Re: คลิป ดร.สันสกฤต อาจารย์ที่สอนงบการเงินสนุกที่สุด เข้าใจท ขอบคุณครับ โดย navapon เสาร์ ก.ค. 25, 2015 9:21 pm

Re: สำหรับมือใหม่หรือผู้ที่เริ่มต้นได้ไม่นานครับ(ใครก็ดูได้) ผมว่าสวยดีครับ อ่านสนุกได้ความรู้มากด้วย ขอบคุณครับสำหรับนํ้าใจ :D โดย navapon ศุกร์ เม.ย. 11, 2014 8:46 pm

Re: 'เขาเล่าว่า'ต้นตอ'เจ๊งหุ้น /สิทธิชัย-พิษณุ แดงประเสริฐ ติดใจประโยคสุดท้าย "ผมเล่นหุ้นเพียงเพราะอยากติดตามข่าวเศรษฐกิจและอยากมีความรู้เรื่องตลาดหุ้นเท่านั้น ฉะนั้นหากเงินก้อนนี้จะหมดให้หมดไป แต่เราได้ความรู้กลับมา ถือว่า "คุ้มค่าแล้ว" ไม่รู้เขาได้ความรู้อะไรไปจากตลาดหุ้นบ้างนะครับ สงสัยจะทำนองว่า หุ้นเป็นการพนัน กลับไปสอนลูกสอนหลาน อย่ามาลองอีก :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen: โดย navapon อังคาร เม.ย. 08, 2014 5:22 pm

Re: ช่วยวิเคราะห์หน่อยครับglow ratch egco ขอบคุณ ข้อมูลของคุณ Power Investor อีกครั้งครับ โดย navapon อังคาร พ.ย. 05, 2013 9:32 am

Re: ช่วยวิเคราะห์หน่อยครับglow ratch egco ขอบคุณครับ :D :D :D โดย navapon เสาร์ พ.ย. 02, 2013 7:21 pm

Re: ช่วยวิเคราะห์หน่อยครับglow ratch egco ขออนุญาตินอกประเด็นได้ไหมครับ ใครมีความเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง กฟผ.ตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้าพระนครเหนือขนาดกว่า 1 หมื่นลบ. http://www.ryt9.com/s/iq03/1768132 ผมมองว่าอนาคตคู่แข่งโรงไฟฟ้าจะเยอะขึ้น โดยเฉพาะกฟผ.ลงมาเล่นเองนี่ รายอื่นๆก็เหนื่อยหน่อย แถมจะเป็นเครื่องมือให้นักการเมืองง่ายขึ้น หมายเหตุ 1.ผมก็มีหุ้นโรงไฟฟ้าครับ ยังถืออยู่และจะถือต่อไป 2. ผมว่า สมัยนี้การกระจายความเสี่ยง ใครที่ถือหุ้นโรงไฟฟ้า อาจต้องถือ อย่างน้อย 2 ตัวเพื่อความปลอดภัยหรือเปล่าครับ อิอิอิ (เผื่อบางโรงประมูลโรงไฟฟ้าใหม่ๆไม่ได้) โดย navapon เสาร์ พ.ย. 02, 2013 10:39 am

Re: 9 คำสารภาพและ 13 บทเรียนที่ผมได้รับ บทความเยี่ยมครับ เป็นกำลังใจให้คุณ monsoon ลุกสู้ต่อไป โดย navapon อังคาร ก.ย. 17, 2013 10:18 pm

Re: ธรรมะกับการลงทุน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ขอบคุณครับ โดย navapon พุธ เม.ย. 10, 2013 12:27 pm

Re: สรุป สัมมนาหุ้นรวยได้ # พี่โจ ลูกอิสาน 24/3/56 ขอบคุณครับ โดย navapon อังคาร มี.ค. 26, 2013 9:37 pm

Re: ส่องหุ้นผ่าน TOP LINE/ธันวา เลาหศิริวงศ์ ขอบคุณครับพี่ โดย navapon อังคาร ก.พ. 19, 2013 10:22 pm

Re: หาหนังสือ competitive strategy ภาษาไทยครับ นี่เลยครับ ของดีแบบไม่ต้องเสียเงิน ไล่อ่านจากบทความแรกๆย้อนขึ้นมานะครับ http://mprandy.siriraj100.com/?paged=3 โดย navapon พุธ ก.พ. 13, 2013 9:50 pm

Re: ขอคำแนะนำสำหรับคู่แต่งงานที่จะเริ่มลงทุน ว่าควรช่วยกันลง แบบเดียวกันครับ แฟนผมก็ไม่ค่อยสนใจการลงทุน ยังดีที่เค้าไว้ใจเราและไม่ว่าเลย ที่เอาเงินเก็บมาลงทุน แต่ยังไงผมก็คอยพูดกรอกหูเรื่องหุ้นที่เราถืออยู่ทุกวัน จะได้มีความรู้ติดตัวไว้บ้าง ส่วนเรื่องการลงทุน ผมว่าแล้วแต่สะดวก จะแยกกันลงหรือลงร่วมกัน แต่บริหารจัดการเงินเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านให้ดี กลัวว่ามาลงหุ้นหมด แล้วจะไม่เหลือสภาพคล่อง จะอึดอัดมากเวลาอยากใช้เงิน และเรื่องการลงทุนถ้าอ่านงบการเงินยังไม่เป็น อย่าเพิ่งงทุนเลยครับ ตลาดหุุ้นไม่หนีไปไหนหรอก หาความรู้เยอะๆก่อน อีกปีก็ยังไม่สาย :D :D :D โดย navapon อังคาร ก.พ. 12, 2013 9:01 pm

Re: สอบถามเรื่องเหตุผลที่ขายหุ้นครับ...-_-??) 1 มูลค่าที่ประเมินได้ไม่ได้มีค่าๆ เดียว 2 มูลค่าที่เอามาใช้คิด mos เป็นกรณี worst case ที่เอามาพิจารณาซื้อ 3 หลังจากซื้อในราคาที่มี mos ตามที่พอใจแล้ว upside ดป็นอีกเรื่องหนึ่งตามลักษณะของกิจการ 4 กิจการที่อยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลง ช่วงกำลังเติบโต มูลค่าที่เป็นไปได้มีความหลากหลายสูงมาก upside จะแปรผันไปตามอนาคตต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ ทำให้กลยุทธ์ในการขายเน้นไปดูที่คุณภาพของกิจการ โดยไม่กำหนดจุดขายที่ชัดเจน 5 กิจการที่ stable หรือ mature แล้ว range ของราคาเป้าหมาย (upside) มีช่วงที่น้อยกว่าข้อ 4 ทำให้มูลค่กิจการไปขึ้นอยู่กับสภาวะตลาด และทางเลือกในการลงทุน :bow: :bow: ขอบคุณครับ ผมชอบคำตอบของคุณpicatosที่สุดครับ โดย navapon พฤหัสฯ. ม.ค. 31, 2013 8:25 pm

