครบ15ล้านคงยาวออกไปอีก  แต่หากคุณรักษากติกาของคุณ คือจำนวนเงินที่คุณตั้งใจจะลงทุนและระยะเวลายาวนานขนาดนั้น ผมเชื่อว่าคุณจะถึงฝั่งฝัน เพราะการลงทุนนอกจากความรู้เรื่องการวิเคราะห์และค้นหาหุ้นที่ดีแล้ว ทักษะในการควบคุมอารมณ์,วินัยและความอดทนก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันครับ(ผมว่า50:50 ด้วยซ้ำ)

4)ข้อเสนอแนะครับ:
4.1)เสาะหาหุ้นเพิ่มในลิสท์ให้มากขึ้นครับ เผื่อว่าจะได้มีตัวเลือกมากขึ้น เพราะหากมีหุ้นที่แข็งแกร่งในลิสท์มากขึ้น โอกาสจะมีหุ้นที่ราคาตกต่ำมาให้เราซื้อย่อมมีมากขึ้น (เทคนิคของผมคือค้นหาหุ้นไว้ในลิสท์ได้ประมาณ30-40ตัวครับ) คือมันต้องมีหล่นมาให้เราซื้อบ้างละนะ ไม่ตัวใดก็ตัวหนึ่ง หากบางเดือนไม่เจอหุ้นที่ลดราคา ก็อาจเลื่อนการซื้อไปในเดือนต่อๆไป
4.2)หากคิดว่าตัวนักลงทุนเองยังไม่เก่งพอ ไม่จำเป็นต้องเร่งเข้ามาในตลาดครับ เพราะนั้นเป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่ง ผมแนะนำให้ลงทุนด้วยจำนวนเงินน้อยๆก่อนและใช้เวลาศึกษาให้มากๆครับ ศึกษาทฤษฏีให้เข้าใจลึกซึ้งก่อน ผมเอง เคยทดลองลงทุนในกระดาษอยู่นานพอสมควร นำเอาสิ่งที่ศึกษาจากหนังสือแล้วทดลองลงทุนในกระดาษเลยครับ แล้วลองปรับและหาสไตล์ของตัวเองจนมั่นใจระดับหนึ่ง แล้วค่อยๆลงสนามจริง  ผมยกตัวอย่างให้เห็น เช่นเราไปฝึกว่ายน้ำ หากว่ายน้ำไม่เป็นเราการโดดลงแม่น้ำแล้วฝึกว่ายเสี่ยงมากนะครับ ผมว่าเราควรเกาะขอบสระแล้วฝึกดีดเท้า ฝึกหายใจในน้ำ ฝึกลอยตัวก่อนน่าจะดีกว่าฉันใด การลงทุนก็น่าจะทำแบบเดียวกันฉันนั้น
  สุดท้ายขอเป็นกำลังใจให้ครับ ถึงอย่างไรคุณก็กล้าเสนอไอเดีย และความคิดของคุณ และอย่างน้อยกระทู้ของคุณก็มีส่วนทำให้เกิดการแสดงความคิดความเห็นกัน ขอให้คุณโชคดี
ภาพประจำตัวสมาชิก
bankniti
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 627
ผู้ติดตาม: 0

รวยแบบผ่อนส่ง

โพสต์ที่ 15

โพสต์

ทั้ง 5 ตัวนี้ HANA  BANPU  RATCH  PTTEP  SCC ผมชอบ SCC ที่สุด RATCH ก็ชอบ(แต่ลองลงมา) ค่อยๆ โตไปเรื่อยๆ ไม่หวือหวา ส่วนพี่เทพนี้เป็น commodity ที่เสี่ยงขึ้นมาหน่อย คาดการณอนาคตยาก
terati20
Verified User
โพสต์: 1104
ผู้ติดตาม: 0

รวยแบบผ่อนส่ง

โพสต์ที่ 16

โพสต์

กำลังเก็บอยู่เหมือนกัน เดือนละ 10000
เเต่ไม่จำเป็นต้องซื้อทุกเดือน
เเค่มี หุ้นที่ชอบ เเล้วราคา มี MOS พอควร ค่อยซื้อ
ถ้าไม่มีก็ถือเงินไปเรื่อยๆ

