หุ้นเจ๊ดัน.....ของ ดร. หมายถึงหุ้น.......

[sr]

.........  ????? .......
 
       ...... MINT ....

 or   ???????

[Belffet]

เป็นไปได้แฮะ  ไม่รู้เหมือนกันครับ

[jaychou]

เฟอร์นิเจอร์ส่งออก FANCY

และเครื่องใช้ไฟฟ้าส่งออก CEI

เดาไม่ออกจิงอะ

[MO101]

มีตัว 1 ใน ปอด ตรงทุกข้อ เลย พึ่งเพิ่มทุนมาหมาดๆ น่าดีใจจริงๆ :lol:

[thaistock2005]

สิ่งที่ผมไม่สบายใจคือปกติ vi อย่างพวกเรา
จะดูงบการเงินเป็นเครื่องมือที่สำคัญ
พวกเราซื้อหุ้นที่มีส่วนลด

แต่ผมรู้สึกว่างบการเงินตอนนี้มันเชื่อไม่ได้ได้
ยกตัวอย่างกรณี picni ถามว่าตอนนี้ความเสียหายที่เกิดขึ้น
มีการนำคนผิดมารับผิดชอบได้บ้างไหม
พวกเราตายกันอย่างเดียว

มีการพูดว่า หุ้นกฟผจริง ๆ แล้วราคาต่ำกว่าความเป็นจริง 10 เท่า

ผมไม่สบายใจเลยการเป็น vi ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้
เพราะงบ ที่เราต้องใช้ตอนนี้มันเอามาใช้ไม่ได้
จบไม่ลง เพราะไม่รู้จะจบไง รู้แต่ไม่สบายใจเลย

อีกอย่างกำไรอย่างมากมายของกลุ่ม ptt มาจาก
ต้นทุนของบริษัทอื่น ๆ ที่ต้องจ่ายเพิ่มไปกับค่าพลังงาน

ไม่สบายใจกับเรื่องพวกนี้มาก ๆ ครับ

[Viewtiful Investor]

มีการพูดว่า หุ้นกฟผจริง ๆ แล้วราคาต่ำกว่าความเป็นจริง 10 เท่า

คนพูด evaluate ด้วยวิธีไหนเหรอครับ? ที่ราคา 28 ผมจำได้ว่า pb ราวๆ 1.5 - 1.7
ถ้าเค้าเอามาขายจริงที่ 250 บาท คนที่บอกว่าราคาจริง 280 จะกล้ามาซื้อมะ

ถ้าจะมองอะไรตามจริง ก็ไม่ได้ใช้ IQ สูงหรอกครับ แต่ถ้า bias ก็จะออกมาผิดหมด

[ลูกอิสาน]

http://www.thaivi.com/content/view/333/49/

หุ้นเจ๊ดัน

มีหุ้นกลุ่มหนึ่งในตลาดที่เป็นหุ้นขนาดค่อนข้างเล็กที่มีความคึกคักพอสมควร หุ้นเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่ใช่หุ้นปั่น หลาย ๆ ตัวเป็นขวัญใจของนักลงทุนที่อาจจะอิงแนว Value ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมหลายอย่างของหุ้นเหล่านี้ก็ไม่ธรรมดา หลาย ๆ ตัวดูเหมือนกับจะมีราคาที่ไม่สอดคล้องกับพื้นฐานที่แท้จริงและทำให้คนเข้าไปเล่นเจ็บตัว ในขณะเดียวกันก็มีคนทำเงินได้มหาศาล ความรู้สึกของผมก็คือ หุ้นในกลุ่มนี้หลายตัวเหมือนกับจะมีคนพยายามสนับสนุน คอยดัน ด้วยวิธีการต่าง ๆ ทั้งที่พื้นฐานจริง ๆ ของกิจการไม่ได้โดดเด่นอย่างที่เป็น เปรียบกับเรื่องของวงการบันเทิงแล้วก็คงเหมือนกับดาราที่มี เจ๊ดัน