Re: ค่าเงินบาทแข็งจะมีผลกับ หุ้นกลุ่มไหนบ้างครับ ละค่าเงินบา http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=40586 หุ้นที่ได้รับผลกระทบ จาก "ค่าเงินบาทแข็ง" การแข็งค่าของเงินบาทมีผลกระทบต่อธุรกิจต่าง ๆ ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับสัดส่วนการนำเข้า และสัดส่วนการส่งออก โดยธุรกิจที่เน้นนำเข้าวัตถุดิบนั้นเมื่อเงินบาทแข็งค่าก็จะมีค่าใช้จ่ายถูกลงเมื่อคิดเป็นเงินบาท ส่วนผู้ที่ทำธุรกิจส่งออกเมื่อเงินบาทแข็งค่าจะทำให้รายได้ลดลงเมื่อนำรายได้ที่เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯมาแลกเป็นเงินบาท ขณะที่บริษัทจดทะเบียน(บจ.)ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ปัจจุบัน ซึ่งมีกว่า 500 บริษัทก็มีการทำธุรกิจที่หลากหลาย "ฐานเศรษฐกิจ" ได้รวบรวมข้อมูลจากบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ ถึงผลกระทบเชิงบวกและผลกระทบด้านลบ ที่บจ.ได้รับจากเงินบาทที่แข็งค่า โดยบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์(บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)(บมจ.) ระบุว่า ในขณะนี้ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมุมมองต่อกลยุทธ์การลงทุนต่อหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากเงินบาทที่แข็ง ซึ่งปัจจุบันให้น้ำหนักการลงทุนน้อยเพราะปัจจัยเศรษฐกิจโลกกดดัน เช่น ในกลุ่มผู้ส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ ส่งออกอาหารสัตว์บก-ทะล ส่งออกยาง เพราะผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่มักจะมีการตกลงราคาขายล่วงหน้าไว้จำนวนหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ตาม บล.ฟิลลิปฯ มองว่าหากเงินบาทยังคงแข็งค่ายาวนานกว่านี้ก็จะทำให้สูญเสียความได้เปรียบการแข่งขันและอาจจะตกลงทำสัญญาราคาล่วงหน้ายากขึ้น ด้านน.ส.ศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิปฯ กล่าวในงานเสวนา "หุ้นโดนใจ ปี 2556 จิ๋วราคาต่ำสิบ และแจ๋วปันผลดี" เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยคาดว่าค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเชื่อว่าจะเป็นแค่ระยะสั้น สำหรับผลกระทบที่มีต่อตลาดหุ้นในส่วนของผลตอบแทนสำหรับผู้ที่ลงทุนในหุ้นที่เป็นบริษัทเกี่ยวกับการส่งออก และหากมีปัญหากระทบอย่างรุนแรง อาจจะทำให้เงินปันผลที่ได้ในส่วนนี้ปรับลดลงกว่า 8% แต่หากปัญหาไม่รุนแรงมากนัก เชื่อว่าจะทำให้เงินปันผลหายไปเพียง 1-2% เท่านั้น บทวิเคราะห์บล.กรุงศรีฯ ระบุว่า กรณีที่บาทแข็งค่าในระยะนี้อาจมีผลในแง่จิตวิทยาการลงทุนกับหุ้นที่เกี่ยวข้อง แต่ในส่วนผลประกอบการจริงเชื่อว่ายังไม่ส่งผลกระทบต่อหุ้นในกลุ่มส่งออกเท่าปัจจัยหลักทางธุรกิจ อาทิ กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ยังน่าจะได้รับผลกระทบจากแรงกดดันด้านเศรษฐกิจของทั้งสหรัฐอเมริกาและยุโรป ด้านกลุ่มอาหารก็ยังน่าจะสามารถเติบโตได้ในปีนี้ เพราะประชากรทั่วโลกยังคงต้องมีการบริโภคมากขึ้น บทวิเคราะห์บล.ฟินันเซียไซรัสฯ ระบุว่าค่าเงินบาทที่แข็งค่าเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่นำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ เช่น บมจ.น้ำมันพืชไทย (TVO), บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC), บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์(HMPRO), บมจ.การบินไทย (THAI ), บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) หรือไทยแอร์เอเชีย , ส่วนกลุ่มเหล็กที่ได้รับผลบวก เช่น บมจ.บางสะพานบาร์มิล(BSBM),บมจ.ทาทาสตีล(TSTH) และบมจ.สหวิริยาสตีลฯ( SSI), กลุ่มสื่อสาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC),บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น(DTAC),บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น(TRUE),บมจ.แอดวานซ์ อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี ( AIT), บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) และบมจ.สามารถเทลคอม (SAMTEL) ขณะที่เงินบาทแข็งค่าจะเป็นลบต่อผู้ที่มีรายได้เป็นดอลลาร์สหรัฐฯ เช่น กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด, กลุ่มอาหารส่งออก (บมจ.ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ (TUF), บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร(CPF), บมจ.จีเอฟพีที(GFPT), บมจ.ซีเฟรชอินดัสตรี(CFRESH) และบมจ.ทิปโก้ฟูดส์(TIPCO), บมจ.น้ำตาลขอนแก่น(KSL), บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี(STA), บมจ.ศรีไทยซุปเปอร์แวร์(SITHAI), กลุ่มโรงแรม, กลุ่มโรงพยาบาล (บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ หรือBGH,บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล หรือBCH), บมจ.ไทยคม(THCOM ) ส่วนกลุ่มที่เป็นกลางจากผลกระทบเงินบาทแข็งค่าครั้งนี้บล.ฟินันเซียไซรัสฯ มองว่าคือ กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี เพราะแม้มีรายได้เป็นดอลลาร์สหรัฐฯแต่ก็มีหนี้เงินกู้เป็นดอลลาร์สหรัฐฯในสัดส่วนใกล้เคียงกัน ขณะที่กลุ่มที่ไม่ถูกกระทบ คือ กลุ่มบ้าน นิคมอุตสาหกรรมและรับเหมาก่อสร้าง ฝ่ายวิจัยบล.เอเซีย พลัสฯ แนะนำหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากการแข็งค่าของเงินและราคายังมีส่วนเพิ่ม(อัพไซด์)พร้อมจ่ายเงินปันผลสูง ได้แก่ บมจ.สหมิตรเครื่องกล (SMIT) โดยให้ราคาเหมาะสม 5.42 บาทต่อหุ้น โดยนอกจากSMIT เป็นผู้นำเข้าเครื่องจักรอุตสาหกรรม และเหล็กพิเศษสำหรับทำแม่พิมพ์มาขายในประเทศ ต้นทุน 50% เป็นดอลลาร์สหรัฐฯ อีก 50% เป็นยูโร ขณะที่รายได้เป็นเงินบาททั้งหมด อีกทั้งยังเป็นหุ้นที่มีอัตราราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น(พีอี เรโช) ต่ำแค่ 8 เท่า และมีอัพไซด์จากราคาปัจจุบันอีกกว่า 10% และคาดหวังจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการครึ่งปีหลังของปี 2555 สูงถึงประมาณ 3.1% นอกจากนี้มีหุ้นบมจ.น้ำมันพืชไทย ให้ราคาเหมาะสม 32.32 บาทต่อหุ้น มีอัพไซด์สูงถึง 31.4% และเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง คาดหวังจ่ายเงินปันผลครึ่งหลังไว้ที่ 4% โดยได้รับประโยชน์จากการแข็งค่าของเงินบาท เนื่องจากมีสัดส่วนต้นทุนหลัก คือ เมล็ดถั่วเหลือง ซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศ 90% ที่เหลือ 10% ซื้อในประเทศขณะที่ขายกากถั่วเหลืองและน้ำมันถั่วเหลืองในประเทศเป็นหลัก เช่นเดียวกับบทวิเคราะห์บล.ดีบีเอส วิคเคอร์สฯ ที่ระบุว่าTVO รายได้ของบริษัทดังกล่าวอยู่ในประเทศ ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 1-2 ของปีนี้ดีขึ้น นอกเหนือจากผลดำเนินงานปกติที่คาดว่าจะเติบโตได้ดีต่อเนื่อง ทั้งจากปริมาณขายและอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยในปี 2556 ที่อยู่ในเกณฑ์สูง แนะนำ"ซื้อ"หุ้นTVO ให้ราคาพื้นฐาน 31.80 บาท โดย navapon จันทร์ ม.ค. 28, 2013 5:19 pm

