ขออนุญาติครับ ดร นิเวศน์ vs ดร สุวรรณ เรื่องบ้าน

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

ล็อคหัวข้อ
ภาพประจำตัวสมาชิก
CEO
Verified User
โพสต์: 1243
ผู้ติดตาม: 0

ขออนุญาติครับ ดร นิเวศน์ vs ดร สุวรรณ เรื่องบ้าน

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ดร นิเวศน์เห็นว่าการซื้อบ้านนั้เป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า ท่านจึงอยู่บ้านหลังเล็กๆ มีห้องเดียว

แต่ ดร สุวรรณ ชอบเชียร์ให้คนซื้อบ้านฃเพราะท่านว่าบ้านมีแต่จะขึ้นราคา ต้องซื้อต้องมี ไม่มีเงินก็จำเป็นต้องกู้ ซื้อแบบผ่อนเอา

แล้วพวกเรามีความเห็นแบบไหนบ้างครับ
การซื้อกิจการอาจไม่ใช่การเทคโอเวอร์ และการเทคโอเวอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้น..
big15096
Verified User
โพสต์: 120
ผู้ติดตาม: 0

ขออนุญาติครับ ดร นิเวศน์ vs ดร สุวรรณ เรื่องบ้าน

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ผมว่าทั้งการลงทุนกับบ้าน หรือหุ้น ถ้าเราศึกษาอย่างถูกต้องเเล้ว ก็ให้ผลประโยชน์ที่คุ่มค่า เหมือนกันนะครับ

ผมคิดว่า ดร นิเวศน์ กับ ดร สุวรรณ  ท่านทั้งสองเเค่คงจะถนัดลงทุน คนละเเบบนะครับ
------

สุดท้าย มนุษย์ก็จะเหลือเเต่ความว่างเปล่า จะไขว่คว้าหาของนอกกายไปเพื่ออะไร

------
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 86

ขออนุญาติครับ ดร นิเวศน์ vs ดร สุวรรณ เรื่องบ้าน

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ทั้งบ้านและหุ้น  มีทั้งกำไรและขาดทุนครับ  คงขึ้นอยู่กับความรู้และความสามารถของแต่ละคนครับ

แต่หุ้นคงลงทุนได้ง่ายกว่า  (เพราะใช้เงินน้อยกว่า)  และมีสภาพคล่องมากกว่า

หุ้นของแต่ละบริษัทก็มีสิทธิเหมือนกันทุกประการ  แต่ที่ดินไม่มีเหมือนกันเลยนะครับ  ถึงแม้จะแปลงติดกัน  หรือตรงข้ามกัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
harry
Verified User
โพสต์: 4200
ผู้ติดตาม: 0

ขออนุญาติครับ ดร นิเวศน์ vs ดร สุวรรณ เรื่องบ้าน

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ลงทุนบ้าน ซื้อมาแล้วปล่อยเช่า

หรือซื้อบ้านเพื่ออยู่เองครับ

ผมยังไม่มีบ้านที่เป็นของตัวเอง ถ้าอายุมากขึ้นมีเงินก็จะซื้อบ้าน แต่คงไม่เอาหลังใหญ่ๆให้จ่ายมากจนเครียดครับ
Expecto Patronum!!!!!!
ภาพประจำตัวสมาชิก
drchatri
Verified User
โพสต์: 767
ผู้ติดตาม: 0