วิธีสังเกตหุ้นที่มีการโปรโมตมากเป็นพิเศษซึ่งทำให้เราต้องระมัดระวังมากก่อนที่จะคิดลงทุนข้อแรกก็คือ ผู้บริหารมักจะให้ข่าวอยู่ตลอดเวลา เช่นเดียวกับนักวิเคราะห์วิจารณ์ตามสื่อและนักคอมเม้นท์ในอินเตอร์เน็ต และในโอกาสอื่น ๆ ข่าวเกี่ยวกับบริษัทดูเหมือนจะมีได้ตลอดเวลาและส่วนใหญ่ก็ดี ๆ ทั้งนั้น
ข้อสอง บริษัทบางแห่งก็มีผลการดำเนินงานล่าสุดที่น่าประทับใจ บางบริษัทก็มีผลงานยังไม่ชัดเจนนัก แต่ที่สำคัญกว่าก็คือ บริษัทเหล่านี้มี อนาคตที่สดใสมาขาย ตัวอย่างของอนาคตที่สดใสก็เช่น กำลังขยายธุรกิจไปต่างประเทศ ถ้าเป็นบริษัทที่รับเหมางานหรือประมูลงานก็จะมีงานในมือมหาศาลสามารถทำกำไรคิดออกมาแล้วเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดแน่นอน บางบริษัทกำลังซื้อธุรกิจที่คำนวณออกมาแล้วจะทำให้กำไรของบริษัทเติบโตแบบก้าวกระโดดเพราะธุรกิจที่ซื้อมาสามารถทำกำไรมีผลตอบแทนสูงกว่าต้นทุนเงินทุนที่ใช้ในการซื้อกิจการมาก ตัวอย่างยังมีอีกนับไม่ถ้วนแต่ทั้งหมดนั้นมักจะมีลักษณะสำคัญที่เหมือนกันอย่างหนึ่งก็คือ ผลกำไรที่จะเกิดขึ้นนั้นจะต้องเกิดขึ้นเร็วมากภายใน 6 เดือนถึง 1 ปี หรือแย่ที่สุดก็ไม่เกิน 2 ปี
ข้อสามก็คือ บางบริษัทอาจจะมี วิชามาร ทางการเงินออกมาใช้ประกอบด้วย เช่น อาจจะมีการแจกวอแรนต์และ/หรือออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อนำเงินมาใช้ในการ ขยายกิจการที่ดีเลิศ เหล่านั้น หรือทำให้ผู้ถือหุ้นได้วอแรนต์ฟรีเป็นการสร้างความมั่งคั่งและความพึงพอใจให้กับผู้ถือหุ้น
ข้อสี่ ลักษณะของบริษัทบางแห่งนั้นจะมีผู้ซื้อหรือลูกค้าน้อยราย บางบริษัทมีลูกค้ารายใหญ่เพียงรายเดียวและบางทีก็เป็นลูกค้าที่อยู่ในต่างประเทศ ผมไม่รู้ว่ามีสัญญาอะไรกันแต่ดูเหมือนว่าลูกค้าเหล่านี้จะเป็นลูกค้าที่ดีมากเพราะว่าการขายสินค้ามักจะได้ราคาดีเป็นพิเศษทำให้บริษัทมีกำไรค่อนข้างดีอย่างน่าประหลาดใจ