:)
thenut
Verified User
โพสต์: 286
ผู้ติดตาม: 0

รวยแบบผ่อนส่ง

โพสต์ที่ 17

โพสต์

เดือนละ10,000บาท ถ้าได้กำไรปีละ12% 20ปี จะมีมูลค่า9,992,000ครับ ถ้าปีละ16% จะมีประมาณ16ล้านครับ
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 84

รวยแบบผ่อนส่ง

โพสต์ที่ 18

โพสต์

ผมไม่เห็นด้วยเลยกับการคิดที่จะซื้อหุ้นลงทุนในจำนวนเงินเท่าๆกันทุกเดือน

ผมคิดว่าไม่ใช่การลงทุนแบบ VI เลยครับ

ถ้าไม่มีหุ้นที่น่าสนใจพอละครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
vivitawin
Verified User
โพสต์: 1922
ผู้ติดตาม: 1

รวยแบบผ่อนส่ง

โพสต์ที่ 19

โพสต์

ถ้าจะรวยแบบผ่อนส่งแบบนี้ เอาไปซื้อ กองทุน rmf ltf ดีกว่า หักลดหย่อนภาษีได้ อย่างน้อยก็ลดภาษีได้เยอะแล้วครับ ไม่ต้องกังวลว่า จะซื้อได้ไม่ครบ100หุ้น เพราะเงินไม่พอด้วย เลือกกองที่เค้าถือหุ้นที่เราคิดว่าน่าลงทุนก็พอครับ มีให้เลือกเยอะมาก
akekarat
Verified User
โพสต์: 1746
ผู้ติดตาม: 0

รวยแบบผ่อนส่ง

โพสต์ที่ 20

โพสต์

vivitawin เขียน:ถ้าจะรวยแบบผ่อนส่งแบบนี้ เอาไปซื้อ กองทุน rmf ltf ดีกว่า หักลดหย่อนภาษีได้ อย่างน้อยก็ลดภาษีได้เยอะแล้วครับ ไม่ต้องกังวลว่า จะซื้อได้ไม่ครบ100หุ้น เพราะเงินไม่พอด้วย เลือกกองที่เค้าถือหุ้นที่เราคิดว่าน่าลงทุนก็พอครับ มีให้เลือกเยอะมาก
ลงทุนพวกนี้ จะได้ซักกี่ % กันล่ะครับ ถ้าไม่ใช่อย่างปี 46 ผมว่า 16% ทบต้น คงเป็นไปได้ยาก
beammy
Verified User
โพสต์: 3345
ผู้ติดตาม: 0

รวยแบบผ่อนส่ง

โพสต์ที่ 21

โพสต์

ขอเสริมพี่ฉัตรชัยนิดนึงครับ  8)

การซื้อหุ้นแบบ VI จริงๆ นั้น ผมว่า ต้อง "ตีแตก" เหมือนอาจารย์นิเวศน์ และพี่ๆ อีกหลายคนในที่นี้

กล่าวคือ หากบริษัทที่มี Performance ดีเยี่ยมติดต่อกันหลายปี มีธรรมาภิบาล และเราสามารถเข้าใจในธุรกิจนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี / ซื้อขายกันในราคาที่ถูกกว่าความเป็นจริงมากๆ อาจเป็นเพราะว่า อยู่ในช่วงตลาดหมี หรือผู้คนเทขายอย่างบ้าคลั่ง โลกจะแตก คิดว่ากอดเงินสดดีกว่า ฯลฯ

เราค่อยซื้อตอนนั้นก้อได้ ครับ ยิงกระสุนหมดแม็กเลย ถ้ามั่นใจ

ประสบการณ์เกือบ 4 ปีที่ผ่านมา สอนผมว่า ถ้าตลาดหุ้นซบเซามากๆ เมื่อไหร่ และยิ่งวันนั้นเป็นวันแดงเดือด นั่นคือสัญญาณซื้อหุ้น (บางตัว) ครับ

ผิดถูกอย่างไร ชี้แนะด้วยครับพี่ๆ  8)  ...
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 26