ขออนุญาติครับ ดร นิเวศน์ vs ดร สุวรรณ เรื่องบ้าน

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ผมว่านกน้อยควรสร้างรังแต่พอตัวครับ ลองคิดดูว่าถ้าเรามีบ้านที่เราก็ไม่ค่อยได้อยู่หลังใหญ่ๆ จะลำบากแค่ไหน อย่างตอนนี้ผมกับภรรยาลูกหนึ่ง อยู่บ้านเดี่ยวบนที่ดินขนาด 50 ตรว.ก็ถือว่าโอเคครับผมกะว่าใช้เวลาผ่อนแค่ 2ปี ซึ่งปีหน้าผมก็จะผ่อนหมดแล้วครับ ซึ่งตอนแรกผมยังอยากได้ทาวเฮาน์ด้วยซ้ำไป เพราะเห็นว่าซื้องายขายคล่อง หากต้องเปลี่ยนงานย้ายที่อยู่ก็ขายหรือปล่อยให้เช่าง่าย แต่บังเอิญมาเจอหลังนี้เป็นบ้านเดี่ยวขนาดเล็ก ราคาแพงกว่านิดหน่อยและอยู่สบายกว่าก็เลยเอา ซึ่งจริงๆแล้วถ้าคำนวนกันตามสูตรที่เขาอ้างให้คำนวนจากเงินเดือนว่าจะสามารถซื้อบ้านราคาเท่าไหร่ผมสามารถซื้อได้เป็นหลักสิบล้าน ซึ่งผมนึกไม่ออกว่าจะเอาเงินไปจมอยู่กับบ้านทำไม ลำพังตอนนี้ขนาดบ้านหลังเล็กผมยังหาคนทำความสะอาดดูแลตัดหญ้า ระวังมดปลวก การซ่อมบำรุงฯลฯ ปวดหัวครับ สู้เอากระแสเงินสด ที่จะมาผ่อนบ้านอีกตั้งหลายปีมาลงทุนในหุ้นแบบเน้นคุณค่าไม่ได้ (เรายังอยู่ในช่วงก่อร่างสร้างตัวหน่ะครับ ส่วนใหญ่เวลาจะหมดไปกับงานกับการหาข้อมูลในการลงทุน ไว้เงินเรางอกเงยค่อยมาว่ากัน) โดยอาจนำเงินปันผลจากหุ้นไปผ่อนบ้านหรืออสังหา ให้เขาเช่าจะดีกว่ามานั่งทำงานตัวเป็นเกลียวเพื่อหาเงินไปผ่อนบ้านหลังใหญ่ๆที่ไม่รู้ว่าจะได้เป็นของเราจริงๆรึเปล่า ผมว่ามัวแต่ผ่อนบ้านจะกลายเป็นจำกัดโอกาสในการลงทุนของเรา
(ความไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ) :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Linzhi
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1526
ผู้ติดตาม: 227

ขออนุญาติครับ ดร นิเวศน์ vs ดร สุวรรณ เรื่องบ้าน

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ผมว่าในมุมมองดร.สุวรรณ ส่วนหนึ่งคือแกมีความสุขกับบ้านครับ เพราะแกทำงานที่บ้าน กินข้าวที่บ้านทั้งสัปดาห์ ดังนั้นแกจึงลงทุนเยอะในบ้าน คนที่รักบ้านจะรู้ว่าการที่มีสวนใหญ่ ๆ ไว้พักผ่อนกลางเมืองมีความสุขแค่ไหน

ส่วนเรื่องการลงทุนเป็นผลพลอยได้ที่แกบอกว่าคุ้มค่ากว่าที่คิดมาก ๆ

ดร.นิเวศน์ก็มีอีกมุมมองนึง ที่อาจจะต่างกันบ้าง

ดังนั้นผมว่าขึ้นอยู่กับการ weight ว่าความสุขของท่านคืออะไร และท่านมีการวางแผนยังไงครับ
woody
Verified User
โพสต์: 3763
ผู้ติดตาม: 3

ขออนุญาติครับ ดร นิเวศน์ vs ดร สุวรรณ เรื่องบ้าน

โพสต์ที่ 7

โพสต์

Linzhi เขียน:ผมว่าในมุมมองดร.สุวรรณ ส่วนหนึ่งคือแกมีความสุขกับบ้านครับ เพราะแกทำงานที่บ้าน กินข้าวที่บ้านทั้งสัปดาห์ ดังนั้นแกจึงลงทุนเยอะในบ้าน คนที่รักบ้านจะรู้ว่าการที่มีสวนใหญ่ ๆ ไว้พักผ่อนกลางเมืองมีความสุขแค่ไหน

ส่วนเรื่องการลงทุนเป็นผลพลอยได้ที่แกบอกว่าคุ้มค่ากว่าที่คิดมาก ๆ

ดร.นิเวศน์ก็มีอีกมุมมองนึง ที่อาจจะต่างกันบ้าง

ดังนั้นผมว่าขึ้นอยู่กับการ weight ว่าความสุขของท่านคืออะไร และท่านมีการวางแผนยังไงครับ
:cool:
Impossible is Nothing
sunrise
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2273
ผู้ติดตาม: 1