ข้อห้าซึ่งก็เป็นลักษณะเด่นอีกข้อหนึ่งที่มักเห็นเป็นประจำของหุ้น เจ๊ดัน ก็คือ บริษัทเหล่านี้มักจะมีกำไรต่อยอดขายสูงกว่าบริษัทอื่น ๆ ที่อยู่ในธุรกิจเดียวกันและสูงกว่าธรรมชาติของธุรกิจเช่น บริษัทขายเฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าส่งออกซึ่งเป็นสินค้าที่ไม่มียี่ห้อแต่ทำตามคำสั่งของลูกค้าแต่อาจจะมีกำไรต่อยอดขายสูงถึง 15-20% ในขณะที่วงการนี้โดยทั่วไปจะมีกำไรบางมาก อาจจะไม่เกิน 10% และหลาย ๆ บริษัทอาจจะแทบไม่มีกำไรเลยในช่วงเดียวกัน
ข้อหก เมื่อมีข้อสงสัยหรือหวาดเกรงกันว่าบริษัทมีความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ ข้อโต้แย้งหรือคำอธิบายส่วนมากก็คือ บริษัทมีความสามารถพิเศษเหนือคู่แข่งอื่น ๆ หรือบริษัทอยู่ในฐานะที่ได้เปรียบด้วยเหตุผลต่าง ๆ
ข้อเจ็ด ในหลาย ๆ บริษัท จะมีบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์บางแห่งแนะนำให้ซื้อหุ้น และอาจจะมีข่าวว่ามีนักลงทุนรายใหญ่บางรายหรือนักลงทุนสถาบันบางแห่งเข้ามาลงทุน หลาย ๆ บริษัทจะมี ฝรั่ง พูดหรือถามถึงหุ้นตัวนั้นทั้งที่เป็นหุ้นขนาดเล็ก
และสุดท้ายก็คือ ปริมาณการซื้อขายของหุ้นเจ๊ดันจะสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจนแม้ว่าจะห่างจากหุ้นปั่นมาก พร้อม ๆ กับราคาหุ้นที่มักจะปรับตัวขึ้นอย่างน่าประทับใจ โดยการปรับขึ้นของราคาหุ้นนี้มักจะมีการสนับสนุนจากผลการดำเนินงานที่น่าประทับใจไม่แพ้กันจนหุ้นหลายตัวกลายเป็นหุ้น Value สุดยอดตัวหนึ่งในช่วงเวลาหนึ่ง หลาย ๆ ครั้งก็เป็นปีหรือ 2 หรือ 3 ปี ก็มี
ปัญหาที่สำคัญก็คือ เมื่อ เจ๊ เลิกดัน และหุ้นไม่ได้เป็นอย่างที่คนอาจจะคิด หุ้นเจ๊ดันก็จะกลับมาสู่ความเป็นจริง นั่นคือเป็นบริษัทที่มีคุณสมบัติปกติหรือหลายบริษัทนั้นกลับมาเป็นบริษัทที่ไม่ได้มีคุณสมบัติเลย เมื่อนั้นราคาหุ้นก็จะกลับมาสู่ความเป็นจริงคือที่ราคาต่ำกว่าที่มันเคยขึ้นไปที่ยอดดอยมาก ถ้าเป็นวงการบันเทิงก็น่าจะเรียกว่าเทวดาตกสวรรค์ คนเลิกสนใจหุ้นตัวนั้นและอาจจะคิดว่า พื้นฐานของกิจการเปลี่ยนไป โดยที่ไม่ได้คิดว่า บางที สิ่งที่เราคิดตั้งแต่แรกว่าเป็นบริษัทที่ดีเยี่ยมนั้น แท้ที่จริงแล้วเกิดจากการ ดัน ของคนบางคน  
 

