Value Way ตรรกะการลงทุนหุ้นมูลค่า

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
farmer
Verified User
โพสต์: 604
ผู้ติดตาม: 0

Value Way ตรรกะการลงทุนหุ้นมูลค่า

โพสต์ที่ 1

โพสต์

พรานอักษร

Value Way

ตรรกะการลงทุนหุ้นมูลค่า

นายหนังสือ----------------------------

แม้ตลาดทุนบ้านเรายังถือว่ามีขนาดเล็กและยังต้องการการพัฒนาเพิ่มเติมเมื่อเปรียบเทียบกับบรรดาประเทศทุนนิยมที่พัฒนาแล้ว แต่สิ่งที่น่ายินดีอย่างยิ่งนั่นคือ การลงทุนแบบเน้นมูลค่า เริ่มเข้ามามีบทบาทและได้รับความนิยมขยายวงกว้างในกลุ่มนักลงทุนรายย่อยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตลาดทุนในประเทศอีกทางหนึ่ง

Value Investment หรือ การลงทุนแบบเน้นมูลค่า ถือเป็นแนวทางการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่คำนึงผลตอบแทนระยะยาวในการลงทุนในกิจการต่างๆ ที่ผ่านการคัดเลือกมาอย่างดี โดยให้ความสำคัญด้านศักยภาพของธุรกิจ จรรยาบรรณในการดำเนินงาน ตลอดจนมูลค่าของกิจการทั้งในปัจจุบันและอนาคตด้วย

ดังนั้นจะเห็นว่าการลงทุนชนิดนี้ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในต่างประเทศ เนื่องจากมีนักลงทุนแบบเน้นมูลค่าที่ประสบความสำเร็จให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมในแง่ของการสร้างผลตอบแทนในระยะยาว โดยความสำเร็จดังกล่าวได้สร้างความมั่งคั่งให้กับนักลงทุนเองและนักลงทุนที่ซื้อหน่วยลงทุนที่มีนโยบายการลงทุนในลักษณะนี้

วิถีเซียนหุ้นมูลค่า : Value Way ผลงานเขียนของ มนตรี นิพิฐวิทยา และวิบูลย์ พึงประเสริฐ สองเซียนหุ้นมูลค่า ที่ได้รวบรวมแนวทางการลงทุน และแนวคิดวิธีการปฏิบัติของนักลงทุนต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงจนเป็นที่ยอมรับของนักลงทุนทั่วไป รวมถึงวิธีการหามูลค่าที่แท้จริงของกิจการในหลายวิธีและหลายมุมมอง พร้อมด้วยตัวอย่างประกอบ ทำให้นักลงทุนที่สนใจการลงทุนแนวดังกล่าวไม่มีความรู้สึกว่ายากจนเกินไปสำหรับการเริ่มต้นและนำไปปฏิบัติ

นอกจากนี้เซียนหุ้นเจ้าของคอลัมน์ Value Way ที่ตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ BizWeek ยังได้นำ ประสบการณ์จริง ในการลงทุนแบบเน้นมูลค่าในตลาดหลักทรัพย์บ้านเรา ด้วยการอ้างถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่นักลงทุนประสบอยู่บ่อยๆ มาถ่ายทอดด้วยสำนวนภาษาแบบง่ายๆ ทำให้การลงทุนเป็นเรื่องราวน่าติดตามยิ่งขึ้น การสอดแทรกข้อคิด แนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง เป็นสิ่งที่ผู้อ่านจะได้ประโยชน์ในการนำไปปฏิบัติให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม

เนื้อหาแบ่งออกเป็น 2 ภาคสำคัญๆ คือ หลักการลงทุนหุ้นมูลค่า และแนวคิดการลงทุนหุ้นมูลค่า หลักการและแนวคิดนี้เป็นสิ่งไม่ล้าสมัย อ่านได้ตลอดเวลา..แต่อาจมีการเพิ่มเติมบางสิ่งบางอย่างเข้าไปบ้างตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณผู้อ่านว่าจะ 'ประยุกต์' สิ่งที่เรียนรู้จากการลงทุนได้อย่างไร

