คุณเเคยเจออย่างนี้มั้ย

[ks2000]

สวัสดี ครับทุกท่านที่เข้ามามีร่วมกันที่นี้ คงเป็นความบังเอิญที่ได้มารู้จักกับพวกพี่ ผมไม่แน่ว่าที่นี้มีใครกำลังศึกษาอยู่บ้าง ช่วยแนะนำตัวหน่อย ส่วนตัวผมขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่3 ณ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ตอนอยู่ชั้นมัธยมผมเคย คิดว่าทำไมคนจนเล่นหวยคนรวยเล่นหุ้น ถ้าหุ้นคือการพนัน แล้วทำไมจะต้องมีข่าวเกี่ยวกับหุ้นมาเกี่ยวข้องกับเศษฐกิจด้วย ผมตั้งความหวังว่าสักวันผมต้องเรียนรู้จักมันให้ได้ และแล้วก็ถึงเวลาที่ฝันจะเป็นจริง ผมขออนุญาตทางบ้านที่จะขอนำเงินมาศึกษาการลงทุนช่วงนั้นเกิดที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากปรับลดลงมาไม่กี่เดือน ทางบ้านก็รู้อยู่อย่างเดียวว่าคนที่เล่นหุ้นส่วนใหญ่จะเจ๊ง เท่าที่ฟังมาผมคิอว่าคนเหล่านั้นน่าลงทุนในกองทุนของธนาคาร ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นการลงทุนซื้อประสบการณ์ ทางบ้านก็อนุญาต ผมว่าคงทำใจไว้บ้างแล้ว ตอนที่ได้เงินมาผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ไหนต้องทำยังงั้ยบ้าง ผมจำได้ว่าผมขับรถรอบๆหาดใหญ่พอเจอปุ๊บก็เข้าไปถามทันที ผมรู้อยู่อย่างเดียวว่ามีการเล่นหุ้นผ่านเน็ตได้ด้วย ก็บอกเจ้าหน้าที่ไปว่าผมจะเล่นหุ้นผ่านเน็ต แต่ที่นี้ความพร้อมเรื่องแบบนี้น้อยมาก ผมถามอะไรก็ไม่ค่อยรู้เท่าไร ตอนแรกเขาให้ผมเทรดผ่านโบรกเกอร์ ผมไม่เอาเพราะว่าค่าคอม แพงกว่าเนื่องจากเงินทุนผมน้อยดังนั้นผมต้องเล่นแบบต้นทุนต่ำที่สุด ผมต้องติดตามข่าวอยู่หลายวันกว่าผมจะเทรดทางเน็ตได้ ช่วงระหว่างนั้นผมก็อ่านหนังสือเกี่ยวกันหุ้น หนังสือแนะนำให้ดูงบการเงิน ผมก็ไปหาโบรกเกอร์เพื่อจะของบการเงินตัวที่ผมสนใจ ผมตลกมากที่พี่เขาถามผมว่าหุ้นพวกนี้มีอยู่ด้วยเหรอ ผมก็ดูอยู่หลายวันบางตัวก็ตั้งราคาไว้จะซื้อจน ผมมั่นใจพอเข้าไปเพื่อจะเทรดปรากฏว่าหุ้นเหล่านั้นขึ้นไปไม่ต่ำกว่า20%ทั้งนั้น ผมกลับไปหาตัวใหม่เมื่อมองย้อยกลับไปตอนนี้ที่ผมตั้งจะซื้อเริ่มแรกส่วนใหญ่จะเกิน50%ทั้งนั้น บางตัวก็เกือบ100%ผมเสียดายมาก เหตุที่ผมไม่ซื้อเพราะราคาขึ้นเพราะผมไม่รู้ว่าซื้อแล้วจะลงมาอีกมั้ยหรือว่าจะขึ้นไปอีก ผมยอมรับว่าเหตุการณ์นี้ทำให้ผมรู้สึกผิดอย่างมาก แต่ที่อยู่ในพอร์ตของผมที่ติดดลบอยู่ก็มี ผมเอาบทเรียนครั้งก่อนมาไปซื้อหุ้นตัวหนึ่งปรากฏว่าตัวนี้กลับไปอยู่ที่จุดสูงสุด แต่ยังงั้ยผมก็ไม่รู้สึกกลัวทำพอร์ตของผมติดลบ แต่ภาพรวมยังเป็นบวกและเมื่อไม่กี่วันผมก็เข้าไปซื้อหุ้นตัวนี้อีกยังงั้ยก็ติดลบผมยอมลงทุนถึง60%ของทั้งหมด ผมคาดการณ์ไว้ว่าผมลงทุน60%แล้วรับเงินปันผลแล้วจะลดสัดส่วนไม่เกิน20%จากนั้นก็นำเงินที่เหลือไปซื้ออีกตัวที่ราคานิ่งมานาน คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยให้ความสนใจเพราะว่าเป็นบริษัทที่เล็ก ผมมีญาติพี่น้องที่จบบัญชีและเรียนบริหารชอบมาถามผมว่าเล่นหุ้นกำไรหรือขาดทุน ซื้อตัวไหนบ้าง เล่นหุ้นไม่กลัวเหรอ ผมก็ตอบเพียงว่าเพื่อประสบการณ์ แต่จริงแล้วผมลงเงินส่วนตัวเพิ่มเข้าไปอีก ผมไม่รู้สึกกลัวเลยว่าเงินที่ลงเข้าไปจะมี่ความเสี่ยงสูงขั้น ผมทราบมาอีกจากการเริ่มลงทุนเริ่มมือใหม่ควรมีเงินหมุนเวียนขั้นต่ำแสนบาท เพราะว่าแค่ห้าหมื่นคุณซื้อโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมขั้นต่ำที่25000 อย่างมากก็ไม่เกิน2ตัว ผมว่าคุณไม่ควรที่จะฝากเงินทุนไว้แค่2ตัว ทำให้เกิดการขาดสภาพคล่อง ในการซื้อช่วงแรกผมลองซื้อเล่นซัก4-5พัน 2-3วันผมงงว่าเกิดอะไรขึ้นผมก็โทรไปถามโบรกเกอร์ทำให้เข้าใจว่าควรซื้อขั้นตำ25000 ผมโดนตกนี้ไปหลายร้อย ผมยอมรับว่ามีอย่หลายอย่างที่ผมพยามศึกษาแล้วแต่ยังไม่เข้าใจต้องยอมรับสภาพไปก่อน มีอยู่หลายครั้งโดนโบรกเกอร์ต่อว่า เพราะว่าผมไม่ยอมไปรับรับข่าวสารที่เขาพิมพ์ไว้ช่วงหลังๆก็เงียบไปบ้าง ตอนนี้ผมรู้สึกเซ็งมากกับการขึ้นค่าคอมอีก.01% ถึงจะกระทบไม่มากแต่ก็ไม่ชอบ เพราะมันคือต้นทุนในอนาคตที่สูญเสียไป มีอีกอย่างเรื่องการติดต่อไม่ว่าจะเป็นการปันผลหรือว่าอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับตัวผม เอกสารที่ส่งถึงตัวจะไปไม่ถึงว่าตัวกับที่อยู่อยู่คนละที่กัน ตอนนี้ผมนึกอะไรได้แล้วอยากถามพวกพี่ช่วยแสดงความเห็นเกี่ยวกับหุ้นsawangหน่อยตัวนี้ขายออกไปหมดแล้ว เริ่มแรกผมรู้สึกว่าสินค้าตัวนี้มีความโดเด่นในตัวมันตรงที่เป็นของสวยงาม หนี้สินน้อยแต่สภาพคล่องก็พออยู่ได้ ราคาต้นทุนที่ซื้อช่วงนั้นไม่แพงเท่าๆไรเมื่อเทียบกับการปันผลกลับมา แต่พอถือไปได้ซักพักราคาเริ่มขึ้นมากลงมากไม่ทราบว่าเกิดอะไรขั้นผมรู้เป็นทุกข์มาก เลยสัเขายที่แถว18บาท กดผิดดันไปซื้อซวยเข้าไปใหญ่ราคาขึ้นๆลงๆเป็นว่าเล่นจากก่อนที่จะซื้อก็เฉยๆกลายเป็นนอนไม่หลับพอขั้นไปแถว21บาทผมก็ขายออกไปหมดทันทีจากนั้นไม่นานก็ขั้นลงแถว17-18 ผมไม่แน่ใจว่าเหตุการณ์แบบนี้คือการปั่นหุ้นหรือเปล่า ผมอยากทราบเหมือนกันช่วยอธิบายหน่อย ผมเข้าไปรู้ประวัติการเริ่มสมัครของที่นี้แสดงว่าเปิดได้ไม่นานไหรผมจะรู้ยังว่าผมสมัครเป็นคนที่เท่าไรครับ สวัสดีครับ

[ลูกอิสาน]

คุณ ks2000 อยู่ใกล้ๆ ผมแค่นี้เอง...ยินดีต้อนรับครับ

คุณ ks2000 ยังเรียนแค่ปีสาม อย่าไปจริงจังกับการซื้อขายหุ้นมากๆ นะครับ
เอาเวลาไปเรียน ทำโปรเจคท์-สัมมนา ดีกว่าครับ เดี่ยวการเรียนจะเสีย
หากมีเวลาว่างจริงๆ ก็อ่านหนังสือหุ้น หาความรู้ไปก่อน..
อีกแค่ปีครึ่งก็จบ หาเงินได้เอง ก็ลุยได้เลยครับ...
ยังไงตลาดก็ไม่หนีไปไหน ครับ มาซื้อในช่วงหุ้นสูงอย่างนี้ เดี่ยวจะติดดอย แล้วเข็ดขยาดกับตลาดหุ้นเสียเปล่าๆ...

หุ้น sawang ผมไม่ได้ติดตามครับ ถ้าสนใจหมวดนี้ก็ลองดู pranda อีกตัว เสียแต่ตัวนี้มี warrant...

ได้เจอคนหนุ่มๆ ที่สนใจการลงทุนแบบ vi แล้วรู้สึกดีครับ ถ้าไม่เปลี่ยนแนวในการลงทุนไปซะก่อน >>>รวยแน่ๆ ครับ...
:lol:

[นายสต็อก]

นักลงทุนรุ่นใหม่ ไฟแรงๆทั้งนั้น...

ผมคงเห็นด้วยกับคำแนะนำของคุณลูกอีสานครับ ขอเพิ่มเติมเพียง ลองเล่นหุ้นที่มี Volume ซื้อ-ขาย ปานกลางขึ้นไปในหมวดอื่นๆดูบ้างนะครับอยากเห็นเพื่อนนักลงทุนได้ประสบการณ์ประทับใจจากตลาดหุ้นบ้านเรากลับไปครับ....

[Ongsa]

มาให้กำลังใจน้อง ks ครับ
ใจเย็นๆครับ อย่างที่พี่ๆทุกท่านบอก
สิ่งที่เราทำคือการลงทุนนะ เชื่อมั่นกับกิจการของเรานะครับ

ผมเองก็ยังใหม่มากสำหรับที่นี่
เลยเข้ามาอ่านคำแนะนำดีๆจากพี่ๆทุกท่านตลอดครับ
SAWANG ตัวนี้ก็เป็นตัวแรกๆที่ผมมีเช่นกัน
เริ่มเล่นโดยตั้งใจเป็น VI แบบพวกพี่ๆที่นี่ครับ
ลองนั่งศึกษางบแล้วเลยตัดสินใจซื้อดู
แต่ด้วยความรู้ยังน้อยมาก ไม่ได้ศึกษาละเอียดอย่างพี่ๆที่นี่ครับ
หากพี่ๆท่านใดมีคำแนะนำ จะขอบคุณมากครับ
ปัจจุบันมีเก็บไว้เล็กน้อย
เพราะผมขายออกไปส่วนหนึ่งก่อนแล้ว ต้นทุนที่มีเลยต่ำมาก
และกล้าถือยาวอย่างสบายใจครับ

[someOne]

ผมไงครับกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 คณะวิทยาศาสตร์ ภาควิชาคณิตศาสตร์ ที่มหิดล

ที่ภาคผมก็มีกลุ่มคนเล็กๆ ประมาณเกือบๆ 10 คนที่สนใจเรื่องหุ้นครับ แต่ที่สนใจแนว VI ก็คงมีประมาณ 2-3 คน มีอะไรก็คุยกันได้ครับ มือใหม่เหมือนกัน Project ก็ต้องทำครับ ... ผมขอไม่เรียกมันว่า Project แล้วกันขอเรียกมันว่า Research เพราะ advisor ผมบอกว่าสิ่งที่ผมกำลังทำมันคือ Research ซึ่งเทอมนี้ผมคงเพลาๆ เรื่องหุ้นไว้แหละครับแต่ก็มีเก็บหุ้นดีๆ ไว้ในพอร์ต ก็คงเก็บยาวนานพอสมควรเพราะเป็นหุ้นปันผลทั้งนั้น ... ไม่ต้องกลัวครับว่าจะไม่มีเพื่อน :lol:

ยอมรับครับว่าเหนื่อยมาก ทั้งเรียนก็ต้องทำให้ได้ดี Research ก็วุ่นวาย ไหนจะเรื่องหุ้นอีก ทรหด แต่สนุกดีครับ :lol:

[ks2000]

ปกติเป็นคนที่ชอบไปเดินดูตามซูเปอร์มาเก็ตแล้วซื้อขนมมาตุนเก็บว่าทีละมากๆ เท่าที่ผม เท่าที่สังเกตตามห้างต่างๆที่ใหญ่จะพยายามลดราคาแข็งกัน ช่วงแรกผมชอบไปซื้อที่Makro เพราะว่าเป็นราคาขายส่ง แต่พอมีBigC กับlotusเข้ามาเปิด ผมก็ย้ายที่ตามเพราะว่าขายปลีกแต่ราคาใกล้เคียงกับการขายส่ง สองห้างนี้ช่วงแรกก็หันราคากัน ใช้กลยุทย์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ1Free1 ลดราคาแบบถูกชัวร์ไม่ต้องเช็ค ผมก็ยังรู้สึกว่ามันแพงอยู่ดีเมื่อเทียบกับท็อบซูเปอร์มาเก็ต ที่หาดใหญ่นี้มีอยุ่3สาขา เท่าที่สังเกตราคาที่นี้จะสูงการห้างทั่วไปประมาณ20% แต่มีโปรโทชั่นซื้อ1แถม1 เมื่อเทียบกับห้างอื่นแล้วก็ลดลงประมาณ30-40% แต่ถ้าเป็นBigCหรือLotus ส่วนใหญ่ราคาที่ลดลงจะอยู่ที่10-30% ท็อบมีความพิเศษกว่าห้างอื่นตรงที่ปกติรายการที่ทางบริษัทมีลดราคาให้อยู่มีเหมือนกันหมดทั่วประเทศ อัพเดททุก2สป. แต่ก็เป็นสิทธิพิเศษของแต่ละสาขาที่จะลดราคาตามรายการอื่นได้อีกสูงถึง50% ถือได้ว่าเป็นโชค2ชั้น ผมรู้สึกชอบที่นี้มากเวลาที่สินค้าแต่ละตัวลดราคาที่สำคัญสั่งจองได้ด้วยไม่ต้องห่วงว่าของถูกจะหมด ผมไม่รู้ว่าราคาที่รับมาจริงๆเท่าไร แต่ที่แน่แต่ละเดือนค่าขนมผมไม่ตำกว่าสองพันนี้คิดจากราคาที่ลดแล้ว เท่ากับผมประหยัดเงีนในกระเป๋าไปได้มากเมื่อเทียบกับห้างอื่น ที่นี้มีสินค้าให้เลือกถึง3สาขา ผมไปทุกสาขาดูว่าทางห้างเสนอราคาให้ผมพอใจมากน้อยเพียงใด จะซื้อในปรีมาณเท่าที่ควร เดือนหนึ่งมีเวลาให้ผมเลือกความพอใจไดถึง4ครั้ง ยกตัวอย่างนะครับน้ำผักผลไม้รวมTipcoปกติทั่วไปขาย16บาท แต่ผมซื้อได้ในราคา8.50บาท ไวไว4.50ซื้อ2.50 แยมรสสัม43ซื้อ22 น้ำผลไม้Tipcoขนาด1000ccซื้อ3แถม1ราคา65บาท+แถมขนาด250ccอีก4+แถมน้ำยาปรับผ้านุ่มขนาด1ลิตรอีก อย่างงี้ต้องเรียกว่าลด+แถม*2 ห้างอื่นที่ใหญ่เคยทำแบบนี้บ้างมั้ย ทูน่ากระป๋องชองบริษัทโชติวัฒน์ ปกติ36ซื้อ19 ถ้าสมมตว่าบริษัทนี้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ผมอยากดูผลประการจังเลย

[Wvix]

สวัสดีครับน้อง ks2000 ผมแก่กว่า 3 ปีครับ
คุยเรื่อง Discount Store เหรอ ครับขอแจมด้วย
ผมดูงบแล้ว คร่าวๆแล้ว นะครับห้างพวกนี้ สู้กันด้วยการลดราคาสินค้า Profit Margin ก็เลยออกมาค่อนข้างต่ำเตี้ยติดดินครับ
สำหรับ Bigc เท่าที่ดูแนวโน้มการเจริญเติบโตของยอดขายก็โตขึ้นทุกปี ไปคู่กับค่าใช้จ่ายเลย คือ ยอดขายก็เพิ่มค่าใช้จ่ายเพิ่ม กำไรก็เลยเท่าๆเดิมตลอดครับ
แต่ว่า Makro ไม่โตแล้วครับ ยอดขายกับกำไร ทรงๆครับ
ส่วน ท๊อป ไม่รู้เหมือนกันว่า ท็อป ทำยังไงถึงลดราคาได้ขนาดที่ว่าเหมือนกันครับ เผอิญผมไม่ค่อยมีข้อมูลเชิงคุณภาพครับ
แต่ว่าสำหรับผมถ้าเข้าตลาดผมก็คงไม่สนครับเพราะกิจการแบบนี้
Profit Margin ต่ำ
ผู้ซื้อมีอำนาจต่ำรองเหนือกว่าผู้ขาย
กิจการแข่งขันกันเองสูงแถมแข่งขันกันด้วยการลดราคาอีก ทำให้การเจริญเติบโตน้อยครับ
ไม่มี Brand Royalty
และอื่นๆ
(ปล. ผมยังไม่ได้อ่าน 56-1 เพราะไม่ค่อยอยู่ในข่ายความสนใจเท่าไหร่เลย )