VN Index

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
offshore-engineer
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2166
ผู้ติดตาม: 8

VN Index

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ไปเจอข่าวนี้ใน The Economist ฉบับล่าสุด เลยเอามาฝากครับ
Vietnam's stockmarket

The South China Sea bubble
Mar 15th 2007 | HO CHI MINH CITY
From The Economist print edition


Deterring a new foreign invasion of Vietnam

THE trading floor at Saigon Securities in Ho Chi Minh City is buzzing on Monday morning, as shares edge towards another record closing high. Hundreds of investors watch the big-screen display of prices; their eyes fixed on their stocks, their ears fixed to their mobile phones.

Like many locals, Nguyen Kim Dinh and his wife now visit their stockbrokers every day. Mr Nguyen has retired from his job with the city government and plays the markets full-time. Many others, to their bosses' consternation, slip out of the office or spend all day checking their portfolios on the internet instead of working. A sneak peek has been especially tempting of late: the main VN Index, which rose by 145% last year, was up by a further 56% by March 12th, though since then the worldwide market jitters have brought Vietnam's shares off the top.

Squeezing past the tip-sheet sellers crowding the stockbroker's doorway, Mr Nguyen leads the way to a café next door, where spivvy characters in baseball caps are touting shares in obscure, unlisted companies. One, whose business card describes him as CEO of a one-man broker, is touting a block of shares in a hydro-electric firm for the equivalent of $22,000. How can we find out about this company, Mr Nguyen asks? No problem, smiles the broker, I can put you in touch with people who work inside it.

Insider trading and worse frauds are a grave danger on this OTC (over-the-café-table) market. But risks are not much lower on the official exchange. Many firms, including state companies up for privatisation, are only now starting to keep proper, audited accounts. The State Securities Commission is struggling to keep up with the flood of new listings. Reliable information is scarce, making it easy to whip up prices by spreading rumours. Last week shares in a broker soared when it hinted it had agreed on a link-up with Wall Street's mighty Goldman Sachs, then plunged when this proved untrue.

The popular embrace of share-trading is all the more remarkable given that the stockmarket did not exist until seven years ago. The bullishness is partly justified. Vietnam has enjoyed annual growth of around 7-8% since 2000. Perhaps $20 billion of foreign direct investment is expected this year, which should keep the economy humming. The government, though still nominally communist, has quickened its free-market reforms, recently joining the World Trade Organisation. Hidden horrors there may be, but some firms also have hidden treasure, notes Dominic Scriven of Dragon Capital, a local investment bank. In particular, land is often valued on their books at well below market prices.

Even so, the impromptu trading rooms of Ho Chi Minh City are beginning to resemble the London coffee-houses that incubated the ruinous South Sea Bubble in the early 18th century. Mr Nguyen reckons his fellow punters do realise that prices can go down as well as upthough some of those crowding the trading floor look as if the shirts on their backs are the only ones they have to lose.

Although much of the buying is local, foreign investors are also piling in to what remains a fairly small market. Its total worth has risen from $400m in early 2006 to around $22 billion. Vietnam's government and the International Monetary Fund worry that if foreign investors took fright, the market could collapse. The IMF is urging the government to cool the market, but preferably not through panic measures like the sledgehammer capital-controls that Thailand introduced last December. These triggered a stockmarket fall without achieving their objective of stopping the baht from rising.

The IMF reckons that the price-earnings (p/e) ratio of the market's top 20 firms is 73.3way above anything seen in other emerging markets, now or during the Asian boom that ended almost a decade ago (see chart). Local brokers dispute the IMF's sums: they say the market average p/e is only about 30-40. Calculations are distorted by the rush of rights issues, which is diluting earnings, thus making p/e ratios look especially giddy. If companies spend their new capital profitably, their earnings will pick up, their price multiples will fall and the market will look better value.