Re: สอบถามหน่อยครับการจองหุ้น IPO ตอบข้อ2 ส่วนใหญ่จะอยู่ตรงกลางเอกสารแผ่นนี้ที่คุณอ่านอยู่นี่แหละ ปล.ไม่ใช่บรรทัดบนสุดในรูปหรือครับ คันทรีกรุป หมายเลขบััญชีก็โชว์อยู่นะ ไอ้709อะไรนั่นแหละ (ผมเคยเจอกระดาษคล้ายๆแบบนี้เหมือนกัน) ตอบข้อ3 น่าจะติ้กถูกในช่องสี่เหลี่ยมอันบนสุด สมาชิกผู้ฝากเลขที่ คือรหัสโบรกเกอร์ของคุณ ส่วนบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ก็บัญชีซื้อขายหุันของคุณเองครับ โดย navapon อังคาร ม.ค. 22, 2013 1:02 am

Re: กรณีนี้ผู้ถือหุ้นต้องชดใช้ค่าเสียหายด้วยหรือครับ อีกประเด็นที่อยากจะเสริมคือ คดีล้มละลาย เป็นคดีแพ่ง ไม่ติดคุก แค่ยึดทรัพย์ แต่ถ้ามีหลักฐานชัดเจน ว่า ผู้บริหารมีการฉ้อโกงจนบริษัทขาดทุนแล้วล้มละลาย หรือ ทำผิดกฎหมายบ้านเมือง อย่างนี้ คนที่บริหารต้องโดนคดีอาญาเพิ่มด้วย อาจติดคุกได้ครับ อันนี้ผู้ถือหุ้นรายย่อยจะไม่เกี่ยว และสินทรัพย์ที่พิสูจน์ได้ว่าฉ้อโกงไปจากบริษัทก็ต้องถูกยึดคืนบริษัทด้วย โดย navapon ศุกร์ ธ.ค. 28, 2012 10:57 am

Re: อยากทราบ 1.องค์ประกอบอื่นของส่วนของผู้ถือหุ้ 2.ตีราคาใหม ขอบคุณ คุณnameisnothing และ คุณAleAle ครับ ผมเลยลองหาข้อมูลเอง เล่นสุ่มงบการเงินบริษัทต่างๆขึ้นมาดูเลยครับ เพราะหาในgoogleก็ไม่เจอ องค์ประกอบอื่นของส่วนของผู้ถือหุ้น 1.ส่วนเกิน (ต่ำกว่า) ทุนอื่น - ส่วนเกินทุนจากการตีราคาสินทรัพย์ถาวร - ส่วนเกิน (ต่ำกว่า) ทุนจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุน - กำไร (ขาดทุน) ที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการลงทุน - ส่วนเกิน (ต่ำกว่า) ทุนจากหุ้นทุนซื้อคืน หุ้นสามัญ - ส่วนเกิน (ต่ำกว่า) ทุนจากรายการในส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทย่อย และ/หรือ บริษัทร่วม - ส่วนเกินทุนจากใบสำคัญแสดงสิทธิที่หมดอายุแล้ว 2.ผลต่างจากการแปลงค่างบการเงิน ส่วนบริษัทที่วิธีวัดมูลค่าสินทรัพย์ PPEด้วยการตีราคาใหม่ เจอคร่าวๆที่น่าศึกษาอยู่ 3 บริษัท loxley global ksl http://www.settrade.com/C04_06_stock_financial_p1.jsp?txtSymbol=LOXLEY&selectPage=6 http://www.settrade.com/C04_06_stock_financial_p1.jsp?txtSymbol=GLOBAL&selectPage=6 http://www.settrade.com/C04_06_stock_financial_p1.jsp?txtSymbol=KSL&selectPage=6 loxley 1.ในส่วน ที่ดิน อาคารอุปกรณ์ มีรายการเพิ่ม คือ "ส่วนที่เพิ่มขึ้นจากการตีราคาที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์" 2.องค์ประกอบอื่นของส่วนของผู้ถือหุ้น ผมเจอ "ส่วนเกินทุนจากการตีราคาสินทรัพย์ถาวร" global เจอแบบเดียวกับ loxleyครับ 1.ในส่วน ที่ดิน อาคารอุปกรณ์ มีรายการเพิ่ม คือ "ส่วนที่เพิ่มขึ้นจากการตีราคาที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์" 2.องค์ประกอบอื่นของส่วนของผู้ถือหุ้น ผมเจอ "ส่วนเกินทุนจากการตีราคาสินทรัพย์ถาวร" ksl 1.ไม่เจอรายการแบบข้างต้น แต่ดันไปเจอ องค์ประกอบอื่นของส่วนของผู้ถือหุ้น มีตัวเลขสูงมาก แต่ไม่แจงรายการออกมา เลยลองไปดูในงบกำไรขาดทุนต่อ 2.ในงบกำไรขาดทุน ตรงงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น ผมเจอ "การเปลี่ยนแปลงในส่วนเกินทุนจากการตีราคาสินทรัพย์" สรุปว่าผมพอจะดูจากงบการเงินเป็นแล้วครับว่า บริษัทใดใช้วิธีตราคาใหม่สำหรับppeบ้าง แต่ยังสงสัยว่า ทำไมบางบริษัทถึงมีแต่ข้อมูลในงบดุล ไม่มีในงบกำไรขาดทุนโผล่มาให้เห็นบ้างเลย ??? อย่าง loxley global เป็นต้น โดย navapon จันทร์ ธ.ค. 17, 2012 11:17 am

Re: แจ้งข่าว.. เพื่อทราบ ด้วยความเคารพครับพี่ธันวา :bow: :bow: :bow: โดย navapon ศุกร์ ธ.ค. 14, 2012 9:46 pm

Re: Shale Gas ทางรอดพลังงานที่โลกยังต้องลุ้น วกกลับมาที่หลักการว่า สินค้าโภคภัณฑ์ ใครควบคุมต้นทุนตํ่าที่สุดได้จะเป็นผู้ชนะที่แท้จริงคนสุดท้าย เพราะ ราคาขายสินค้ากำหนดไม่ได้ ต้องปล่อยตาม demand&supply และราคาขายในตลาดโลก แต่เรื่อง"ต้นทุน"บริษัทสามารถกำหนดชะตาชีวิตตัวเองได้มากที่สุด เท่าที่ดู เล่นใช้แผนบิดเบือนราคา และ ลดราคาแข่งกันอย่างนี้ ธุรกิจที่บริหารงานได้ดีและควบคุมต้นทุนได้ตํ่าจะอยู่รอด ส่วนที่เหลือที่เหลือจะเจ็บตัวกันหมด การที่ราคาทั้งก็าซและถ่านหินมันตํ่าอย่างนี้ไม่ใช่ไม่ดีนะครับ มันเป็นการกำจัดศัตรูทางธุรกิจที่ไม่แข้มแข็งพอไปในตัว แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับความเห็นผม ผมว่าทั้งแก็สและถ่านหินจะรอดในระยะยาวทั้งคู่ครับ (เฉพาะบริษัทที่เยี่ยมยอด ต้นทุนตํ่าเท่านั้นนะ) มนุษย์บริโภคทรัพยากรเท่าไหร่ก็ไม่พอหรอกครับ มันเป็นสัจธรรม :D :D :D โดย navapon พฤหัสฯ. ธ.ค. 13, 2012 1:12 pm

