หน้าแรก
เว็บบอร์ด
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
MisterK
Joined: จันทร์ เม.ย. 04, 2005 12:11 pm
857
โพสต์
|
กำลังติดตาม
|
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - MisterK
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
พระราชบัญญัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2550/E/103/1.PDF กำหนดแบบบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2550/E/102/12.PDF
โดย
MisterK
จันทร์ ส.ค. 27, 2007 10:05 am
0
0
หลักเกณฑ์การเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริกา
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2550/E/102/5.PDF อ่านแล้วกฏหมายนี้มีผลกระทบกว้างกว่าที่คิดไว้เยอะเลย เอิ้ก คลุมไปถึงบริษัทโทรศัพท์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ ดาวเทียม อินเตอร์เน็ต รวมทั้ง email, webboard และ blog ต้องจัดเก็บข้อมูลหมด ไม่รู้ครอบคลุมถึงบริการต่างประเทศด้วยหรือเปล่า ต่อไปจะใช้ gmail, yahoomail ได้หรือเปล่านี่ สงสัยเราคิดไม่สร้างสรรอีกแล้ว :oops:
โดย
MisterK
จันทร์ ส.ค. 27, 2007 10:03 am
0
0
พระราชบัญญัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
คงมีแต่เมืองไทยที่บุกเข้ายึด server กันดื้อ ๆ โดยไม่สนใจว่าใน server จะมีเวปที่ไม่เกี่ยวข้องอยู่กี่พันเวป ถือว่าโชคร้ายเองที่โฮสดันไปอยู่กับ server นั้น :twisted: และที่สำคัญสิ่งที่อาจเกิดขึ้นคือยึด server แล้วก็สามารถใส่ข้อมูลสารพัดผิดเข้าไปง่าย ๆ เพราะเป็นข้อมูลดิจิตัล ใส่ความผิดกันได้ง่ายกว่ายัดยาบ้าหลายล้านเท่า :oops: http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=9162&SystemModuleKey=HilightNews&System_Session_Language=Thai ข่าวเล็กๆ ข่าวหนึ่ง ที่อาจไม่เด่นดัง แต่ก็สะเทือนคนวงการออนไลน์ไม่น้อย เกิดขึ้นเมื่อเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ให้บริการของเว็บไซต์ตลาดดอทคอม ถูกตำรวจบุกเข้าไปยึดเครื่องเซิร์ฟเวอร์ คนทั้งวงการตื่นตระหนก หรือนี่คือผู้เคราะห์ร้ายรายแรกของพระราชบัญญัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550! แต่เปล่าเลย แม้วิธีการยึดเซิร์ฟเวอร์จะเป็นเรื่องที่แทบจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในวงการตำรวจบ้านเรา เหมือนที่กฎหมายคอมพิวเตอร์ก็เป็นเรื่องใหม่ซิงๆ ที่เพิ่งแกะกล่องออกใช้เมื่อ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา แต่การกระทำครั้งนี้ เกิดขึ้นตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และเหตุที่ต้องยึดเครื่องเซิร์ฟเวอร์ไปนี้ เพราะเป็นเครื่องแม่ข่ายให้กับเว็บไซต์มากมาย โดยเว็บไซต์ตลาดดอทคอมก็เป็นหนึ่งในนั้น เครื่องเซิร์ฟเวอร์จึงไม่ต่างจากหลักฐานชิ้นหนึ่ง เป็นหลักฐาน ชนิดใหม่ ที่ตำรวจอยากนำไปสืบสวน แต่ไม่ว่าการยึดเซิร์ฟเวอร์นี้จะอ้างตามกฎหมายใดก็ตาม สิ่งที่ต้องหาคำตอบ และทำความเข้าใจร่วมกัน คือ การยึดเครื่องแม่ข่ายนั้น ทำไปเพื่อประโยชน์อะไร (หรือทำอย่างไรจึงจะได้ประโยชน์ต่อคดี) ควรมีกระบวนการอย่างไร ทำไปภายใต้วิธีคิดแบบใด รวมถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ศึกษากรณีตลาดดอทคอม ยึดเซิร์ฟเวอร์ไปทำไม ข้อสังเกตหนึ่งที่เกิดขึ้นกับกรณีการยึดเครื่องแม่ข่ายของตลาดดอทคอม คือ มีเหตุผลอะไรที่ภาครัฐต้องการยึดเครื่องไป? นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการผู้จัดการบริษัทตลาด คอท คอม จำกัด และอุปนายกสมาคมผู้ประกอบการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย (E-Commerce) เล่าว่า ในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการ ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รัฐมาขอข้อมูลจากบริษัทของเขาหลายครั้ง เจตนารมณ์ของบริษัทคือให้บริการธุรกิจอีคอมเมิร์ซ์ และเมื่อมีสินค้าผิดกฎหมายก็ปิดบริการทันที เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาขอข้อมูล โดยมีเอกสารมาอย่างเป็นทางการ ก็จะรวบรวมข้อมูลให้เท่าที่ต้องการ เขาเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตลาดดอทคอมว่า เรื่องเริ่มต้นเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 50 ที่เจ้าหน้าที่กองปราบปรามการค้าเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ติดต่อมายังบริษัท แจ้งว่ามีเว็บไซต์ 8 แห่งที่มีสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งนายภาวุธก็ได้รวบรวมข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ต้องการให้ และคิดว่าเรื่องทุกอย่างน่าจะจบแล้ว แต่ปรากฏว่าเมื่อเวลาผ่านไป 1 เดือน ในวันที่ 25 ก.ค. เจ้าหน้าที่กลับเข้ามายึดเครื่อง โดยมีหมายค้นมาจากศาลทรัพย์สินทางปัญญา และอิงความผิดตามพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ ในการยึดเครื่องเซิร์ฟเวอร์ไปเป็นหลักทางในกรณีความผิดของทั้ง 10 เว็บไซต์ (จากเดิมที่ขอข้อมูลครั้งแรกไป 8 เว็บไซต์) ข้อสงสัยที่เกิดขึ้นคือ ทำไมต้องยึดเซิร์ฟเวอร์ เพราะที่ผ่านมา การขอข้อมูลก็ได้รับความร่วมมือจากผู้ให้บริการเป็นอย่างดี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้เหตุผลว่า ขอมูลที่มีนั้น มันไม่พอ และเมื่อคิดต่อไปว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการอย่างไรหลังจากยึดเครื่องไปแล้ว วิธีการก็คือ การcopy image (สำเนา ภาพเหมือน ข้อมูล) ข้อมูลที่ต้องการไป ซึ่งหากขอข้อมูลไปจากเจ้าของเครื่อง ก็จะได้ข้อมูลไปแบบเดียวกัน แต่เหตุผลที่จะไม่ทำแบบนั้น เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงว่า ข้อมูลต่างๆ จะถูกแก้ไขเสียก่อน จึงชิงยึดเซิร์ฟเวอร์ไป แล้วดึงข้อมูลด้วยตนเอง ถ้าเป็นเช่นนั้น คำถามคือ แล้วประชาชนจะมั่นใจได้อย่างไร ว่าเมื่อเจ้าหน้าที่นำเครื่องไปแล้ว จะเชื่อมั่นได้ว่าจะไม่แก้ไขข้อมูลของประชาชน คำถามนี้ ใครจะตอบ? จากเหตุการณ์นี้ ทำให้เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา สมาคมผู้ประกอบการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย สมาคมผู้ดูแลเว็บไทย และมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ร่วมกันแถลงการณ์ต่อกรณีการยึดเครื่องเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าว วรวุฒิ อุ่นใจ อุปนายกสมาคมผู้ประกอบการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย กล่าวว่า การยึดเครื่องเซิร์ฟเวอร์ ก็เปรียบเหมือนมีห้างสรรพสินค้า ในห้างนั้นมีร้านค้ามากมาย แต่เมื่อร้านหนึ่งขายของผิดกฎหมาย ก็แก้ไขด้วยการปิดห้างสรรพสินค้าทั้งห้างเลย เขากล่าว่า กรณีการยึดเครื่องเซิร์ฟเวอร์ หมายถึงการปิดธุรกรรมของผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็คทรอนิกส์ การดำเนินการดังกล่าวเกิดผลกระทบกับผู้ประกอบการอิเล็คทรอนิกส์ทั้งหมด ทุกวันนี้ อีคอมเมิร์ซมีปัญหาอยู่แล้ว แล้วเจ้าหน้าที่กลับมาเพิ่มแรงกดดันเสียเอง อุปนายกสมาคมผู้ประกอบการค้าพาณิชย์อิเล็คทรอนิกส์กล่าว สมาคมอีคอมเมิร์ซไม่เห็นด้วยกับการยึดเครื่องแม่ข่ายของผู้ให้บริการ ซึ่งส่งผลกระเทือน ทำให้ลดทอนความมั่นใจของผู้ค้าออนไลน์ไม่ว่าฝ่ายใดก็ตาม อีคอมเมิร์ซเป็นเรื่องใหม่ในประเทศไทย เกิดมาไม่ถึง 10 ปี ดังนั้นเป็นไปได้ที่จะต้องเจออะไรใหม่ๆ กรณีใหม่ๆ ที่ต้องเรียนรู้ไปพร้อมกัน แต่อย่างหนึ่งคือ เมื่อเกิดปัญหา มันควรต้องมีการแก้ปัญหาร่วม เจ้าหน้าที่อาจจะมีมุมมองที่คนละทิศคนละทาง อยากให้มีการปรับร่วมกัน เพราะอย่างน้อยอีคอมเมร์ซก็จะช่วยให้เศรษฐกิจประเทศเราดีขึ้น วรวุฒิกล่าว วิธีการประสานงานและการดำเนินการระหว่างผู้ให้บริการกับรัฐ มันควรวางร่วมกัน กฎกระทรวง ว่าด้วยการยึดและอายัดระบบคอมพิวเตอร์ อย่างไรก็ดี แม้สังคมไทยยังคลางแคลงใจกับวิธีการ ยึดและอายัด เครื่องเซิร์ฟเวอร์ แต่เร็วๆ นี้กำลังจะมีกฎกระทรวงฉบับใหม่ออกมาประกาศใช้ คือกฎกระทรวงว่าด้วยการยึดหรืออายัดระบบคอมพิวเตอร์ พ.