ผู้เขียนบอกว่า "การลงทุนแบบเน้นมูลค่าไม่ใช่แค่เพียงการซื้อหุ้นที่พื้นฐานดีเท่านั้น แต่จะต้องมีองค์ประกอบอย่างอื่นด้วย เช่น หุ้นบริษัทนั้นยังมีมูลค่าต่ำกว่ามูลค่าของกิจการ" และสภาพของการลงทุนนั้นยังมี ปัจจัยจิตวิทยา ของผู้เล่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

"หุ้นมีขึ้นมีลงทุกวันที่ตลาดเปิดทำการ หุ้นขึ้นลงได้หากมีข่าวดีและข่าวร้ายมากระทบจิตใจ ความคิดของผู้เล่นในตลาดทุกวัน ดังนั้นหากท่านอยากจะเป็นผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จ จงพิจารณาดูให้ดีก่อนว่าข่าวสารข้อมูลนั้นๆ กระทบกับการดำเนินการของบริษัทของท่านหรือไม่ ก่อนที่จะซื้อหรือขาย" เขามองว่า "หุ้นทุกบริษัทมีมูลค่าของมันและมันก็มีขึ้นมีลงเช่นกัน เพียงแต่มันต่างกับราคาตรงที่มันขึ้นลงเพราะผลดำเนินงาน ฐานะทางการเงิน ความสามารถในการแข่งขัน ส่วนราคานั้นขึ้นลงตามความหวังของผู้เล่นในช่วงเวลาต่างๆ กัน"

เขาบอกถึงลักษณะของนักลงทุนหุ้นมูลค่าด้วยว่า "นักลงทุนแบบหุ้นมูลค่าจะค้นหากิจการที่มีมูลค่าสูง แต่ราคายังไม่มีใครเข้าไปคาดหวัง ยังไม่มีนักวิเคราะห์เข้าไปให้ความคิดเห็น แล้วรอให้มีผู้เห็นมูลค่าของมันหรือรอให้ข่าวสารข้อมูลนั้นมากระทบกับหุ้นของบริษัทที่เรามีอยู่ ซึ่งจะเห็นการกระตุ้นให้ราคาหุ้นวิ่งเข้าหามูลค่าของมันอย่างแท้จริง"

ส่วนเทคนิคการลงทุนแบบเซียนหุ้นมูลค่าอย่างเขาคือ "จากประสบการณ์ของผมในการลงทุนที่ผ่านมา ผมสามารถยืนยันได้เลยว่าความรู้สามารถช่วยลด 'ความเสี่ยง' ได้ดีกว่า 'การกระจายความเสี่ยง' เป็นไหนๆ และถ้ายิ่งมีความรู้มาก เราก็สามารถวิเคราะห์อะไรๆ ต่างๆ ได้มาก และสามารถหาผลตอบแทนที่สูงโดยไม่ต้องไป 'เก็งกำไร' กับความเสี่ยงสูงๆ ได้ ผมจึงยืนยันหนักแน่นว่าผมไม่เชื่อคำพูดที่พูดกันจนติดปากว่า 'High Risk..High Return' เพราะที่ผ่านมาผมมี 'High Return..Low Risk' โดยตลอด"

หลักการลงทุนของนักลงทุนระดับโลกที่ทั้งสองได้ยกมาไว้ในหนังสือเล่มนี้ด้วย เช่น วอร์เรน บัฟเฟตต์ ว่า กฎข้อที่ 1 อย่ายอมขาดทุน และกฎข้อที่ 2 อย่าลืมกฎข้อที่ 1 พร้อมทั้งอธิบายและยกตัวอย่างให้เข้าใจได้ง่ายๆ หรือหลักการลงทุน-ถือหุ้นแบบ ปีเตอร์ ลินช์ ที่พวกเขาบอกว่าชอบแนวคิดและแนะนำให้ทุกคนไปอ่าน ยกตัวอย่างเรื่องการบริหารความเสี่ยง