Re: เมื่อดร.นิเวศน์ ระบุว่า valueหายไจากตลาดหุ้นไทยแล้ว ผมคงจะลองดีดูซักตั้ง คงไม่ขายหุ้นเลย ไม่ว่าตลาดจะถล่มหรือเปล่า ถ้าหุ้นมันลงมากจริงๆ จะซื้อเพิ่มอีกครับ :D :D :D วิธีนี้ ถ้าเลือกแล้วต้องทำให้ได้ตลอด หลายคนออกจาตลาดหุ้นเพราะตอนแรกคิดจะใช้วิธีนี้ แต่สุดท้ายทนพิษบาดแผลระหว่างทางไม่ไหว อารมณ์ตอนยังไม่เจอนรก กับตอนถูกเผาอยู่ในนรกมันต่างกันเยอะนะครับ โดนมาเย๊อะ เจ็บมาเย๊อะ ขอบคุณครับสำหรับคำเตือน ผมกิน m150 รอไว้แล้ว^^ หมายเหตุ ถ้าหุ้นขึ้นเต็มราคาผมขายนะ ไม่ใช่สักแต่ถือยาว ผมว่าตอนนี้หุ้นของผมยังunder valueน่ะครับ และมันคงไม่ได้เต็มมูลค่าขึ้นมาทันที ด้วยความตกใจที่ดร.ท่านโพสอย่างนี้ ส่วนถ้าหุ้นตก คงซื้อเพิ่มจริงๆ รอบนี้ ดร.โพสอย่างนี้ อาจจะมี คนขายหมู หรือ รอเชือดหมู อีกเยอะ มารอดูกันว่าจะเป็นแบบไหน เอ่อใครพอจะทรายไหมครับว่า ดร.ท่านบอกประมาณว่า งานเลี้ยงกำลังใกล้ชม.สุดท้าย แล้วตัวดร.เอง ท่านขายไหมครับ โดย navapon จันทร์ ธ.ค. 03, 2012 10:20 am

Re: เมื่อดร.นิเวศน์ ระบุว่า valueหายไจากตลาดหุ้นไทยแล้ว อันนี้อีกอัน http://panwasit-stock.blogspot.com/2012/12/blog-post.html สัมมนา มั่งคั่งด้วยหุ้น ลงทุนอย่างมืออาชีพ ธนาคาร กสิกรไทย 1/12/2555 ของคุณ panwasit เขาสรุปมานะครับ ครึ่งแรกจะเป็น นักวิเคราะห์ กับ ดร นิเวศ ครึ่งหลังจะเป็น นักวิเคราะห์ กองทุน กับ Hong Value นะครับ ไม่เห็น ดร.เขาบอกให้ขายหุ้นดีๆทิ้งเลย :D :D :D โดย navapon อาทิตย์ ธ.ค. 02, 2012 8:51 pm

Re: Tech Stock / ดร. ชาคริต สุวรรณโชติ‏ ขอบคุณครับ โดย navapon อาทิตย์ ธ.ค. 02, 2012 8:46 pm

Re: เมื่อดร.นิเวศน์ ระบุว่า valueหายไจากตลาดหุ้นไทยแล้ว งานเลี้ยงที่กำลังร้อนแรง/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=7&t=54612 โดย navapon อาทิตย์ ธ.ค. 02, 2012 8:41 pm

Re: เมื่อดร.นิเวศน์ ระบุว่า valueหายไจากตลาดหุ้นไทยแล้ว ผมคงจะลองดีดูซักตั้ง คงไม่ขายหุ้นเลย ไม่ว่าตลาดจะถล่มหรือเปล่า ถ้าหุ้นมันลงมากจริงๆ จะซื้อเพิ่มอีกครับ :D :D :D โดย navapon อาทิตย์ ธ.ค. 02, 2012 8:39 pm

Re: กิจการที่ ROE ต่ำไม่มีทางเป็นกิจการที่ดีแน่ๆ ใช่มั้ยครับ ROEมันบอกแต่อดีต ROEยังตํ่าก็แปลว่าธุรกิจยังไม่มีกำไร แต่อนาคตมันไม่ได้จำเป็นต้องเป็นแบบเดิม ถ้าธุรกิจมันมีแนวโน้มดีขึ้นจริง มันก็เปลี่ยนเป็นกิจการที่ดีได้ และสุดท้ายพอกิจการมันดี ROEก็จะดีตามมาเองครับ โดย navapon พฤหัสฯ. พ.ย. 29, 2012 11:10 pm

Re: หุ้น Community/ธันวา เลาหศิริวงศ์ แย่แล้ว จะกดบวกดันโดนปุ่มลบ ขอบคุณบทความดีๆนะครับพี่ธันวา โดย navapon ศุกร์ พ.ย. 23, 2012 12:45 am

Re: ลองหัดทำ Five Force Model มาส่งครับ รบกวนช่วยวิจารณ์ทีคร คุณ vim เอางั้นเลยหรือครับ โห :shock: :shock: :shock: ผมเห็นต่างคุณvimเล็กน้อยครับ 3) อำนาจต่อรองของลูกค้า ลูกค้าเปลี่ยนโปรโมชันได้ หรือไม่ก็ย้ายค่ายมือถือ(โดยคงเบอร์เดิม)ได้ง่ายๆ ผมกลัวว่าลูกค้าจะย้ายค่ายมา ais เพิ่มซะมากกว่า 5) ภัยคุกคามจากผู้แข่งขันหน้าใหม่ การที่บริษัทต่างชาติยังเข้ามาลงทุนไม่ได้เพราะติดกฎหมายไม่ให้คนต่างด้าวถือครองเกิน 49% มองตามจริงผมว่า มันจะยังเป็นอย่างนี้ต่อไปอีกนั่นแหละ คงเปลี่ยนกฎหมายยาก ผมว่ากำแพง barrier of entry นี้ ก็เป็นกำแพงต่อไปเรื่อยๆครับ โดย navapon จันทร์ ต.ค. 29, 2012 12:34 pm

Re: แจ็กผู้ฆ่ายักษ์/ โดย คนขายของ ขอบคุณครับ โดย navapon อาทิตย์ ต.ค. 21, 2012 12:08 pm