ขออนุญาติครับ ดร นิเวศน์ vs ดร สุวรรณ เรื่องบ้าน

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ในมุมมองของผม บ้านเป็นทรัพสินที่เพิ่มค่าครับ ถ้าถือเป็น 10 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่กำไรน่าจะเกิน 95%
แต่ว่าสภาพคล่องไม่มี
บ้านมี value added ด้วยครับ อยู่แล้วสุขใจ
และก็คิดว่าเสี่ยงน้อยกว่าหุ้นเยอะครับ

ถ้ามาดูกันจริงๆ คนที่กำไรเป็นหุ้นเป็นกอบเป็นกำ คงมีน้อยกว่าคนที่กำไรบ้าน หลายร้อย หลายพันเท่าครับ

ส่วนวิธีจักพอร์ตทรัพสิน อันนี้แล้วแต่คนมองครับ
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
ภาพประจำตัวสมาชิก
MO101
Verified User
โพสต์: 3226
ผู้ติดตาม: 2

ขออนุญาติครับ ดร นิเวศน์ vs ดร สุวรรณ เรื่องบ้าน

โพสต์ที่ 9

โพสต์

มองได้สองแบบ คือ บ้านเป็นค่าใช้จ่าย และบ้านเป็นการลงทุนครับ
ในกรณี บ้านเป็นค่าใช้จ่ายคือเมื่อซื้อบ้านใหญ่ขึ้นต้องมีภาระค่าใช้จ่ายมากขึ้น
จึงควรซื้อบ้านหลังเล็กๆ เอาแค่พออยู่
ส่วนบ้านเป็นการลงทุน ข้อดีคือกู้มาซื้อได้ครับ ทำให้ผลตอบแทนสูงขึ้นไปด้วย แลที่สำคัญ ลดภาษีได้ จึงควรซื้อบ้านให้มีที่ดินมากๆเข้าไว้

ผิดถูกประการใดเชิญชี้แนะได้ครับ
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6492
ผู้ติดตาม: 896

ขออนุญาติครับ ดร นิเวศน์ vs ดร สุวรรณ เรื่องบ้าน

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ดร.นิเวศน์ ท่านไม่ได้บอกว่าไม่ควรซื้อบ้านนะครับ แต่บอกว่าไม่ควรซื้อบ้านใหญ่โต เกินตัว เกินฐานะไปมาก ทำให้ต้องผ่อนนาน ไม่เหลือเงินไปลงทุน


ส่วน ดร.สุวรรณ ท่านเห็นด้วยกับการซื้อบ้าน ส่วนหนึ่งเพราะท่านมีประสบการณ์จริงที่เกิดกับท่าน แต่อย่าลืมไปว่า ท่านอาจจะโชคดี เพราะไปซื้อบ้านในบริเวณที่ต่อมาเจริญที่สุดในประเทศ (สุขุมวิท) ทำให้ที่ดินที่ท่านปลูกบ้านมีราคาเพิ่มขึ้นมหาศาล

ส่วนผม ขอตามท่าน ดร.นิเวศน์ดีกว่าครับ เพราะปกติบ้านเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้นะครับ (แต่เกิดรายจ่าย :evil: )  ซื้อหลังเล็กๆ พอซุกหัวนอน อบอุ่นดี และถ้าให้ดีไม่ต้องซื้อบ้านเลย อยู่บ้านหลวง  :lovl:  :lovl:
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
tt
Verified User
โพสต์: 1150
ผู้ติดตาม: 5