"การที่เราจะเข้าใจในหุ้นของบริษัทที่เราลงทุนเป็นอย่างดี จำเป็นต้องมีการศึกษาและวิเคราะห์บริษัทอย่างละเอียดถี่ถ้วนทุกแง่มุม ซึ่งต้องใช้เวลาและความเข้าใจในธุรกิจนั้นอย่างมาก ยิ่งเราเข้าใจในธุรกิจนั้นเท่าไร ทำให้ความมั่นใจในการลงทุนนั้นมากขึ้นเป็นเงาตามตัว

การที่เราถือหุ้นจำนวนมาก การที่จะเข้าใจในธุรกิจที่แตกต่างกันต้องใช้ความสามารถและการศึกษาข้อมูลเป็นอย่างมาก โอกาสที่เราจะไม่เข้าใจธุรกิจทั้งหมดที่มีก็มากขึ้น ความเสี่ยงในการลงทุนจึงเพิ่มขึ้น ในความเห็นของบัฟเฟตต์ ความเสี่ยงในการลงทุนลดลงได้ด้วยการทำความเข้าใจในธุรกิจที่ลงทุนให้มาก ยิ่งเข้าใจมากเท่าไร ความเสี่ยงในการลงทุนจะลดลงมากขึ้นเท่านั้น

การกระจายความเสี่ยงตามทฤษฎีใหม่ บัฟเฟตต์บอกว่ามีไว้สำหรับ 'นักลงทุนที่ไม่รู้อะไรเลย' เพราะเราไม่รู้เราจึงจำเป็นต้องถือหุ้นหลายๆ ตัวเพื่อลดความเสี่ยง แต่สำหรับบัฟเฟตต์ยิ่งถือหุ้นมากเท่าไร ความเสี่ยงยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น เพราะโอกาสที่เราจะเข้าใจหุ้นที่เราถือน้อยลง"

เขากล่าวด้วยว่าช่วงหลังๆ มักพบนักเก็งกำไรจาก 'หุ้นพื้นฐาน' มากขึ้น

"การที่นักเก็งกำไรดังกล่าวนี้สามารถเก็งกำไรจากหุ้นพื้นฐานได้นั้น วิธีการก็ไม่ต่างอะไรจากการเก็งกำไรจาก 'ข่าวลือ' หรือฟังข่าวจากแหล่งต่างๆ แล้วมาซื้อหุ้น นักเก็งกำไรหุ้นพื้นฐานจะพยายามหาข่าวว่าพวกนักลงทุนแบบเน้นมูลค่าสนใจและลงทุนหุ้นบริษัทไหนอยู่ พวกเขาจะไปร่วมวงเล่นด้วย โดยไม่ได้ศึกษาข้อมูลกิจการแม้แต่น้อย และพวกเขาเหล่านั้นพยายามหลอกตัวเองว่ากำลังลงทุนในหุ้นมูลค่าและเป็นนักลงทุนแบบเน้นมูลค่า

ที่ว่าการเก็งกำไรด้วยพื้นฐานหุ้น ไม่ต่างอะไรจากการซื้อหุ้นจากข่าวลือคือพวกเขาไม่ได้เข้าถึงเนื้อหาของกิจการ ไม่รู้ถึงพื้นฐานที่แท้จริงของกิจการ ไม่รู้ถึงหลักคิด วิธีการที่ต้องนำมาใช้ ไม่รู้ถึงมูลค่าของกิจการ ไม่รู้ราคาที่ควรซื้อ ไม่รู้ราคาที่ควรขาย ทั้งหมดนี้อาจทำให้เกิดเสียหายแก่ตัวผู้ลงทุนได้"

หนังสือ วิถีเซียนหุ้นมูลค่า : Value Way เล่มนี้จึงอ่านง่ายและเต็มไปด้วยความรู้ทางการลงทุนที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแง่มุมในทาง 'เทคนิค' เกี่ยวกับ 'การคำนวณหามูลค่าที่แท้จริง' หลากหลายแบบหรือแม้แต่เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับมุมมองแง่คิดการลงทุน ไปจนถึงเรื่องใหญ่ๆ ที่เป็น 'ปรัชญาการลงทุน' ของเซียนหุ้นมูลค่าหรือ Value Investor ระดับบรมครูที่ได้คั้นเฉพาะองค์ความรู้มาเล่าให้ฟังได้อย่างน่าติดตาม