ศ.... ซึ่งเป็นกฎหมายลูกของพระราชบัญญัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 ก.ค. ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบกฎกระทรวงดังกล่าวแล้ว ขั้นตอนหลังจากนี้ คือรอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาร่างกฎกระทรวงดังกล่าว จากนั้นจึงจะนำเสนอเข้าสู่คณะรัฐมนตรีลงนามอีกครั้ง ก่อนจะประกาศในราชกิจจานุเบกษา นอกจากกฎกระทรวงฉบับนี้แล้ว ยังมีกฎหมายลูกอื่นๆ ที่จะออกมาภายใต้พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.... ซึ่งกระทรวงไอซีทีเตรียมจะออกประกาศอีก 4 ฉบับ คือ หลักเกณฑ์การเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการ, หลักเกณฑ์เกี่ยวกับคุณสมบัติของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายฉบับนี้, ประกาศเรื่องรูปแบบบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ และประกาศเกี่ยวกับโปรแกรมชุดคำสั่งไม่พึงประสงค์ (มัลแวร์) สำหรับร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ มีเนื้อหาถึงขั้นตอนและวิธีการที่พนักงานเจ้าหน้าที่จะดำเนินการยึดหรืออายัดระบบคอมพิวเตอร์จากเจ้าของหรือผู้ครอบครองเพื่อเอาไว้ใช้เป็นหลักฐาน แต่ทันทีที่ได้เห็นเนื้อหาของร่าง ก็เห็นชัดทันทีว่า ร่างกฎกระทรวงฉบับนี้มอง "ระบบคอมพิวเตอร์" เป็นเหมือนครุภัณฑ์ทั่วไป เช่น แท่นพิมพ์ เครื่องส่งสัญญาณ ทีวี ตู้เย็น ฯลฯ นั่นคือ ไม่ได้คำนึงถึงว่า บางส่วนของอุปกรณ์ในระบบคอมพิวเตอร์นั้น เป็นอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บข้อมูล และตัว "ข้อมูลคอมพิวเตอร์" ข้างในนั้นต่างหาก ที่มีความสำคัญกว่าตัวอุปกรณ์จัดเก็บเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับการนำไปใช้เป็นหลักฐานในการสอบสวนดำเนินคดี ร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ ละเลยสาระสำคัญเรื่อง "ข้อมูลคอมพิวเตอร์" ไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งรวมถึงสาระที่ว่า จะป้องกันการแก้ไขทำลายข้อมูลคอมพิวเตอร์ในระหว่างถูกอายัดอย่างไร? และใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ หากข้อมูลคอมพิวเตอร์นี้เสียหายในระหว่างถูกอายัด? ทั้งนี้ การป้องกันการแก้ไขทำลายข้อมูลคอมพิวเตอร์นี้ มีความสำคัญ เพราะ 1) มันก็คือการป้องกันการแก้ไขทำลายหลักฐานนั่นเอง 2) ในหลายกรณี ข้อมูลคอมพิวเตอร์เป็นทรัพย์สินที่มีความสำคัญมากต่อการดำเนินธุรกิจ หากข้อมูลเสียหาย ก็หมายถึงธุรกิจเสียหายด้วย แต่ร่างกฎกระทรวงดังกล่าว ไม่ได้ระบุกลไกใดๆ ที่จะทำให้รับประกันได้ว่า 1) ข้อมูลคอมพิวเตอร์ภายในอุปกรณ์ที่ถูกอายัดนั้น จะไม่ถูกแก้ไขหรือทำลายระหว่างถูกอายัด 2) หากมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแล้ว เราจะทราบได้ทันที หากมาดูเนื้อหาในร่างกฎกระทรวงฉบับนี้แล้ว เรามาลองดูในบางมาตรา เริ่มที่ในข้อ 4 และ ข้อ 5 ข้อ ๔ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทำบัญชีแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ที่ตรวจยึดหรืออายัด เช่น ประเภทอุปกรณ์ ชนิด รุ่น หมายเลขเครื่อง(S/N) จำนวน โดยกรอกข้อมูลลงในแบบ ทก.ยค. ที่แนบท้ายกฎกระทรวงนี้ และให้ถ่ายสำเนาแบบนั้น ติดที่บรรจุภัณฑ์ ตามลำดับหมายเลขไว้และให้แสดงเครื่องหมายไว้ที่ระบบคอมพิวเตอร์นั้นให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แจ้งว่าได้มีการยึดหรืออายัดแล้ว ตามวิธีที่เห็นสมควร จะเห็นว่า วิธีที่ปฏิบัติต่อระบบคอมพิวเตอร์นั้น เน้นที่จะบันทึกแต่เพียงรายละเอียดตัวอุปกรณ์ แต่ไม่ได้แสดงถึงสถานะและรายละเอียดของข้อมูลภายในเลย เช่นนี้แล้ว ย่อมเปิดช่องให้มีการกลั่นแกล้งจากเจ้าพนักงานหรือผู้ไม่หวังดีได้ และไม่ว่าท้ายทีสุด จะพบเบาะแสใดๆ ความผิด หรือถึงจะพ้นข้อกล่าวหา แต่หากข้อมูลเสียหาย ก็ส่งผลเสียต่อการดำเนินธุรกิจอย่างแน่นอน โดยที่เจ้าของระบบคอมพิวเตอร์ก็ไม่มีหลักฐานอะไรที่จะมายืนยันเรียกร้องได้เลย ไม่เพียงเท่านั้น ในข้อ 5 ของร่างกฎกระทรวง ที่แม้จะบอกว่า ให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองลงลายมือชื่อรับรองในบัญชียึดและอายัติ แต่ในร่างก็ระบุด้วยว่า ถ้าเจ้าของหรือผู้ครอบครองไม่ยอมเซ็น ก็ให้เจ้าพนักงานในท้องที่นั้นลงชื่อรับรองแทนเสีย ข้อ ๕ เมื่อยึดหรืออายัดระบบคอมพิวเตอร์แล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดการให้เจ้าของ หรือผู้ครอบครองระบบคอมพิวเตอร์นั้นลงลายมือชื่อรับรองในแบบ ทก.ยค. แนบท้ายกฎกระทรวงนี้ หากผู้นั้นไม่ยินยอมลงลายมือชื่อ หรือในกรณีที่ไม่มีบุคคลดังกล่าวให้จดแจ้งลงในแบบนั้น และให้เจ้าพนักงานตำรวจหรือพนักงานฝ่ายปกครองแห่งท้องที่นั้นลงลายมือชื่อรับรองแทน ข้อ ๖ เมื่อยึดหรืออายัดระบบคอมพิวเตอร์แล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดให้มีบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับการจัดเก็บระบบคอมพิวเตอร์นั้นเพื่อป้องกันความเสียหายและการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลที่อาจเกิดขึ้น แล้วทำการปิดผนึก (Seal) ด้วยวัสดุที่สามารถป้องกันการเปิดบรรจุภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาตได้ แม้ตัวข้อ 6 นั้น จะพูดถึง "บรรจุภัณฑ์" และ "การปิดผนึก" ในลักษณะที่ว่า จะเป็นการป้องกันการแก้ไขทำลายได้ แต่การปิดผนึกดังกล่าว ก็ไม่สามารถรับประกันอะไรได้ว่า ข้อมูลคอมพิวเตอร์จะไม่ถูกแก้ไขหรือทำลาย เช่น กรณีของฮาร์ดดิสก์ และเทปสำรองข้อมูล ซึ่งเป็นอุปกรณ์/วัสดุจัดเก็บข้อมูลที่ใช้แพร่หลายที่สุด อุปกรณ์/วัสดุดังกล่าวจัดเก็บข้อมูลด้วยหลักการแม่เหล็ก เราสามารถทำให้ข้อมูลข้างในอุปกรณ์/วัสดุจัดเก็บข้อมูลเหล่านี้เสียหายได้ โดยไม่จำเป็นต้องแตะต้องมันเลยด้วยซ้ำ เพียงเอาแม่เหล็กตัวใหญ่ ๆ แรงๆ มาวางใกล้วัสดุหรืออุปกรณ์ดังกล่าวเท่านั้น ที่น่าเป็นห่วงเข้าไปอีกก็คือ ตามร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ อาจจะไม่ถือว่าความเสียหายของข้อมูล เป็นความเสียหายด้วยซ้ำ ในข้อ 7 กล่าวถึงสถานที่เก็บรักษา ระบุว่า ข้อ ๗ ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการยึดหรืออายัดระบบคอมพิวเตอร์ใดแล้วไม่สามารถขนย้ายมาเก็บรักษาไว้ ณ สำนักงาน หรือสถานที่เก็บรักษาได้ หรือระบบคอมพิวเตอร์นั้นมีสภาพไม่เหมาะสมที่จะนำมาเก็บรักษา ให้รายงานพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าพร้อมเสนอความเห็นเพื่อพิจารณาสั่งการตามที่เห็นสมควร ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้ายังไม่สั่งการตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินการยึดหรืออายัดนั้นจัดการเก็บรักษาทรัพย์สินไว้ตามที่เห็นสมควรไปพลางก่อน นั่นคือ ถ้าหลังจากพนักงานเจ้าหน้าที่ยึดหรืออายัดเครื่องไปแล้ว ไม่สามารถเอามาเก็บที่สำนักงานของเจ้าหน้าที่ ตามกฎหมายอาญาทั่วไป จะระบุว่าให้เก็บ ณ ที่ตรวจค้น แต่ปรากฏว่าในร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ เขียนไว้ว่า ให้อยู่ในดุลพินิจของพนักงานเจ้าหน้าที่ นั่นคือ จะนำไปเก็บที่ใดก็ได้ ในข้อ 9 มีกล่าวถึง "มูลค่า" ที่เสื่อมเสีย แต่อะไรคือมูลค่าของระบบคอมพิวเตอร์ ? หากตัววัสดุอุปกรณ์ไม่บุบสลาย ยังคงสภาพเดิมทุกประการ แต่ข้อมูลข้างในหายหมด จะถือว่ามูลค่ายังคงเดิมหรือไม่ ? ข้อ ๙ ถ้ามูลค่าแห่งระบบคอมพิวเตอร์ที่ได้ยึดหรืออายัดไว้นั้น ต้องเสื่อมเสียไปเพราะความผิดของบุคคลภายนอกเนื่องจากการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งยึดหรืออายัดไม่ว่าด้วยประการใด ๆ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ เรียกให้บุคคลภายนอกนั้นรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายใดๆ อันเกิดขึ้นแต่การนั้น เรื่องที่น่าหนักใจก็คือ ในร่างไม่ได้พูดถึงเลยว่า หากเจ้าพนักงานทำเสียหาย จะด้วยจงใจหรือไม่ก็ตาม จะต้องรับผิดชอบอย่างไร เพราะข้อ 9 ระบุถึงเฉพาะกรณีบุคคลภายนอกเท่านั้น แบบนี้เท่ากับเจ้าพนักงานมีอำนาจ แต่ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ? ข้อ 9 นี้จะต้องระบุให้ชัดเจนว่า การเสื่อมสลายของข้อมูลคอมพิวเตอร์ ก็หมายถึงการเสื่อมสลายของระบบความพิวเตอร์ด้วย ซึ่งมีผลให้มูลค่าเสื่อมเสียเช่นเดียวกัน และสำคัญที่สุดคือ จะต้องระบุความรับผิดชอบให้รวมถึงเจ้าพนักงานด้วย ไม่เฉพาะบุคคลภายนอกเท่านั้น ตามหลักทั่วไปที่ว่า อำนาจ ต้องมาพร้อมกับ ความรับผิดชอบ ข้อเสนอหนึ่ง เกี่ยวกับการป้องกัน ตรวจสอบการแก้ไขข้อมูลคอมพิวเตอร์ ในเรื่องของการป้องกัน/ตรวจสอบการแก้ไขข้อมูลนั้น หากเป็นไปได้ ควรจะเปิดให้ทำสำเนาแยกเป็นสองชุดหรือมากกว่า โดยเจ้าพนักงานยึดอุปกรณ์ (พร้อมข้อมูล) ไป และเจ้าของเครื่องเก็บสำเนาข้อมูลอีกชุดไว้ และถ้าจะให้ดี ก็ควรจะให้มีคนกลางอีกคน เก็บสำเนาข้อมูลอีกชุดไว้ด้วย เพื่อยันกัน แต่ในกรณีที่วิธีดังกล่าวเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ (ข้อมูลเยอะเกินไป ใช้เวลามากเกินไป ฯลฯ) ขอเสนอให้เข้ารหัสข้อมูลทั้งหมด เพื่อเก็บ "เลขยืนยันอิเลกทรอนิกส์" ของข้อมูลชุดนั้นเอาไว้ โดยเลขยืนยันนี้ จะเปลี่ยนไปเมื่อข้อมูลถูกเปลี่ยนแปลง ทำให้เราสามารถทราบได้ทันทีว่า ข้อมูลได้ถูกแก้ไขไปจากเดิม ณ เวลาที่ทำการอายัด ขยายความก็คือ ในทางคอมพิวเตอร์นั้น เราสามารถเข้ารหัสข้อมูลเพื่อให้ได้ตัวเลขชุดหนึ่ง เรียกว่า เลขยืนยัน (checksum) ซึ่งตัวเลขชุดนี้ จะเปลี่ยนแปลงไปตามข้อมูลที่นำมาเข้ารหัส เช่น ถ้าเรามีข้อมูลชุดหนึ่ง "AAABBBCCC" แล้วนำไปเข้ารหัส เราอาจได้เลขยืนยันมาว่า "XY" สมมติว่ามีการแก้ไขข้อมูล เปลี่ยนไปเป็น "AAABBBCDD" (ข้อมูลสองตัวสุดท้ายเปลี่ยนจาก CC เป็น DD) เมื่อนำไปเข้ารหัส ก็จะได้ตัวเลขยืนยันชุดอื่นที่ไม่เหมือนเดิม เช่นเป็น "QJ" เมื่อนำเลขยืนยันมาเทียบกัน เราก็จะรู้ได้ทันที ว่ามีการแก้ไขเกิดขึ้น (การเข้ารหัสเลขยืนยันบางวิธี นอกจากจะรู้ว่ามีการแก้ไขเกิดขึ้นแล้ว ยังสามารถบอกได้ว่า เกิดการแก้ไขขึ้นที่จุดไหน และบางวิธียังสามารถบอกได้ด้วยว่า ข้อมูลก่อนถูกแก้คือะไร อย่างไรก็ตาม วิธีการเข้ารหัสเลขยืนยันดังกล่าว จะมีความซับซ้อนเพิ่มขึ้น และต้องใช้เนื้อที่จัดเก็บข้อมูลเพิ่มขึ้น ตามความสามารถ) ในทางปฏิบัติ ก่อนที่จะยึดอายัด ควรจะให้ เจ้าของ เจ้าพนักงาน และพยานคนกลางอื่น มาร่วมเป็นพยานในการหาเลขยืนยันอิเลกทรอนิกส์ที่ว่านี้ เมื่อได้มาแล้ว ก็ให้ทุกฝ่ายจดเลขยืนยันอิเลกทรอนิกส์ชุดนี้เอาไว้ แล้วลงลายมือชื่อรับรองให้ครบทุกฝ่าย เพื่อใช้เป็นหลักฐาน จากนั้นค่อยให้ยึดอายัดอุปกรณ์ไปได้
โดย
MisterK
พฤหัสฯ. ส.ค. 09, 2007 9:28 am
0
0
พระราชบัญญัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
ผู้ค้าอีคอมเมิร์ชแถลงการณ์ไม่เห็นด้วย กรณีรัฐเชือดตลาดดอทคอมให้ลิงดู โดย ผู้จัดการออนไลน์ 2 สิงหาคม 2550 10:40 น. สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับการเข้ายึดเซิร์ฟเวอร์ตลาดดอทคอม ระบุว่าก่อนหน้านี้ ทางตลาดดอทคอมมีการมอบข้อมูลและประสานงานอย่างเต็มที่แล้ว ย้ำว่าการเข้ายึดเป็นการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการของธุรกิจ ลามไปถึงความมั่นใจของผู้ค้าขายและผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ แถลงการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีได้เข้าตรวจค้นและยึดเครื่องเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท ตลาด ดอท คอม จำกัด ณ Inet Data Center ชั้น 10 เมื่อวันอังคารที่ 23 กรกฏาคม พศ. 2550 ที่ผ่านมา ให้เหตุผลว่ายืดไปเพื่อเป็นพยานหลักฐานประกอบการไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณา ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นถูกวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่ายว่าเป็นการประเดิมพิธีกรรมเชือดไก่ให้ลิงดู แถลงการณ์ของสมาคมอีคอมเมิร์ชไม่ได้แสดงความไม่เห็นด้วยเพียงอย่างเดียว แต่กล่าวถึงแนวทางการให้ความร่วมมือของภาคเอกชนกับเจ้าหน้าที่ของรัฐไว้ด้วย แบ่งออกเป็นสองส่วนได้แก่ แนวทางความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ในการให้ข้อมูล และแนวทางป้องกันและการให้ความรู้ผู้ประกอบการ เกี่ยวกับเรื่องการค้าขายสินค้าที่อาจจะละเมิดลิขสิทธิ์หรือผิดกฏหมาย โดยระบุว่าหากผู้ประกอบการละเลยหรือไม่ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตามแนวทางทั้งสองนี้ ทางสมาคมฯ ก็เห็นควรที่จะให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฏหมายกับทางผู้ให้บริการ นัยของแถลงการณ์นี้จึงอาจสรุปได้ว่า กลุ่มผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ชกำลังรวมพลังเพื่อสร้างมาตรฐานในการปฏิบัติและความเข้าใจระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐให้ชัดเจน ซึ่งเป็นรูรั่วที่พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์พ.ศ. 2550 เปิดช่องไว้ ขีดเส้นสามวันทำการ ในแถลงการณ์ระบุแนวทางการปฏิบัติของ"เจ้าหน้าที่"ในการขอข้อมูลจากผู้ให้บริการไว้ว่า หากเจ้าหน้าที่พบเห็นหรือได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับสินค้าละเมิดลิขสิทธ์หรือสินค้าผิดกฏหมายในเว็บไซต์ที่ให้บริการ เจ้าหน้าที่ควรออกหนังสือขอข้อมูลและระบุข้อมูลที่ต้องการอย่างชัดเจนไปยังผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้อง หากทางเจ้าหน้าที่ยื่นหนังสือหรือติดต่อกับผู้ให้บริการไปแล้ว ยังไม่ได้รับการตอบรับ หรือดำเนินการใดๆ ภายใน 3 วันทำการ เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการตามขั้นตอนทางกฏหมายได้ทันที สำหรับแนวทางการปฏิบัติของ"ผู้ให้บริการ" หากมีการเอกสารหรือมีการติดต่อมาจากเจ้าหน้าที่ของภาครัฐ ทางผู้ให้บริการต้องติดตามและหาข้อมูลตามที่เจ้าหน้าที่ได้ร้องขอมา อย่างถูกต้องและจะต้องไม่มีการแก้ไข หรือบิดเบือนข้อมูล และจะต้องส่งให้กับเจ้าหน้าที่ภายใน 3 วันทำการ ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ให้ผู้ให้บริการดำเนินการตามหนังสือที่ได้รับแจ้งมา ภายใน 3 วันทำการ หลังได้รับเอกสารจากทางเจ้าหน้าที่แล้ว "สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หวังว่าแถลงการณ์ฉบับนี้จะช่วยสร้างมาตรฐานในการปฏิบัติและความเข้าใจระหว่างภาครัฐ และภาคเอกชนอย่างเป็นรูปธรรม" นอกจากนี้ สมาคมยังเสนอแนวทางป้องกันและการให้ความรู้ผู้ประกอบการว่า จะร่วมมือกับทางภาครัฐให้ความรู้และสร้างความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการในการการค้าขายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับลิขสิทธิ์ และสินค้าผิดกฏหมายโดยรูปแบบในการให้ความรู้ผ่านทางเว็บไซต์ของทางสมาคมฯและการจัดงานเสวนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการทั่วไป Company Related Links : แถลงการณ์สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ [/url]
โดย
MisterK
ศุกร์ ส.ค. 03, 2007 10:39 am
0
0
โอ เพิ่งดูกราฟ TUCC 10 วันทำการ เกือบ 100% PE เกือบ 100
ช่วงนี้หาหุ้นไม่ขึ้นยากกว่าหุ้นขึ้น สงสัยเป็นช่วงตลาดปล่อยผีอยู่มั้งครับ ช่วงเวลาทองของ Tecnical Hunter อีกสองอาทิตย์ก็คงรู้เลขที่ออก
โดย
MisterK
พุธ ก.ค. 18, 2007 11:15 am
0
0
พระราชบัญญัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
ICT เตรียมออกกฎกระทรวงว่าด้วยการยึดหรืออายัดคอมพิวเตอร์ http://www.blognone.com/node/5264 คงมีรายละเอียดปลีกย่อยตามมาอีกเยอะ ผลกระทบก็คงมีทั้งด้านดีและด้านร้าย คนทำเวปหรือเกี่ยวข้องกับอินเตอร์เน็ตคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดหน่อย
โดย
MisterK