รวยแบบผ่อนส่ง

โพสต์ที่ 22

โพสต์

การลงทุนแบบนี้ เป็นการลงทุนที่แทบจะการันตีว่า
เอาชนะเงินเฟ้อได้อย่างเด็ดขาดและแน่นอนครับ
อาจจะไม่ดีพอในสายตาวีไอเก่งๆ ในเว็บนี้
แต่ดีพอสำหรับคนทั่วไปที่ไม่สามารถเจาะลึกหุ้น
ธุรกิจ และทำความเข้าใจกับความเสี่ยงได้อย่างละเอียด

การลงทุนแบบกระจายใน "บริษัท" ดีๆ (ไม่ใช่หุ้นนะครับ)
หลายๆ บริษัทตลอดระยะเวลานานๆ ผลตอบแทน
ดีกว่าการลงทุนในตราสารอื่นๆ อย่างแน่นอนครับ
และสามารถตัดความผันผวนระยะสั้นไปได้

ดังนั้น แม้จะไม่ทำให้รวยเหมือน vi ที่ตีแตกได้
การลงทุนวิธีนี้ ก็ยังดีเสียกว่าการเอาเงินไปฝากแบงค์
ซื้อตราสารหนี้ทิ้งไว้นานๆ หรือซื้อทองทิ้งไว้นานๆ


ลองอ่านเรื่อง "หุ้น กับ แมลงวัน" ของท่านแม่ทัพดูครับ

http://api.settrade.com/blog/1001ii/2007/06/12/66
vivitawin
Verified User
โพสต์: 1922
ผู้ติดตาม: 1

รวยแบบผ่อนส่ง

โพสต์ที่ 23

โพสต์

akekarat เขียน: ลงทุนพวกนี้ จะได้ซักกี่ % กันล่ะครับ ถ้าไม่ใช่อย่างปี 46 ผมว่า 16% ทบต้น คงเป็นไปได้ยาก
ดีกว่า ที่ จขกท ถามอ่ะครับ แต่คงไม่ดีกว่าที่พี่ akekarat ลงทุนแน่ๆครับ
อย่างท่านดร.นิเวศน์ เองก็ลงทุนใน rmf ltf เพื่อเอาผลประโยชน์ทางภาษี
แต่ซื้อในวันสุดท้ายของทุกปี คือถ้าเสียภาษีใน rate สูงๆ 20%-30% ขึ้นไป
ผมว่าก็คุ้มแล้ว
akekarat
Verified User
โพสต์: 1746
ผู้ติดตาม: 0

รวยแบบผ่อนส่ง

โพสต์ที่ 24

โพสต์

vivitawin เขียน: ดีกว่า ที่ จขกท ถามอ่ะครับ แต่คงไม่ดีกว่าที่พี่ akekarat ลงทุนแน่ๆครับ
อย่างท่านดร.นิเวศน์ เองก็ลงทุนใน rmf ltf เพื่อเอาผลประโยชน์ทางภาษี
แต่ซื้อในวันสุดท้ายของทุกปี คือถ้าเสียภาษีใน rate สูงๆ 20%-30% ขึ้นไป
ผมว่าก็คุ้มแล้ว
ไม่จริงครับ พอร์ตผมตอนนี้นับจากต้นปียังแดงอยู่เลย กองทุนบางตัว 9-10% เข้าไปแล้ว  :lol:   :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
smart_investor
Verified User
โพสต์: 131
ผู้ติดตาม: 0

รวยแบบผ่อนส่ง

โพสต์ที่ 25

โพสต์

vivitawin เขียน: ดีกว่า ที่ จขกท ถามอ่ะครับ แต่คงไม่ดีกว่าที่พี่ akekarat ลงทุนแน่ๆครับ
อย่างท่านดร.นิเวศน์ เองก็ลงทุนใน rmf ltf เพื่อเอาผลประโยชน์ทางภาษี
แต่ซื้อในวันสุดท้ายของทุกปี คือถ้าเสียภาษีใน rate สูงๆ 20%-30% ขึ้นไป
ผมว่าก็คุ้มแล้ว
ผมคิดว่าการลงทุนใน RMF หรือ LTF นั้นดีครับโดยเฉพาะคนที่ฐานภาษี 20% ขึ้นไป
แต่ผมไม่ค่อยชอบหลักการที่ซื้อช่วงปลายปีปฏิทินที่1 แล้วไปขายต้นปีปฏิทินที่5 เท่าไรครับ เพราะมันเหมือนกับเราสร้าง pattern ในการซื้อและขายขึ้นมาโดยไม่ได้พิจารณาถึงความถูกและแพงของกองทุนที่ซื้อ

