สองด้านของ HMPRO

[คนขายของ]

สืบเนื่องจากกระทู้ของคุณ คัดท้าย ครับผมขออนุญาติเสนอ มุมมองสองด้านของ HMPRO ดังนี้ครับ

สองด้านของ HMPRO

หมายเหตุ : ผมมีการลงทุนใน HMPRO อยู่ข้อความที่เขียนอาจไม่เป็นกลาง ไม่ควรเชื่อถ้าท่านยังไม่ได้ไตร่ตรอง ถ้าเพื่อนๆ คนไหนเห็นสิ่งที่ผมอาจมองข้าม ช่วยกรุณาชี้แนะด้วยนะครับ ผมเองยังต้องเรียนรู้อีกมากครับ ขอบพระคุณ

ความเสี่ยงในอนาคต
1) เรืองการเพิ่มรายได้จากธุรกิจพื้นที่ retail ให้เช่า จากการขยาย store สู่ concept Market Village ทำให้ HMPRO มีพื้นที่ให้เช่ามากกว่าเดิม เช่นสาขาหัวหิน น่าจะมีพื้นที่มากกว่า 50000 ตรม คาดว่าเป็น HMPRO แค่ไม่เกิน 7500 ตรม ที่เหลือเป็นพื้นที่ให้เช่า ก็คงต้องมาดูกันละครับว่าใครจะมาเช่า พื้นที่มากมายขนาดนี้ แล้ว HMPRO จะบริหารไหวไหม นี่สาขาเดียว ถ้ารวม บางนา และ เพชรเกษม เข้าด้วยกัน นี่เป็น แสนกว่าตารางเมตรเลยนะครับ

2) การขยายงานอย่างรวดเร็ว อาจเกิดการขัดแย้งภายใน เนื่องจากบริษัทต้องทำการจัดซื้อ จัดจ้างเป็นจำนวนมาก ความโปร่งใสในการบริหารงานอาจไม่รัดกุมเหมือนเดิม สาขาเดิม กับ สาขาใหม่ อาจมีการแย่งยอดขายกันเอง เช่น สาขาเพชรเกษม กับ สาขา บางแค

3) สาขาหัวหิน สร้างบนพื้นที่ซื้อขาด ผมเองยังห่วงว่าถ้า HMPRO หันมาซื้อที่ และไม่เช่าแบบแต่ก่อนจะหาเงินจากไหนมาขยายสาขา ทุนจะต้องเพิ่มไหม? หรือจะกู้เงิน หรือ จะเอาแบบ TICON ดี แปลง สินทรัพย์เป็นทุน

4) สาขาใหม่สร้างบนพื้นที่ที่มีอนาคตแต่ชุมชนยังไม่หนาแน่น เช่นสาขา บางนา-สุวรรณภูมิ สร้างบนพื้นที่ที่กำลังมีการก่อสร้างสูง แต่ว่ากว่าหมู่บ้านจะสร้างเสร็จมีคนมาอยู่อาศัยจริง คงใช้เวลานาน ปี สองปี แรกอาจไม่เข้าเป้า เช่นเดียวกันกับทำเลของสาขา พระรามห้า

5) ความเสี่ยงจากดอกเบี้ย ราคาน้ำมัน และ การอ่อนตัวของการบริโภคของประชาชน HMPRO เรงขยายงานเป็นอย่างมากในปี 48 และ 49 เห็นได้จากกระแสเงินสดในการลงทุนเป็นลบตลอด ถ้าสภาวะเศรษฐกิจไม่เป็นใจ ในอนาคตอาจทำให้ยอดขายไม่เข้าเป้า และ ต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น

โอกาสในอนาคต
1) HMPRO อยู่ภายใต้ กลุ่ม LH ที่มีสายสัมพันธ์ทางธุรกิจมากมาย ทั้งยังมี Siam Retail Co. ที่เคยมีประสพการณ์ในการบริหาร Fashion Island ที่รามอินทรา น่าจะช่วย HMPRO ในการหาผู้เช่าที่เป็นแม่เหล็กได้ และมีข่าวว่า TESCO LOTUS น่าจะมาเช่าที่ ที่สาขาบางนา และ หัวหินด้วย