So far, the authorities have been cautious, says Alain Cany, HSBC's chief in Vietnam. He expects measures to slow, but not obstruct, flows of foreign portfolio investment. Local banks, which have been lending freely to finance share-buying, are being reined inthough Mr Cany thinks the restrictions should be even tighter. Taxing capital gains, as the government has contemplated, would also cool the market. Perhaps most importantly, the government is pressing the biggest and best state firms, which have yet to be listed, to speed up their plans. Since investors seem desperate to buy, it is best that they be offered shares in well run firms with good prospects. Give the running dogs of capitalism something to leap at.
Minimize risk through an in-depth knowledge. Buy at bargain price. Wait patiently.
http://valueinvestors.wordpress.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
tattoo_thai
Verified User
โพสต์: 291
ผู้ติดตาม: 0

VN Index

โพสต์ที่ 2

โพสต์

โอ้โห PE 73 เท่า  :shock:
woody
Verified User
โพสต์: 3763
ผู้ติดตาม: 3

VN Index

โพสต์ที่ 3

โพสต์

"ตลาดหุ้นฟีเวอร์" ระบาดหนักในเวียดนาม แม่บ้าน-พนักงานถึงกับโดดร่มไปซื้อขาย
Source - ผู้จัดการรายวัน (Th)
Monday, March 19, 2007  09:33
31865 XTHAI XGEN XINTER IKEY V%PAPERL P%MGRD