Re: ควรเพิ่มบอร์ด หุ้นเอเชียนลิ้งค์ แบบร้อยคนร้อยหุ้นดีไหม เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ครับ และพอดีอ่านเจอข่าวนี้ ไม่เกี่ยวกันกับหัวข้อเท่าไหร่ แต่น่าสนใจดี http://www.ryt9.com/s/iq05/1512798 โบรกฯ แนะหุ้นเด่นมาเลย์-สิงคโปร์รับเชื่อมโยงกระดานเทรดอาเซียน ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 19 ตุลาคม 2555 15:32:55 น. นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า การเปิดตัว ASEAN Trading Link 3 ประเทศเชื่อมโยงตลาดหุ้นไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมาเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการซื้อขายหุ้นของนักลงทุนในแต่ละประเทศที่ทำได้สะดวกมากขึ้น อีกทั้งมองว่าตลาดหุ้นไทยมีจุดเด่นสามารถแข่งขันได้กับตลาดหุ้นมาเลเซีย และสิงคโปร์ เพราะบริษัทจดทะเบียน มีความแข็งเกร่ง ทั้งภาคธุรกิจบริการ อุตสาหกรรม พลังงาน และสถาบันการเงิน นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) แนะนำ หุ้นเด่นในอาเซียน โดยในตลาดหุ้นสิงคโปร์ ได้แก่ ธุรกิจชอปปิ้งมอลล์ เช่น แคปปิตอลมอลล์,สิ่งพิมพ์ สิงคโปร์เพรสโฮลดิ้ง,ธุรกิจสื่อสาร เช่น สตาร์ฮับ และ กลุ่มธุรกิจอื่นๆ เช่น สิงคโปร์เทคโนโลยีเอ็นจิเนียริ่ง,แคปเปิล คอร์ป,เซมบ์คอร์ป มารีน รวมทั้งหุ้นในกลุ่มสถาบันการเงิน และบริษัทข้ามชาติ แมนเชจเตอร์ยูไนเต็ด สำหรับจุดเด่นที่สำคัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นสิงคโปร์ คือหุ้นปันผลสูง โดยบริษัทที่มีพื้นฐานดีในสิงคโปร์ยินดีที่จะจ่ายปันผลสูงถึง 70-80% ของกำไรสุทธิ ส่วนในตลาดหุ้นมาเลเซีย แนะนำหุ้นที่เกี่ยวกับสินค้าเกษตร โดยเฉพาะน้ำมันปาล์ม ซึ่งเป็นจุดแข็งของมาเลเซีย อย่างไรก็ตาม อยากจะให้นักลงทุนให้ความสำคัญกับการเข้าถึงข้อมูลของโบรกเกอร์ด้วย นายโกสินทร์ เจือศิริภักดี ผู้อำนวยการ ฝ่ายการตลาดต่างประเทศ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า หุ้นที่น่าสนใจในอาเซียน แนะนำกลุ่มสถาบันการเงิน สื่อสาร เกษตร เพาะปลูก และ บันเทิง เริ่มจากตลาดหุ้นสิงคโปร์ แนะนำ ธนาคารดีบีเอส ซึ่งมีความแข็งแกร่งสุดในภูมิภาค ธนาคารโอซีบีซี ธนาคารยูโอบี,กลุ่มสื่อสาร แนะนำ สิงเทล และสตาร์ฮับ ,เพาะปลูก แนะนำ โกลเด้นอะกริ ซึ่งทำปาล์มน้ำมัน โอแลม อินเตอร์ เป็นบริษัทที่ซัพพลายเม็ดมะม่วงหิมพานต์รายใหญ่ รวมทั้งงา กาแฟโรบัสต้า โกโก้ ส่วนตลาดหุ้นมาเลเซีย แนะ ธนาคารเมย์แบงก์ ธนาคารซีไอเอ็มบี, กลุ่มสื่อสาร แนะนำ เทเลคอมมาเลย์, กลุ่มเพาะปลูก แนะนำ ไอโอไอคอก ข้อแตกต่างของตลาดหุ้นมาเลเซียและตลาดหุ้นสิงคโปร์ กับตลาดหุ้นไทย คือ การขึ้นเครื่องหมายต่างๆ เช่น การลดทุนคือการจ่ายเงินคืนให้ผู้ถือหุ้น ซึ่งขั้นตอนการปฏิบัติงานของแต่ละที่จะไม่เหมือนกัน หรือการจ่ายปันผลอาจจะช้ากว่าตลาดหุ้นบ้านเรา เพราะต้องผ่านกระบวนการหลายอย่าง หรือข้อมูลการซื้อขายที่เป็น real-time เป็นสิ่งที่ต้องเสียเงินค่าบริการ ไม่ใช้บริการฟรีเหมือนตลาดหุ้นไทย น.ส.ศิริพร ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายการลงทุนหลักทรัพย์ต่างประเทศและซื้อขายตราสารหนี้ บล.ธนชาต กล่าวว่า การลงทุนในบริษัทจดทะเบียนสิงคโปร์ แนะนำกลุ่มบริการด้านสุขภาพ คือ ไบโอเซนเซอร์ ซึ่งเป็นบริษัทยาอันดับ 4 ของโลก และกลุ่มบันเทิง ท่องเที่ยว โดยเฉพาะบริษัทที่มีคาสิโนเพราะเป็นธุรกิจที่ทำรายได้เติบโตสูงทุกปี และ กลุ่มเครื่องดื่มแอกอฮอล์ ส่วนในมาเลเซียแนะนำ เทเลคอมมาเลย์ เพราะมีการกระจายรายได้ไปสู่ธุรกิจอื่น เช่น อสังหาริมทรัพย์ --อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: [email protected] โดย navapon เสาร์ ต.ค. 20, 2012 9:45 am

Re: อบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า 14/10/55 [อ.โจลูกอีสาน/อ.ไพบูล ขอบคุณทั้ง 3 ท่านมากครับ ทั้งคุณ i-salmon คุณโจลูกอีสาน และ อ.ไพบูล โดย navapon จันทร์ ต.ค. 15, 2012 11:51 am

Re: ROE .. สำคัญกว่า .. ROA ยังไงครับ ??? แสดงว่ายังไม่เข้าใจความหมายของroaและroe เร็วๆนี้ ก็มีกระพู้พูดคุยกันเรื่องนี้นะครับ http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=53360 สรุปroeสำคัญกว่าroaอยู่แล้วครับ ชื่อมันก็บอกอยู่แล่ว roa คือ ผลตอบแทนเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ที่เอามาลงทุนทั้งหมด ส่วนroeคือผลตอบแทนต่อเฉพาะส่วนผู้ถือหุ้นเท่านั้น (roaมองกว้าง roeมองให้แคบลง) ดังนั้นในแง่นักลงทุน ต้องมอง roeอยู่แล้ว ถีงจะดี roaสูงๆ แต่roeอาจไม่สูงก็ได้ และกลับกัน roeสูงแต่roeอาจจะตํ่าก็ได้ ยืมคำพูดคุณsathitcmuนะครับ - การดูค่า ROA เป็นการมองภาพประสิทธิภาพการดำเนินงานทั้งกิจการ ซึ่ง Cover ส่วนของผู้ถือหุ้น และ เจ้าหนี้ด้วย ึ - การดูค่า ROE เป็นการมองผลตอบแทนเฉพาะส่วนของผู้ถือหุ้นก็คือเราที่เป็นนักลงทุน ที่อยู่ในสถานะเจ้าของกิจการ)  ถ้ามีหนี้มาก roeก็สูงได้ โดยไม่ต้องเอาเงินผู้ถือหุ้นมาใช้ เพราะใช้เงินกู้มาลงทุนแทน แต่การมีหนี้มันบอกแค่ว่าธุรกิจเสี่ยงขึ้นเฉยๆ ไม่ได้บอกว่ามันไม่ดี เพราะถ้ากู้แล้วคุ้มก็สมควรกู้อยู่แล้ว ส่วนผูุ้ถือหุ้นจะได้ผลตอบแทนด้วยการที่บริษัทมีroeสูงๆ โดยยืมเงินคนอื่น(เงินกู้)มาลงทุนไงครับ ไม่ต้องใช้เงินของผู้ถือหุ้นเอง โดย navapon พฤหัสฯ. ต.ค. 04, 2012 2:24 pm

