งบ TPC ออกแล้วครับ น่าตกใจเหมือนกันครับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
Mr. Big
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1913
ผู้ติดตาม: 7

งบ TPC ออกแล้วครับ น่าตกใจเหมือนกันครับ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ขอลบออกก่อนนะครับ ข่าว efinancethai ท่าทางจะผิดนะครับ ผมลองดู excel แทน รู้สึกจะกำไรนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
tom
Verified User
โพสต์: 691
ผู้ติดตาม: 0

งบ TPC ออกแล้วครับ น่าตกใจเหมือนกันครับ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ไม่น่าตกใจเหมือนกันนะครับแบบนี้
น่าตกใจมาก มากกว่าครับ
ว่าแต่เป็นข้อมูลจากไหนครับ
ผมดูใน set แล้วยังไม่มีแจ้งเลยครับ
Mr. Big
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1913
ผู้ติดตาม: 7

งบ TPC ออกแล้วครับ น่าตกใจเหมือนกันครับ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

จาก excel นะครับ

กำไร q2/2548 = 655 ล้านบาทครับ (EPS 0.75)
กำไร q2/2548 = 585 ล้านบาทครับ (EPS 0.67)

ดีขึ้นครับ ยินดีด้วยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
tom
Verified User
โพสต์: 691
ผู้ติดตาม: 0

งบ TPC ออกแล้วครับ น่าตกใจเหมือนกันครับ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ผมแปลกใจตรงกำไร 6 เดือนเป็น 0 นี่แหละครับ
ถ้าจำไม่ผิดไตรมาสแรกกำไร 0.57
ถ้าไตรมาส 2 ไม่ขาดทุนกำไร 6 เดือนจะเป็น 0 ได้ยังไงครับ
Mr. Big
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1913
ผู้ติดตาม: 7

งบ TPC ออกแล้วครับ น่าตกใจเหมือนกันครับ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ผมเอาข่าวมาจาก efinancethai ครับ ต้องรอข้อมูลทางการจากตลาด นะครับ
Oatarm
Verified User
โพสต์: 1266
ผู้ติดตาม: 0

งบ TPC ออกแล้วครับ น่าตกใจเหมือนกันครับ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

เช็คดูจาก SET ยังไม่มีนี่ครับ ปิดเช้านี้ก็โดดดีด้วย
ความรู้คู่เปรียบด้วย
Monet
Verified User
โพสต์: 363
ผู้ติดตาม: 0

งบ TPC ออกแล้วครับ น่าตกใจเหมือนกันครับ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ดาวน์โหลดงบได้จาก SET ครับ
ตัวเลขไม่เป็นตามที่ Mr.Big โพสท์นะครับ
บทที่หนึ่ง "ทำงานหาเงิน"
Mr. Big
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1913
ผู้ติดตาม: 7

งบ TPC ออกแล้วครับ น่าตกใจเหมือนกันครับ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

แก้ข่าวหน่อยนะครับ
Monet
Verified User
โพสต์: 363
ผู้ติดตาม: 0

งบ TPC ออกแล้วครับ น่าตกใจเหมือนกันครับ

โพสต์ที่ 9

โพสต์

กำไรสุทธิไตรมาสสอง ปี48 655 ล้านบาท (ต่อหุ้น 0.75)
กำไรงวด 6 เดือน ปี 48 1,156 ล้านบาท (ต่อหุ้น 1.32)
บทที่หนึ่ง "ทำงานหาเงิน"
Mr. Big
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1913
ผู้ติดตาม: 7

งบ TPC ออกแล้วครับ น่าตกใจเหมือนกันครับ

โพสต์ที่ 10

โพสต์

จาก excel นะครับ

กำไร q2/2548 = 655 ล้านบาทครับ (EPS 0.75)
กำไร q2/2548 = 585 ล้านบาทครับ (EPS 0.67)

ดีขึ้นครับ ยินดีด้วยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
tom
Verified User
โพสต์: 691
ผู้ติดตาม: 0

งบ TPC ออกแล้วครับ น่าตกใจเหมือนกันครับ

โพสต์ที่ 11

โพสต์

หัวใจจะวาย อิอิ
Mr. Big
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1913
ผู้ติดตาม: 7

งบ TPC ออกแล้วครับ น่าตกใจเหมือนกันครับ

โพสต์ที่ 12

โพสต์

รายได้ รวม 5630 ล้านบาท สำหรับ ไตรมาสที่ 2/2548
รายได้รวม 5717 ล้านบาท สำหรับไตรมาสที่ 2/2547

SG&A ไตรมาสที่ 2/2548 = 457 ล้านบาท
SG&A ไตรมาสที่ 2/2547 = 460 ล้านบาท
Mr. Big
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1913
ผู้ติดตาม: 7

งบ TPC ออกแล้วครับ น่าตกใจเหมือนกันครับ

โพสต์ที่ 13

โพสต์

tom เขียน:หัวใจจะวาย อิอิ
ขอบคุณมากที่ทักผมนะครับ efinance นี่เน่าจริงๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
tom
Verified User
โพสต์: 691
ผู้ติดตาม: 0

งบ TPC ออกแล้วครับ น่าตกใจเหมือนกันครับ

โพสต์ที่ 14

โพสต์

Monet เขียน:กำไรสุทธิไตรมาสสอง ปี48 655 ล้านบาท (ต่อหุ้น 0.75)
กำไรงวด 6 เดือน ปี 48 1,156 ล้านบาท (ต่อหุ้น 1.32)
น่าจะถูกครับ


