เกี่ยวกับคำกล่าวของ Buffett

[Belffet]

1. อย่าขาดทุน
2. กลับไปอ่านข้อที่หนึ่ง

แต่ Buffett ก็กล่าวอีกว่า "ถ้าไม่สามารถทนดูหุ้นที่ตัวเองลงทุน ราคาตกลงไป50% ด้วยใจสงบนิ่งได้ ก็ไม่ควรลงทุนตั้งแต่แรก"

สองประโยคดูจะขัดๆกันเองนะครับ หรือว่า Buffett ยึดคติว่า "ไม่ขายไม่ขาดทุน" เหรอครับ

อีกเรื่องที่อยากถาม คือ หุ้น Berkshire ไม่จ่ายปันผล แล้วผู้ถือหุ้นได้ผลตอบแทนอะไรเป็นตัวเงินบ้างไหมครับ หรือว่าแค่สบายใจที่เห็นราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆเท่านั้น

คือผมมาลองนึกดูว่า หากมีบริษัทชักชวนผมลงทุน แต่บอกว่าจะไม่จ่ายเงินปันผลให้ผมเลยซักบาทในทุกๆปี มันก็น่าคิดนะครับว่าจะลงทุนด้วยดีมั๊ย เพราะผมคิดว่า การลงทุนควรจะมีกระแสเงินสดไหลเข้าให้ชื่นใจบ้างน่ะครับ

สงสัยครับ ใครรู้ช่วยตอบที

[Kao]

อีกเรื่องที่อยากถาม คือ หุ้น Berkshire ไม่จ่ายปันผล แล้วผู้ถือหุ้นได้ผลตอบแทนอะไรเป็นตัวเงินบ้างไหมครับ หรือว่าแค่สบายใจที่เห็นราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆเท่านั้น

คือผมมาลองนึกดูว่า หากมีบริษัทชักชวนผมลงทุน แต่บอกว่าจะไม่จ่ายเงินปันผลให้ผมเลยซักบาทในทุกๆปี มันก็น่าคิดนะครับว่าจะลงทุนด้วยดีมั๊ย เพราะผมคิดว่า การลงทุนควรจะมีกระแสเงินสดไหลเข้าให้ชื่นใจบ้างน่ะครับ

สงสัยครับ ใครรู้ช่วยตอบที

ผู้ถือหุ้นBerkshireได้ผลตอบแทนจากส่วนต่างราคาอย่างเดียวครับ

เหตุผลเท่าที่ทราบก็เป็นประโยชน์ทางภาษี และความสามารถในการลงทุนของBerkshireครับ

ต้องรอพี่WEB มาขยายความครับ

[Ryuga]

เย้ มารอฟังพี่วอเร็นเมืองไทยด้วยคนคับ  :D

[โอ@]

เรื่องแรกเรื่องอย่าขาดทุนนะครับ
กรณีนี้คือ เนื่องจากราคาหุ้นไม่ได้บอกครับว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร หรือว่าราคาหุ้นนั้นเหมาะสมแล้วหรือไม่
สมมติว่าคุณมั่นใจว่าหุ้น A มีมูลค่าเหมาะสมตอนนี้ 100 แต่ราคาในตลาด 70 คุณก็ซื้อมันมา
พอมันเกิดตกลงมา 35 ไม่ว่าด้วยเรื่องอะไร แต่คุณรู้ได้ว่าพื้นฐานมันไม่เปลี่ยน คุณจะกังวลทำไมกัน ซื้อเพิ่มเลยซิถ้าเหลือเงิน
ฉะนั้น เรื่องแรกความแตกต่างอยู่ที่ว่า ราคาที่ลดลงไป 50% นั่นหน่ะ ทำให้พื้นฐานเปลี่ยนหรือเปล่า

ส่วนที่สองเรื่องชวนลงทุนในบริษัทที่ไม่ปันผล
ถ้าผมเปลี่ยนมาชวนคุณเป็น
"คุณมาลงทุนกับผม ผมไม่ปันผลให้คุณ แต่ผมทำให้หุ้นคุณขึ้น 30% ทุกปี"
แค่นี้ก็น่าจะลงทุนแล้วนะครับ

[Belffet]

หมายความว่าถ้่าหุ้นมีราคาต่ำลง 50% โดยที่พื้นฐานยังไม่เปลี่ยน ถือได้ว่าเรายังไม่ขาดทุน ในความหมายของ Buffett ใช่ไหมครับ

ส่วนการลงทุนกับ Berkshire ถ้าใครที่ต้องการลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทนจากเงินปันผลก็จะไม่ได้ แต่จะได้เป็น Capital Gain ซึ่งคงไม่มีใครขายกัน นั่นหมายความว่า เขาไม่ได้ผลตอบแทนเป็นตัวเงินใดๆเลย นอกจากตัวเลขบนกระดานหุ้นที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

คิดหนักเหมือนกันนะครับสำหรับคนที่ต้องการผลตอบแทนเป็นกระแสเงินสดจากหุ้น

[NinjaTurtle]