โดยส่วนตัวผมจะไม่ซื้อ LTF ในช่วงตลาดกระทิงครับ  แต่ผมจะซื้อในช่วงตลาดเหงาๆ  รอจังหวะไปเรื่อยๆครับ  เพราะผมมั่นใจในอารมณ์ของนายตลาดว่าแม้วันนี้ผมจะคว้าโอกาสไว้ไม่ทัน  แต่ก็ยังจะมีโอกาสให้ผมอีกเรื่อยๆ
ไม่มีใครไม่เคยขาดทุน
แต่เราต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีต
เพื่อพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้นไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
dino
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1294
ผู้ติดตาม: 6

รวยแบบผ่อนส่ง

โพสต์ที่ 26

โพสต์

[quote="smart_investor"]

โดยส่วนตัวผมจะไม่ซื้อ LTF ในช่วงตลาดกระทิงครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Linzhi
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1526
ผู้ติดตาม: 222

รวยแบบผ่อนส่ง

โพสต์ที่ 27

โพสต์

[quote="chatchai"]
หลายคนมักจะพูด
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 2

รวยแบบผ่อนส่ง

โพสต์ที่ 28

โพสต์

ลองคิดเล่นๆ ดูครับ ถ้านำเงินไปลงทุนอย่างสม่ำเสมอเดือนละ 10,000 บาท และทุกครั้งที่ลงทุนไปได้อัตราผลตอบแทนทบต้นต่อปีกลับมาอย่างสม่ำเสมอที่ 5% จะต้องรอจนสิ้นปีที่ 39 กว่าพอร์ตจะไต่ระดับขึ้นแตะ 14 ล้าน :shock: และจะขึ้นไปแตะ 15 ล้านก็เมื่อเวลาผ่านไป 40 ปี กับอีก 2 เดือน :shock: :shock:

หากอัตราผลตอบแทนทบต้นต่อปีสูงขึ้นเป็น 12% กว่าจะได้ 15 ล้าน ก็ต้องรอถึง 24 ปีเต็มๆ

ที่อัตราผลตอบแทนทบต้นต่อปีเท่ากับ 16% ได้เห็น 15 ล้านก็เมื่อครบ 20 ปีเต็มพอดี

แต่หากได้อัตราผลตอบแทนทบต้นต่อปีเว่อๆ สัก 23% พอร์ต 15 ล้านจะมาเยือนเมื่อเวลาผ่านไป 15 ปี 11 เดือน :cheers:

ที่เว่อไปกว่านั้นก็คือหากยังสามารถสร้างอัตราผลตอบแทนทบต้นต่อปีได้ที่ 23% อย่างต่อเนื่อง เมื่อครบ 40 ปี 2 เดือน พอร์ตท่านผู้นี้จะมีมูลค่าสูงถึง 2,387,834,095.89 บาท แต่เรื่องที่บรมเว่อที่สุดก็คือ ท่านผู้นี้ทำไมจึงยังลงทุนด้วยเงินต่อเดือน เดือนละ 10,000 บาท มาได้เป็นปีที่ 40 (แกน่าจะเพิ่มเงินลงทุนต่อเดือนมาตั้งนานแล้วนะ :la: )
zephyr
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 978
ผู้ติดตาม: 29

รวยแบบผ่อนส่ง

โพสต์ที่ 29

โพสต์

ผมเข้าใจว่า "รวยผ่อนส่ง" นี้มาจากหนังสือของ ดร.นิเวศน์ นะครับ ในเล่ม "ชนะอย่างเต่า"

ดร.ท่านพูดถึงการออมแบบ Dollar cost average ในการซื้อหุ้นที่มีพื้นฐานดีและมีการเติบโตที่ดี โดยที่เราไม่ต้องดูว่าจะซื้อเมื่อไหร่มากกว่าครับ ในกรณีที่ผู้ออมไม่ได้มีความรู้ในการศึกษาในตัวบริษัทที่ดีพอ

แต่หากว่าสนใจที่จะศึกษาบริษัทนั้นๆแล้ว การพิจารณาเรื่อง margin of safety คงจะดีกว่าครับ :?
โพสต์โพสต์