พุธ ก.ค. 18, 2007 10:16 am
0
0
พระราชบัญญัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
วิเคราะห์เชิงลึกว่ากระทบหุ้นตัวไหนบ้าง นี่คงต้องรอผู้รู้ที่อยู่ในวงการเน็ตมาช่วยครับ ระบบ Blog หรืออะไรกระทบบ้างต้องตีความกันอีกเยอะ ผมคงทำได้แค่ให้ข้อมูลว่าตอนนี้พรบ. บังคับใช้แล้ว
โดย
MisterK
พุธ ก.ค. 18, 2007 9:51 am
0
0
พระราชบัญญัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
กระทบหลายฝ่ายครับ เช่น เรื่องเก็บ log และอำนาจในการตรวจค้นก็กระเทือนถึง ISP และ web hosting ทุกเจ้า รวมไปถึงเวปไซต์ทั้งหมด ถ้าไม่เก็บ log อย่างน้อย 3 เดือนมีความผิดทันที ไม่แน่ใจว่า Blog จะเกี่ยวด้วยหรือเปล่า หรืออย่างเช่นการส่ง spam ต่างๆ อาจทำให้การทำ marketing ผ่านเน็ตต้องระมัดระวังมากขึ้น เป็นต้น
โดย
MisterK
พุธ ก.ค. 18, 2007 9:45 am
0
0
พอหุ้นขึ้น ข่าวดีก็มาเพรียบเลยแฮะ
ปกติผู้บริหารให้ข่าวดีนี่ผมเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ถ้าให้ข่าวร้ายนี่ค่อนข้างเชื่อนะครับ เพราะถ้ามันไม่ร้ายจริง ๆ ไม่ค่อยมีใครยอมรับให้เสียฟอร์มและเสียเครดิตบริษัท ทั้งทำให้ตัวเองดูไม่มีฝีมือและทำให้บริษัทอาจเสียเครดิตกับซัพพลายเออร์และแบงค์ได้
โดย
MisterK
พุธ ก.ค. 04, 2007 12:23 pm
0
0
วันนี้ผู้โดยสารเต็มรถ คนขับเหยียบเต็มที่ รอจอดป้ายก่อนดีกว่า
VI แท้คงต้องทนอีกซักสองสามวันครับ อย่าตะบะแตกช่วง 2-3 วันนี้แล้วกัน :twisted:
โดย
MisterK
อังคาร ก.ค. 03, 2007 12:15 pm
0
0
สหพัฒน์ กุมขมับ คาดรายได้ทั้งเครือหาย6.5พันล้าน
ปี 40 เม็ดเงินเสียหายเยอะ แต่กระทบคนน้อยกว่า (แต่เสียงดัง) ปี 49 เม็ดเงินเสียหายน้อย แต่กระทบคนเยอะกว่า (แต่ไม่มีปากเสียง) ธุรกิจอื่นไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนเก้ามาลดฮวบ ๆ ลงทุกเดือน ทั้งเกษตรทั้งท่องเที่ยวรวม ๆ กันมันรายได้กี่เปอร์เซนต์ของประเทศไปแล้วหว่า หวังว่ายุบ ๆ ไปแล้วจะกลับมาดีซะทีน้า หรือจะให้ดีรีบ ๆ เลือกตั้งก็ดีจะได้หมดปัญหาคาใจซะที :oops:
โดย
MisterK
พุธ มิ.ย. 06, 2007 2:44 pm
0
0
กระทิงมาแย้ว...
ขึ้นไปได้ไกลแค่ไหนก็ไม่รู้ บทเรียนที่ผ่านมาหลายครั้งสอนว่า อย่าดูถูกความโลภของมนุษย์ พอมันเข้ามาบังตาเท่าไหร่ก็ลุย ตราบใดที่ยังอยู่ภายใต้ระบบนี้ (ระบบไหนหว่า) ยังไงคงไม่ไปไกลแบบสุดไขว่คว้าหรอก ไกลแค่ไหนไม่รู้แต่เดี๋ยวก็กลับมาย่ำรอเลือกตั้งก่อน แต่พรุ่งนี้สารพัดสำนักคงออกมาฟันธงแถว ๆ 780 มั้ง :lol:
โดย
MisterK
ศุกร์ มิ.ย. 01, 2007 3:08 pm
0
0
กระทิงมาแย้ว...
สิ่งที่ตลาดกลัวที่สุดคือความไม่ชัดเจน ไม่ได้กลัวหรอกว่าใครจะชนะหรือแพ้ ถ้าไม่มีเรื่องรุนแรงตามมา ก็นับว่าตัดเรื่องหนักอกไปหนึ่ง
โดย
MisterK
พฤหัสฯ. พ.ค. 31, 2007 8:49 am
0
0
ขอกันได้ไหมครับ ช่วยไม่โพสการเมืองในเวปนี้ได้ไหมครับ
ขนาดสรยุทธยังต้องให้แต่ SMS เห็นด้วยเท่านั้นที่เอามาแสดง thaivi เส้นเย็นตาโฟ ต้องถนอมตัวหน่อยครับ ยุคนี้เป็นยุคเอาตัวรอดเป็นยอดดี ไม่ใช่ยุคยืนหยัดกับความถูกต้องแล้วครับ
โดย
MisterK
พฤหัสฯ. พ.ค. 31, 2007 7:51 am
0
0
web ของ คุณ rockriverarm ถูกปิดครับ
แต่ก็อาจจะจริงแฮะ สั่งปิดแค่ยี่สิบเอง อีกหมื่นกว่าแห่งที่เหลือ แค่ ISP "ให้ความร่วมมือ" ไม่ได้สั่งซักกะนิด
โดย
MisterK
อังคาร พ.ค. 29, 2007 12:47 pm
0
0
web ของ คุณ rockriverarm ถูกปิดครับ
[quote="ลูกไม่ท้อ"]เห็นว่ารัฐบาลที่แล้ว สั่งปิดเว็บไปประมาณหมื่นกว่าเว็บ รัฐบาลนี้ก็เพิ่งสั่งปิดไปไม่ถึงร้อยเว็บ
โดย
MisterK
อังคาร พ.ค. 29, 2007 12:41 pm
0
0
MBK เตรียมต่อสัญญามูลค่า 2.6 หมื่นล้านบาท 20 ปี
ตัว MBK คงคิดมาอย่างดีแล้วว่ายังไงก็คุ้มแน่ ไม่ต้องห่วงเขาหรอกครับ มือระดับนั้นแล้ว รายได้ของจุฬาผมก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมน่าจะได้ต้องเยอะแล้วยังไม่พอ แต่ถ้าคิดดี ๆ แล้วบุคลากรทั้งอาจารย์ เจ้าหน้าที่ และอื่น ๆ (เช่นยาม) น่าจะหลายพันคน และค่า maintenance ดูแลพื้นที่ตึก สวนหย่อม ห้องเรียน สวัสดิการ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอุปกรณ์ (ทั้งถูก ๆ หรือแพง ๆ อย่างคอมพ์ เครื่องมือแปลก ๆ ทางวิศวะ ทางแพทย์ ฯลฯ) เดือนนึงคงอยู่ระดับร้อยล้าน เห็นช่วงที่จะออกจากระบบ ได้ข่าวว่าจุฬาเองก็ต้อง active หารายได้ต่าง ๆ มาเพิ่มเติมกันยกใหญ่ ไม่อยากนึกเลยว่าถ้าเป็นมหาลัยอื่นจะย่ำแย่ขนาดไหน
โดย
MisterK
จันทร์ พ.ค. 14, 2007 2:16 pm
0
0
ทีม Moderator ชุดใหม่ครับ
ขอคารวะให้กับความเสียสละทั้งทีมงานเก่าและใหม่ และยินดีด้วยกับทีมงานใหม่ทุกท่านครับ :cheers:
โดย
MisterK
พุธ เม.ย. 04, 2007 3:43 pm
0
0
หุ้นเกียร์ว่าง
อ่านแล้วนึกถึง SUC เหมือนกัน
โดย
MisterK
จันทร์ เม.ย. 02, 2007 5:03 pm
0
0
เมื่อไหร่ซีเอ็ดจะกลายเป็นโชว์รูมโชว์หนังสือ
ผมคิดว่า E-Commerce เมืองไทยตอนนี้น่าจะเริ่มก้าวได้แล้ว สมัยก่อนทำกันเร็วไปหน่อย เหตุผลคือ เมื่อ 5-10 ปีที่แล้ว ฐานคนใช้ internet มีแต่นักเรียน นักศึกษา ซึ่งไม่มีกำลังซื้อและไม่มีบัตรเครดิต ทำให้การสั่งซื้อต่าง ๆ ยุ่งยากมาก แต่คนเหล่านั้นตอนนี้ก็เข้าสู่วัยทำงานกันหมดแล้ว ฐานคนเล่น net จึงน่าจะเลื่อนมาเป็นกลุ่มวัยทำงาน และจะเพิ่มฐานอายุคนเล่นขึ้นเรื่อย ๆ ตามเวลาที่ผ่าน ประกอบกับเน็ตเริ่มเป็นที่คุ้นเคยกับคนไทยมากขึ้น คนทุกช่วงอายุมีโอกาสได้เล่นแล้ว (แต่ก่อนเน็ตแพงงงงง เพราะผูกขาดโดยกสท. ตามบ้านแทบไม่ได้เล่นกัน) ADSL ก็ใช้กันเยอะ โอกาสขาย online น่าจะดีกว่าแต่ก่อนมาก
โดย
MisterK
ศุกร์ มี.ค. 30, 2007 10:51 am
0
0
เมื่อไหร่ซีเอ็ดจะกลายเป็นโชว์รูมโชว์หนังสือ
สองงานยักษ์ชนกันทุกปี สัปดาห์หนังสือ และ งานกาชาด ซีเอ็ดผมไปทีไรหาหนังสือที่อยากได้ไม่มีทุกที เพราะร้านเขาขนาดเล็กและเน้นแต่หนังสือขายดีใหม่ ๆ มั้ง เวลาผมนึกจะหาหนังสือนี่ต้องไปหาจากศูนย์หนังสือจุฬาเป็นหลัก ซีเอ็ดกลับไม่ค่อยได้ซื้อแฮะ แต่ซื้อเยอะสุดก็เป็นในงานสัปดาห์หนังสืออยู่ดี :oops:
โดย
MisterK
พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 2:12 pm
0
0
บริษัทประกันเอาเงินผมไปห้าแสนแต่จ่ายคือเก้าหมื่น
ประกันเราสามารถแยกออกเป็นสามส่วนนะครับ 1. ประกันชีวิต -> พื้นฐานของระบบประกันจริง ๆ คือ แชร์ความเสี่ยงเวลาเกิดอุบัติเหตุจนพิการหรือตาย 2. ประกันสุขภาพ -> ประกันว่าเวลาไม่สบายมีคนจ่ายแทน 3. ออมทรัพย์ -> อันนี้ไม่ค่อยเกี่ยว แต่บริษัทประกันนิยมเอามารวมไปมาก เริ่มฮิตเป็นอย่างยิ่งตั้งแต่สมัยดอกเบี้ยลดฮวบ ๆ AIA ออกประกันแนวนี้ออกมาโฆษณาว่าผลตอบแทนดีกว่าดอกเบี้ย ซึ่งที่จริงมันไม่ได้ดีกว่า แต่คนขายประกันเองส่วนใหญ่ก็เชื่อตามนั้นเพราะถูกสอนตัวเลขง่าย ๆ มา คนมีเงินเก็บเลยนิยมทำกันมากเพราะเชื่อคนขาย ข้อ 1. อันนี้ผมคิดว่าควรทำเป็นอย่างยิ่ง แต่คนขายประกันจะค้อนเอา เพราะเบี้ยประกันในส่วนนี้จะน้อยมาก ๆ ถ้าไม่ใช่คนขายที่จรรยาบรรณดีมั่ก ๆ มักจะหลีกเลี่ยงไม่ยอมขายประเภทนี้ให้ -> ผมซื้อแต่แบบนี้เป็นหลักแบบสองนิดหน่อย ข้อ 2 ถ้ามีสวัสดิการไม่ว่าจะจากรัฐหรือบริษัทจะไม่ค่อยจำเป็น ยกเว้นแต่คุณอยากเข้า BH, BGH, .... ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง ก็ควรทำ ข้อ 3 ที่จริงค่อนข้างคล้ายกับฝากประจำ ถ้าตัวเราไม่ค่อยมีวินัยก็ช่วยได้ แต่ต้องแยกให้ออกจาก 1,2 ต้องรู้ตัวว่ายอดฝากจริงเท่าไหร่ประกันเท่าไหร่ สำหรับนักลงทุนแล้วข้อนี้ไม่ค่อยน่าสนใจ เพราะมีอะไรอย่างอื่นให้ลงทุนได้ผลตอบแทนดีกว่า
โดย
MisterK
พุธ มี.ค. 21, 2007 3:19 pm
0
0
ข้อมูลคดีไอทีวีตั้งแต่ปี 42 -49 แล้วจะรู้ความจริง
[quote="tanatat"]บังเอิญไม่ใช่นักกฏหมายแต่ผมว่าต้องดูเจตนารมย์ของกฏหมายจะดีกว่าตีตามตัวหนังสือในข้อกฏหมายจะดีกว่ามั่งครับ กรณีของช่อง 7 เป็นคนละเรื่องกับ itv ต่างกรรมต่างวาระ ผมว่าต้องลองดูครับตอนนั้นใครเป็น ผบทบ
โดย
MisterK
พฤหัสฯ. มี.ค. 08, 2007 11:20 am
0
0
หม่อมอุ๋ยลาออก!!