บัฟเฟ็ตมักจะให้ข้อคิดว่า การที่บริษัทไม่ปันผลให้ผู้ถือหุ้นเพราะเชื่อว่าจะนำกำไรไปลงทุนต่อและได้ผลตอบแทนมากกว่า และมักจะแสดงความเห็นว่าบริษัทที่ไม่สามารถเพิ่มผลกำไรได้อย่างคุ้มค่าน่าจะปันผลเป็นเงินให้ผู้ถือหุ้นคืนไปซะ

ผู้ที่จะถือหุ้นของเบิร์กไชน์ก็ต้องคิดเอาว่าผลตอบแทนของการนำเงินไปลงทุนต่อของบริษัทคุ้มค่ากับการลงทุนไหม

ค่าเสียโอกาศนี้คุ้มค่าไหม เงินปันผลไม่ใช้คำตอบสุดท้ายเสมอไปนะครับ

[MO101]

1. อย่าขาดทุน
2. กลับไปอ่านข้อที่หนึ่ง

คือการขาดทุนมีผลร้ายแรงกว่าที่คิด ยกตัวอย่างเช่น
กำไร 100% แล้วขาดทุน 50% จะเห็นว่าไม่ได้อะไร
หรือ ขาดทุน 50% แล้วจะต้องทำกำไรคืน ถึง 100%
การหลีกเลี่ยงการขาดทุนจึงเป็นส่งที่สมเหตุสมผล
ตัวอย่าง
หุ้น A ราคา 0.02 มีโอกาส ขึ้น เป็น 0.03 หรือกำไร 50 % และ ลงเป็น 0.01
นั่นคือขาดทุน 50% ถ้าไม่มั่นใจว่าจะขึ้นไม่ควรซื้อครับ

ถ้าไม่สามารถทนดูหุ้นที่ตัวเองลงทุน ราคาตกลงไป50% ด้วยใจสงบนิ่งได้ ก็ไม่ควรลงทุนตั้งแต่แรก

อันนี้เป็นความอดทน ถ้าคุณทนได้ควรเล่นหุ้นแต่ถ้าทนไม่ได้ก็ไม่ควรเล่นหุ้น
ต้่องบอกกัน ณ ที่นี้ว่าความอดทนของ Buffett สูงมากๆครับ
ตัวอย่าง
ในตอนที่ .com กำลังบูม ทุกคนกำไรหมดยกเว้น... ที่หุ้นราคาตกลงถึงครึ่ง
ตอนนั้นทนได้ไงไม่ทราบ

Berkshire ไม่จ่ายปันผล

เนื่องจากเหตุผลทางภาษีครับคือ ถ้าเลือกว่าจ่ายปันผลกับซื้อหุ้นคืน
ซื้อหุ้นคืน ไม่เสียภาษี
ส่วนจ่ายปันผล ผู้ถือหุ้นต้องเสียภาษีครับ

อีกข้อหนึ่ง ให้  Buffett ลงทุนจะมีผลตอบแทนมากกว่าส่งคืนให้ผู้ถือหุ้นมั้ง

[Belffet]

น่าสนใจเรื่องการซื้อหุ้นคืนน่ะครับ

อยากให้ผู้รู้ช่วยอธิบายซักนิดน่ะครับ

[Noonino]

ตอนแรกที่ผมมาศึกษา vi ก็คิดสงสัยแบบนี้เหมือนกัน ทำไมคำกล่าวถึงได้ขัดแย้งกันมากขนาดนี้ โดยเฉพาะผมที่เน้นศึกษาทางด้านเทคนิดมาด้วย เลยให้ความสำคัญกับ stop loss มาก ไม่ยอมขาดทุนประเภท 20-30% เลย แต่ตอนนี้คิดว่าพอเข้าใจแล้วครับ

คำว่า "อย่าขาดทุน" นั่นหมายถึง การขาดทุนในตัวบริษัทครับ คือเมื่อเราลงทุนแล้วพื้นฐานเปลี่ยน หรือไม่เป็นไปตามที่เราวิเคราะห์ก็ต้องทิ้งบริษัทนั้นๆไปครับ เปรียบเหมือนเราเป็นเจ้าของกิจการ เราไม่ต้องการอยู่กับบริษัทที่ขาดทุนใช่ไม๊ครับ

ส่วนการทนเห็นราคาหุ้นลดลงนั้น เป็นคนละเรื่องครับ ราคาที่ลดลง ไม่ได้ทำให้เราขาดทุน ถ้าพื้นฐานบริษัทนั้นยังดีอยู่ นั่นคือ ราคาที่ลดลง 50% ไม่ได้แปลว่ากิจการนั้นแย่แล้ว บริษัททำกำไรไม่ได้แล้ว ดังนั้น เมื่อพื้นฐานไม่เปลี่ยน เราก็ไม่ควรขายบริษัทดีๆให้คนอื่นซิครับ

หมายความว่า เราต้องแยกกันระหว่าง การขาดทุนทาง "ราคา" หุ้น กับขาดทุนทาง "มูลค่าของกิจการ" ไงครับ สาเหตุที่เค้าเรียกกันว่า VALUE INVESTOR