0.57+0.75=1.32
ภาพประจำตัวสมาชิก
tom
Verified User
โพสต์: 691
ผู้ติดตาม: 0

งบ TPC ออกแล้วครับ น่าตกใจเหมือนกันครับ

โพสต์ที่ 15

โพสต์

Mr. Big เขียน: ขอบคุณมากที่ทักผมนะครับ efinance นี่เน่าจริงๆ
ขอโทษด้วยครับผมเห็นของคุณ บิ๊ก ทีหลังจากตอบเมื่อกี๊ครับ
ไม่เป็นไรครับ ช่วยๆกันครับ
แต่ยังไงผมก็ยังไม่เห็นข้อมูลใน set เลยครับ
Mr. Big
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1913
ผู้ติดตาม: 7

งบ TPC ออกแล้วครับ น่าตกใจเหมือนกันครับ

โพสต์ที่ 16

โพสต์

สงสัย efinance นึกว่า eps คือ กำไรแหงๆ เลยครับ
Mr. Big
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1913
ผู้ติดตาม: 7

งบ TPC ออกแล้วครับ น่าตกใจเหมือนกันครับ

โพสต์ที่ 17

โพสต์

สรุปผลการดำเนินงานของไตรมาสที่ 2/2548(ก่อนการสอบทาน)(F45-3)26/07/2548 13:41

TPC : สรุปผลการดำเนินงานของไตรมาสที่ 2/2548(ก่อนการสอบทาน)(F45-3)
สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่2(F45-3)
บริษัท ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด (มหาชน)

ก่อนสอบทาน
สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน (หน่วย : พันบาท)
ไตรมาสที่ 2 งวด 6 เดือน
ปี 2548 2547 2548 2547

กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 655,211 585,750 1,156,133 1,611,160
กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น(บาท) 0.75 0.67 1.32 1.84

หมายเหตุ : 1. โปรดดูรายละเอียดงบการเงินจากระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์

ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ

_______________________
( นายอำพล เรืองธุระกิจ )
ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มสนับสนุนธุรกิจ
ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ
ภาพประจำตัวสมาชิก
tom
Verified User
โพสต์: 691
ผู้ติดตาม: 0

งบ TPC ออกแล้วครับ น่าตกใจเหมือนกันครับ

โพสต์ที่ 18

โพสต์

มีลิงค์ของ ข่าวนี้ในอีไฟแนนท์มั้ยครับ คุณบิ๊ก ขอเข้าไปดูด้วยคนครับ
Mr. Big
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1913
ผู้ติดตาม: 7

งบ TPC ออกแล้วครับ น่าตกใจเหมือนกันครับ

โพสต์ที่ 19

โพสต์

TPC : ชี้แจงผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่2/2548(ก่อนการสอบทาน)
ที่ AC 07/48

26 กรกฎาคม 2548

เรื่อง นำส่งงบการเงินก่อนสอบทานและชี้แจงผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2548

เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

บริษัทไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด(มหาชน) และบริษัทย่อย ขอนำส่งงบการเงินประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2548 ของบริษัทฯ และบริษัทย่อย (ก่อนการสอบทาน) พร้อมด้วยคำอธิบายและการวิเคราะห์ผลการดำเนินงานของฝ่ายจัดการ โดยมีผลการดำเนินงานที่เป็นสาระสำคัญ ดังนี้

ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2548 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายและจากการให้บริการรวม 5,630 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 87 ล้านบาท หรือร้อยละ 2 ซึ่งเป็นผลจากการลดลงของราคาและปริมาณขายพีวีซี โดยมีผลประกอบการเป็นกำไรสุทธิ 655 ล้านบาทเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สูงขึ้น 69 ล้านบาท หรือร้อยละ 12

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2548 มีรายได้จากการขายและจากการให้บริการรวม 12,399 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน1,163 ล้านบาท หรือร้อยละ 10 ซึ่งเป็นผลจากราคาขายและปริมาณขายที่เพิ่มสูงขึ้นโดยมีกำไรสุทธิในรอบครึ่งปีแรกเท่ากับ 1,156 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน455 ล้านบาท หรือร้อยละ 28 โดยเป็นผลมาจากราคาต้นทุนของวัตถุดิบหลัก โดยเฉพาะเอทธิลีน ซึ่งราคาสูงกว่าปีก่อนมาก ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันและความต้องการเอทธิลีนที่สูงขึ้นมาก

สินทรัพย์รวมของบริษัทฯ และบริษัทย่อย เท่ากับ 19,680 ล้านบาท ลดลงจากปลายปี2547 เท่ากับ 454 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากมูลค่าของสินค้าคงคลังที่ลดลง

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ

ขอแสดงความนับถือ


(นายเทพ วงษ์วานิช)
กรรมการผู้จัดการ

สำเนา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
Mr. Big
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1913
ผู้ติดตาม: 7

งบ TPC ออกแล้วครับ น่าตกใจเหมือนกันครับ

โพสต์ที่ 20

โพสต์

tom เขียน:มีลิงค์ของ ข่าวนี้ในอีไฟแนนท์มั้ยครับ คุณบิ๊ก ขอเข้าไปดูด้วยคนครับ
ผมเข้าได้ เพราะ link มาจาก ของ broker ที่ผมดู real time อยู่ครับ แต่ล่าสุดเค้าแก้ไขหัวข้อข่าว ยอมรับผิดแล้วครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
tummeng
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3665
ผู้ติดตาม: 0