เนื้อหาจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่คิดจะเริ่มลงทุน นิสิต นักศึกษา นักธุรกิจ หรือนักลงทุนทั่วไปที่ยังไม่ประสบผลสำเร็จ และผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแนวทางการลงทุนเป็นแบบ 'เน้นมูลค่า' เพื่อให้ได้ผลตอบแทนตามเป้าหมายระยะยาว


http://www.bangkokbiznews.com/jud/wan/
polly
Verified User
โพสต์: 41
ผู้ติดตาม: 0

Value Way ตรรกะการลงทุนหุ้นมูลค่า

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ไม่ทราบว่ามีขายที่ร้าน se-ed หรือที่ร้านไหนค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mon money
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 3134
ผู้ติดตาม: 28

Value Way ตรรกะการลงทุนหุ้นมูลค่า

โพสต์ที่ 3

โพสต์

เห็นมีที่se-ed วันนี้ไป7-11ก็เห็นมีขาย รีบๆหน่อยนะครับ เขาพิมพ์มาน้อยกลัวขายไม่ออก เดี๋ยวหมดจะกลายเป็นหนังสือหายากอีกเล่ม อิ อิ

ส่วนเล่มแรก "อ่านก่อนรวยถาวรกว่า" หากใครต้องการเก็บสะสมก็เห็นที่ศูนย์หนังสือจุฬาอยู่หลายเล่ม
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
EAKEPON
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 288
ผู้ติดตาม: 27

Value Way ตรรกะการลงทุนหุ้นมูลค่า

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ที่ร้าน แพร่พิทยา (ชั้น3 เซ็นทรัลลาดพร้าว) ก็มีขายคับ เห็นเค้าเอามา วางอยู่ ตรงทางเข้า หน้าร้านคับ  สงสัยจะขายดี    :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
Kuruni
Verified User
โพสต์: 210
ผู้ติดตาม: 0

Value Way ตรรกะการลงทุนหุ้นมูลค่า

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ได้มาแล้วเล่ม2เนื้อหาเข้มข้นครับ แต่ยังอ่านไม่จบครับพี่ :lol:
WEB
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1139
ผู้ติดตาม: 25

Value Way ตรรกะการลงทุนหุ้นมูลค่า

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ที่ร้าน se-ed แถวบ้านผม ขายดีทีเดียวครับ   :D
ทุ่มเททุกสิ่งให้แก่ความฝันซึ่งมีแต่คุณเท่านั้นที่มองเห็น

http://WarrenBuffettFan.blogspot.com/
polly
Verified User
โพสต์: 41
ผู้ติดตาม: 0

Value Way ตรรกะการลงทุนหุ้นมูลค่า

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ขอบคุณมากค่ะ จะต้องรีบไปดูวันนี้ซะแล้ว รวมกับเล่มแรกด้วย จะได้อ่านก่อนรวยก่อนพร้อมกับทุกท่านในเวปด้วยคน :lol: ค่ะ
goldendream26
Verified User
โพสต์: 88
ผู้ติดตาม: 0

Value Way ตรรกะการลงทุนหุ้นมูลค่า

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ไปซื้อมาแล้วครับผม วิถีเซียนหุ้นมูลค่า ที่ SE-ED สาขาโลตัสหาดใหญ่ แต่ว่ายังไม่ได้อ่านเลยครับ กะว่าคืนนี้จะอ่านให้หนำใจไปเลยครับ ขอบคุณมาก ๆ นะครับ ที่ทำหนังสือดี ๆ ออกมาให้อ่าน หวังว่าคงจะมีเล่มต่อ ๆ ไปอีกเรื่อย ๆ นะครับ
Worried Investor
โพสต์โพสต์