ในที่สุด *"ปรีดิยาธร"ลาออกจากตำแหน่งมีผลพรุ่งนี้ ระบุไม่พอใจคนในรัฐบาล Source - IQ Biz (Th) Wednesday, February 28, 2007 11:42 16015 XTHAI XECON HOTN V%WIREL P%IQ อินโฟเควสท์ (28 ก.พ. 50)--ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง แถลงขอลาออกจากตำแหน่งทั้งหมดมีผลตั้งแต่ 1 มี.ค.โดยได้รับการอนุญาตจากนายกรัฐมนตรีแล้ว "ผมไม่ต้องการทำงานในสภาวะที่มีการปิดบังอำพราง และไม่ต้องการทำงานในสภาวะที่ดูเหมือว่ารัฐบาลอยู่ภายใต้อิทธิพลของคนบางกลุ่ม"ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวในการแถลงข่าว ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เปิดแถลงข่าวในวันนี้ โดยระบุว่าไม่เห็นด้วยกับรัฐมนตรีบางคนในรัฐบาลชุดนี้ที่เอื้อประโยชน์กับสื่อมวลชนบางราย รวมทั้งไม่เห็นด้วยกับการที่บุคคลในรัฐบาลชุดก่อนเข้ามาช่วยงานด้านเศรษฐกิจพอเพียง เป็นข้ออ้างที่ไม่สมจริงและมีจุดประสงค์ที่ปิดบังอำพราง และการถอนตัวออกไปก็ไม่เป็นการถอนตัวอย่างแท้จริง เพราะสายสัมพันธ์ยังคงอยู่ เนื่องจากยังมีตัวเชื่อมอยู่ในรัฐบาล --อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์:
[email protected]
โดย
MisterK
พุธ ก.พ. 28, 2007 11:44 am
0
0
เรียนคุณเฟยหง และคุณ Jeng
ตามอ่านกระทู้คุณเฟยหงมาตั้งแต่สมัยพันธ์ทิพย์แล้ว คิดว่าสไตล์คุณเฟยหงนี่ "เซลล์แมนมาเอง" ครับ คือจะใช้สำนวน+วิธีที่ค่อนข้างโอเวอร์ ซึ่งมีหลายท่านที่ผมเห็น ก็ชอบใช้วิธีประมาณว่าเอาไตรมาสที่ดีที่สุดคูณ 4 แล้วประเมินเป็น P/E :oops: (ตัวอย่างนะครับไม่ได้บอกว่าใครทำบ้าง) ที่จริงผมก็เห็นหุ้นหลายตัวก็ดีจริงขึ้นจริง แต่ไม่มีความจำเป็นต้องฮาร์ดเซลล์ขนาดนั้น หลายอย่างมันจะพาเข้าข่ายบิดเบือนซึ่งผิดกฏของบอร์ดแน่ ๆ ข้อมูลหลายอย่างทีคุณเฟยหงโพสต์ก็เป็นประโยชน์ แต่การถูกถอดสมาชิกจากบอร์ดหลาย ๆ แห่งซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่มีปัญหา น่าจะกลับมาพิจารณาวิธีการโพสต์และนำเสนอของตนเองบ้างว่ามีอะไรที่ผิดกฏของชุมชน
โดย
MisterK
ศุกร์ ก.พ. 23, 2007 11:10 am
0
0
ทำไมช่วงนี้เพิ่มทุนกันเยอะจัง
ปกติเตรียมตังกันเยอะ ๆ ก็น่าจะมีแค่สองอย่างคือ เตรียมรับความเฟื่องฟูจะได้ขยายให้เต็มที่ กับเตรียมรับความซบเซาเพราะถึงเวลาจะหาตังจากเพิ่มทุนยาก ตอนนี้เรากำลังจะเดินไปทางไหนละนี่
โดย
MisterK
พฤหัสฯ. ก.พ. 22, 2007 12:18 pm
0
0
UEC ดีมาก แต่ราคาเท่าไร ณ เวลานี้ ควรหยุดซื้อ
ตัวนี้ซื้อติดปลายนวมไว้ในพอร์ตลูกชายนิดหน่อย ต้นทุนเจ็ดปลาย ๆ ไม่นับปันผล เกือบขายไปหลายรอบแล้วตอนสารพัดเหตุ panic :oops: ซื้อตามพื้นฐาน แต่ตอนรอขายตามเทคนิคอย่างเดียวแล้ว ลงเยอะ ๆ เมื่อไหร่ค่อยขายตามน้ำ :twisted:
โดย
MisterK
อังคาร ก.พ. 20, 2007 11:34 am
0
0
กระทู้ชวนคิด"ลงทุนแบบไหน workที่สุด"
แบบที่ work น่าจะมีมากมายครับ จะมากจะน้อยก็ขึ้นกับความเสี่ยงและอุปนิสัยแต่ละคน ผมว่า มองหาแบบที่ไม่ work จะง่ายกว่า และเห็นได้เยอะมาก ๆ ในตลาด :oops:
โดย
MisterK
ศุกร์ ก.พ. 16, 2007 5:35 pm
0
0
รัฐมนตรีของรัฐบาลชุดนี้ใครมีผลงานเข้าตาบ้างครับ
ต่อไปเราก็คงได้เห็นความหลากหลายของข่าว (เท็จ) อย่างมากมาย ตัวอย่างเช่น http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I5143869/I5143869-0.jpg
โดย
MisterK
ศุกร์ ก.พ. 16, 2007 5:20 pm
0
0
รัฐมนตรีของรัฐบาลชุดนี้ใครมีผลงานเข้าตาบ้างครับ
สงสัย บ้านเมืองคงใกล้ลุกเป็นไฟอีกทีแล้ว เอาสนธิมาช่วยสมานฉันท์ :twisted: แค่ประวัติล้มบนฟูก คดีความด้านการเงินต่าง ๆ ที่ถูกตลาดฟ้อง ฯลฯ ยังเอาเข้ามานี่ ภาพที่เน้นเศรษฐกิจพอเพียง ความซื่อสัตย์สะอาดบริสุทธิ์ของรัฐบาล ก็เป็นปัญหาที่น่าสงสัยว่าตกลงท้ายที่สุด ผลประโยชน์ก็สำคัญกว่า :lol: นายกฯ ระบุ ยามเฝ้าแผ่นดิน เป็นการพีอาร์เชิงรุกของรัฐบาล 11:09 น. พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงรายการยามเฝ้าแผ่นดิน ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ว่า ได้ฟังและดูรายการแล้ว และเป็นเรื่องธรรมดาที่มีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย รวมทั้งมุมมองของแต่ละคน ซึ่งเรื่องดังกล่าวรัฐบาลพยายามที่จะอยู่ตรงกลาง ไม่ให้มีการแตกแยกในสังคม และถือว่าเป็นการประชาสัมพันธ์เชิงรุกของรัฐบาล ไม่ใช่เป็นการตอบโต้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และหากรัฐบาลประเมินแล้วว่ารายการยามเฝ้าแผ่นดิน มีแนวโน้มที่จะนำไปสู่ความแตกแยกของสังคม รัฐบาลก็พร้อมที่จะพิจารณา และย้ำว่าไม่ใช่เป็นการเอื้อประโยชน์ด้วย นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการที่ให้นายสนธิ ลิ้มทองกุล จัดรายการ ซึ่งเป็นฝ่ายพันธมิตรฯ และเป็นฝ่ายตรงข้ามกับอดีตนายกรัฐมนตรี จะส่งผลให้เกิดปัญหาความขัดแย้งในสังคมอีกหรือไม่นั้นว่า รัฐบาลคำนึงถึงเรื่องนี้อยู่แล้ว ซึ่งเชื่อว่าอยู่ที่วิธีการนำเสนอ และไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะคนเราเปลี่ยนความคิดกันได้
โดย
MisterK
ศุกร์ ก.พ. 16, 2007 12:39 pm
0
0
มอเตอร์เวย์ “กทม.-โคราช”
อยากจะบอกแค่ว่า กรุงเทพ-หัวหิน ขับรถประมาณ 2 ชั่วโมง ไปรถไฟสี่ชั่วโมง แถมบางที (บ่อย ๆ ) ก็จอดหลบขบวนอื่นอีกเกือบชั่วโมงแถมให้ เส้นทางอื่น ๆ ก็คุณภาพสม่ำเสมอใกล้ ๆ กัน :oops:
โดย
MisterK
ศุกร์ ก.พ. 09, 2007 4:00 pm
0
0
ครม.เห็นชอบใช้ดอนเมืองคู่สุวรรณภูมิ เป็นสนามบินนานาชาติ
สงสัยแต่ว่า airport link จะต้องลงเงินไปอีกเท่าไหร่ เพียงเพื่อให้ดอนเมืองยังมีโอกาสได้ใช้
โดย
MisterK
พุธ ก.พ. 07, 2007 2:38 pm
0
0
คิดอย่างไรกับการจะเปิดใช้สนามบินดอนเมือง
ที่ดินที่สุวรรณภูมิน่าจะเหลือเยอะมากพอที่จะขยายได้อีกเยอะนะ นี่เห็นว่าให้หยุดการก่อสร้างขยายแต่ให้กลับมาใช้ดอนเมือง มีสองสนามบินนี่ยุ่งตายชักเลยครับ เวลาจะไปรับส่งนักท่องเที่ยวต้องเช็คตลอดว่าตกลงที่มานี่มันลงสนามไหน แถมถ้าต้อง connect flight ก็ต้องวิ่งข้ามเมืองกันอีก ถ้าต้องสร้างระบบขนส่งเพื่อเชื่อมต่อสนามบินนี่จะต้องลงไปกี่หมื่นล้าน แล้วสุดท้ายต้องขยายจนได้หรือเปล่า เอามาขยายไปเลยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายดูแลรักษาสองที่ แถมความยุ่งยากให้ประชาชนอีก ถ้าเหตุผลว่าใช้ดอนเมืองร่วมกันแล้วประหยัดกว่าไม่เห็นด้วยครับ แต่ถ้าเหตุผลอื่นไม่รู้ แต่ที่แน่ ๆ การออกแคมเปญถล่มสุวรรณภูมิรอบนี้ ยิงนกได้ทีเดียวสามสี่ตัวเลยนะนี่ เหลือร้ายจริง ๆ :twisted:
โดย
MisterK
พุธ ก.พ. 07, 2007 2:35 pm
0
0
คำถามว่าด้วยเรื่อง Favorites ใน IE
เมนู File -> Import/Export แล้วสั่ง Export ออกมาครับ