ก็เป็นความหวังดีของท่าน ดร. ครับ
ท่านคงหมายถึงให้เลือกถือแต่หุ้นที่ดี จะได้ถือหุ้นอย่างสบายใจในระยะยาว

หุ้นเจ๊ดัน ในความหมายของผมคือหุ้นกุ้นบุหรี่ คือคุณภาพปานกลาง แต่ราคาถูก พอราคาขึ้นไป ก็ถึงเวลาขาย ไม่ควรถือไว้นานๆ

ประเด็นอย่างนี้คงแล้วแต่มุมมอง และต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆด้วย เช่นพอร์ตการลงทุน หากพอร์ตระดับหลายร้อยล้าน ทางเลือกก็แคบลง คือสามารถลงทุนในหุ้นขนาดกลาง คุณภาพดี แต่คงไม่เหมาะกับหุ้นขนาดเล็ก ก้นบุหรี่ ซึ่งน่าจะเหมาะกับพอร์ตขนาดไม่ใหญ่มากนักครับ เพราะสามารถซื้อหรือขายได้อย่างรวดเร็ว หากพื้นฐานกิจการเปลี่ยนแปลง ในราคาที่ไม่เกิดความเสียหายมากนัก


ส่วนประเด็นเรื่องงบการเงินที่ไม่น่าเชื่อถือ คงต้องดูเป็นรายๆบริษัทไปครับ
เพราะกรณีอย่าง picni เป็นเคสส่วนน้อย จะนำไปเหมารวมว่าบริษัทอื่นๆ อีกมากมายซึ่งเป็นส่วนใหญ่ จะเป็นอย่างนั้นด้วย คงไม่ถูกต้องนัก

[Stock Broker]

ถ้าตีความหุ้น "เจ๊ดัน" อย่างนี้ ผมว่า BIGC IT SE-ED ก็หุ้น "ป๋าดัน" แล้วล่ะครับ  8)

[Mon money]

[quote="Financial Engineer"]ถ้าตีความหุ้น "เจ๊ดัน" อย่างนี้ ผมว่า BIGC IT SE-ED ก็หุ้น "ป๋าดัน" แล้วล่ะครับ

[JL]

ดร.ท่านเป็นแนวบัฟเฟ็ต ที่เน้นความสามารถในการทำกำไรในระยะยาว  เพราะฉะนั้น หุ้นไหนที่กำไรดี เป็นข่าว แต่อาจดีไม่ยืนยาว ให้ระวัง

ส่วนหุ้นที่ท่านพูดถึง  มองด้านหนึ่งก็เป็นสิทธิ์ของท่าน แต่อีกด้านก็กระทบความรู้สึกบ้างเหมือนกัน

[JL]

อีกนิดนึง ผมไม่เชื่อว่าท่านจะเคย "เจตนา" ดันหุ้นตัวไหนนะ และหุ้นท่านก็มีคุณภาพทุกตัว แต่เมื่อถูกพูดถึง ก็เรียกได้ว่า ถูก "ดันโดยไม่เจตนา"

เอ๊ะ หรือจะเรียกว่า "สะท้อนคุณค่าหุ้น" ดี ?

[Stock Broker]

ใช่ครับ ผมก็คิดว่ากรณี "ป๋าดัน" น่าจะเป็นการดันโดยไม่เจตนา และคนที่ช่วยกันดันนั้นส่วนใหญ่ก็พร้อมจะดันกันยาวๆ ทั้งนั้น

จริงๆ ใน TVI เราก็มีหุ้น "ป๋าดัน" กันตั้งหลายตัวไม่ใช่เรอะ เดี๋ยวขอผมลองดันบ้างสักตัว 2 ตัวได้มั้ยอ่ะ  :D

[Stock Broker]

เรื่องงบการเงินที่เป็นห่วงนั้น ถ้าเราเป็นอยู่บ้างก็ไม่เห้นจะน่าเป้นห่วงตรงไหน ผมเป็นห่วงอยู่อย่างเดียวคือคนไม่รู้จักหาความรู้เพื่อให้หลุดพ้นนั่นแหละน่าห่วง

เอาน่าอย่าห่วงมาก เมื่อถึงเวลาหนึ่งแล้ว คนจะหันมาหาความจริงเพื่อหลุดพ้นกันเอง

ที่พูดอย่างนี้ได้เพราะเมื่อตอนอบรบบัญชี เห็นมีผู้เคยบาดเจ็บแต่ไม่ยอมแพ้มาสนใจหาความรู้กันแยอะมากครับ มีทุกสายอาชีพ ตั้งแต่นักศึกษา วิศวกร หมอ ผู้ประกอบการ ฯลฯ เห็นว่าเรากำลังจะไปได้ดีแล้วนะ ไม่ต้องห่วง