2) การมุ่งขายสินค้าพร้อมบริการมีแนวโน้มที่ดีในอนาคต เพราะลูกค้าของ HMPRO โดยส่วนมากถึงรู้ว่าแพงกว่า แต่ก็ซื้อเพราะลดภาระยุ่งยาก เช่นมีการจัดส่งฟรีเมื่อซื้อเกิน 5000 บาท คืนได้ถ้าไม่พอใจ มีการช่วยออกแบบ และ ติดตั้ง ลูกค้าส่วนมากเน้นการให้บริการมากกว่าราคาอย่างเดียว และที่ว่าซื้อที่ LOTUS BIGC นี่ถูกกว่า ก็ไม่จริงเสมอไป เพราะเขาถูกมากๆเป็นบางอย่าง บางอย่างแพงกว่ามาก แล้วแต่เขาทำ promotion ก็เห็นคนไปกันแน่นทุกเสาร์ อาทิตย์

3) การรุกเข้าสู่ธุรกิจพื้นที่ให้เช่าน่าจะทำให้กำไรของ HMPRO เติบโตอย่างมากในอนาคตหากทำสำเร็จ ทั้งนี้ธุรกิจค้าปลีกเป็นธุรกิจกำไรน้อย แต่ให้ Cash Flow ที่สูง Margin ของค้าปลีกอยู่แค่ประมาณ 3.5% ต่างกับธุรกิจให้เช่าพื้นที่คือ CPN ที่มี net profit margin อยู่ที่ 20% มาโดยตลอด ลองดูข้อมูลของ CPN กับ SF ได้

4) ธุรกิจค้าปลีก แบบ modern trade เป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากไม่ต้องพึ่งพาลูกค้ารายใหญ่ และ ไม่ต้องทำการประมูล สำหรับธุรกิจวัสดุก่อสร้างเป็น สินค้าที่ลูกค้าต้องการ คำแนะนำก่อนตัดสินใจซื้อ ไม่เหมือนสินค้า อุปโภค บริโภคทั่วไปที่คนซื้อเพราะ brand และ โฆษณา เป็นหลัก HMPRO ได้ทำการสร้างศูนย์ฝึกอบรมเพื่อเตรียมพนักงานสำหรับการขยายสาขาในอนาคตไว้แล้ว

5) HMPRO ยังสามารถใช้ประโยชน์จาก economies of scale ได้อีกมากเพราะตั้งเป้าไว้ 30 สาขาในปี 2550 ตอนนี้มีแค่ 18 สาขา และสาขาหลังๆ มีแนวโน้มว่าจะมี sales area มากกว่าสาขาแรกๆ ดังนั้น HMPRO น่าจะทำ net profit margin จากธุรกิจค้าปลีกได้มากขึ้น เมื่อรวมกับ กำไรจากพื้นที่เช่าที่สูงกว่า และ มีกำไรจากรายได้อื่นๆ (เช่น การจัด Home Pro Expo และ การจัด co-promotion) ซึ่งรายได้อื่นๆ มีการเติบโตอย่างมากใน Q105 ผมหวังว่า Total Net Profit Margin ที่มากกว่า 5% น่าจะเป็นไปได้ในอนาคต

ผิดพลาดโปรดอภัย มีอะไรช่วยแนะนำ ขอบคุณครับ

ขอให้ทุกท่านโชคดีในการลงทุน

[S&K Fund]

ผมก็ได้ลงทุนนิดหน่อย เนื่องได้ไปใช้บริการของ hmpro ที่หาดใหญ่ ( ที่เขาวางระเบิด
นะครับ ) ราคาสินค้า ไม่ได้แพงไปกว่าร้านข้างนอก แต่มีบริการติดตั้ง อุปกรณ์ไฟฟ้า
และก็ออกแบบ บ้านฟรี แต่ยังไม่ได้ลองไปใช้บริการนะครับ
ลูกค้าส่วนใหญ่จะเดินมาดูไอเดีย มาตกแต่งบ้าน แต่ในต่างจังหวัด สินค้าบางอย่าง
จะหายาก หรือว่ามีราคาที่สูงกว่า เท่าที่ลองเปรียบเทียบดูนะครับ
HMPRO ค่อนข้างได้เปรียบร้านก่อสร้าง ที่มีการบริการครบวงจรมากกว่า
และมีสินค้าให้เลือกหลากหลายมากกว่า เรื่องการขาย ผมว่าคนส่วนมาก
จะมาดูสินค้าที่ตกแต่งบ้านมากกว่านะครับ ที่จะซื้อไปสร้างบ้าน

[ลูกอิสาน]

เป็นหุ้นที่ดีครับ แต่ไม่ได้ซื้อเพราะ

-หุ้นแพงพีอี 15.4 เท่า
-ยอดขายบ้านลดลงเหมือนตอนวิกฤติจะเป็นอย่างไรครับ
-ช่วงนี้ยังต้องการเงินลงทุนเยอะ