โดย
MisterK
เสาร์ ก.พ. 03, 2007 5:25 pm
0
0
ไปเจอรายงานของวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย กรณีสุวรรณภูมิ
ไม่ได้มีความรู้อ่ะค่ะ เอามาฝากเจ๋ยๆ http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X5094561/X5094561.html อันล่างนี่ต้องมีอมยิ้มก่อน http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5094870/P5094870.html :roll: อันบนต้นฉบับอยู่ที่นี่ครับ http://www.sarakadee.com/web/modules.php?name=Sections&op=viewarticle&artid=596 เป็นเวปของ วารสาร "สารคดี" ยังไงคงน่าเชื่อถือกว่า manager เยอะ :lol: เนื้อความข้างล่างน่าสนใจมากว่าถ้าผิดจริงใครควรเป็นคนรับผิด เกิดในสมัยใคร (ทักกี้ชนะเลือกตั้งครั้งแรกต้นปี 44) แต่ยุคนี้ขอสรุปว่าความผิดทั้งหมดเป็นเพราะทักกี้ไม่งั้นไม่สมานฉันท์ :twisted: เมื่อสรุปผลเป็นที่แน่นอนแล้วว่า หนองงูเห่า--พื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่ รวมทั้งบริเวณใกล้เคียง ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่ก่อสร้างท่าอากาศยานแห่งใหม่ งานยักษ์ที่รออยู่ข้างหน้า ก็คือการปรับสภาพพื้นที่ให้เหมาะแก่การก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ รวมถึงรันเวย์ที่มั่นคงแข็งแรง นับเป็นงานใหญ่ที่หลายฝ่ายรู้ดีว่าเป็นขั้นตอนที่ยุ่งยาก ซับซ้อน และท้าทายมากที่สุดขั้นตอนหนึ่งในการก่อสร้างสนามบิน ทั้งนี้เพราะในแต่ละปี ดินที่หนองงูเห่ามีอัตราการทรุดตัวมากกว่าพื้นที่ทั่วไปหลายเท่า ซึ่งถ้าไม่จัดการแก้ปัญหานี้ เมื่อสร้างทางวิ่ง (runway) กับทางขับ (taxi way) เสร็จแล้วระยะหนึ่ง อาจเกิดเนินหรือหลุมขึ้น ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งกับเครื่องบินที่ลงจอด ศาสตราจารย์ ดร. ประเสริฐ วิทยารัฐ นักภูมิศาสตร์อาวุโส เคยกล่าวถึงการทรุดตัวของดินในจังหวัดสมุทรปราการซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไว้ใน ข้อสังเกตการทรุดตัวบริเวณสมุทรปราการ ตีพิมพ์ในวารสาร ราชบัณฑิตยสถาน (เดือนมกราคม-มีนาคม ๒๕๔๖) ว่า ความหนาแน่นของตะกอนเลนบริเวณนี้มีประมาณ ๑๘-๒๐ เมตร ลักษณะของชั้นตะกอนมีความยืดหยุ่น ไม่แน่น เพราะมีน้ำแทรกอยู่ ประมาณว่ามีน้ำอยู่ร้อยละ ๒๕-๓๐ ดินประเภทนี้ไม่สามารถต้านทานน้ำหนักที่กดทับมากได้ และยังมีคุณสมบัติเลื่อนไหลได้ง่าย... โจทย์ใหญ่นี้วิศวกรและผู้เชี่ยวชาญจึงต้องดำเนินการแก้ไขโดยอาศัยศาสตร์หลายแขนง ไม่ว่าธรณีวิทยา อุทกวิทยา ภูมิศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และสถาปัตยกรรมศาสตร์ สำหรับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วิศวกรมี ๒ ทางเลือก คือ หนึ่ง สร้างทางวิ่งและทางขับแบบไม่มีเสาเข็มป้องกันการทรุดตัว โดยใช้วิธีการปรับปรุงคุณภาพดิน สอง ใช้วิธีการตอกเสาเข็มคล้ายกับการสร้างอาคาร ซึ่งเราเลือกวิธีแรก สมชัย สวัสดีผล ผอ. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อธิบายขั้นตอนการปรับปรุงคุณภาพดินซึ่งเริ่มขึ้นในปี ๒๕๔๐ ว่า เราศึกษาสภาพดินหนองงูเห่าหลายครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ครั้งที่บริษัท NACO จากประเทศเนเธอร์แลนด์มาศึกษาในปี ๒๕๒๖ ผมพูดถึงบริษัทนี้เพราะเขาเคยเป็นที่ปรึกษาให้โครงการก่อสร้างสนามบินในทะเล ซึ่งที่แบบนั้นทรุดตัวมากกว่าหนองงูเห่าเสียอีก พอเราจะเริ่มต้นก่อสร้าง จึงให้ผู้เชี่ยวชาญของสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) มาศึกษาสภาพดินเพิ่มเติมอีกครั้ง ก่อนที่วิศวกรจะลงมือไล่น้ำออกจากดินโดยใช้วิธี ระบายน้ำแนวดิ่ง หรือ PVD (Preloading Vertical Drainage) เฉพาะบริเวณที่จะก่อสร้างทางวิ่งและทางขับ โดยมีขั้นตอน คือ หนึ่ง ปรับหน้าดินให้เสมอกันทั่วพื้นที่ สอง ล้อมบริเวณที่จะสร้างสนามบินด้วยแผ่นไฟเบอร์ป้องกันโคลนไหลออกทางด้านข้าง โดยจะปักลงดินเป็นแนวดิ่งเหมือนกั้นคอกในพื้นที่ที่ต้องการ สาม เจาะรูระบายน้ำ ความลึก ๑๑ เมตร เว้นระยะห่างรูละ ๑ เมตร สี่ ถมทรายกรองน้ำและหินคลุกลงไปกดทับดิน น้ำหนักที่กดลงไปจะดันให้น้ำพุ่งขึ้นทางรูระบายน้ำที่เจาะไว้ จากนั้นคนงานจะปั๊มน้ำออกจากพื้นที่ ซึ่งขั้นตอนสุดท้ายนี้ต้องอาศัยระยะเวลานานนับปี หินกับทรายที่ถมจะกดดินให้ทรุดและแห้งจนเหลืออัตราการทรุดตัวในระดับที่ไม่เป็นอันตรายกับสนามบิน คือประมาณ ๒-๓ เซนติเมตรต่อปี จากนั้นจึงเริ่มสร้างอาคารต่างๆ รวมถึงทางวิ่งและทางขับ ผอ. สมชัยกล่าว ขั้นตอนการกดทับนี้ใช้เวลาตั้งแต่ปี ๒๕๔๐-๒๕๔๒ ซึ่งถ้าใครขับรถผ่านหนองงูเห่าช่วงนั้น ก็จะพบภูเขาทรายผสมหินคลุกที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยตั้งตระหง่านอยู่กลางทุ่ง ภูเขานี้ลดระดับลงทุกปี เพราะเมื่อกดน้ำออกจากดินแล้ว มันจะทรุดตัวลงไปแทนที่ ผ่านไป ๒ ปี ๖ เดือน ดินบริเวณหนองงูเห่าก็ทรุดตัวลงไป ๒ เมตรกว่า ทั้งที่ปรกติ อัตราการทรุดตัวขนาดนี้ต้องใช้เวลาถึง ๓๐ ปี นับเป็นความสำเร็จขั้นหนึ่งที่น่าพอใจ ...หากเราจะไม่มองย้อนหลังไปในปี ๒๕๓๙ ถึงต้นปี ๒๕๔๐--ก่อนที่ภูเขาทรายผสมหินคลุกจะมาถมทับหนองงูเห่าเพื่อเร่งอัตราการทรุดตัวของดิน--ที่ข่าวคราวการทุจริตเกี่ยวกับการประมูลหาผู้รับเหมาปรับปรุงคุณภาพดินแพร่สะพัดไปทั่ว โดยผู้รับผิดชอบโครงการขณะนั้นคือ บริษัทท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด (บทม.) เพราะหลังเปิดประมูล มีการร้องเรียนจากบริษัทเอกชน ๑๑ รายที่เข้าร่วมว่า เงื่อนไขการประมูลเอื้อต่อเอกชนเพียงรายเดียว กระทั่งนายวันมูหะหมัด นอร์มะทา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมขณะนั้น ต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ก่อนจะสรุปผลว่าไม่มีการทุจริตและให้ดำเนินการต่อไปได้ ถึงปลายปี ๒๕๓๙ คณะกรรมการบริหารการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (กทภ.) ชุดที่ พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นประธาน ก็ทำสัญญาจ้างผู้รับเหมาก่อนการเลือกตั้งทั่วไปจะเกิดขึ้นไม่กี่วัน ถึงปลายปี ๒๕๔๐ รัฐบาลนายชวน หลีกภัย จึงได้ทบทวนขั้นตอนการประมูลนี้อีกครั้งก่อนมีมติ ครม. เมื่อปลายปี ๒๕๔๑ ว่า เห็นชอบให้กระทรวงคมนาคมยกเลิกสัญญากับผู้รับเหมาที่ชนะการประมูล โดยให้สอบสวนเจ้าหน้าที่ บทม. ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ในที่สุดก็ไม่มีการยกเลิกสัญญากับบริษัทเอกชนผู้รับงานแต่อย่างใด และในปี ๒๕๔๒ เมื่อต้องทำการปรับปรุงคุณภาพดินก่อนก่อสร้างรันเวย์ที่ ๒ (ฝั่งตะวันตก) ประธานบอร์ด บทม. ขณะนั้นก็ให้บริษัทผู้รับเหมารายเดิมได้งานไปโดยไม่ผ่านขั้นตอนการประมูลแข่งขัน ทั้งที่ปัญหาการทุจริตในการประมูลหาผู้รับเหมาปรับปรุงคุณภาพดินในรันเวย์แรกยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ ในที่สุดปี ๒๕๔๔ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็เปิดเผยผลสอบสวนว่า ผู้บริหาร บทม. บางคนเอื้อประโยชน์ให้บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ชนะการประมูลถมทรายของรันเวย์ที่ ๑ มีมติให้ลงโทษผู้บริหารของ บทม. ๓ คน ตามด้วยการที่คณะกรรมการกฤษฎีกาชี้ขาดว่าการประมูลงานครั้งนั้นขัดต่อระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี จากนั้นข่าวคราวต่างๆ เกี่ยวกับดินก็จางหายไป ก่อนจะกลับมาปะทุขึ้นอีกครั้งในปี ๒๕๔๘ เมื่อรันเวย์เกิดรอยร้าวและรัฐบาลไม่สามารถชี้แจงให้สาธารณชนเข้าใจได้ กระทั่งทางวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ว.ส.ท.) ต้องส่งทีมงานเข้าไปตรวจสอบ