เห็นด้วยครับพี่

เมื่อรู้ก็จะ "ลดความเสี่ยง" ถูกต้องมั้ยครับ

[ForrestGump]

กำลังขยายธุรกิจไปต่างประเทศ ถ้าเป็นบริษัทที่รับเหมางานหรือประมูลงานก็จะมีงานในมือมหาศาลสามารถทำกำไรคิดออกมาแล้วเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดด

น้องเปิ้ล เข้าข่ายนี้ป่าวครับ

[por_jai]

8) น้อง FE โพสอย่างนี้ล่อเป้าเหมือนกันนา
    คนรักและเคารพท่านโยดาปรมาจารย์เจได เยอะนะ
    (รวมทั้งผมด้วย)
    แต่พอดีผมก็อ่านที่น้องโพสมาเยอะ ก็ชอบความคิดอ่านนา
    ผมคิดว่าท่านไม่ได้ดันหรอก
    ได้ดูดีวีดีที่งานสัมนาที่ได้จากคุณมน
    ผมว่าเมื่อก่อนเวลาผมได้รับเชิญไปบรรยายเรื่องที่ผมรู้
    มักจะเตรียมตัวไปอย่างดี
    อยากจะให้ผู้ฟังที่เสียเวลามาแล้วได้รับสิ่งที่ดีที่สุดกลับไป
    วันนั้นเป็นวันรวมชาววีไอ ที่ด๊อกเต้อร์ท่านอยากให้เกิดขึ้น
    ผมว่าท่านปราถนาดีมากกว่าน่ะ
    แต่พอเขียนไปเยอะ เนี่ย เราคิดมากไปหรือเปล่า
    ผมว่าท่านFE ย้อเย่น เหมือนบางรักซอย9 หรือเปล่า
    ตอนผมวัยรุ่น บางรัก ถิ่นผมเลยนะ
    แต่ไม่เคยสังเกตุว่าซอย9 มันอยู่ตรงไหน
    หนุ่มๆขับมอไซค์ไปรับสาวที่รร.สหคุณ ตรงสุรวงศ์ บ่อยๆ
    ไปกินข้าวบางรักมั่ง ไปร้านสะอาดที่ฝั่งธนมั่ง
    ตอนนั้นชีวิตเพิ่งเริ่มต้น ใช้ให้คุ้ม

[ปรัชญา]

แต่ผมรู้สึกว่างบการเงินตอนนี้มันเชื่อไม่ได้ได้
ยกตัวอย่างกรณี picni ถามว่าตอนนี้ความเสียหายที่เกิดขึ้น
มีการนำคนผิดมารับผิดชอบได้บ้างไหม
พวกเราตายกันอย่างเดียว

กรณีหุ้นถังแก๊ส
ขณะนี้อยู่ในขั้นตอน ฟ้องร้องดำเนินคดีผู้บริหารเก่าอยู่ครับ
แต่ความจริงจะปรากฏ    กว่าศาลจะสั่งว่าถูกดำเนินคดีอย่างไร
จะอายัดกันเมื่อไหร่  และถ่ายเทไปถึงไหน  ก็คงได้เจ้าของใหม่ก่อนนะครับ

เพราะตามข่าว  มี3ตระกูลใหญ่  กำลังไล่เก็บหุ้น
จะด้วยอยากดัน
จะด้วยเล่นแก้เซ็ง
จะด้วยหวังครอบครองกิจการ

อันนี้ยังไม่ชัดเจน

ที่เขียนมานี่ไม่ได้ชี้ชวนเข้าไปซื้อนะครับตอนนี้
แต่ตอน46-49ตัง  นั่นราคาน่าลอง
แต่ตอนนี้ี  ตัวใคร-ตัวเผือกครับ  