Re: ซื้อหุ้นง่ายกว่าเซ้งร้านก๋วยเตี๋ยว ใครก็ทำได้ บางคนลงทุนหุ้นไม่เป็น ก็ลงทุนในธุรกิจจริงๆ โดยเฉพาะคนเงินเหลือมากๆ เขาชอบทำกัน แต่สำหรับผม ตั้งแต่รู้จักการลงทุนที่ถูกวิธี ไม่เคยคิดจะทำธุรกิจเองเลยครับ วิธีการนี้มันเหมาะกับผมมากสุด ไม่ต้งออกแรง ใข้แต่สมองคิดๆๆ เห็นคนรวยๆแถวบ้าน ลงทุนอะไรกัน บางทีรู้สึกว่าเขาไม่น่าเลย อย่างสร้างรีสอร์ตทั้งที่ทำเลไม่ได้เรื่องเลย บางคนหนี้ก็มาก ยังกู้มาซื้อตึกแถว แต่ดันไม่มีคนมาเช่า แล้วรายได้ หรือ มูลค่าที่ดิน มันจะทันดอกเบี้ยแบงค์กับกำหนดชำระหนี้ไหม เห็นแล้วสมเพชครับ ผมว่าถ้าเราอ่านธุรกิจเก่งๆ จะลงทุนผ่านหุ้นหรือ ลงทุนทำธุรกิจเองจริงๆ มันก็ได้หมด แต่ทำธุรกิจมันเหนื่อยกว่าเพราะต้องบริหารทุกอย่าง ต้องออกแรงจริงๆ ทุ่มเททั้งแรงการและใจด้วย ต้องบริหารหน้าร้าน ต้องทำการตลาด ต้องเรียกแขก เชียร์ลูกค้า บริหารสต๊อก ทำบัญชีรับจ่ายและงบการเงินส่งสรรพากร (อยู่ดี) ไม่ต่างกับลงทุนผ่านหุ้น ต้องบริหารดูแลลูกน้อง เป็นต้น และ เขาว่า "การบริหารคน" คือส่วนที่ยากที่สุดในการธุรกิจด้วยซํ้า เหนื่อยแน่ครับ ซื้อหุ้นแล้ว นอนกระดิกเท้า กินปันผลเอา ผมว่าสบายกว่า ติดตามข่างธุรกิจบ้าง แล้วทุก 3 เดือนก็ดูผลประกอบการทีหนึ่ง ชิลๆ (อีกสัก 20 ปี ผมจะทำตามประโยคนี้ "นอนกระดิกเท้า กินปันผลเอา" ให้ได้ ผมขอพอร์ต 9 หลักก็พอใจแล้วครับ) :D :D :D โดย navapon พุธ ต.ค. 03, 2012 9:28 pm

Re: หุ้นกับสงคราม/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ด้วยความเคารพ อาจารย์นิเวศน์ สมเป็นปรมาจารย์ธุรกิจและรํ่ารวยจริงๆครับ ข้าน้อยขอคาราวะ โดย navapon พฤหัสฯ. ก.ย. 27, 2012 9:22 pm

Re: ความเชื่อที่อันตรายของ VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ขอบคุณครับ โดย navapon อาทิตย์ ก.ย. 23, 2012 11:50 pm

Re: สารคดีชีวิตสัตว์โลก :: กลยุทธ์ถัวเฉลี่ย ซื้อขาขึ้น ???? แมงเม่าทั้งหลาย เขาก็ชอบอย่างนี้แหละครับ ตอนถูกๆไม่ซื้อ พอเห็นหุ้นขึ้ยเยอะๆแพงๆแล้ว ค่อยอยากได้ ซื้อเฉลี่ยขาลง ข้อดี - ต้นทุนถูกลง ข้อเสีย - หุ้นตกแสดงว่าธุรกิจมันมีปัญหา หากเลือกผิด ไปเลือกตัวที่ไม่ฟื้น ก็จะเจ๊งได้ วิธีแก้ - เวลาเห็นหุ้นตกมากๆต้องตรวจสอบข้อมูลให้ละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้นว่า ธุรกิจประสบปัญหาอะไรหรือไม่ แก้ไขได้หรือไม่ ก่อนซื้อเพิ่ม - การซื้อเฉลี่ยขาลงต้องมีขอบเขต ไม่ทุ่มเงินหมดตัว กับหุ้นตัวที่ลงเพียงตัวเดียว อาจจะกำจัดวงเงินไว้ และควรให้หุ้นตกมากในระดับที่คุณยอมรับได้ว่า พอใจที่จะซื้อและถือในราคานี้ไปอีกนานๆ จนมันฟื้น จึงค่อยเข้าไปซื้อ ไม่ใช่หุ้นตกนิดตกหน่อย ก็รีบซื้อ ไม่อย่างนั้น คุณมีเงินเท่าไหร่ก็ไม่พอครับ รีบเข้าไปช้อนซื้อ ระวัง"ช้อนจะหัก"ซะก่อน วีไอที่ดีควรรอซื้อได้เก่ง(รอนานๆเป็นปี จนหุ้นมีราคาถูกมากๆ) พอๆกับการ ทนถือหุ้นดีๆ ได้นานเป็นปีๆ เช่นกัน จนมันเต็มมูลค่า ความเห็นส่วนตัว - ผมชอบซื้อเฉลี่ยขาลงมากกว่าครับ แต่ต้องรู้มูลค่าที่แท้จริงของหุ้นนั้นก่อนซื้อนะครับ - อีกกรณีที่ชอบซื้อคือ ตอนหุ้นลงทั้งตลาดหนักๆ โดยหุ้นที่เราสนใจไม่ได้ประสบปัญหาอะไร แต่เป็นจากพานิคเซล อย่างนี้ได้หุ้นถูกชัวร์ ซื้อเฉลี่ยขาขึ้น ข้อดี - ความสบายใจ(ชั่วคราว) ข้อเสีย - ต้นทุนที่ซื้อ ใกล้เคียงกับราคาหุ้นในตลาดอยู่ตลอดเวลา (โดยเฉพาะตัวที่เพิ่งซื้อครั้งหลังๆ) . ต้นทุนที่ซื้อ ใกล้เคียงกับราคาหุ้นในตลาดอยู่ตลอดเวลา (โดยเฉพาะตัวที่เพิ่งซื้อครั้งหลังๆ) . ถ้าราคาหุ้นในตลาดตกเมื่อไหร่ มีโอกาสที่เห็นตัวแดงในพอร์ตได้เช่นกัน . ยกเว้น เก่งระดับเทพ คือรู้แน่ๆว่าหุ้นมันจะขึ้นต่อไปอย่างเดียว ก็ทำอย่างนี้(ซื้อขาขึ้น)เพิ่มไปได้เรื่อยๆ . สำหรับคนที่ไม่ชอบไม่สบายใจที่จะเห็นตัวแดง(หรือขาดทุน) ก็ควรที่จะมีจุด คัทลอส แต่อย่างนี่มันจะห่างจากแนวทางวีไอมากขึ้น เพราะซื้อขายเนื่องจากโดนชักจูงด้วย ราคาหุ้นขึ้นๆลงๆ แทนที่จะมีเหตุผลจาก ธุรกิจดีหรือแย่ เป็นตัวกำหนดให้ซื้อหรือขาย วิธีแก้ - ซื้อด้วยจำนวนเงินคงที่และจำกัดวงเงิน แบบเดียวกับการซื้อเฉลี่ยขาลงเช่นกัน เช่น อาจแบ่งออกเป็น ซื้อ 3-4 ไม้ ในจำนวนเงินเท่ากัน แต่การซื้อครั้งหลังๆก็จะได้จำนวนหุ้นน้อยลง สำหรับความเห็นที่ว่า ซื้อขาขึ้นแล้วจะสบายใจกว่า เพราะไม่ต้องทนเห็นตัวแดงๆ เลยแนะให้ ซื้อเฉลี่ยขาขึ้น ผมไม่เห็นด้วยกับเหตุผลแบบนี้ คุณแน่ใจเหรอว่า ขณะซื้อเพลินๆอยู่ จะไม่เจอหุ้นพลิกเป็นขาลง ในระยะสั้น ไม่มีใครเดาได้หรอกว่า หุ้นจะขึ้นเมื่อไหร่ หรือ มันจะลงเมื่อไหร่ ยกเว้นคุณโกหก ถ้าเดาได้จริง ไม่เกิน 3-5 ปี ผมว่าคุณคงรวยที่สุดในโลกไปเลย แม้แต่คนที่เก่งหุ้นที่สุดอย่าง วอเรนต์ บัฟเฟตต์ ยังไม่รู้เลยครับว่า พรุ่งนี้หุ้นจะขึ้นหรือหุ้นจะลง สรุป ผมมองว่า ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขาขึ้นหรือขาลงลงก็ไม่มีผล และไม่ควรเอามาเป็นประเด็น ถ้าจะใช้วิธีแบบวีไอ เพราะจะมองข้ามความผันผวนของราคาระยะสั้น แต่มองยาวๆและประเมินมูลค่าของกิจการไว้แล้ว ถ้ามันยังมีมูลค่าสูงกว่าราคาหุ้นในกระดานที่ซื้อขายกันอีกมาก ราคาหุ้นมันจะขึ้นจะลง หากเราเข้าใจธุรกิจจริง มองมูลค่ามันออก เราไม่กลัวเลยครับ สุดท้ายจริงๆแล้ว จะ ซื้อเฉลี่ยขาขึ้น หรือ ซื้อเฉลี่ยขาลง ถ้าราคาหุ้นตอนนี้ มันยังตํ่ากว่ามูลค่าที่แท้จริงมากๆ ผมยินดีทั้งนั้น ไม่เลือกวิธีการครับ โดย navapon จันทร์ ก.ย. 10, 2012 7:15 pm