งบ TPC ออกแล้วครับ น่าตกใจเหมือนกันครับ

โพสต์ที่ 21

โพสต์

คำอธิบายและการวิเคราะห์ฯไตรมาสที่ 2/2548(ก่อนการสอบทาน)26/07/2548 13:45

TPC : คำอธิบายและการวิเคราะห์ฯไตรมาสที่ 2/2548(ก่อนการสอบทาน)
บริษัท ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
คำอธิบายและการวิเคราะห์ผลการดำเนินงานของฝ่ายจัดการ
ไตรมาสที่ 2 ปี 2548 (ผลการดำเนินงานก่อนการสอบทานของผู้สอบบัญชี)

ภาพรวมธุรกิจ
ภาวะราคาขาย
ราคาขายพีวีซีในไตรมาสที่ 2 ของปี 48 นั้นปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปี 47
โดยลดลงจาก 855 $/MT เป็น 828 $/MT ราคาวีซีเอ็มปรับตัวลดลงจาก 758 $/MT เป็น
690 $/MT อันเป็นผลกระทบจากการประกาศการเพิ่มกำลังการผลิต PVC&VCM จาก
Acetylene Based ในจีน แต่ราคาเอทธิลีนปรับเพิ่มขึ้นจาก 797 $/MT เป็น 826 $/MT
อันเนื่องมาจากภาวะราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นและปริมาณผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการ โดย
PVC (EDC&Ethylene) Price Gap ของตลาดลดลงเล็กน้อยจาก 323 $/MTเป็น 299 $/MT

ตลาดในประเทศ
ปริมาณความต้องการพีวีซีในประเทศในไตรมาสที่ 2 ของปี 48 เพิ่มขึ้นถึง 27% โดยปัจจัยหลัก
มาจากปริมาณการใช้ท่อที่เพิ่มขึ้นจากภาวะภัยแล้ง ทำให้ยอดขายในประเทศของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น
31% และราคาขายในประเทศเมื่อเทียบกับราคา Far East (FE) ปรับตัวดีขึ้นจาก (3%) over
FE ไปอยู่ที่ 5% over FE

ตลาดต่างประเทศ
ยอดขายพีวีซีในต่างประเทศในไตรมาสที่ 2 ของปี 48 ลดลงถึง 32% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2
ของปี 47 เนื่องจากความต้องการในประเทศที่เพิ่มมากขึ้น ราคาขายส่งออกสูงกว่าปีก่อนเล็กน้อย

ผลการดำเนินงานรวมของไตรมาสที่ 2 / 2548
รายได้จากการขายและต้นทุนขาย

บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายและจากการให้บริการรวม 5,630 ล้านบาท
ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 87 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2 โดยส่วนใหญ่เป็นผล
จากการลดลงของราคา ส่วนปริมาณการขายพีวีซีลดลงเล็กน้อยจากการส่งออกที่ลดลง

สัดส่วนของรายได้จากการขายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2548 เป็นผลจากธุรกิจพีวีซี
ธุรกิจท่อและผลิตภัณฑ์พลาสติกสำเร็จรูปในสัดส่วนร้อยละ 75 และ ร้อยละ 23
ของรายได้รวม ตามลำดับ สัดส่วนรายได้ของธุรกิจพีวีซี ร้อยละ 53 เป็นการขาย
ภายในประเทศ ส่วนที่เหลือเป็นการส่งออก และผลจากการขายของบริษัทย่อยในต่างประเทศ

ในด้านต้นทุนขายในไตรมาสนี้ มีต้นทุนขายรวม 4,888 ล้านบาท สูงกว่าไตรมาสเดียวกัน
ของปีก่อน ร้อยละ 8 เนื่องจากราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอีดีซีและเอทธิลีน
ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลัก

รายได้อื่น ๆ

บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้อื่นรวม 454 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนมาก
ส่วนใหญ่เกิดจากเงินปันผลรับ

ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ

บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 457 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน
ร้อยละ 1 ส่วนใหญ่เป็นผลจากค่าขนส่งจากปริมาณการส่งออกที่ลดลง

ดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายทางการเงิน 53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ร้อยละ 19 เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมระยะสั้น

ผลประกอบการทางการเงิน
บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิงวดไตรมาสที่ 2/2548 รวม 655 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 12 ซึ่งผลส่วนใหญ่เกิดจากเงินปันผลรับ

ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2548 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น
เท่ากับปีที่ผ่านมา โดยมีอัตราส่วนเท่ากับ 0.9 เท่า

ผลการดำเนินงานรอบครึ่งปีแรกของปี 2548
ภาพรวมธุรกิจ
ภาวะราคาขาย

ราคาขายพีวีซีในครึ่งปีแรกของปี 48 นั้นปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบครึ่งปีแรกของปี 47
โดยเพิ่มขึ้นจาก 818 $/MT เป็น 850 $/MT สาเหตุหนึ่งที่เป็นตัวผลักดันราคาพีวีซี
ให้อยู่ในระดับสูงนั้นเนื่องจากราคาเอทธิลีนที่ปรับตัวสูงขึ้นอันเป็นผลจากภาวะราคาน้ำมัน
และ Tight Supply ทำให้ราคาเอทธิลีนครึ่งปีแรกของปี 48 สูงกว่าครึ่งปีแรกของปี 47
ถึงเกือบ 200 $/MT ส่งผลให้ PVC EDC&Ethylene Gap ของตลาดในครึ่งปีแรกของปี
48 ต่ำกว่าครึ่งปีแรกของปี 47 กว่า 90 $/MT