เลือกตัดสินใจกันเอาเอง  หรือความสามารถเฉพาะตัวห้ามลอกเลียนแบบก็ว่าไป

[tenkafubu]

ครับ  ผมมีความคิดว่า ท่าน ดร. หวังดีครับ..
เมื่อก่อน ตอนประมาณ 3 ปีมาแล้ว(เพิ่งเริ่มสนใจลงทุน และกำลังเตรียมเก็บเงินครับ ทำงานแล้ว) ผมมองหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลอยู่เพราะมันเงียบมากและน่าสนใจ  อีกประมาณ 2 อาทิตย์ ต่อมา  (อยู่ในช่วงเก็บตังค์) พอท่าน ดร.ออกบทความ 30 บาทรักษาทุกโรค หุ้นกลุ่ม โรงพยาบาล ดีดหมดครับ จนผมไม่กล้าซื้อในราคาที่มีการดีดตัวขึ้นมา ผมเลยคิดว่า อดแล้วเรา.. ในช่วงนั้นยังไม่คิดอะไรครับ..
จนท่าน  ออกบทความเกี่ยวกับสิ่งพิมพ์ และ ค้าปลีก  ซึ่ง มันคงบังเอิญมั๊งครับ..ที่ตรงกับช่วงที่ผมกำลังเล็ง เพื่อเข้าไปซื้อ และราคาก็ดีดครับ..จนไม่กล้าซื้ออีกครับผมจึงมีความคิด อตคิครับ กับท่าน ดร.  
แต่พอเข้าฟังบรรยาย ที่ท่านพูดงาน TVI จากแววตาของท่าน ผมก็เข้าใจครับ..ว่าท่านไม่มีเจตนา ก็คงเหมือนกับหาก ลินซ์/บัฟเฟต ซื้อหรือบังเอิญ พูดถึงหุ้นตัวไหน  ราคาก็คงดีดเหมือนกัน
ประเด็นอยู่ตรงที่โอกาส ที่เราจะซื้อนั้นมันเป็นยังไง  รวมทั้ง 1..เราประเมินมูลค่าของกิจการที่เท่าไหร่?? 2..ผลตอบแทนที่ได้รับจากการประเมินมูลค่าของกิจการนั้น เรารับได้หรือไม่(หรือซื้อในราคาที่มีส่วนลด)  ผมยอมรับว่า ผมประเมินมูลค่าต่ำมากครับ..จนหากคิดเป็นผลตอบแทนที่ได้รับนั้นต่ำ ผมก็ไม่กล้าซื้อ  ได้แต่มองดูว่ามันวิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ  ตามผลประกอบการที่โตขึ้น จนต่อมาต้องขอบคุณท่าน ดร. นิเวศน์ มากครับ  ที่ท่านแปล แก่นแท้ บัฟเฟต ครับ...แนวทางที่เพิ่มขึ้นมา คือ ..ซื้อในสัดส่วนที่น้อยเมื่อคิดเทียบกับพอร์ต  (พอร์ตอันน้อยนิด)
ต้องขอบคุณท่าน ดร.นิเวศน์ มากครับ สำหรับการแปลหนังสือ  และ แนวคิดต่างๆ จากบทวามของท่าน
ขอบคุณอีกครั้งครับ

[JL]

[quote="tenkafubu"]...แนวทางที่เพิ่มขึ้นมา คือ ..ซื้อในสัดส่วนที่น้อยเมื่อคิดเทียบกับพอร์ต

[thaistock2005]

คนพูด evaluate ด้วยวิธีไหนเหรอครับ? ที่ราคา 28 ผมจำได้ว่า pb ราวๆ 1.5 - 1.7
ถ้าเค้าเอามาขายจริงที่ 250 บาท คนที่บอกว่าราคาจริง 280 จะกล้ามาซื้อมะ

