Price moves before the news
*ราคามาก่อนข่าวเสมอ

Trend is your friend
*แนวโน้มคือเพื่อนของคุณ

When we make a profit, we must learn to reduce exposure — because the more profit we have, the easier it is to become careless.
We never know what the future may bring.
Therefore, to be a good investor, we must know when to increase, reduce, stop, or wait.
*มีกำไรเราต้องรู้จักลด Exposure ลง เพราะยิ่งมีกำไร เราก็ยิ่งประมาทได้ง่าย
เราไม่รู้หรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคตได้บ้าง
ดังนั้น การเป็นนักลงทุนที่ดี ต้องรู้จัก เพิ่ม, ลด, หยุด หรือ รอ ให้เป็น

#Investor+
===========================================
Value does not drive stock prices, but people do.

"Many people get confused and think that they are actually buying and selling a company. They think that they are investing and holding a piece of paper that is like a right to redeem a cash coupon or a right to claim money if there is no cash in the account. In reality, these are just pieces of paper that have investors with more money than others to trade or manage the stocks to go up and down. The fundamentals of the company are only one part that makes the stocks go up and down."

มูลค่าไม่ได้ดันราคาหุ้น แต่คนนี่แหละทำ

"ราคาหุ้นในตลาดไม่ได้ถูกกำหนดขึ้นโดย "มูลค่าที่แท้จริง" ของบริษัทเท่านั้น แต่ถูกขับเคลื่อนโดยความรู้สึกและการตัดสินใจของนักลงทุน ผู้คนในตลาดมีอิทธิพลมากกว่าปัจจัยพื้นฐานของบริษัทในการทำให้ราคาหุ้นขึ้นหรือลง นักลงทุนบางคนอาจตัดสินใจซื้อหรือขายหุ้นตามความคาดหวังในอนาคต ความกลัว หรือความโลภ ซึ่งทำให้ราคาเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วโดยไม่คำนึงถึงสถานะการเงินหรือผลประกอบการของบริษัทโดยตรง"

นอกจากนี้ คำพูดนี้ยังเตือนให้เข้าใจว่าการที่เราซื้อหุ้นไม่ได้หมายความว่าเราได้ซื้อส่วนของบริษัทจริง ๆ แต่เป็นการถือ "กระดาษหลักทรัพย์" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการมีสิทธิ์บางประการในบริษัทนั้น แต่สิทธิ์เหล่านี้ไม่ได้แสดงถึงการเป็นเจ้าของที่แท้จริงในแง่ของสินทรัพย์หรือการจัดการบริษัท

*สรุปคือ ตลาดหุ้นถูกขับเคลื่อนด้วยอารมณ์และการตัดสินใจของมนุษย์ ซึ่งมักจะหลีกเลี่ยงจากมูลค่าพื้นฐานของบริษัทเองในการทำให้ราคาหุ้นผันผวนมากขึ้น

#Jim Kramer
===========================================
”วันใดก็ตามที่ชีวิตยืนอยู่บนทางสองแพร่ง และไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะเลือกเดินทางซ้ายดีหรือทางขวาดี ขอจงตัดสินใจเลือกทางเดินที่ลำบากกว่า มีอุปสรรคมากกว่า ทรงเกียรติกว่า และไม่เสียคุณธรรม แม้ว่าเส้นทางนั้นจะยาวนานกว่า ยากเย็นแสนเข็น ลำบากเจียนตาย แต่หากผ่านถนนสายนั้นมาได้ เราจะมองกลับไปอย่างภาคภูมิใจ เพราะมันจะไม่ได้เป็นเพียงความสำเร็จ แต่จะเป็นความสำเร็จที่มั่นคงและยั่งยืนตลอดไป”

#NB, Nevercry.boy
===========================================
เจ็ด-จง จำไว้รวย

จง-1) จงมองหุ้นเป็นธุรกิจ มองตัวเราเองเป็น บริษัทโฮลดิ้งคอมปะนี เป็นเจ้าของบริษัทที่เราซื้อเข้ามาไว้ในพอร์ทลงทุน ติดตามผลการดำเนินงานและประเมินเหมือนกับเป็นเจ้านายของบริษัทเหล่านั้น เสมอ

จง-2) จงเป็นนักต่อรอง อย่าหลงคารม อย่าเชื่อใจผู้บริหารบริษัท โอกาสในตลาดหุ้นมีเป็นร้อยหมื่นพันครั้ง ตลาดหุ้นตกแบบคอเร็คชัน (correction) ประมาณ ๑๕ - ๒๐ เปอร์เซนต์มีทุกปี และตลาดตกแบบ ๔๐-๕๐ เปอร์เซนต์สัก สามถึงห้าปีก็จะมีบ้างเช่นกัน ดังนั้นไม่ต้องรีบ แต่ให้ติดตาม และประเมินอยู่ตลอดเวลา