ขออนุญาติครับ ดร นิเวศน์ vs ดร สุวรรณ เรื่องบ้าน

โพสต์ที่ 11

โพสต์

บ้านนี่ควรจะซื้อใหญ่ไว้ก่อนแน่นอน แต่ใม่ใช่เกินฐานะมาก
ถ้ายังไม่มีลูกก็ต้องเผื่อมีลูก ถ้ามีลูกก็ต้องเผื่อว่าจะมีกี่คน
เพราะบ้านเมื่อซื้อไปแล้ว ถ้าเล็กเกินไปมันยากนะครับที่จะไปซื้อใหม่อีก
การมีบ้านที่ดี สวยงาม มันเป็นความสุขที่ไม่ใช่ตัวเงินนะครับ
คุณมีที่ให้ลูกเล่นมีความสุขนี่ มันเทียบไม่ได้กับคุณเอาไปลงทุนหรอก
และก็ถ้าจะถามเรื่องหุ้น อย่าไปถาม ดร.สุวรรณ เพราะ ดร.สุวรรณ ไม่เชี่ยว
ชาญเรื่องหุ้น แกจะเก่งเรื่องกฎหมายและภาษีนะครับ
-=spider=-
Verified User
โพสต์: 123
ผู้ติดตาม: 0

ขออนุญาติครับ ดร นิเวศน์ vs ดร สุวรรณ เรื่องบ้าน

โพสต์ที่ 12

โพสต์

[quote]ส่วนผม ขอตามท่าน ดร.นิเวศน์ดีกว่าครับ เพราะปกติบ้านเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้นะครับ (แต่เกิดรายจ่าย  )  ซื้อหลังเล็กๆ พอซุกหัวนอน อบอุ่นดี และถ้าให้ดีไม่ต้องซื้อบ้านเลย อยู่บ้านหลวง    
[/quote]

ผมเห็นข้าราชการที่เอาแต่อยู่บ้านหลวงมาตลอด  โดยไม่สนใจที่จะซื้อบ้านเอง  พอใกล้เกษียณ หรือเกษียณแล้ว  ล้วนต่างก็เดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัย  น่าเสียดายวลาที่มีเงินมีทอง  แต่สุรุ่ยสุร่ายไปวันๆ  ท้ายที่สุดก็ขาดกำลังทรัพย์ที่จะซื้อหาเป็นของคนเอง  น่าเสียดาย
ภาพประจำตัวสมาชิก
Suysak
Verified User
โพสต์: 691
ผู้ติดตาม: 0

ขออนุญาติครับ ดร นิเวศน์ vs ดร สุวรรณ เรื่องบ้าน

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ต้องเอาแบบ มังกรโบราณ คุณปู่โกศล สิครับ ผมว่าดีที่สุด คือ
1. ต้องมีเงินฝากประจำ ไว้กินดอก
2. ต้องมีหุ้นปันผล ไว้กินปันผล
และ 3. ต้องมีบ้าน ไว้กินค่าเช่า
3 ข้อนี้ผมท่องขึ้นใจ เลยครับ รู้สึกว่า ท่านพูดถูก ครับ ถ้ามีพร้อมทั้ง 3 อย่างนี้ สบายแน่ๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
drchatri
Verified User
โพสต์: 767
ผู้ติดตาม: 0

ขออนุญาติครับ ดร นิเวศน์ vs ดร สุวรรณ เรื่องบ้าน

โพสต์ที่ 14

โพสต์

เห็นด้วยกับคุณ suysukมากๆ
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6492
ผู้ติดตาม: 896

ขออนุญาติครับ ดร นิเวศน์ vs ดร สุวรรณ เรื่องบ้าน

โพสต์ที่ 15

โพสต์

[quote="-=spider=-"][quote]ส่วนผม ขอตามท่าน ดร.นิเวศน์ดีกว่าครับ เพราะปกติบ้านเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้นะครับ (แต่เกิดรายจ่าย
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
drchatri
Verified User
โพสต์: 767
ผู้ติดตาม: 0

ขออนุญาติครับ ดร นิเวศน์ vs ดร สุวรรณ เรื่องบ้าน

โพสต์ที่ 16

โพสต์

เห็นด้วยกับคุณลูกอิสานมากๆ ในช่วงเริ่มก่อร่างสร้างตัวควรอยู่บ้านที่พอเพียงก่อน(แล้วแต่ใครพอเพียงอย่างไร) แล้วควรนำกระแสเงินสดมาลงทุนก่อน ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นหนูถีบจักร ไม่ได้เป็นมดงานหน่ะ
ล็อคหัวข้อ