ถ้าจะมองอะไรตามจริง ก็ไม่ได้ใช้ IQ สูงหรอกครับ แต่ถ้า bias ก็จะออกมาผิดหมด

การคำนวนราคาหุ้นมีหลายวิธีครับ
คิดจาก กำไร คิดจาก book หรือเอากระแสเงินสดคิดลด
โบรกเกอร์ยังให้ราคาไม่เท่ากัน

ผมยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นถึงความผิดปกติที่มันมากเกินไปครับ
กรณีหากเราคิดจากกำไร

ผมอยากตั้งข้อสังเกตุว่า ระบบตรวจสอบตอนนี้เป็นไง
เท่าที่ผมเห็นระบบตรวจสอบตอนนี้มันพึ่งพาอะไรไม่ได้เลยครับ

[thaistock2005]

เห็นด้วยครับพี่

เมื่อรู้ก็จะ "ลดความเสี่ยง" ถูกต้องมั้ยครับ

งั้นผมยกตัวอย่างเดิมคือ picni กองทุนบอกก็หลวมตัวซื้อตัว บีอี ของ
บริษัทนี้ บริษัทก็ออกมาพูดว่า เราโดนตัวเลขที่บิดเบือน จึงทำให้หลวมตัวไป
คิดว่ากองทุนมืออาชีพอย่างนี้จะมีความรู้ไหมครับ คำถามเดิม
เราพึงระบบใดได้บ้าง ระบบตรวจสอบให้เป็นที่พึงให้เราได้บ้าง

[ปรัชญา]

สิ่งที่ผมไม่สบายใจคือปกติ vi อย่างพวกเรา
จะดูงบการเงินเป็นเครื่องมือที่สำคัญ
พวกเราซื้อหุ้นที่มีส่วนลด

การเป็นวิ
ในมุมมองของผมซึ่งไม่ใช่วิ

ไม่ใช่งบการเงินอย่างเดียว

คงต้องเพิ่ม  เจ้าของผู้บริหารเข้าไป
เพิ่มกลุ่มอุตสาหกรรมเข้าไป
เพิ่มอื่นๆอีกหลายอย่างที่ควรจะมีส่วนดีมาเสริม

พึ่งงบการเงินอย่างเดียว  ไม่น่าจะถูกต้องที่สุด


เพียงถูกต้องเพียงบางส่วนเท่านั้น

[tenkafubu]

to...JL
ลองเปิดอ่าน แก่นแท้บัฟเฟต  บทที่ 8  โอกาสใหม่กับหลักการเดิมที่ไม่เปลี่ยนแปลง
ครับ..

[thaistock2005]

การเป็นวิ
ในมุมมองของผมซึ่งไม่ใช่วิ

ไม่ใช่งบการเงินอย่างเดียว

คงต้องเพิ่ม

[thaistock2005]

แต่ถ้าผู้บริหารที่ทุจริต หรือไม่ซื่อสัตย์
ควรมีบทลงโทษ เพื่อให้เกิดความเกรงกลัวครับ
ซึ่งผมคิดว่าจะดีสำหรับ นักลงทุนทุกคน

การสร้างมาตรฐานทางบัญชี การมีการตรวจสอบ
และมีการลงโทษหากมีใครทุจริต
จะทำให้ตลาดทุนไทยพัฒนาและดีขึ้นครับ
ลองดูดี ๆ ตอนนี้ เราไม่อาจพึ่งใครได้จริง ๆ ครับ

[thaistock2005]

กรณีปิคนิคชัดเจนมากครับ

แทนที่จะมีการคิดแก้ไข ยอมรับผิด
กลับมีการฟ้องร้องหนังสือพิมมติชนแทน
ก็พันล้านได้มั้ง นี่มันอะไรกัน

ความเห็นผมนะ ทุนการเมืองมายุ่งในตลาดทุน
มากเกินไป