Re: ประสบการณ์ที่ได้รับจากหุ้น it 1. ราคาหุ้นสะท้อนผลการดำเนินการ 2. ไม่ควรซื้อหุ้นถั่วเฉลี่ยขาลง ในกรณีที่ราคาลงเพราะผลประกอบการไม่ดี เพราะจะขาดทุนมากขึ้น 3. ควร cut loss ให้เร็ว ถ้าผลการดำเนินการเปลี่ยน อย่าคิดว่าไม่ขายไม่ขาดทุน ไม่ทราบว่าคุณ SOI มองว่า ผลการดำเนินงานแย่เพราะอะไร และมันแค่ชั่วคราว หรือ จะแย่ลงเรื่อยๆถาวรครับ ถ้ามันแย่ชั่วคราว เป็นผม ผมจะซื้อหุ้นครับ โดย navapon ศุกร์ ส.ค. 24, 2012 8:34 pm

Re: เราสามารถใช้ค่าเสื่อมราคามาใช้ประโยชน์ได้อย่างไรครับ http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=7&t=51652 รายจ่ายฝ่ายทุน จะอธิบายเรื่องค่าเสื่อมไว้ด้วย ลองอ่านบทความในห้องนี้เยอะๆก่อน ลองหัดใช้คำสั่งsearchดูก็ได้ครับ แล้วให้หาคำว่า"ค่าเสื่อม" (เหมือนคำถามมันจะง่ายจนไม่มีคนตอบ เลยสงสารน่ะครับ) เป็นกำลังใจให้ครับ สู้ๆ อ่านเยอะๆก่อน ไม่เข้าใจจริงๆแล้วค่อยมาถามอีก :D :D :D โดย navapon อังคาร ส.ค. 14, 2012 11:23 pm

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร ธุรกิจที่ดีจริง พื้นฐานมันคงไม่เปลี่นกันทุกเดือนหรือทุกปีหรอกครับ :mrgreen: โดย navapon ศุกร์ ก.ค. 27, 2012 10:31 pm

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร ผมว่าช่วงหลังๆ เวลาหุ้นตก มีคนอ้างคำว่าพื้นฐานเปลี่ยนกันบ่อยมากๆ กับเหตุการณ์ต่างที่เข้ามากระทบธุรกิจ (วีไอ เริ่มมีจำนวนเยอะขึ้น หุหุหุ) เราคงต้องดูกันให้ดีๆว่าพื้นฐานมันเปลี่ยนจริงหรือเปล่า หรือแค่เหตุร้ายชั่วคราวแล้วตื่นตูมกันไปเอง (ซึ่งกรณีหลัง เป็นเวลาที่จะซื้อหุ้นเพิ่มนะครับ ไม่ใช่ขายทิ้งหนีตาย) ส่วนสำหรับผม พื้นฐานเปลี่ยนหรือเปล่า คงต้องดูที่ ความได้เปรียบในการแข่งขันที่ยั่งยืน หรือ DCA นั่นแหละ ว่ามันยัง"ยั่งยืน"ดีอยู่ไหม ซึ่งก็คงต้องประเมินจากfive force modelอีกทีครับ :D :D :D โดย navapon ศุกร์ ก.ค. 27, 2012 10:29 pm

Re: เอาแบบซื่อๆเลยครับ รายได้หักค่าใช้จ่ายแล้ว เดือนละแสนห้า ศึกษาหาความรู้มากๆก่อนครับสำหรับมือใหม่ ที่คุณคิดมีโอกาสทำได้จริงครับ แต่ก็ไม่ง่ายนัก ผมมีความตั้งใจ จะเอาเงินมาลงทุนในหุ้นทุกเดือน จำนวน 1 แสนบาท ประโยคนี้ ผมไม่เห็นด้วยครับ ผมว่ามือใหม่ซักเดือนละ 50,000 ไปก่อน ดีกว่าไหมครับ ต้องคิดเผื่อพลาดไว้ด้วย รอจังหวะดีๆแล้วค่อยซัดไม้ใหญ่ทีเดียวดีกว่า ว่าแต่ ถ้าหาหุ้นได้"ทุกเดือน"นี่ ฝีมือไม่ธรรมดาแล้วนะครับ ผมยังหาไม่ได้เลย :D :D :D โดย navapon ศุกร์ ก.ค. 13, 2012 11:22 pm

Re: ด่วน การรับสมัครสมาชิกของสมาคมอย่างเป็นทางการ ผมลองเสนอแนวทางเสริมนะครับ เฉพาะห้องมือใหม่ อาจจะให้ บุคคลทั่วไปโพสถามได้ โดยต้องสมัครและยืนยันตัวบุคคลก่อน แต่ยังไม่ต้องเสียค่าสมาชิก จะเป็นการเปิดทางเข้าเวปให้กว้างหน่อยนะครับ สำหรับมือใหม่จริงๆ การอ่านอย่างเดียว กับ มีคนมาตอบข้อข้องใจง่ายๆแบบ interactive เขาจะประทับใจกว่า และมีแนวโน้มจะสมัครสมาชิกแบบยอมเสียเงินด้วยความเต็มใจมากขึ้นครับ (ไม่รู้ผมเรื่องมากไปหรือเปล่า แต่ผมว่าดีนะ) :D :D โดย navapon อาทิตย์ ก.ค. 01, 2012 12:35 am

Re: ด่วน การรับสมัครสมาชิกของสมาคมอย่างเป็นทางการ ผมรู้สึกว่าบางท่านก็ค่อนข้างเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากไป ถ้ารับเงื่อนไขไม่ได้มากๆ ง่ายๆครับ ก็อย่าสมัครสิครับ และอีกเรื่อง การวิจารณ์หรือมองในแง่ร้าย ควรจะอยู่ในขอบเขตบ้างนะครับ ถ้ามากเกินไปมันจะกลายเป็นหมิ่นประมาท และมีโทษทางกฎหมายจริงๆนะครับ ผมนับถือพี่ฉัตรชัยมากที่ไม่โกรธเลยครับและตอบกลับด้วยเหตุผลตลอด โดย navapon เสาร์ มิ.ย. 30, 2012 10:47 am