โดย
MisterK
พฤหัสฯ. ก.พ. 01, 2007 5:14 pm
0
0
การส่งเสริมการส่งออกตอนนี้ดีจริงหรือ
[quote="por_jai"]
โดย
MisterK
พฤหัสฯ. ก.พ. 01, 2007 12:16 pm
0
0
มีบริษัทไหนที่จะหาประโยชน์จากช่องว่างon shore - off shoreได้
คุณ m_ple เขียนได้ดีมากเลยนะ ทำให้ผมหายโง่ไปเยอะเลย :oops: ผมคลับคล้ายคลับคลาว่าได้ยินเรื่อง on shore / off shore ครั้งแรกก็เพราะเกิดมาตรการที่ทำให้ค่าเงินแตกต่างกันอย่างมากคล้าย ๆ ครั้งนี้ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะก่อนเกิดต้มยำกุ้งไม่นาน อ่านข้อเขียนแล้วชอบตรงข้อสรุป Q: แล้วราคาทั้งสองตลาดจะห่างกันต่อไปแบบนี้หรือ? A: ถ้าถามความเห็นของผม ผมก้อว่า คงจะเป็นอย่างนั้นละครับ ตราบใดที่ mechanism ต่างๆ ยังทำงานของมันได้เรื่อยๆ อย่างไรก็ดี ผมมองว่า การที่มีช่องว่างที่ห่างกันเกินไปของสองตลาดเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงแน่ๆ เพราะมันส่งผลให้ค่าเงินของเราผันผวน ส่งผลเสียต่อความมั่นใจของเศรษฐกิจไทย เอาง่ายๆ ถ้าคุณเป็นคนต่างชาติจะเข้ามาลงทุนในไทย แค่ลำพังหาความแน่นอนในเรื่องค่าเงินไม่ได้ เป็นผมผมก้อคิดหนักอ่ะ และสิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ วันหนึ่งในอนาคตถ้า mechanism ต่างๆ มันเริ่มไม่ทำงาน หรือมีใครไปปลดลอคมัน (เห็นแว่วๆ ว่าคุณธาริษาจะผ่อนปรนมาตรการ URR ในระยะเวลาอันใกล้นี้) ผมชักสงสัยว่า เงินบาทใน onshore มันจะแข็งตาม offshore หรือเงินบาทใน offshore มันจะอ่อนตาม onshore หรือจะพบกันครึ่งทาง ถ้ามันแข็งตาม offshore ก้อตัวใครตัวมันละครับ (ฮา)
โดย
MisterK
อังคาร ม.ค. 30, 2007 1:52 pm
0
0
I`ll meet u @ SET under 600.
พี่พอใจบอกว่าตัวเองเป็นแฟนหนังสือกำลังภายในได้ยังไงนี่ สำนวนนี้เจอออกบ่อย รู้จักคน รู้จักหน้า มิรู้จักใจ วาดเสือ วาดหนัง ยากวาดกระดูก น่าจะใช่นะ ความรู้เก็บเข้ากรุไปหมดแล้ว แหะ แหะ
โดย
MisterK
พฤหัสฯ. ม.ค. 25, 2007 3:52 pm
0
0
ผมเห็นข้อดีเล็กๆที่ยิ่งใหญ่ของความปั่นป่วนน่ากลัวช่วงนี้
ยากที่คนไทยจะจำความเลวร้ายของรัฐประหารได้ยาวนานครับ คนไทยลืมง่ายอยู่แล้ว หลังพฤษภาทมิฬภาพพจน์ทหารตกต่ำขีดสุด คนเกลียดชังการรัฐประหารกันทั้งประเทศ จนต้องหาทางแสดงความบริสุทธิ์ใจสารพัดว่าจะไม่มีการรัฐประหารอีกแน่นอน ประชาชนชาวไทยโปรดไว้ใจทหาร :lol: แต่อีกสิบกว่าปีผ่านไป คนก็เรียกหาฮีโร่อะไรก็ได้มาแก้ปัญหาปุ๊บปั๊บอย่างใจ จะดีหรือเลวขอแค่ทำอย่างที่ใจต้องการได้ก็เชียร์ไว้ก่อน (สงสัยคนไทยอ่านนิทานพระอินทร์ตัวเขียว ๆ บินลงช่วยแก้ปัญหาทันใจกันเยอะ ) อย่างที่เห็น ๆ หรืออ่าน ๆ กันอยู่ในช่วงที่ผ่านมา และทหารก็กลายเป็นฮีโร่ในดวงใจของคนหลาย ๆ คนอีกครั้ง :twisted: แต่จะเป็นฮีโร่จริงแท้แน่นอนแค่ไหนคงได้รู้กันต่อไป ว่าแต่วัฏจักรต่อไปมันจะเป็นยังไงต่อไปละนั่น แต่ที่แน่ ๆ สมัยทักกี้นี่สื่อตรวจสอบทุจริตอย่างเข้มข้นทุกโครงการ แต่สมัยนี้ผมยังไม่เห็นสื่อมีปากเสียงซักแอะเลยแฮะ ให้ความร่วมมือดีจริง ๆ สงสัยมั่นใจกันมากว่าสมัยนี้ไม่มี้ไม่มีการกินตามน้ำทวนน้ำ โครงการทุกอันล้วนบริสุทธิ์ผุดผ่อง เพราะสมัยนี้มีแต่คนดี ๆ ทั้งนั้น งบประมาณอะไรก็ถูกต้องสมควรทุกอย่างแล้ว ถ้าไม่ใช่ทักกี้แล้วอะไร ๆ ก็ดีไปหมด 8)
โดย
MisterK
พฤหัสฯ. ม.ค. 25, 2007 2:16 pm
0
0
TMB ขาดทุนยับจากอะไร
การปล่อยกู้ให้พวกพ้องสมัยรัฐบาลที่แล้ว การใช้ธนาคารเป็นเครือขายสนับสนุนรัฐบาลประชานิยม อ้างอิงจากไหนเหรอครับ ผมเพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรกนี่แหละกับแบงก์ TMB เคยแต่เห็นข่าวแบงก์อื่น ๆ แต่ก็เห็นเขากำไรกันดี ได้ยินแต่ข่าวบางคนเข้าไปซื้อหุ้น TMB เยอะแยะ ไม่รู้ตามรายการคุณขอมาหรือเปล่า ป่านนี้สงสัยนอนช้ำใจสองต่อไปแล้ว :lol:
โดย
MisterK
พุธ ม.ค. 24, 2007 5:31 pm
0
0
ผล------- มาตรการหมาจนตรอก
http://i6.photobucket.com/albums/y239/kleang/rtxusjy.jpg
โดย
MisterK
พุธ ม.ค. 24, 2007 2:52 pm
0
0
ผล------- มาตรการหมาจนตรอก
Us / Jy มีการเคลื่อนไหวมาหลายรอบแล้วครับ ในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวระดับ 50-60% เป็นเรื่องปกติเหมือนหุ้นวัฏจักรนั่นแหละ พอเงินอ่อนมากขายของได้เยอะ เงินตราต่างประเทศไหลเข้ามากเงินก็ต้องกลับไปแข็ง อีกฝ่ายนึงเงินแข็งมากขายของได้น้อยเงินไหลออกเยอะกว่าไหลเข้าก็ต้องกลับไปอ่อน ก็กลับกันเป็นวัฏจักร การพยายามฝืนค่าเงินไม่ว่าจะเพื่อใครก็ตามจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาแม้แต่อังกฤษก็เจ๊งมาแล้ว เพราะการฝืนค่าเงินมันไม่ได้สู้กับพวก Hedge fund เท่านั้น แต่เป็นการสู้กับเงินทั้งโลก พวก Hedge fund แค่เป็นผู้มองเห็นก่อนและเริ่มจุดกระแส http://i6.photobucket.com/albums/y239/kleang/Clipboard01.gif
โดย
MisterK
พุธ ม.ค. 24, 2007 2:48 pm
0
0
ถ้าไม่สนใจปัจจัยการเมือง SATTEL น่าสนหรือเปล่าครับเนี่ย
อืมม์ รู้สึกว่าทุกฝ่ายจะมีความเห็นตรงกันว่า ยุคนี้เป็นยุคบ้าจี้ครองเมือง แค่บ้าจี้ก็สั่งยึดได้ทันที :lol: แซวเล่นครับ
โดย
MisterK
พุธ ม.ค. 24, 2007 1:58 pm
0
0
Re: "คมช."เล็งรื้อสัมปทานโทรคมนาคม
[quote="javidol"]ขณะที่ พล.อ.ชูชาติ พรหมพระสิทธิ์ ประธานกรรมการ คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) กล่าวว่า ยอมรับว่ามีการขออนุญาตนำเข้าอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับดักฟังจริง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ และเตรียมทำการตรวจสอบรายละเอียดแล้วว่า มีการนำเข้ามาจำนวนเท่าใด และเป็นหน่วยงานใดบ้างที่มีอยู่ในครอบครอง :la:
โดย
MisterK
ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 1:17 pm