ตลาดในประเทศ
ปริมาณความต้องการพีวีซีในประเทศในครึ่งปีแรกของปี 48 เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับ
ครึ่งปีแรกของปี 47 เนื่องจากภาวะภัยแล้งที่รุนแรงและเริ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 48
ทำให้ความต้องการท่อเพิ่มขึ้นอย่างมากส่งผลให้ยอดขายในประเทศของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น 19%
เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 47 และราคาขายในประเทศเมื่อเทียบกับราคา FE เพิ่มขึ้นจาก
(1.2%) over FE ในครึ่งปีแรกของปี 47 มาอยู่ที่ 2.6% over FE
เนื่องจากการแข่งขันด้านราคาลดความรุนแรงลง

ตลาดต่างประเทศ
ยอดขายพีวีซีในต่างประเทศในครึ่งปีแรกของปี 48 ลดลงกว่า 20% เมื่อเทียบกับ
ครึ่งปีแรกของปี 47 เนื่องจากการขยายตัวของปริมาณความต้องการพีวีซีในประเทศที่เพิ่มขึ้น
สำหรับราคาขายเมื่อเทียบกับราคา FE นั้นเพิ่มขึ้นจาก 0.5% over FE เป็น 2.2% over FE

ผลการดำเนินงานของบริษัทฯและบริษัทย่อย

บริษัทฯและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและการให้บริการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2548 รวม
12,399 ล้านบาท สูงกว่าระยะเดียวกันของปีก่อนถึง 10% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากราคาขายที่สูงขึ้น

บริษัทฯและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิในรอบครึ่งปีแรก 1,156 ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันของ
ปีก่อน 28% จากผลของราคาต้นทุนของวัตถุดิบหลักที่สูงขึ้น
Price is what you pay. Value is what you get...
ภาพประจำตัวสมาชิก
tom
Verified User
โพสต์: 691
ผู้ติดตาม: 0

งบ TPC ออกแล้วครับ น่าตกใจเหมือนกันครับ

โพสต์ที่ 22

โพสต์

:lol:
ForrestGump
Verified User
โพสต์: 1435
ผู้ติดตาม: 0

งบ TPC ออกแล้วครับ น่าตกใจเหมือนกันครับ

โพสต์ที่ 23

โพสต์

ต้นทุนผม 19.6 บวกคอมมิสชั่น .05

อ่านแล้ว ตายด้านไปนานแล้วครับ หุหุ

รอลุ้นปันผลปีนี้ 1.3 บาท ก็คงจะดีมากแล้วครับ

ตอนนี้ ผมโดน บทความ วัฎจักรอารมณ์ ของ ดร.นิเวศน์

"แทง" โดนใจอย่างรุนแรงเลยครับ

:cry: :cry: :cry:
กฎข้อที่1 อย่ายอมขาดทุน กฎข้อที่2 กลับไปดูกฎข้อที่ 1
ภาพประจำตัวสมาชิก
tummeng
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3665
ผู้ติดตาม: 0

งบ TPC ออกแล้วครับ น่าตกใจเหมือนกันครับ

โพสต์ที่ 24

โพสต์

การจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลและการซื้อหุ้นคืน26/07/2548 14:01

TPC : การจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลและการซื้อหุ้นคืน
ที่ กม. 025/2548
26 กรกฎาคม 2548

เรื่อง การจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลและการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารการเงิน

เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

สิ่งที่ส่งมาด้วย แบบรายงานการเปิดเผยการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารการเงิน (Form TS-1.2)

ด้วยที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัท ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 77 เมื่อ
วันที่ 26 กรกฎาคม 2548 ได้มีมติอนุมัติเป็นเอกฉันท์ในเรื่องสำคัญดังต่อไปนี้

1. การจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลประจำปี 2548 สำหรับผลการดำเนินงานงวดหกเดือนสิ้น
สุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2548 ในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท (หกสิบสตางค์) โดยกำหนดปิดสมุดทะเบียนพัก
การโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 10 สิงหาคม 2548 เวลา 12.00 น. และกำหนดจ่ายเงินปันผล
ในวันที่ 25 สิงหาคม 2548
การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวได้พิจารณาจากฐานะทางการเงินของบริษัทฯ โดยรวมยังคงอยู่
ในเกณฑ์ที่ดี รวมทั้งจากผลการดำเนินงานในปี 2547 ของบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิรวม 3,152
ล้านบาท ซึ่งเป็นผลกำไรที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยในปี 2548 แม้ว่าราคาพีวีซีเรซินจะลดลงต่ำกว่าปี
2547 เนื่องจากความต้องการของตลาดเติบโตลดลงกว่าปี 2547 ตามภาวะเศรษฐกิจและการก่อสร้างก็ตาม
บริษัทฯ ก็ยังคงมีผลกำไรสุทธิรวม (Consolidated Net Profit) งวดหกเดือน (1 มกราคม ถึง 30
มิถุนายน 2548) เป็นจำนวน 1,156 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังจะอยู่ในระดับ
ที่ไม่ต่ำกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากมีการปรับตัวสูงขึ้นของราคาและความต้องการพีวีซีเรซินและสินค้าสำเร็จรูปที่
เกี่ยวข้อง
อนึ่ง ในกรณีปัญหาการขาดแคลนน้ำในภาคตะวันออก บริษัทฯ ได้เร่งดำเนินการหลาย
ประการในการรองรับภาวะการขาดแคลนน้ำดังกล่าว โดยการติดตั้งระบบ Recycle น้ำที่เหลือจากกระบวน
การผลิตกลับมาใช้ใหม่ ทำให้สามารถประหยัดการใช้น้ำจากภายนอกได้ในอัตราร้อยละ 30-40 นอกจากนั้น
ยังได้ทำสัญญาจัดหาแหล่งน้ำจากภายนอกเพิ่มเติมเพื่อให้เพียงพอสำหรับการผลิต ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ ได้รับผล
กระทบน้อยมากจากภาวะการขาดแคลนน้ำในครั้งนี้
2. โครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน โดยมีวงเงินสูงสุดที่จะใช้ในการซื้อหุ้นคืนไม่เกิน
700 ล้านบาท ซึ่งมีจำนวนหุ้นที่ซื้อคืนไม่เกิน 43,750,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 5 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่าย
ได้แล้วทั้งหมด โดยมีรายละเอียดปรากฏตามแบบรายงานการเปิดเผยการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารการเงิน
(Form TS-1.2) ที่แนบ

จึงเรียนมาเพื่อทราบ

ขอแสดงความนับถือ



(นายเทพ วงษ์วานิช)
กรรมการผู้จัดการ



แบบรายงานการเปิดเผยการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน
(ตาม ม. 66/1 (2) แห่งพระราชบัญญัติมหาชนจำกัด)
บริษัทไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด (มหาชน)
วันที่ 26 กรกฎาคม 2548

ข้าพเจ้า บริษัท ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) ขอแจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 77 เมื่อ
วันที่ 26 กรกฎาคม 2548 เกี่ยวกับการอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารการเงิน โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.โครงการซื้อหุ้นคืน
1.1 วงเงินสูงสุดที่จะใช้ในการซื้อหุ้นคืน.....700,000,000 บาท

1.2 จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืน ไม่มากกว่า.43,750,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.0 บาท จำนวนหุ้นที่
จะซื้อคืนคิดเป็นร้อยละ ..5......ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
1.3 วิธีการในการซื้อหุ้นคืน
X ซื้อในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เสนอซื้อจากผู้ถือหุ้นเป็นการทั่วไป ในราคา ................... บาท/หุ้น (ต้องเป็นราคา
เดียวกัน) กำหนดระยะเวลาที่จะซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2548 ถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2549
หมายเหตุ บริษัทต้องเปิดเผยโครงการซื้อคืนหุ้นล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 14 วัน ก่อนวันซื้อหุ้น โดย
1.ซื้อใน ตลท. ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน
2.เสนอซื้อจากผู้ถือหุ้นเป็นการทั่วไป ต้องไม่น้อยกว่า 10 วัน และไม่เกิน 20 วัน
1.4 หลักเกณฑ์ในการกำหนดราคาหุ้นที่จะซื้อคืน โดยให้นำราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วันก่อนวันที่บริษัทจะทำ
การเปิดเผยข้อมูลมาประกอบการพิจารณากำหนดราคาหุ้นด้วย
ราคาหุ้นปิดเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วัน เท่ากับ 14.99 บาทต่อหุ้น
(ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2548 ถึง 24 มิถุนายน 2548)
2. ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท
2.1 ข้อมูลกำไรสะสมและสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัท
ข้อมูลจากงบการเงินก่อนสอบทาน/ตรวจสอบงวดล่าสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2548
-กำไรสะสมของบริษัท และบริษัทย่อย เท่ากับ 5,140,685,000 บาท
-หนี้สินของบริษัทและบริษัทย่อยที่ถึงกำหนดชำระภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่จะซื้อหุ้นคืน
ประมาณ 659,184,600 บาท
-อธิบายความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทที่ถึงกำหนดชำระภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่จะซื้อหุ้นคืน
โดยระบุแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการการชำระหนี้คืน
บริษัทมีกำไรสะสมจำนวนมาก อีกทั้งยังมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปีนี้มาก
ถึง 1,673,362 บาท จึงมีสภาพคล่องเพียงพอในการชำระหนี้ของบริษัทที่จะถึงกำหนดชำระภายใน 6 เดือน
ข้างหน้าและเพียงพอในการซื้อหุ้นคืน
2.2 จำนวนผู้ถือหุ้นสามัญรายย่อย (Free float) ณ วันปิดสมุดทะเบียนล่าสุด เมื่อวันที่ 12
เมษายน 2548 เท่ากับร้อยละ 32.30 ของทุนชำระแล้วของบริษัท ทั้งนี้บริษัทได้แนบแบบแสดงรายการการกระจาย
การถือหุ้นของบริษัทมาพร้อมนี้
3. เหตุผลในการซื้อหุ้นคืน
เพื่อบริหารสภาพคล่องของบริษัทและเพิ่มกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) รวมทั้งเป็นการรักษาเสถียรภาพราคาหุ้นของ
บริษัท
4. ผลกระทบภายหลังซื้อหุ้นคืน
4.1 ต่อผู้ถือหุ้น ทำให้อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นสูงขึ้น
4.2 ต่อบริษัท การซื้อหุ้นคืนจะทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงตามงบการเงินรวมของบริษัท

5. การจำหน่ายและการตัดหุ้นที่ซื้อคืน
- วิธีการจำหน่ายหุ้น X ขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

เสนอขายต่อประชาชนทั่วไป
- กำหนดระยะเวลาจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน ตั้งแต่วันที่.....10 สิงหาคม 2549...........ถึงวัน
ที่.....8 กุมภาพันธ์ 2552...........
(ภายหลัง 6 เดือน นับแต่การซื้อหุ้นคืนเสร็จสิ้นแต่ต้องไม่เกิน 3 ปี)
- หลักเกณฑ์ในการกำหนดราคาที่จะจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน
บริษัทมีนโยบายการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน การตัดหุ้นที่ซื้อคืน และการลดทุนให้เป็นไปตามกฎกระทรวงว่า
ด้วยเรื่องกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการว่าด้วยการซื้อหุ้นคืน การจำหน่ายหุ้นคืน และการตัดหุ้นที่ซื้อคืน พ.ศ. 2544
ดังนี้
บริษัทจะจำหน่ายหุ้นทั้งหมดที่บริษัทซื้อคืนมาในโครงการซื้อหุ้นคืน โดยจะดำเนินการเสนอขายในกระดานหลักของ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือเสนอขายต่อประชาชนเป็นการทั่วไปตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และ
ตลาดหลักทรัพย์ฯ สำหรับระยะเวลาเริ่มจำหน่ายคืนจะพิจารณาจากผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนและความต้องการ
ใช้เงินเพื่อการลงทุนในโครงการในอนาคต ในกรณีที่บริษัทไม่จำหน่ายหรือจำหน่ายไม่หมดภายในอายุโครงการซึ่งเมื่อ
พ้นกำหนดนั้นแล้ว บริษัทจะลดทุนชำระแล้วโดยวิธีตัดหุ้นจดทะเบียนที่ซื้อคืนและยังมิได้จำหน่ายทั้งหมด

6. การซื้อหุ้นคืนในอดีต (ถ้ามี)
วันสิ้นสุดโครงการซื้อหุ้นคืนครั้งหลังสุด ....ไม่มี.................

8c1
(การซื้อหุ้นคืนตามโครงการใหม่จะกระทำได้เมื่อครบกำหนดระยะเวลาเกิน 1 ปี นับแต่วันสิ้นสุด โครงการครั้ง
หลังสุด)

บริษัทขอรับรองว่าสารสนเทศในแบบรายงานนี้ถูกต้องและครบถ้วนทุกประการ

ลายมือชื่อ ...................................
(นายเทพ วงษ์วานิช)
ประทับตราบริษัท กรรมการผู้จัดการ

หมายเหตุ : ให้บริษัทจดทะเบียนรายงานมติคณะกรรมการอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน ภายในวันที่คณะกรรมการมีมติ
หรือ ภายใน 9.00 น. ของวันทำการถัดไป โดยนำส่งรายงานทางโทรสารและ On-line ผ่านระบบ ELCID ของ
ตลาดหลักทรัพย์


- 2 -

แบบแสดงรายงานการกระจายการถือหุ้น
บริษัท ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด (มหาชน)
วันที่ 12 เมษายน 2548
ทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้ว (เฉพาะหุ้นสามัญ) 875,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 875,000,000 หุ้น มูลค่าที่
ตราไว้ 1.00 บาท


จำนวนราย จำนวนหุ้น ร้อยละของทุนที่ชำระแล้ว (เฉพาะหุ้นสามัญ)
1 ผู้ถือหุ้นสามัญที่เป็น Strategic shareholders - - -
1.1 รัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ
1.2 กรรมการ ผู้จัดการ และผู้บริหาร 14 62,457,070 7.12
รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องและบุคคลที่มีความสัมพันธ์
1.3 ผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้น > 5 % โดยนับรวมผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย 2 529,881,970 60.56
1.4 ผู้ถือหุ้นที่มีข้อตกลงในการห้ามขายหุ้นภายในเวลาที่กำหนด - - -
2 ผู้ถือหุ้นสามัญรายย่อย 6142 282,660,209 32.30
(Non-Strategic shareholders)
3 ผู้ถือหุ้นสามัญที่ถือต่ำกว่าหนึ่งหน่วยการซื้อขาย 33 751 0

รวมผู้ถือหุ้นสามัญทั้งสิ้น 6191 875,000,000 100


ขอรับรองว่าสารสนเทศที่ได้รายงานไว้ในหนังสือรับรองฉบับนี้ถูกต้อง


ลงชื่อ ..............................
(นายเทพ วงษ์วานิช)
ตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ
Price is what you pay. Value is what you get...
ภาพประจำตัวสมาชิก
tom
Verified User
โพสต์: 691
ผู้ติดตาม: 0

งบ TPC ออกแล้วครับ น่าตกใจเหมือนกันครับ

โพสต์ที่ 25

โพสต์

การจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลประจำปี 2548 สำหรับผลการดำเนินงานงวดหกเดือนสิ้น
สุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2548 ในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท (หกสิบสตางค์) โดยกำหนดปิดสมุดทะเบียนพัก
การโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 10 สิงหาคม 2548 เวลา 12.00 น. และกำหนดจ่ายเงินปันผล
ในวันที่ 25 สิงหาคม 2548



ผมว่าอัตราการจ่ายปันผลไม่เลวเลยนะครับ
6 เดือนแรกของปีก่อนจ่าย 0.30 บาทเท่านั้นเอง
คว่มจริง 3 บาทนะครับแต่ตอนนั้นยังไม่ได้แตกพาร์
Oatarm
Verified User
โพสต์: 1266
ผู้ติดตาม: 0

งบ TPC ออกแล้วครับ น่าตกใจเหมือนกันครับ

โพสต์ที่ 26

โพสต์

ใครช่วยอธิบายการซื้อหุ้นคืน และตัดจำหน่ายหุ้น ให้ทีครับ
ความรู้คู่เปรียบด้วย
ภาพประจำตัวสมาชิก
tummeng
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3665
ผู้ติดตาม: 0

งบ TPC ออกแล้วครับ น่าตกใจเหมือนกันครับ

โพสต์ที่ 27

โพสต์

บอร์ด TPC ใจดีอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.60 บาท/หุ้น วางแผนซื้อหุ้นคืนใช้เงินไม่เกิน 700 ลบ.

