ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 7/2548
ได้มีมติอนุมัติในหลักการของแผนการปรับโครงสร้างการถือหุ้น และ
มอบอำนาจให้คณะกรรมการตรวจสอบพิจารณาทบทวนรายละเอียด
ของแผนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ที่ประชุม
คณะกรรมการตรวจสอบธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 11/2548
เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2548 เวลา 14.00 น.ได้มีมติให้เพิกถอนหุ้นของ
ธนาคารออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่ง
ประเทศไทยโดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ประเภทหลักทรัพย์ของบริษัท
1.1 หุ้นสามัญ/หุ้นบุริมสิทธิ
1.1.1 หุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิทั้งหมดจะถูกเพิกถอนออกจาก
การเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
รายละเอียดจำนวนหุ้น ณ วันที่ 27 ตุลาคม 2548 เป็นดังนี้
- หุ้นสามัญจำนวน 541,020,120 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท
รวม 5,410,201,200 บาท
- หุ้นบุริมสิทธิจำนวน 180,729,130 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท
รวม 1,807,291,300 บาท
1.1.2 เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่วันที่
3 พฤษภาคม 2526
1.1.3 ราคาซื้อขายครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2548 ของ
หุ้นสามัญ และหุ้นบุริมสิทธิ เท่ากับ 27.0 และ 27.5 บาท/หุ้น ตามลำดับ 1.2 หุ้นกู้/หุ้นกู้แปลงสภาพ
- ไม่มี -
1.3 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น
- ไม่มี -
1.4 หลักทรัพย์ประเภทอื่น (ระบุ)
- ไม่มี -
2. กำหนดวันประชุมชี้แจง (Presentation) เพื่อเสนอแนะความเห็น
เกี่ยวกับการขอเพิกถอนหุ้น
กำหนดวันประชุมชี้แจง (Presentation) โดยที่ปรึกษาทางการเงิน ในวันที่
6 ธันวาคม 2548 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมของบริษัท ชั้น 21 อาคาร
ทิสโก้ทาวเวอร์ 48/2 ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
3. กำหนดวันประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขอเพิกถอนหุ้นออกจากการเป็นหลักทรัพย์
จดทะเบียน
กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2548 ในวันที่ 14 ธันวาคม 2548
เวลา 16.00 น. ณ ห้องประชุมของบริษัท ชั้น 21 อาคารทิสโก้ทาวเวอร์ 48/2
ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 โดยกำหนดปิดสมุด
ทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นตั้งแต่วันที่
23 พฤศจิกายน 2548 เวลา 12.00 น. จนกว่าการประชุมผู้ถือหุ้นดังกล่าว
จะแล้วเสร็จ
4. เหตุผลและข้อเท็จจริงของการขอถอนหุ้นออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน
ในปัจจุบัน ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทแม่ของบริษัทในกลุ่มทิสโก้
โดยถือหุ้นในบริษัทย่อยทั้งหมด ภายหลังการปรับสถานะเป็นธนาคารพาณิชย์ ธนาคาร
ทิสโก้มีแผนที่จะปรับโครงสร้างการถือหุ้นของกลุ่มในรูปแบบบริษัทโฮลดิ้ง โดยวัตถุ
ประสงค์และเหตุผลในการปรับโครงสร้างแบ่งออกได้เป็น 3 ประการ ได้แก่ (1) ลดความ
เสี่ยงทางธุรกิจ (2) ลดความต้องการเงินกองทุน และ (3) โอกาสทางธุรกิจ
ภายใต้แผนการปรับโครงสร้างดังกล่าวจะมีการจัดตั้ง บริษัท ทิสโก้ จำกัด
(มหาชน) ขึ้นเพื่อประกอบธุรกิจการถือหุ้น (Holding Company) โดยการเข้า
ซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัทในกลุ่ม ทำให้มีสถานะเป็นบริษัทแม่ของกลุ่มถือหุ้นใน
บริษัทย่อยทั้งหมด และมีธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทแกนตาม
ข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในการนี้บริษัท ทิสโก้ จำกัด (มหาชน)
จะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) โดย
แลกเปลี่ยนกับหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ของบริษัท ภายหลังการทำคำเสนอซื้อเป็น
ผลสำเร็จ หุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิของบริษัท ทิสโก้ จำกัด (มหาชน) จะเข้าเป็น
หลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แทนหุ้นสามัญและ
หุ้นบุริมสิทธิของธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะถูกเพิกถอนออกจากการ
เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเวลาเดียวกันทั้งนี้การปรับโครงสร้างการถือหุ้นจะสอดคล้องกับแนวทางการจัดตั้งกลุ่มธุรกิจ
ทางการเงิน ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับแบบรวมกลุ่ม (Consolidated Supervision)
ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะนำออกใช้บังคับในปี พ.ศ. 2549
5. การดำเนินการเสนอซื้อหุ้นและหลักทรัพย์อื่นที่อาจแปลงสภาพแห่งสิทธิเป็น
หุ้นของบริษัทจากผู้ถือหุ้นและผู้ถือหลักทรัพย์เป็นการทั่วไป
5.1 ชื่อผู้เสนอซื้อและความสัมพันธ์กับธนาคาร
บริษัท ทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทมหาชนที่ถูกตั้งขึ้นโดยธนาคาร
ทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เพื่อประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นของบริษัทในกลุ่ม
(Holding Company) บริษัท ทิสโก้ จำกัด (มหาชน) จะทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญ
หุ้นบุริมสิทธิ และใบสำคัญแสดงสิทธิทั้งหมดของธนาคารโดยแลกเปลี่ยนกับ
หลักทรัพย์ที่ออกใหม่ของบริษัท ทิสโก้ จำกัด (มหาชน)
5.2 ราคาเสนอซื้อหลักทรัพย์
อัตราการแลกหลักทรัพย์เท่ากับ 1 ต่อ 1
5.3 ชื่อที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด
8) มีbutterfly effect กะราคาหุ้นอย่างไรบ้างครับ..
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
บันทึกไม่สำเร็จกรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว
บันทึกสำเร็จแล้ว