         กรุงเทพฯ - ตลาดหลักทรัพย์เวียดนามกำลังเฟื่องฟูอย่างมาก การซื้อขายได้สร้างคนร่ำรวยกลุ่มใหม่ขึ้นในสังคม ผู้คนที่ไปแสวงหาความร่ำรวยทางลัดนี้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกวันๆ แม่บ้าน "ไปตลาด" ที่ใหม่ ซึ่งไม่ใช่ที่ไปจ่ายกับข้าว พนักงานบริษัทห้างร้านจำนวนไม่น้อยพากันลางานหรือไม่ก็ขาดงานเพื่อไป "เล่นหุ้น"
         สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ที่นั่นกำลังเกิด "โรคตลาดหุ้นฟีเวอร์" และ ผู้คนต่างไปที่นั่น หลายคนไปด้วยความรู้สึกว่าไม่ไปก็อาจจะตกยุค แต่หลายคนก็ไปพร้อมด้วยข้อมูลแน่นขนัด ทั้งหมดได้เป็นแรงขับดันทำให้ตลาดหุ้นเวียดนามเป็นตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชียและในโลก
         "ฉันไม่รู้หรอกว่ามีบริษัทจดทะเบียนกี่แห่ง.. ฉันสั่งซื้อตามที่พรรคพวกพากันซื้อ บางที่ฉันก็เสีย แต่บางทีฉันก็ได้เงิน สนุกมาก" สำนักข่าวเอเอฟพีอ้างคำกล่าวของนางเหวียนถิเฮื่อง (Nguyen Thi Huong) แม่บ้านวัย 56 ปี ซึ่งไปเสี่ยงโชคที่สำนักงานโบรกเกอร์รายหนึ่ง
         ตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนามคือ "ศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์นครโฮจิมินห์" เพิ่งจะมีอายุไม่ถึง 7 ปีดี แต่มูลค่าของตลาดได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วมากจากเพียงประมาณ 300 ดอลลาร์สหรัฐในต้นปี 2549 เป็น 16,000 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน หรือ กว่า 5 เท่าตัว
         เมื่อปีที่แล้ว VN-Index พุ่งทะยานขึ้น 145% และ ตั้งแต่ต้นปีมานี้ดัชนีพุ่งขึ้นต่อเนื่อง 47% ผู้สังเกตการณ์ที่มีประสบการณ์ รวมทั้งกองทุนการเงินระห่างประเทศหรือ IMF (International Monetary Fund) ต่างได้ออกเตือนให้นักลงทุนระวังการลงทุนในตลาดหุ้นที่ร้อนแรงแห่งนี้
         แต่ท่ามกลางความห่วงใยของหลายฝ่าย รวมทั้งจากคณะกรรมการหลักทรัพย์แห่งรัฐหรือ SSC (State Securities Commission) ธนาคารกลางหรือ SBV (State Bank of Vietnam) กระทั่งกระทรวงการคลัง ต่างๆได้ออกเตือนคล้ายกัน
         ดัชนี VN-Index หล่นวูบลงในสัปดาห์ที่ผ่านมาจากแรงกดดันของตลาดใหญ่ของโลก รวมทั้งข่าวร้ายต่างๆ ที่แทรกตัวเข้ามาท่ามกลางความลิงโลดของนักลงทุน แต่ดัชนีก็กลับทะยานขึ้นอีก 44.24 จุด หรือ 4.15% ในวันศุกร์ (16 มี.ค.) วันสุดท้ายของการซื้อขายประจำสัปดาห์ไปปิดลงที่ 1109.76 หลังจากได้ทะยานขึ้นไปแตะระดับ 1170 จุดตอนต้นสัปดาห์
         ตลาดหลักทรัพย์ได้แรงกระตุ้นทางจิตวิทยาจากบรรดานักลงทุนที่เชื่อว่าเวียดนามคือ "จีนน้อยๆ" แห่งเอเชีย ซึ่งเมื่อปีที่แล้วผลผลิตมวลรวมภายในประเทศหรือ GDP (Gross Domestic Product) สูงถึง 8.2%
         หลายสำนักวิเคราะห์เชื่อว่าปีนี้ยังจะทะยานโลดต่อไปหลังจากเวียดนามได้เข้าเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลกหรือ WTO (World Trade Center) ในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการลงทุนและการส่งออกของประเทศ
         ตลาดหุ้นเวียดนามได้รับแรงหนุนสำคัญจากสถาบันการเงินขนาดใหญ่ของโลก รวมทั้งเมอร์ริล ลีนช์ (Merrill Lynch) และ เจพีมอร์แกน (JP Morgan) และ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (Standard & Poor's) ที่มอง VN-Index ในทางบวก
         สถาบันการเงินเหล่านี้เข้าสู่เวียดนามหลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ไปแวะเยือนตลาดหุ้นแห่งนี้ในเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว
         รัฐบาลคอมมิวนิสต์เวียดนามกำลังปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศ จากเศรษฐกิจสังคมนิยมรัฐอุปถัมภ์ ไปเป็นเศรษฐกิจแบบตลาด (Market Economy) รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่หลายแห่งล้วนเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในปีนี้และปีหน้า เพื่อระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ จากเงินออมมหึมามหาศาลในประเทศนี้
         สำหรับชาวเวียดนามทั่วไปซึ่งมีอุปนิสัยชอบซื้อหวย หรือ พนันทายผลฟุตบอลแบบฝังในจิตวิญญาณ ตลาดหุ้นๆได้กลายเป็นแหล่งใหม่สำหรับ"เสี่ยง" เพื่อความร่ำรวยในชั่วเวลาเพียงข้ามคืน และ หากจะเสียก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวดมาก
         "ตอนนี้ในเวียดนามไม่มีธุรกิจไหนที่จะกำไรดีเท่ากับเล่นหุ้นอีกแล้ว" นี่เป็นคำกล่าวของนายเจิ่นแท็ง (Tran Thanh) วัย 45 ปี ที่ลาออกจากงานประจำ และกลายไปเป็นนักลงทุนประจำตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์
         นายแท็งเปิดเผยด้วยว่าตนเองประสบความสำเร็จสามารถเปลี่ยนเงินลงทุนเพียง 10,000 ดอลลาร์ให้พอกพูนขึ้นเป็น 300,000 ดอลลาร์ได้ภายในเวลาเพียง 2 ปี
         นักลงทุนจำนวนมากไปไปร่วมวงกันถึงห้องค้าที่แคบลงอย่างถนัดตา แต่ส่วนใหญ่แล้วจะสั่งซื้อขายกันทางออนไลน์ ซึ่งในวันข้างหน้าคอฟฟีชอปต่างๆ มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนไปจากการเป็นแหล่งซุบซิบ และ กลายเป็นแหล่งสำหรับการสั่งซื้อขายหุ้นทางอินเตอร์เน็ต
         จากตลาดหุ้นที่เป็นทางการในปัจจุบันบริษัทธุรกิจหลายร้อยแห่งยังได้นำหุ้นที่ยังไม่จดทะเบียนออกซื้อขายกันในวงใน ว่ากันว่าบริษัทที่กำลังเอาหุ้นออกจำหน่ายในตลาดมืดมีอยู่ถึง 700 แห่ง ในขณะที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดโฮจิมินห์ยังมีไม่ถึง 200 แห่ง