รอต่อราคาอยู่ครับ

[คัดท้าย]

ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูลดีๆที่เอามาแบ่งปันครับ

[iscssn]

ขอบคุณในมุมมองครับ

[สุมาอี้]

เวลาซื้อวีซีดี คนส่วนใหญ่ซื้อร้านแบกะดินทั้งนั้น น้อยคนจะซื้อที่ร้านแมงป่อง เพราะร้านแบกะดินขายของปลอมได้ราคาจึงต่ำกว่ามาก

เวลาซื้อเครื่องเสียง คนส่วนหนึ่งซื้อที่ร้าน PowerBuy อีกส่วนหนึ่งซื้อกับร้านตึกแถวอาจเป็นเพราะมีบริการผ่อนเป็นกิจลักษณะ

เวลาซื้อสบู่แชมพู คนส่วนใหญ่ซื้อในโมเดิร์นเทรด เพราะเขาขายให้ถูกกว่าร้านโชว์ห่วยมาก ถูกกว่าขนาดที่ทำให้บรรดาร้านโชว์ห่วยตายได้เลย

แต่ที่ผมไม่มี idea เลยเพราะไม่เคยซื้อเองมาก่อนในชีวิตก็คือ ของแต่งบ้าน อยากทราบว่าคนที่เลือกซื้อของแต่งบ้านกับโฮมโปรแทนที่จะซื้อกับร้านขายวัสดุก่อสร้าง หรือซื้อตามจตุจักร เขาซื้อด้วยเหตุผลอะไร ราคา หรือว่าเพราะอะไร?

ถ้าการซื้อของแต่งบ้านในโมเดิร์นเทรดมี advantage มากกว่าการซื้อในร้านค้าแบบเดิมๆ อย่างชัดเจน โฮมโปรจะต้องไปได้ดีได้ในที่สุด มีใครคิดอะไรไหมว่า advantage คืออะไร ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องราคา

[bigshow]

ยังเล่น vcd อีกหรือ แผ่น dvd 9 120 บาทเองนะ

[stp]

ผมว่าอย่าง HMPRO เหมาะสำหรับสังคมเมืองมากกว่า การจัดวางเขาก็ดีดูง่ายหลากหลายให้เลือก
ผมก็เคยไปเลือกดูเหมือนกันครับ แอร์เย็นสินค้าหลากหลายให้เลือก
ก็จดๆรุ่นยี่ห้อสินค้ามาโทรถามเทียบราคาหลายๆร้านถูกที่ไหนซื้อที่นั่นครับเพราะสินค้าเหมือนกัน

แต่สำหรับเพื่อนร่วมงานบางคนที่สร้างหรือตกแต่งบ้านใหม่ตอนกลางวันไม่มีเวลา ตอนเย็นก็ไป HMPRO เพราะเขาปิดเวลาตาม คาร์ฟู อาจจะจ่ายเยอะหน่อยเพื่อซื้อความสะดวกกับเวลา

เลยคิดว่า HMPRO น่าจะเหมาะกับสังคมเมืองเช่น BKK ดีครับที่อื่นผมไม่รู้เป็นไง

[สุมาอี้]

สรุปว่าซื้อความสะดวก ประหยัดเวลาแทนที่จะต้องวิ่งหาของหลายๆ ที่ใช่ไหมครับ

คนอื่นคิดว่ามีเหตุผลอื่นอีกไหมครับ?

[ลูกอิสาน]

ห้างสรรพสินค้า ดิสเคาสโตร์ มาแทนที่ร้านโช่ห่วย

ห้างขายสินค้าตกแต่ง ก่อสร้าง อย่างโฮมโปร ก็มาแทนที่ร้านขายวัสดุก่อสร้างดั้งเดิม

หนีไม่พ้นหรอกครับ ไม่ช้าก็เร็วเพราะแนวโน้มของโลกมันเป็นไปอย่างนั้น

มาเกาะกระแสกันดีกว่า

[คนขายของ]

สำหรับน้องๆ มือใหม่นะครับ

ที่ผมเขียนด้านบนเป็นความเห็นเกี่ยวกับธุรกิจของ HMPRO ส่วนหากท่านต้องการลงทุนใน HMPRO ขอให้พิจารณาปัจจัยต่างๆ ประกอบ เช่น อัตราส่วนทางการเงิน, กระแสเงินสด, สินค้าคงคลัง และ อื่นๆประกอบในการตัดสินใจนะครับ ก่อนซื้อจริงๆ อาจดูกราฟ และ แรงซื้อ แรงขาย ระหวางวัน ประกอบการพิจารณา ก็จะดี