นายเทพ วงษ์วานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด (มหาชน)
หรือ TPC เปิดเผยว่า ด้วยที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัท ครั้งที่ 77 เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2548 ได้มีมติ
อนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลประจำปี 2548 สำหรับผลการดำเนินงานงวดหกเดือนสิ้นสุด ณ วันที่
30 มิถุนายน 2548 ในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท (หกสิบสตางค์) โดยกำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอน
หุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 10 สิงหาคม 2548 เวลา 12.00 น. และกำหนดจ่ายเงินปันผลใน
วันที่ 25 สิงหาคม 2548
การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวได้พิจารณาจากฐานะทางการเงินของบริษัทฯ โดยรวมยังคงอยู่
ในเกณฑ์ที่ดี รวมทั้งจากผลการดำเนินงานในปี 2547 ของบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิรวม 3,152
ล้านบาท ซึ่งเป็นผลกำไรที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยในปี 2548 แม้ว่าราคาพีวีซีเรซินจะลดลงต่ำกว่า
ปี2547 เนื่องจากความต้องการของตลาดเติบโตลดลงกว่าปี 2547 ตามภาวะเศรษฐกิจและการก่อสร้าง
ก็ตามบริษัทฯ ก็ยังคงมีผลกำไรสุทธิรวม (Consolidated Net Profit) งวดหกเดือน (1 มกราคม ถึง 30
มิถุนายน 2548) เป็นจำนวน 1,156 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังจะอยู่
ในระดับที่ไม่ต่ำกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากมีการปรับตัวสูงขึ้นของราคาและความต้องการพีวีซีเรซินและ
สินค้าสำเร็จรูปที่เกี่ยวข้อง
อนึ่ง ในกรณีปัญหาการขาดแคลนน้ำในภาคตะวันออก บริษัทฯ ได้เร่งดำเนินการหลาย
ประการในการรองรับภาวะการขาดแคลนน้ำดังกล่าว โดยการติดตั้งระบบ Recycle น้ำที่เหลือจาก
กระบวนการผลิตกลับมาใช้ใหม่ ทำให้สามารถประหยัดการใช้น้ำจากภายนอกได้ในอัตราร้อยละ 30-
40 นอกจากนั้นยังได้ทำสัญญาจัดหาแหล่งน้ำจากภายนอกเพิ่มเติมเพื่อให้เพียงพอสำหรับการผลิต
ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ ได้รับผลกระทบน้อยมากจากภาวะการขาดแคลนน้ำในครั้งนี้
2. โครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน โดยมีวงเงินสูงสุดที่จะใช้ในการซื้อหุ้นคืนไม่
เกิน700 ล้านบาท ซึ่งมีจำนวนหุ้นที่ซื้อคืนไม่เกิน 43,750,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 5 ของจำนวนหุ้น
ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด กำหนดระยะเวลาที่จะซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2548 ถึงวันที่ 9
กุมภาพันธ์ 2549
ทั้งนี้ บริษัทต้องเปิดเผยโครงการซื้อคืนหุ้นล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 14 วัน ก่อนวันซื้อหุ้น โดย
.ซื้อใน ตลท. ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน และเสนอซื้อจากผู้ถือหุ้นเป็นการทั่วไป ต้อง
ไม่น้อยกว่า 10 วัน และไม่เกิน 20 วัน
หลักเกณฑ์ในการกำหนดราคาหุ้นที่จะซื้อคืน โดยให้นำราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วันก่อน
วันที่บริษัทจะทำการเปิดเผยข้อมูลมาประกอบการพิจารณากำหนดราคาหุ้นด้วย ราคาหุ้นปิดเฉลี่ย
ย้อนหลัง 30 วัน เท่ากับ 14.99 บาทต่อหุ้น (ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2548 ถึง 24 มิถุนายน 2548)
ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท
-ข้อมูลกำไรสะสมและสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัท
ข้อมูลจากงบการเงินก่อนสอบทาน/ตรวจสอบงวดล่าสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2548
-กำไรสะสมของบริษัท และบริษัทย่อย เท่ากับ 5,140,685,000 บาท
-หนี้สินของบริษัทและบริษัทย่อยที่ถึงกำหนดชำระภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่จะซื้อหุ้นคืน
ประมาณ 659,184,600 บาท
-อธิบายความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทที่ถึงกำหนดชำระภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่จะ
ซื้อหุ้นคืนโดยระบุแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการการชำระหนี้คืน
บริษัทมีกำไรสะสมจำนวนมาก อีกทั้งยังมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปีนี้
มากถึง 1,673,362 บาท จึงมีสภาพคล่องเพียงพอในการชำระหนี้ของบริษัทที่จะถึงกำหนดชำระภายใน
6 เดือนข้างหน้าและเพียงพอในการซื้อหุ้นคืน
จำนวนผู้ถือหุ้นสามัญรายย่อย (Free float) ณ วันปิดสมุดทะเบียนล่าสุด เมื่อวันที่ 12
เมษายน 2548 เท่ากับร้อยละ 32.30 ของทุนชำระแล้วของบริษัท ทั้งนี้บริษัทได้แนบแบบแสดงรายการ
การกระจายการถือหุ้นของบริษัทมาพร้อมนี้
เหตุผลในการซื้อหุ้นคืน เพื่อบริหารสภาพคล่องของบริษัทและเพิ่มกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS)
รวมทั้งเป็นการรักษาเสถียรภาพราคาหุ้นของบริษัท
ผลกระทบภายหลังซื้อหุ้นคืนต่อผู้ถือหุ้น ทำให้อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นสูงขึ้น
และผลต่อบริษัท คือ การซื้อหุ้นคืนจะทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงตามงบการเงินรวมของบริษัท
การจำหน่ายและการตัดหุ้นที่ซื้อคืนจะขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กำหนดระยะ
เวลาจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2549 .ถึงวัน 8 กุมภาพันธ์ 2552 (ภายหลัง 6 เดือน นับ
แต่การซื้อหุ้นคืนเสร็จสิ้นแต่ต้องไม่เกิน 3 ปี)

-หลักเกณฑ์ในการกำหนดราคาที่จะจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน
บริษัทมีนโยบายการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน การตัดหุ้นที่ซื้อคืน และการลดทุนให้เป็นไปตามกฎ
กระทรวงว่าด้วยเรื่องกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการว่าด้วยการซื้อหุ้นคืน การจำหน่ายหุ้นคืน และการตัด
หุ้นที่ซื้อคืน พ.ศ. 2544ดังนี้
บริษัทจะจำหน่ายหุ้นทั้งหมดที่บริษัทซื้อคืนมาในโครงการซื้อหุ้นคืน โดยจะดำเนินการเสนอ
ขายในกระดานหลักของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือเสนอขายต่อประชาชนเป็นการทั่วไปตาม
กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ สำหรับระยะเวลาเริ่มจำหน่ายคืนจะพิจารณาจากผล
ตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนและความต้องการใช้เงินเพื่อการลงทุนในโครงการในอนาคต ในกรณีที่
บริษัทไม่จำหน่ายหรือจำหน่ายไม่หมดภายในอายุโครงการซึ่งเมื่อพ้นกำหนดนั้นแล้ว บริษัทจะลดทุนชำระ
แล้วโดยวิธีตัดหุ้นจดทะเบียนที่ซื้อคืนและยังมิได้จำหน่ายทั้งหมด
Price is what you pay. Value is what you get...
ภาพประจำตัวสมาชิก
Minesweeper
Verified User
โพสต์: 472
ผู้ติดตาม: 0

งบ TPC ออกแล้วครับ น่าตกใจเหมือนกันครับ

โพสต์ที่ 28

โพสต์

ไตรมาสนี้มีปันผลรับ 430.6 ล้านบาท

ช่วงก่อนผมจะเอาก้อนนี้หักออกไป เพราะคิดว่าเป็นรายได้แบบนานๆ ครั้ง
ตอนนี้ชักสงสัยแล้วว่า ปันผลรับตัวนี้จะถือเป็นรายได้ประจำได้เลยหรือไม่
เพราะมีติดต่อกันมา 3 ไตรมาสแล้ว

บริษัทได้ปันผลรับก้อนโตๆ จากหุ้นที่ไปถืออยู่นิดเดียว (เข้าใจว่า ROC)
แต่ทำรายได้ให้บริษัทมโหฬาร (เทียบกับกำไร 665 ล้าน)
โดยเฉพาะในช่วงที่ผลประกอบการตกต่ำแบบนี้ ก็ถือว่ากู้หน้าได้บ้าง
มิฉะนั้นตัวเลขกำไรจากตัวธุรกิจจริงๆ ออกมาแบบจืดๆ คล้ายช่วงปี 02-03

ไม่รู้เหมือนกันครับ ว่าราคานี้มัน it's worth it หรือเปล่า
ผมซื้อตัวนี้มาตอนที่ปูนใหญ่จะ T/O ราคาที่ได้มาก็เท่าๆ กับที่ปูนใหญ่จะซื้อนั่นแหละ
ตอนแรกตั้งใจว่าจะขายหลัง T/O แต่ก็ไม่ยอมขาย มันขึ้นไป 200 กว่า ไป high เดิม
ก็ไม่ขาย ดูมันวิ่งขึ้นวิ่งลง ดีใจเสียใจไปกับมัน มาขายตอนเหลือ 18 บาท
คิดว่าถ้าไม่ขายตอนนี้ก็จะไม่ได้อะไรแล้วนะ แต่ก็ไม่หนักแน่นพอ ขายไปครึ่งเดียว
ส่วนที่เหลือนิดหน่อยกะว่าจะลองถือแบบข้ามวัฏจักรดูซักครั้งครับ เป็นประสบการณ์ชีวิต

หวังว่าคงไม่ถึงขั้นกลายเป็น 0 นะครับ (แต่ก็ทำใจไว้แล้ว)

เรื่องซื้อหุ้นคืนยังหวั่นๆ อยู่ เห็นว่าจะลงทุนโรงงานใหม่ตอนปี 50 ก็น่าจะเก็บๆ เงินไว้ก่อน
ตอนนี้ทำเป็นใจดีแจกเงิน กลัวว่าพอไม่มีเงิน มันจะมาขอเงินเราไปเพิ่มทุนอีกจะแย่ :roll:
woody
Verified User
โพสต์: 3763
ผู้ติดตาม: 3

งบ TPC ออกแล้วครับ น่าตกใจเหมือนกันครับ

โพสต์ที่ 29

โพสต์

มันขึ้นไป 200 กว่า ไป high เดิม
ก็ไม่ขาย ดูมันวิ่งขึ้นวิ่งลง ดีใจเสียใจไปกับมัน มาขายตอนเหลือ 18 บาท
par เท่ากันเลยหรือครับ
Impossible is Nothing
ภาพประจำตัวสมาชิก
Minesweeper
Verified User
โพสต์: 472
ผู้ติดตาม: 0

งบ TPC ออกแล้วครับ น่าตกใจเหมือนกันครับ

โพสต์ที่ 30

โพสต์

200 พาร์ 10 อะครับ 18 พาร์ 1