จง-3) จงมีเงินสด เดินทางด้วยทางสายกลาง รีบรวยโดยการซัดหมดพอร์ต จะเป็นเส้นทางตกเหวเสียมากกว่า หลายคนมองว่าการถือหุ้นร้อยเปอร์เซนต์เป็นเรื่องที่ดี ดีจริงครับ แต่เสียโอกาส โอกาสอะไร โอกาสในการเข้าซื้อเวลาหุ้นตก และหลายคนมองว่าการถือเงินสดตลอดเวลาเป็นเรื่องดี ผมกลับมองว่า ทางสายกลางเป็นเรื่องที่ดี ยามตลาดตกมีเงินสดไว้บ้าง ๑๕ - ๒๐ เปอร์เซนต์ของพอร์ต ตลอดเวลา เป็นเรื่องที่ดีกว่า เพราะจะไม่ทำให้เรากระวนกระวาย และบีบคั้นให้เราต้องตัดสินใจทำสิ่งที่เราไม่อยากทำ เช่น ขายหุ้นในเวลาไม่เหมาะสมเพราะต้องเอาเงินไปจ่ายค่าพยาบาลพ่อแม่

จง-4) จงตั้งบิด (bid) ผมไม่เคาะขวา ไม่ใช่เกี่ยงราคา แต่เป็นการเกี่ยงจิตใจ ให้เราเน้นการรอคอย กำลังเงิน ความแม่นยำซื้อถูกจุดถูกจังหวะหรือไม่ ไม่สำคัญเท่าการรอคอย คนที่จะอดทนรอคอยเรื่องหนึ่งเรื่องใดได้ จะต้องเป็นคนที่จิตใจเข้มแข็งถูกฝึกมาเป็นอย่าดี รอคอยไม่เป็นเท่ากับเปิดหน้าให้คู่แข่งชก คุณทนได้ไม่นานหรอก

จง-5) จงมีหุ้น ไม่ว่าสถานะการณ์จะเลวร้ายเพียงไหน การกดปุ่มหนึ่งปุ่ม หรือโทรหามาร์หนึ่ง กริ๊ก แล้วสั่ง "ล้างพอร์ต" เป็นการตัดสินใจที่สิ้นคิด คุณจะลดพอร์ตเพิ่มพอร์ต ได้เสมอ แต่จงอย่าตัดสินใจ ล้างพอร์ต คำ ๆ เดียว แล้วบอกว่าสบายใจละ เป็นการตัดสินใจที่ผิดมากที่สุดเรื่องหนึ่งในตลาดหุ้น

จง-6) จงกระจายความเสี่ยง อย่ารักหุ้นตัวใดตัวหนึ่งจนหมดใจ ถือตัวเดียวทั้งพอร์ต อย่ากระโดดอัดเข้าตัวใดตัวหนึ่งอย่างแรง อย่าทิ้งตัวอื่นแบบไร้เหตุผลซัดหมดเงินตัวเดียว ไม่มีโฮลดิ้งคอมปะนี ไหนในโลกทำอย่างนั้น แต่จงจัดน้ำหนักของพอร์ตไปในหุ้นรายตัวให้เหมาะสม

จง-7) จงอย่าไปสนใจนำผลตอบแทนของตนเองเทียบกับผลตอบแทนของคนอื่น ปีเตอร์ ลินซ์ กล่าวไว้ว่า หุ้นขึ้นไม่ได้แปลว่าคุณถูก หุ้นลงไม่ได้แปลว่าคุณผิด ในโลกมายาโซเชียลเน็ตเวิร์ค นี้ จะรู้ได้อย่างไรว่าใครจริง ใครไม่จริง สิ่งที่เราควรเปรียบเทียบคือ สินทรัพย์สุทธิของเราปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่เพิ่มมา เปรียบเทียบกับ มูลค่าตลาดปีนี้และปีที่แล้วที่เพิ่มขึ้นมาหรือถ้าจะง่ายเข้า เอา ดัชนี SET ก็ได้เปรียบเทียบกัน ถ้าดีกว่าแสดงว่าเก่งกว่าตลาด ถ้าแย่กว่าก็ลองเปรียบเทียบกับอัตราดอกเบี้ย คิดเล่น ๆ ว่าหากเอาเงินไปเทียบกับเงินฝาก จะได้เท่าไร ? นี่เราลงทุน แล้วได้เพิ่มมามากกว่าอัตราดอกเบี้ย ดีตั้งเท่าไร?

#Nevercry.boy
4 พฤศจิกายน 2558
===========================================
ชีวิตจะสอนให้เราถ่อมตนขึ้นเรื่อยๆ
(As you grow, life will humble you)

เราจะเลิกพิสูจน์ตัวเองกับคนอื่น
เราจะเลิกพยามเป็นที่ยอมรับของใคร
เราจะเลิกสนใจว่าคนอื่นจะมองเรายังไง

เราจะมองหาสิ่งเล็กๆ เช่น
ความเงียบ ความสงบ และ ความปกติ

แล้วสุดท้าย...
ชีวิตจะสอนให้เราเข้าใจว่า
*ความธรรมดา คือ สิ่งที่มีค่าที่สุด

#โช็ค โชกุล
============================================
ทำ
บุญ
ต้อง
มี
*สติ

#CDC ChalokeDotCom
============================================