กิจการดี ที่ราคาแพงมากเกินไปก็มีเยอะ ขอให้พิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ ศึกษาธุรกิจ ติดตามข่าว ขอแนะนำให้ ลองเดินสำรวจ HMPRO ดู ผมเองก็เคยยืนสังเกตุที่ cashier ครับว่าคนส่วนมากซื้ออะไรกันบ้าง มีลูกค้ามาถี่ขนาดไหน ลองพูดคุยกับพนักงานร้านดู ว่าบริการดีไหม ถามอะไรตอบได้หรือเปล่า

สำหรับพี่ๆทั้งหลายที่วิชาแก่กล้าแล้ว มีอะไรท้วงติง แนะนำ เชิญเลยนะครับ

[Heroine]

เป็นหุ้นที่ดีครับ แต่ไม่ได้ซื้อเพราะ



รอต่อราคาอยู่ครับ

อันนี้แหละค่ะที่คิดเหมือนกัน

[Nongnon]

ผมเคยทำงานร่วมกับ HMPRO ครับ สิ่งที่พบ คือ
- การทำงาน ของทีมจัดซื้อ มีระบบสู้ Modern Trade อย่าง Big C , Makro ไม่ได้ คือ การเจรจาต่อรอง ยัง ไม่ชำนาญพอ ทำให้ เสียเปรียบ Supplier บางเจ้า เช่น ปูนซีเมนต์ไทย ที่มีอำนาจต่อรองสูงกว่า
- ระบบการดูแลสินค้า คงคลัง อาจต้องมีระบบ ควบคุม ที่ดีกว่านี้ครับ เนื่องจาก สินค้า ที่ขายได้ช้า ก็มีปริมาณมากพอ ควร โดยเฉพาะแผนกสุขภัณฑ์
- พนักงานขายในร้าน มีจำนวนมากเกินไป บางคน ยืนสนทนากัน สังเกตซิครับ

แต่สิ่งที่ดี คือ HMPRO มีกลยุทธ์ ที่ชัดเจนมาก คือ
- ต้องการให้ผู้บริโภค ย้อนกลับมาซื้อ สินค้าที่ไม่ใช้ สินค้าที่เป็น Hardware (ติดตั้งครั้งเดียวใช้นานไป 10-15 ปี เช่น สุขภัณฑ์ ) โดยพยายาม ให้ผู้บริโภค กลับมาซื้อ สินค้า ที่มีความถี่ในการเปลี่ยนมากขึ้น
- มีโครงการ ขายสู่โปรเจ็ก ขนาดใหญ่มากขึ้น เช่น อาคาร หน่วยงานต่างๆ

อย่างไร ก็ดี คู่แข่งที่น่ากลัว ในกรุงเทพ ก็คือ บุญถาวร และ Grand Homemart ส่วนต่างจังหวัด คือ ร้านค้า ท้องถิ่น ที่มี Showroom (ที่มีราคาขายปลีกถูกกว่า ในสินค้าบางกลุ่ม) และ ร้านค้าของเครื่อ ซีเมนต์ไทยเอง (C-Homemart)

[สุมาอี้]

ตกลง advantage ยังไม่ชัด มีใครคิดอะไรออกอีกบ้าง

แต่ตอนนี้ผมสงสัยเรื่อง logistic ของ HMPRO ครับ

พวก BigC จะสั่งให้ suppliers ไปส่งที่ศูนย์กระจายสินค้าของ BigC แล้ว BigC ค่อยส่งของไปยังสาขาเองอีกทอดหนึ่ง

แต่ไม่ทราบว่าของ HMPRO ทำอย่างไร ผลักภาระให้ suppliers ส่งของไปที่สาขาเองโดยตรง หรือว่ามีศุนย์กระจายสินค้าเหมือนกัน

เรื่องนี้มีผลมากครับต่อค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และเงินลงทุน


เอ่อ ผมว่าย้ายไปคุยในร้อยคนร้อยหุ้นก็ดีนะ จะได้เก็บไว้เป็น record

[คนขายของ]

คุณสุมาอี้ครับ

HMPRO มี DC อยู่ที่วังน้อย เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อ กันยา ปีที่แล้วคาดว่าจะสามารถรองรับการจัดการสินค้าคงคลังได้ถึง 25 stores ตามที่ผมเข้าใจ HMPRO จัดส่งสินค้าเองครับให้แต่ละ store เหมือน BIGC และ LOTUS ซึ่ง DC อยู่ใกล้ๆกันครับ WALMART เองก็ใช้ระบบนี้เหมือนกันครับ เพื่อใช้ประโยชน์จากการ common orders and common stock แทนที่แต่ละ store จะแยกกันสั่งซื้อ และ แยกกัน เก็บ Stock

ซึ่งผมว่า HMPRO ยังจัดการได้ไม่ดีเท่าไหร่ครับ ผมเองเคยลองซื้อของที่ HMPRO หลายครั้ง พบว่าถ้าไม่ใช่สินค้าที่หมุนเวียนสูงนี่ ต้องรอครับ ไม่ได้ของทันที หวังว่าถ้าท่านผู้บริหารผ่านมาอ่านจะได้นำไปปรับปรุงครับ

ตอนนี้ HMPRO ใช้ระบบ Computer ในการบริหารครับ ซึ่งถือว่าเป็น Competitive advantage อย่างหนึ่งของการค้าปลีก ผมเขียนรายละเอียดไว้นิดหน่อนในร้อยคนร้อยหุ้นครับ

Competitive Advantage อีกอย่างของ HMPRO คือผู้ซื้อได้เห็น และ ได้เลือก ได้สัมผัส ก่อนซื้อ ทั้งนี้ สมัยก่อน ถ้าลูกค้าต้องการซื้อพวกวัสดุ ของตกแต่ง ใช้การดู catalog อย่างเดียวเลยครับ ของจริงไม่ค่อยได้เห็น ผมว่าคนเราชอบ เดินซื้อ เดินเลือก ลุบๆ คลำๆ ในบรรยากาศที่น่าเดิน แอร์เย็น แถมมีร้าน อาหาร เครื่องดื่ม ร้านหนังสือ และ DVD ให้ด้วยครับ

[harry]

ข้อดีของห้างที่ผมชอบมากคือ แอร์เย็นสบาย อยากไปนั่งอ่านหนังสือตั้งแต่เช้ายันค่ำ กลับบ้านอาบน้ำนอนเลยด้วยซ้ำ

แต่ข้อดีที่โชวห่วยปากซอยทำได้ แต่ร้านค้าซูเปอร์สโตร์ทำไม่ได้ คือการแปะโป้งไว้ก่อนงัยครับ

[สุมาอี้]

ตอบไว้ไน

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... 0432#90432

[Nongnon]

เพิ่มเติมข้อมูล ที่คุณคนขายของ อธิบายเกี่ยวกับ DC ที่วังน้อยนะครับ ... .ถูกต้องอย่างยิ่งครับ Homepro มีปัญหามากเรื่องศูนย์กระจายสินค้า เนื่องจาก ระบบ Computor ต่างๆ ยังไม่สามารถ Support ในเรื่องการส่งสินค้า ในแต่ละสาขาได้ เหตุผลก็คือ มีสินค้า มากจำนวนตัว ( SKUs ) ที่สำคัญในแต่ละตัวมีต้นทุนที่ไม่เท่ากัน ( มีการต่อรอง ส่วนลด เป็นจำนวน Lot ) ทำให้ มี Barcode ที่ระบุ ในตัวสินค้า มากกว่า 3-4 เท่าตัว ( แต่ Description ที่อธิบายสินค้า เหมือนกัน ).... ซึ่งมีผลทำให้ เมื่อสาขาต้องการสั่งสินค้า ไม่สามารถจัดส่งสินค้าได้ หรือ ส่งสินค้าผิดตัว .... และ เมื่อเปรียบเทียบกับบุญถาวร ที่มีระบบการ Stock สินค้า ดีกว่า ( สั่งสินค้า มีโอกาสได้สินค้า 90%) , บางโชว์รูม สวยงามกว่ามาก ( เช่น สาขารัชดา ) และ บุญถาวร พัฒนาถึงขั้น ที่ว่า มีการออกแบบ ตกแต่งบ้าน ผ่านสถาปนิก และ ระบบ Graphic Computor ทำให้บุญถาวร เป็นคู่แข่งที่น่ากลัว สำหรับ Homepro ในกรุงเทพครับ.....
อีกด้านหนึ่งที่เป็นข้อเสียเปรียบของ Homepro ต่างจังหวัด คือผู้รับเหมาท้องถิ่น มี ความสัมพันธ์ ที่ดีกับร้านค้า ในต่างจังหวัดมากกว่า ครับ ในเรื่องของ เครดิต หรือ การเปลี่ยนสเป็ค ในการก่อสร้าง