         ทั้งนี้เป็นข้อมูลของนางเลหงินาง (Le Nghi Nang) รองผู้อำนวยการใหญ่ศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์โฮจิมินห์หรือ HOSTC (Ho Chi Minh Stock Trading Center)
         การลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามยังมีความเสี่ยงอยู่หลายประตู เนื่องจากขาดข้อมูล หลายอย่างขาดความโปร่งใส นักลงทุนจำนวนไม่น้อยลงทุนแบบ ว่าตามกันไป จำนวนไม่น้อยต้องใช้ข้อมูลจากการการแช้ทบนอินเทอร์เน็ต หรือ กระทั่งใช้ข่าวเล่าลือต่างๆ ประกอบการตัดสินใจ
         แม่ค้าผักในตลาดอาจจะทำเงินได้มากกว่าศาสตราจารย์สอนวิชาเศรษฐศาสตร์ในวันนี้ เพราะการคิดวิเคราะห์ของเธอไม่ยุ่งยาก เอเอฟพีอ้างคำกล่าวของนายเจิ่นแท็ง ซึ่งเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับตลาดหุนด้วยตัวเอง
         นายแอนดี โฮ (Andy Ho) ผู้อำนวยการของบริษัทพรูเดนเชียล อินเวสท์เมนท์ (Prudential Investment) ในเวียดนามกล่าวว่า นักลงทุนส่วนใหญ่มักจะลงทุนโดยที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับหุ้นหรือบริษัทจดทะเบียน แต่ซื้อตามเพื่อนบ้าน ตามเพื่อน ซื้อตามคำแนะนำของพวกที่คาบข่าวจากภายในไปบอก และ อีกจำนวนหนึ่งซื้อตามคำแนะนำของโบรกเกอร์
         สำหรับนายเจิ่นแท็ง อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือที่สำคัญ เพราะเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลข่าวสารที่ใหญ่โต ตัวเขาเองใช้เวลาส่วนมากอยู่หน้าจอเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของดัชนี
         ปัญหาใหญ่มากในตลาดเวียดนามก็คือ การปฏิบัติผิดกฎระเบียบและยังจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ พวกที่ใช้ข้อมูลภายในในการซื่อขายที่เรียกกันว่า พวกอินไซด์เทรดเดอร์ (inside trader)
         การมีข้อมูลจากภายในเป็นเรื่องที่สำคัญมาก พนักงานของรัฐวัย 29 ปีที่ไม่ต้องการให้ระบุชื่อกล่าว ทั้งยังระบุอีกว่าเพื่อนๆ หลายคน รวมทั้งเจ้านายของเขาเองร่ำรวยขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่นานมานี้
         บางทีผมก็ได้ข้อมูลจากภายใน เช่น บริษัทจดทะเบียนแห่งหนึ่งได้สัญญา (ส่งออก) ไปต่างประเทศ.. จากนั้นผมก็ใช้ข้อมูลนี้ร่วมกับเพื่อนอีก 2-3 คน เพื่อแบ่งปันความร่ำรวย เจ้าหน้าที่รายเดียวกันกล่าว
         ขอบคุณสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์.. ผมเพิ่งซื้ออพาร์ทเม้นต์ใหม่เมื่อเดือนที่แล้ว ตอนนี้กำลังวางแผนถอยโตโยตาสักคัน เขากล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม
         ไม่เพียงแต่ตลาดหุ้นโฮจิมินห์เท่านั้นที่กำลังรุ่งโรจน์ ตลาดหุ้นแห่งที่ 2 คือ ศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์กรุงฮานอย หรือ HaSTC (Hanoi Stock Trading Center) ซึ่งเป็นตลาดแบบ OTC (over-the-counter trade) ก็ไม่ได้ต่างกัน
         ดัชนี HaSTC พุ่ง 27.06 จุดเมื่อวันศุกร์ ปิดลงที่ 448.39 มีการซื้อขายหุ้นรวมทั้งสิ้นกว่า 2.7 ล้านหุ้น มูลค่ากว่า 3 แสนล้านด่ง
         ดัชนีตลาดหุ้นเวียดนามทั้งสองแห่งได้สร้างความแปลกใจต่อบรรดานักลงทุนและ ได้รับการจับตามมองจากนักลงทุนโพ้นทะเลจำนวนมาก
         ในขณะที่นักลงทุนในตลาดหุ้นจีน ญี่ปุ่น หรือสหรัฐฯ ยากลำบากในช่วง 2 สัปดาห์ผ่านมา นักลงทุนในเวียดนามไม่ได้รู้สึกทุกข์ร้อนกับสิ่งที่เกิดขึ้นนอกประเทศ
         สิ่งที่จะส่งผลกระทบต่อการซื้อขายประจำวันในตลาดโฮจิมินห์ ไม่มีอะไรร้ายแรงมากไปกว่าความเคลื่อนไหวของภาครัฐที่พยายามจะกำจัดการใช้ข้อมูลภายในในการซื้อขาย และ จัดระบบระเบียบใหม่ในการซื้อขาย
         นายกรัฐมนตรีเวียดนามนายเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) ได้สั่งการเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ให้ SSC ต้องจัดการเด็ดขาดให้เกิดความโปร่งใสทุกด้านในตลาดทุนของประเทศ รวมทั้งการใช้มาตรการลงโทษเด็ดขาดกับพวกใช้ข้อมูลภายในด้วย
         ในวันที่ 14 มี.ค. นักลงทุนถกเถียงกันเกี่ยวกับข่าวเล่าลือที่ว่า ทางการกำลังร่างกฎระเบียบเพื่อสอดส่องดูแลการปฏิบัติงานของตลาดหุ้นกับโบรกเกอร์ รวมทั้งติดตามความเคลื่อนไหวของเงินทุนจากต่างประเทศอย่างใกล้ชิด
         นักลงทุนเชื่อว่า หากกฎระเบียบนี้ออกมาบังคับใช้ เงินทุนจากต่างประเทศราว 80% ก็จะไหลออกจากตลาดหุ้นในทันที และ นี่เป็นเหตุที่ทำให้ดัชนีดิ่งลงกว่า 3% ในวันเดียวกัน
         แต่นักลงทุนจะพากันทุ่มซื้อหุ้นอย่างไม่อั้นเมื่อมีข่าวดี เช่น ในปลายสัปดาห์ที่แล้วผู้บริหารของตลาดหุ้นได้เปิดเผยแผนการขยายห้องค้าให้ใหญ่โตเพื่อรองรับนักลงทุนที่มีจำนวนมากขึ้น และ การยกระดับ ศูนย์ซื้อขาย ให้เป็น ตลาดหลักทรัพย์ อย่างเต็มภาคภูมิ
         ดัชนี VN-Index พุ่งขึ้นทำจุดสูงใหม่ที่ระดับ 1170.67 ในวันจันทร์ ก่อนจะเริ่มดิ่งหัวลงในวันอังคารโดยปิดต่ำลง 12.4 จุด หรือ -1.06% และ ตกลงต่อเนื่องอีก 44.06 จุด หรือ -3.8% ในวันพุธ
         นักวิเคราะห์กล่าวว่าการที่หุ้นปิดต่ำลงถึง 44.06 จุดในวันเดียวเป็นเรื่องไม่เคยเกิดขึ้นในตลาดหุ้นโฮจิมินห์ ดัชนีเคยปิดต่ำสุด 42.89% เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ปีนี้.

         บรรยายใต้ภาพ
         ฮอตสุดขีด - นักลงทุนสาวจบตามองดูตัวเลขดัชนีหลักทรัพย์ในตลาดโฮจิมินห์เมื่อวันศุกร์ (16 มี.ค.) ตลาดหุ้นได้กลับมาคึกคักด้วยแรงซื้ออีกครั้งหนึ่ง หลังจากดัชนีหล่นวูบวาบในช่วงกลางสัปดาห์อันเนื่องมาจากหลายปัจจัยทั้งภายในและนอกประเทศ นักวิเคราะห์หลายค่ายลงความเห็นว่าปีนี้ดัชนี VN-Index ยังจะวิ่งต่ออีกปี--จบ--

         ที่มา: หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน
Impossible is Nothing
Reminiscence of 3 Dogs
Verified User
โพสต์: 898
ผู้ติดตาม: 0

VN Index

โพสต์ที่ 4

โพสต์

คุ้นๆเหมือนเคยเกิดแถวๆนี้เมื่อ14ปีที่แล้ว  8)
bid please!!
BHT
Verified User
โพสต์: 1822
ผู้ติดตาม: 0

VN Index

โพสต์ที่ 5

โพสต์

เหมือนใครที่เคยบอกมาว่า ถ้าคนขับแท็กซี่คุยเรื่องหุ้น ก็ขายได้เลย ตลาดจะพังครั้งใหญ่แน่นอนในเร็ววัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 2

VN Index

โพสต์ที่ 6

โพสต์

22 billion US = PTT+BBL เลยนะครับ

ดัชนีประเทศสารขัณฑ์เคยอยู่ 1,700 ลองมานับดูสิครับว่ากี่ปีถึงจะกลับไปที่เก่า  :lovl:
offshore-engineer
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2166
ผู้ติดตาม: 8

VN Index

โพสต์ที่ 7

โพสต์

P/E Ratio ของตลาดเวียตนามนี่แซงประเทศกลุ่มเกิดใหม่ขาดเลยครับ ข้อมูลจาก The Economist ระบุว่า ค่าP/E Ratio เฉลี่ยสูงสุดในช่วงปี 1990-1997 (ก่อนวิกฤติปี 1997) ของแต่ละประเทศเป็นดังนี้

India = 31.9
World = 31.7
Malaysia = 30.9
China = 20.2
Indonesia = 24.7
South Korea = 31.4
Thailand = 21.9

วันนี้ก็มีข่าวแบบเดียวกันลงในหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์เช่นกันครับ
Minimize risk through an in-depth knowledge. Buy at bargain price. Wait patiently.
http://valueinvestors.wordpress.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
สุมาอี้
Verified User
โพสต์: 4576
ผู้ติดตาม: 72

VN Index

โพสต์ที่ 8

โพสต์

offshore-engineer เขียน:P/E Ratio ของตลาดเวียตนามนี่แซงประเทศกลุ่มเกิดใหม่ขาดเลยครับ ข้อมูลจาก The Economist ระบุว่า ค่าP/E Ratio เฉลี่ยสูงสุดในช่วงปี 1990-1997 (ก่อนวิกฤติปี 1997) ของแต่ละประเทศเป็นดังนี้

India = 31.9
World = 31.7
Malaysia = 30.9
China = 20.2
Indonesia = 24.7
South Korea = 31.4
Thailand = 21.9

วันนี้ก็มีข่าวแบบเดียวกันลงในหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์เช่นกันครับ
เป็นไปได้ไงครับคุณอ๊อฟ World 31 แต่อันอื่นน้อยกว่า World  :?:

จำได้ว่า Thailand สูงสุดคือ 31
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
สุมาอี้
Verified User
โพสต์: 4576
ผู้ติดตาม: 72

VN Index

โพสต์ที่ 9

โพสต์

Hey คืนนี้ดาวโจรกลับมาบูใหม่แย้ว  :lol:
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
offshore-engineer
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2166
ผู้ติดตาม: 8

VN Index

โพสต์ที่ 10

โพสต์

สุมาอี้ เขียน:
เป็นไปได้ไงครับคุณอ๊อฟ World 31 แต่อันอื่นน้อยกว่า World
Minimize risk through an in-depth knowledge. Buy at bargain price. Wait patiently.
http://valueinvestors.wordpress.com/
woody
Verified User
โพสต์: 3763
ผู้ติดตาม: 3

VN Index

โพสต์ที่ 11

โพสต์

[quote="สุมาอี้"]Hey คืนนี้ดาวโจรกลับมาบูใหม่แย้ว
Impossible is Nothing
Capo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1067
ผู้ติดตาม: 1

VN Index

โพสต์ที่ 12

โพสต์

เดี๋ยวนี้เห็นอะไรที่มันฟู่ฟ่าเกินเหตุแล้วรู้สึกไม่สบายใจจังครับ
... จุดเริ่มต้นของคนเราไม่สำคัญ

มันสำคัญที่ว่าเขาวิ่งได้เร็วแค่ไหนตะหาก ...
ภาพประจำตัวสมาชิก
Linzhi
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1526
ผู้ติดตาม: 227

VN Index

โพสต์ที่ 13

โพสต์

นั่งดู PE บางประเทศ อาจจะไม่สูงอย่างที่คิดนะครับ เนื่องจากมาตรฐานบัญชีต่างกัน วิธีคิด PE รวมของตลาดก็ต่างกัน - อันนี้แค่แชร์นะครับ ผมคิดว่าคุณ Offshore ทราบอยู่แล้ว

แต่เวียดนามนี่ ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ผมเพิ่งเดินทางไปสองสามครั้งในช่วงต้นปี คนตื่นตูมกันมากๆๆ บริษัทต่างๆ ก็จัดแต่งสถานที่เพื่อเตรียมเข้าตลาด และบรรยากาศในตลาดก็ดูดุเดือนมากๆ ถามว่าจะแตกรึเปล่า ผมว่ายัง แต่น่าจะอีกซักระยะ (ผมเดาว่ากลางปีหน้า)

ไม่รู้ใครมีทำ PE ที่ใช้ Cash flow แทน Earning จาก PL มาเทียบ ตอนนี้ผมอยากลอง Think Global ดูครับ เพราะผมขี้เกียจศึกษากิจการจากหุ้นต่างกลุ่มไปเรื่อยๆ หมดแรง อยากรู้ลึก ๆ กิจการลักษณะเดียว แล้วก็ลงทุนหลาย ๆ ประเทศดู
โพสต์โพสต์