0
0
ข้อเด่น ข้อด้อย ของประเทศไทยคืออะไร
ขุดยากครับ ขนาดนี้ตอนนี้ก็ตูมตามจะแยกตัวกันแทบทุกวันอยู่แล้ว
โดย
MisterK
พุธ ม.ค. 17, 2007 12:55 pm
0
0
ทำไมเขาปิดข่าว
ช่วงนี้ข่าวต้องเป็นไปในทางเดียวกันครับ อย่าหวังอะไรมากจากสื่อเมืองไทย โบ๊เบ๊ไหม้ไปหลายสิบหลัง นสพ. แทบไม่มีข่าว ประกันต้องจ่ายน่าจะหลายร้อยล้านอยู่ ไม่เห็นมีใครวิเคราะห์บ้างเลย
โดย
MisterK
จันทร์ ม.ค. 15, 2007 10:23 am
0
0
ถ้าคุณเป็นคนต่างชาติ กำลังจะมาลงทุนทำกิจการในไทย
กรุงเทพฯ--12 ม.ค.--ผู้จัดการรายวัน ผู้จัดการรายวัน-นักลงทุนญี่ปุ่นส่งสัญญาณรัฐบาลไทย ปรับนโยบายลงทุน หลัง 3 ปัจจัยหลัก ระเบิดกรุง มาตรการกันสำรองธปท. และการแก้กฎหมายต่างด้าว ฉุดความเชื่อมั่นวูบ ยันระยะสั้นไม่ถอนลงทุน แต่ระยะยาวอาจปรับแผน จนกว่าจะมีความชัดเจน นายเท็ดสึจิ บันโน ประธานสภาหอการค้าญี่ปุ่น (เจซีซี) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 2550 เดิมทีทางเจซีซีมองว่าน่าจะขยายตัวมากกว่าในปี 2549 ที่ผ่านมา แต่เมื่อเกิดกรณีระเบิดกรุงเทพฯ และมาตรการรัฐบาลทั้งการกันสำรอง 30% ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รวมถึงการแก้ไขพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจคนต่างด้าว คงจะเติบโตไม่ถึง แต่ทั้งนี้คงจะขึ้นอยู่กับการจัดการของรัฐบาลไทยว่าจะเป็นไปอย่างไรต่อไป ทั้งนี้ จากปัจจัยการระเบิด มาตรการธปท.และการแก้ไขพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจคนต่างด้าวนั้น ทางนักลงทุนญี่ปุ่นมองว่ามีน้ำหนักไม่ต่างกันมากนักต่อความเชื่อมั่น แต่เห็นว่ากรณีระเบิดมีผลต่อความเชื่อมั่นมากที่สุด เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัยของชีวิต ซึ่งภาพรวมที่เกิดขึ้นคงจะไม่มีผลกระทบต่อการถอนการลงทุนในไทยแต่อย่างใด แต่การลงทุนระยะยาวอาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนตัวเลขบ้าง เพราะเหตุการณ์รัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 ทำให้เกิดความไม่มั่นใจอยู่แล้ว ระยะสั้น นักลงทุนญี่ปุ่นที่มีการลงทุนในไทยอยู่แล้ว และเป็นการลงทุนในระยะยาว เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ คงไม่ถอนการลงทุนออกจากประเทศไทย เพราะวางแผนไว้ล่วงหน้า เช่นเดียวกับระยะกลาง ภายใน 3 ปี ยังไม่ปรับแผนการลงทุน ส่วนระยะยาวอาจต้องมีการปรับเม็ดเงินบ้างและอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่อยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนก็คงต้องชะลอการศึกษาและเลื่อนการสำรวจ ทำให้ไม่มีเม็ดเงินใหม่เข้ามาลงทุนในระยะหนึ่งจนกว่าจะมีความชัดเจน ทั้งเรื่องมาตรการกันสำรองของธปท. และการแก้ไขกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว นายเท็ดสึจิกล่าว นายยูอิชิ คาโต ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะของสหรัฐฯ มีการลดลงทุนอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเมินว่าปี 2550 เศรษฐกิจโลกจะลดต่ำกว่าปี 2549 ขณะที่เศรษฐกิจเอเชียเช่น มาเลเซีย ก็มีจุดเด่นทางด้านการส่งเสริมอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ขณะสิงคโปร์โดดเด่นทางด้านการเงิน แต่ขณะที่ประเทศไทยไม่มีอะไรเด่นชัด ดังนั้นภาพรวมการเติบโตคงจะมีแต่คงไม่หวือหวา ขณะนี้ความสนใจลงทุนของนักลงทุนญี่ปุ่นหันไปลงทุนในจีนและอินเดียค่อนข้างมาก ดังนั้น ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาลไทยว่าจะทำอย่างไรในการดึงดูดการลงทุนมากขึ้น และจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติได้นายยูอิชิกล่าว นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ได้รับคำยืนยันจากนักลงทุนญี่ปุ่นว่าจะไม่มีการถอนการลงทุนออกจากไทยแน่นอน แต่หากไม่มีเหตุการณ์ระเบิดเกิดขึ้นซ้ำอีกก็จะมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น โดยนักลงทุนญี่ปุ่นลงทุนในไทยนานแล้ว จึงเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์เป็นอย่างดี และส่วนใหญ่ต้องการให้รัฐบาลมีการชี้แจงและประชาสัมพันธ์มาตรการต่างๆ ที่รัฐจะออกมาให้มากกว่าปัจจุบัน--จบ- เสียงจากอีกทาง ไล่ฝรั่ง ไล่สิงคโปร์ แล้วก็ไล่ญี่ปุ่นมั่ง ในนี้น่าจะมีหลายท่านเกิดทันสมัยล้างสมองให้เกลียดญี่ปุ่นนะ ประนามว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจ ยกพวกทำลายร้านค้าเขาซะดื้อ ๆ ถึงจะทำมาหากินสุจริตหรือเป็นคนดีเลวยังไงไม่ต้องสนใจ คลับคล้ายคลับคลากับอะไรบางอย่างตอนนี้จังน้อ
โดย
MisterK
ศุกร์ ม.ค. 12, 2007 5:12 pm
0
0
บรรยากาศแย่จริง หุ้นขึ้นได้ไม่นานหรอก
บรรยากาศแย่ไม่นานหรอกครับ เดี๋ยวพอขอความร่วมมือ งดเผยแพร่ข่าวสารที่กระทบต่อความสมานฉันท์ ก็จะมีแต่ข่าวดีๆ แล้วครับ ฮา บรรยากาศสมัยทักกี้แย่กว่านี้เยอะครับ ใคร ๆ ก็บอกครอบงำสื่อ แต่สื่อต่าง ๆ ขุดคนในตระกูลแกมาด่าได้ตลอด คนบางคนก็ยืนตะโกนด่าแกทั้งครอบครัวแทบทุกวัน บรรยากาศสมัยนี้ดีกว่ากันเยอะจริง ๆ แค่ "ขอความร่วมมือ "สื่อต่าง ๆ ชมเปาะไปทางเดียวกันหมด ไม่ต้องขัดแย้งกันให้ปวดหัว อย่างนี้หุ้นน่าจะขึ้นแรงมั้ยเนี่ย :twisted:
โดย
MisterK
ศุกร์ ม.ค. 12, 2007 2:59 pm
0
0
" หุ้นที่น่าจะมีผลกระทบต่อพ.ร.บ นอมีนี่ "
http://www.set.or.th/nvdr/th/nvdr.html http://www.set.or.th/nvdr/th/faqs/index.html
โดย
MisterK
พุธ ม.ค. 10, 2007 4:55 pm
0
0
" หุ้นที่น่าจะมีผลกระทบต่อพ.ร.บ นอมีนี่ "
อืมม์ เท่าทีไปอ่านมาคือ ThaiNVDR จะ vote ตามคนถือกรณีเดียวคือถ้ามีการเพิกถอนออกจากตลาด แต่กรณีกฏหมายนี้ คิดไปเรื่อย ๆ ก็สนุกดี อย่างเช่น ถ้าบริษัทที่มีหลายกิจการจะตีความยังไง อย่างทำกิจการในกลุ่มสามเป็นหลัก แต่มีธุรกิจซื้อขายที่ดินหรืออื่น ๆ ด้วย จะห้ามไหม หรืออย่างกรณีถ้าเราถือว่า Mint เป็นข้อยกเว้น เราสามารถใช้ Mint เข้าซื้อหุ้น Advanc 51% ได้หรือเปล่า :lol:
โดย
MisterK
พุธ ม.ค. 10, 2007 12:17 pm
0
0
331 โพสต์
of 7
ต่อไป
ต่อไป
ชื่อล็อกอิน:
MisterK
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
จันทร์ เม.ย. 04, 2005 12:11 pm
ใช้งานล่าสุด:
พุธ ก.ย. 01, 2021 7:06 pm
โพสต์ทั้งหมด:
857 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.04% จากโพสทั้งหมด / 0.12 ข้อความต่อวัน)
GO_TO_SEARCH_ADV
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ Value Investing
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ThaiVI GO Series
↳ Oppday Transcript
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว