Chaebol เกาหลีใต้สนุกกับเงินคนอื่น
ธรรมาภิบาลในภาคเอกชน มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าในภาครัฐ ในภาคเอกชน เงินออมจากประชาชนกลายเป็นทุนของบริษัทผ่านการซื้อหุ้น ดังนั้น ประชาชนเหล่านี้จึงร่วมเป็นเจ้าของบริษัทด้วย หรือพูดอีกอย่างว่าเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการประกอบการของบริษัท ถ้ามีการฉ้อฉล คดโกงในบริษัท ประชาชนผู้ถือหุ้นเหล่านี้ก็เสียประโยชน์ เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเปิดเผยการฉ้อฉลในบริษัทยักษ์ของเกาหลีใต้แห่งหนึ่งอย่างเป็นที่น่าเชื่อถืออย่างยิ่ง ทั้งนี้ เพราะผู้เปิดเผยก็คืออดีตประธานกรรมการของบริษัทเอง และเป็นพี่ใหญ่คนหนึ่งของครอบครัวเจ้าของธุรกิจ
ในเกาหลีใต้นั้น คำว่า chaebol หมายถึงบริษัทยักษ์ที่ครอบครัวเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และเป็นผู้บริหารบริษัท คำนี้หมายถึงกลุ่มบริษัทยักษ์ที่รวมตัวกันอย่างเข้มแข็งจนมีอิทธิพลทางเศรษฐกิจและการเมืองของเกาหลีใต้
ปัจจุบันในเศรษฐกิจเกาหลีใต้มี chaebol เช่นว่านี้อยู่ด้วยกัน 38 บริษัทยักษ์ มีวิธีการถือหุ้นไขว้กันไปมาในกลุ่มบริษัท โดยมีญาติพี่น้องและผู้บริหารที่จงรักภักดีอยู่ในตำแหน่งสำคัญๆ ของบริษัทลูก การถือหุ้นโยงใยกันไปเช่นนี้ทำให้ในที่สุดครอบครัวเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และครอบงำการบริหารของบริษัทในเครือทั้งหมด ก่อนหน้าวิกฤตเศรษฐกิจ การกระทำเช่นนี้เป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อ IMF เข้ามาให้ความช่วยเหลือ เงื่อนไขหนึ่งก็คือต้องทำให้เกิดธรรมาภิบาลขึ้นใน chaebol ด้วยการควบคุมและแก้ไขกฎหมายต่างๆ เพื่อให้เกิดการถ่วงดุล และมีการตรวจสอบ แต่รัฐบาลที่ผ่านมาและปัจจุบันก็ทำไปอย่างเชื่องช้ามาก
ครอบครัวหนึ่งของ chaebol ที่ได้สร้างปัญหาขึ้นมาให้แก่ chaebol ทั้งหลายก็คือกลุ่ม Doosan จนทำให้ผู้คนรู้ความลับว่า chaebol แอบทำอะไรไม่ดีกันไว้บ้างและมีกลวิธียอกย้อนในการบริหารจนทำให้เป็นผลเสียต่อผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ อย่างไร
Doosan เป็น chaebol ที่เก่าแก่ที่สุดในเกาหลีใต้ เป็นแบบอย่างของความภูมิใจและความงดงามมายาวนานในการดำเนินธุรกิจโดยครอบครัว พี่น้องต่างผลัดกันมาเป็นผู้บริหารสูงสุดของบริษัทที่ขายทุกอย่าง ตั้งแต่อาคารสูง โรงไฟฟ้า Kentucky Fried Chicken และแม้กระทั่ง Sojo ซึ่งเป็นเหล้าดั้งเดิมของเกาหลี
ปัจจุบันกลุ่ม Doosan ใหญ่เป็นอันดับ 10 ของธุรกิจในเกาหลีใต้ ทุกอย่างก็ดำเนินมาอย่างราบรื่นจนกระทั่งมาพานพบคนที่ทำให้เรือล่ม และคนคนนั้นก็คืออดีตประธานกรรมการของบริษัทนั่นเอง
เรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับสารวัตร ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2005 ที่มีการเปลี่ยนแปลงประธานกรรมการคนใหม่ พี่น้อง Doosan ก็ทะเลาะเบาะแว้งกันในสาธารณะว่าใครควรจะคุมกลุ่มธุรกิจอายุ 109 ปีแห่งนี้ ต่างฝ่ายต่างสาวไส้กันออกมาเป็นที่สนุกสนานแก่ประชาชนผู้ไม่เคยรู้สายสนกลในของการทำธุรกิจของ chaebol มาก่อน และทำให้ได้รู้เรื่องลับๆ เกี่ยวกับการฉ้อฉลทางการเงินของหนึ่งในบรรดา chaebol
สื่อเรียกศึกครั้งนี้ว่า "War of Brothers" (คล้ายกับ "War of Princess" ที่เหล่าลูกชายของผู้ก่อตั้ง คือ Chung Ju Young ของกลุ่ม Hyundai ทะเลาะแย่งกันเป็นใหญ่ในปี 2000 จนบริษัทต้องแตกออกเป็นสามส่วน)
ศึกเกิดหลังจากพี่น้อง Doosan ประชุมกันในเดือนกรกฎาคม และตกลงกันว่า ประธานกรรมการของกลุ่มคนใหม่จะเป็นนาย Park Young Sung อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นน้องชายนาย Park Young Oh อายุ 68 ประธานกรรมการคนปัจจุบัน (ก่อนหน้านี้พี่ชายคนโตคือ Park Young Gon อายุ 73 ปีก็มอบอำนาจให้เขาในปี 1996)
แต่มันเป็นเรื่องขึ้นมาก็เพราะนาย Yong Oh ประธานกรรมการคนปัจจุบันไม่พอใจอย่างมากหาว่าพี่น้องร่วมกัน "ปฏิวัติ" ถอดเขา จึงไปยื่นเรื่องกับอัยการ กล่าวหาว่าญาติพี่น้องและนาย Yong Sung มีกองทุนลับมูลค่า 170 พันล้านวอน (6,680 ล้านบาท) ที่ฉ้อฉลคดโกงมาจากบริษัท
คราวนี้ก็เป็นเรื่องซิครับ กลุ่ม Doosan ที่กำลังแปลงร่างจากบริษัทที่ซื้อขายของในประเทศ เช่นพวกเหล้า อาหาร ตำราเรียน ฯลฯ ให้เป็นผู้ส่งออกระดับโลกของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า และอุปกรณ์ก่อสร้างต้องชะงักงัน พร้อมกับถูกสอบสวนจากทางการที่ประกาศนโยบายธรรมาภิบาลของภาคเอกชน
นาย Yong Oh ผู้อาลัยอาวรณ์เก้าอี้ตัวใหญ่ถูกตัดขาดจากครอบครัวและแถมถูกสอบสวนในเรื่องการเล่นกลการเงินของบริษัทลูกแห่งหนึ่งที่เขารับผิดชอบอยู่โดยตรง (อย่างว่าแหละครับจากข้อมูลของฝ่ายตรงข้ามในกลุ่ม Doosan ด้วยกัน) อัยการพบว่าบริษัทของเขาเล่นแร่แปรธาตุตัวเลขบัญชีของบริษัทระหว่างปี 1995-2001 โดยทำให้ยอดขายสูงกว่าความเป็นจริงถึง 297.7 พันล้านวอน (11,697 ล้านบาท)
นอกจากนี้ ยังพบอีกว่าบริษัท Doosan Industrial Development จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้แทนครอบครัวเจ้าของธุรกิจซึ่งกู้เงินจากบริษัทในปี 1999 (เพื่อซื้อหุ้นเพิ่มอันจะช่วยให้สามารถครอบงำธุรกิจของกลุ่ม Doosan ได้แน่นขึ้น) เป็นมูลค่า 13.8 พันล้านวอน (543 ล้านบาท)
แค่นั้นไม่พอ ยังพบอีกว่าบริษัทดังกล่าวภายใต้การนำของนาย Young Oh จ่ายเงินปันผลมูลค่า 5.3 พันล้านวอน (208 ล้านบาท) บนพื้นฐานของผลประกอบที่เป็นเท็จ (คงเดากันได้ว่าใครจะเป็นผู้ได้รับเงินปันผลส่วนใหญ่ไป)
กลุ่ม Doosan ยอมรับในความ "ผิดปกติทางการเงิน" เหล่านี้และบอกว่าจำเป็นต้องทำเพื่อความอยู่รอดในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ และเหตุผลที่บริษัทจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่ครอบครัวก็เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อความกล้าหาญลงทุนในบริษัทในยามยากเช่นนั้น
การเขย่าเสาเรือนของนาย Young Oh อย่างขาดสติจนกลับมาทิ่มแทงตนเอง ทำให้กลุ่ม chaebol ทั้งหลายอยู่ในความหวาดระแวง เพราะวิญญูชนที่มิได้กินแกลบหรือหญ้าย่อมเดาได้ว่าเมื่อมันเกิดขึ้นใน chaebol แห่งหนึ่งได้ ทำไมจะเกิดขึ้นไม่ได้ใน chaebol อื่นๆ ด้วยการฉ้อฉลในลักษณะคล้ายคลึงกัน
เหตุการณ์นี้ซ้ำเติมความรู้สึกของคนเกาหลีใต้ในเรื่องธรรมาภิบาลของภาคเอกชนเพราะได้เห็นนาย Lee Hak Soo ผู้บริหารระดับสูงของ Samsung ถูกสอบสวนเมื่อต้นเดือนสิงหาคมเรื่องกองทุนลับช่วยสนับสนุนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 1997 และเห็นนาย Kim Woo Choong ผู้ก่อตั้งกลุ่ม Daewoo (ซึ่งปัจจุบันล้มหายไปแล้ว) ซึ่งเคยสุดยิ่งใหญ่เดินทางระหว่างคุกกับศาลในข้อหาฉ้อฉลคดโกงผู้ถือหุ้น
ผู้ศึกษาธรรมาภิบาลในภาคเอกชนบอกว่าปัญหาเกิดขึ้นเพราะครอบครัวครอบงำบริษัทโดยดำเนินการในลักษณะผลประโยชน์ของครอบครัวกับของบริษัทเป็นสิ่งเดียวกัน กระทำราวกับว่าตนเองเป็นเจ้าของหุ้นทั้งหมด ไม่มีคนอื่นร่วมถือหุ้นด้วยเลย
เมื่ออ่านเรื่อง chaebol สนุกสนานกับเงินของผู้ถือหุ้นแล้ว ผมต้องคิดสองรอบก่อนตัดสินใจซื้อหุ้นไทยที่บริษัทมีลักษณะเหมือน chaebol ครับ
จากมติชนสุดสัปดาห์ วันที่ 02 กันยายน พ.ศ. 2548
--- ทำให้คิดถึงบริษัทใหญ่ที่เราไม่มีทางแกะงบการเงินออกเลยนะครับ---
Chaebol เกาหลีใต้สนุกกับเงินคนอื่น
โพสต์
2 โพสต์
• หน้า 1 จากทั้งหมด 1
โพสต์
2 โพสต์
• หน้า 1 จากทั้งหมด 1
บันทึกไม่สำเร็จ