Re: ด่วน การรับสมัครสมาชิกของสมาคมอย่างเป็นทางการ ขอยืนยันอีกครั้ง ผมเห็นด้วยกับการเก็บ 500 บาท/ปี ค่าสมาชิกครับ และส่วนที่เข้าห้องร้อยคนร้อยหุ้นไม่ได้ หากไม่เป็นสมาชิกก็เห็นด้วยครับ ผมว่าห้องนี้เป็นห้องพิเศษ และ advance ที่ควรจะต้องมีความรู้การลงทุนก่อนพอสมควร จึงจะเข้ามาอ่านได้ เพราะมันเป็นดาบสองคม หากมือใหม่เข้ามาอ่านได้เลย บางทีก็ไม่สนที่หาความรู้พื้นฐานจากห้องอื่นๆก่อน จะเข้ามาหาหุ้นเลยอย่างเดียว การจ่ายเงินแค่ 500 บาท จริงอยู่ สกัดพวกมือใหม่เงินหนาไม่ได้ แต่อาจอาจทำให้เขาสนใจหาความรู้ในห้องอื่นด้วยมากขึ้น จะได้คุ้มกับ 500 บาทไงครับ อีกเรื่องครับ ผมขอเสนอว่า สมาชิกใหม่หรือมือใหม่ที่ไม่เคยรู้จักเวปมาก่อน 1 ปีแรก เก็บครึ่งเดียว หากเขาเห็นว่าเวปดีมีประโยชน์ ค่อยให้เขาจ่ายเต็มๆครับ (หรือจะไม่สนใจก็ได้ หากคิดว่าของเราดีจริง ไม่จำเป็นต้องลดราคาก็ได้) เรื่องprivacyไม่อยากเปิดเผยตัวตน ทางสมาคมก็ชี้ทางแก้แล้วนะครับ ท่านปรทาจารย์ทั้งหลายก็โปรดเมตตาเด็กรุ่นใหม่ๆด้วยแล้วกันครับ :bow: ติดใจเรื่อง company visit ครับ เห็นบางท่านว่า สิทธิคนได้ไปไม่เสมอภาค ตรงนี้มันแก้ไม่ยากนะผมว่า ส่วนเรื่องคนที่ไม่ได้ไป แล้วอ้างว่า คนที่ไป สมควรเอาความรู้มาแจก เพราะตนเองก็เสียเงิน 500 บาทค่าสมาชิกเหมือนกัน ผมว่าไม่ค่อยเหมาะนะ อย่างนี้ผมนั่งๆนอนๆก็มีคนมาป้อนความรู้ให้น่ะสิ ไม่ต้องไปก็ได้ แต่ก็แล้วแต่ทางสมาคมจะกรุณา หากเปิดให้ข้อมูลตรงนี้ฟรีด้วยก็ดีสิครับ มันก็มีปัญหาอีกว่าค่าใช้จ่ายตอนไปcompany visit ใครออก ออกกันเองหรือ สมาคมออก หากสมาคมออก ก็อาจจะให้คนที่ไป เสียสละ อัดวีดีโอมาก็ดี(แค่เสนอเฉยๆนะครับ) แต่ถ้าเป็นภาระกับสมาคมมาก ก็เก็บค่าสมาชิกเพิ่มก็ดีนะ (หุหุ พูดจริงนะ) แต่ละคนก็คิดถึงผลประโยชน์ตัวเอง จ่ายแค่ 500 บาท จะเอาอย่างนั้นอย่างนี้ให้คุ้ม เรื่องนี้มันพูดยากว่า แค่ไหน เรียกว่าพอดี อย่าโกรธกันนะครับสำหรับคนที่ไม่เห็นด้วยกับผม ขอโทษล่วงหน้าเลยครับ :D :D :D โดย navapon พฤหัสฯ. มิ.ย. 28, 2012 11:24 am

Re: ด่วน การรับสมัครสมาชิกของสมาคมอย่างเป็นทางการ ผมอยู่ต่างจังหวัด อยากให้สมัครทาง e-mail ได้น่ะครับ จะรีบเลย :D :D :D โดย navapon พุธ มิ.ย. 27, 2012 6:24 pm

Re: ด่วน การรับสมัครสมาชิกของสมาคมอย่างเป็นทางการ 1.ไม่ทราบทางผู้จัด พอจะแจ้งค่าใช้จ่ายประจำของทางสมาคมได้ไหมครับ สมาชิกจะได้รับทราบว่าทางสมาคมต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง จะได้เข้าใจกันมากขึ้น 2. เรื่องราคาค่าสมัครสมาชิก ผมว่าขึ้นกับ ต้องการกรองหรือมีเป้าหมายทางการตลาด อยู่ที่คนกลุ่มใด ราคาสูงตําย่อมมีผล สำหรับผมราคาระดับนี้ ผมโอเคครับ แต่เพื่อนๆท่านอื่นบางคนเขาก็ว่าแพงไป และอาจมีผลทำให้จำนวนสมาชิกลดลงได้ในอนาคต แล้วมันจะดีหรือครับ 3.คนที่ไม่สมัคร เข้ามาอ่านหาความรู้ในเวปได้หรือไม่ แค่ไหนครับ กลัวลูกค้าหาย แล้วเวปจะลดความนิยมนะครับ โดย navapon พุธ มิ.ย. 27, 2012 6:23 pm

Re: เล่นบอล-เล่นหุ้น/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร บางคนแย้งว่า การเล่นพนันบอล ก็ต้องดูปัจจัยพื้นฐานเหมือนกันว่า ทีมไหนเก่งทีมไหนน่าจะชนะ คนที่ศึกษาเรื่องบอลมาก ก็มีโอกาสทายถูกมาก (ไม่ใช่การเดาล้วนๆแบบแทงไฮโล ไม่สูงก็ตํ่า ซึ่งโอกาสมีแค่ 50/50) ดังนั้นดูแล้วไม่ต่างกับแนวทางวีไอ แต่อาจารย์ตอบมาอย่างนี้ถูกใจมากครับ จะได้เห็นกันเลย ว่ามันต่างกันกับแนวทางวีไออย่างไร โดย navapon อาทิตย์ มิ.ย. 24, 2012 9:50 pm

Re: จะบริโภคข่าว "ได้ดี" "ต้องมี"งบการเงินเป็นพื้นฐาน อย่างข่าวดี ดูแต่ข่าวก็รู้ว่ากิจการมันน่าจะดี แต่จะดีแค่ไหน มันก็ต้องลงรายละเอียดว่ากันที่ตัวเลขกันอยู่ดี ถูกไหมครับ โดย navapon อาทิตย์ มิ.ย. 24, 2012 9:41 pm

Re: จะบริโภคข่าว "ได้ดี" "ต้องมี"งบการเงินเป็นพื้นฐาน ดูแต่ข่าวสร้างภาพพจน์ดีๆในอนาคต ยังไงก็เหมือนรู้หน้าไม่รู้ใจ สมัยก่อนหมดเม็ดอะไรไว้บ้างหรือเปล่าเราก็ไม่รู้ ถ้าดูงบการเงินก็เหมือน เรารู้อดีตตัวตนที่ผ่านมาของบริษัทด้วย ยังไงก็ต้องดูทั้งสองอย่างพร้อมกัน และถ้าไม่ดูงบ ถึงหุ้นจะมีอนาคตมีคุณภาพดีจริงๆ แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าหุ้นแพงไปแล้วล่ะ (คือ ถ้าไม่ดูงบ อยากทราบว่าจะประเมิน fair value ยังไงครับ) โดย navapon อาทิตย์ มิ.ย. 24, 2012 9:36 pm

Re: วิบากกรรมของบริษัทถ่านหิน จากรายการแกะรอยหุ้นครับ ตัวบริษัทบ้านปูเอง ดูเขายังสู้และมีความหวังอยู่นะครับ แต่จะรอดหรือเปล่า นี่อีกเรื่อง http://www.youtube.com/watch?v=U6RPzQqPTQo&feature=player_embedded U6RPzQqPTQo โดย navapon เสาร์ มิ.ย. 23, 2012 11:34 am

Re: กระชากหน้ากาก"เฮสด์ฟันด์"ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ผมว่าหม่อมกรเขาคนละแนวกับ บัฟเฟตต์กับอาจารย์นิเวศน์เลยนะ วิธีการต่างขั้วกันเยอะ ไม่ถูกจริตผมเลยน่ะครับ โดย navapon อังคาร มิ.ย. 12, 2012 12:08 pm