Re: ชวนพี่ๆคิด < innovative products > - ระบบป้องกันการชน ในรถแต่ละคันเราอาจจะบรรจุความถี่คลื่นบางอย่างไว้ เมื่อคลื่นของรถเราและคันอื่นเข้าใกล้กันมากไป ระบบจะลดคันเร่งให้และเบรคอัตโนมัติ http://www.nissan-global.com/EN/NEWS/2006/_STORY/060315-01-e.html เตรียมช้อนหุ้น Nissan ไว้เลยมั๊ยครับ เคยดูสารคดี เวลารถหลุดออกนอกเลน มันเบนพวงมาลัยกลับให้ด้วย โดย หมักเตา พุธ มี.ค. 30, 2011 10:29 pm

Re: ทำไมเต่าถึงชนะกระต่าย?? อย่ามัวแต่แข่งกันเพลิน คอยเหลือบดูสิงโตจ้าวป่าด้วยนะคร้าบ... และ นิทานอีสปเวอร์ชั่นสุดท้ายอาจบอกว่า ตอนจบ ทั้งเต่า กระต่าย และสิงโต คู่สุดท้ายก็เดินเข้าคิวต้อยๆไปขึ้น Noah's Ark โดย หมักเตา พุธ มี.ค. 30, 2011 5:38 pm

Re: พี่ๆที่เล่นหุ้นอย่างเดียวมีพอร์ทเท่าไหร่ถึงเล่นหุ้นเป็นอ โดยไม่พึ่งพิงรายได้ทางอื่นเลย และในระดับความเครียดท่ีพอรับได้ ผมยังเชื่อตามท่านดร.ว่าควรเป็น 200 เท่าของค่าใช้จ่ายรายเดือนท่ีคาดว่าจะเกิดขึ้นครับ วิธีของผมต้องใช้ 480 เท่าแน่ะ :wall: ดีแล้วนี่ครับน้องกล้วยไม้ขาว ยิ่งเผื่อเยอะยิ่งเซฟตัวเอง อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอนครับ เพื่อนพี่ได้ลูกแฝด มาเกินกว่าแผนไปนิด เล่นเอาเกือบจุกเหมือนกัน โดย หมักเตา อังคาร มี.ค. 29, 2011 2:27 pm

Re: พี่ๆที่เล่นหุ้นอย่างเดียวมีพอร์ทเท่าไหร่ถึงเล่นหุ้นเป็นอ โดยไม่พึ่งพิงรายได้ทางอื่นเลย และในระดับความเครียดท่ีพอรับได้ ผมยังเชื่อตามท่านดร.ว่าควรเป็น 200 เท่าของค่าใช้จ่ายรายเดือนท่ีคาดว่าจะเกิดขึ้นครับ โดย หมักเตา อังคาร มี.ค. 29, 2011 10:05 am

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity ขอบคุณสำหรับบทความดีๆทั้งหลายครับท่านพี่ มีสิ่งให้เก็บไปคิดตลอดเลย มารอฟังต่อด้วยอีกคนครับ ปล. จบ Zurich Axioms แล้วครับ แกะอยู่หลายวันเหมือนกัน ถูกจริตมากกับผมครับ เลยขอสรุปว่าดีมีประโยชน์ แต่อาจไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคนครับ โดย หมักเตา จันทร์ มี.ค. 28, 2011 10:19 am

Re: ตลาดหุ้นเป็น zero-sum game จริงหรือไม่ ขอความเห็นและข้อโ ขออภัยล่วงหน้า แต่ฟันธงแน่นอนแล้วว่าไม่เป็นครับ เดิมทีเข้าใจว่าเป็น เนื่องจากสำรวจพฤติกรรมตนเองตั้งแต่ช่วงปีใหม่ก็ออกแนวเสี่ยงโชคอยู่ นี่ผ่านมาครบสามเดือนแล้ว เลยลองตรวจสอบดู คุณหมอยืนยันว่าผลยังเป็น negative ครับ (หมายเหตุ: SET negative แต่ port positive และ step-inw positive) โดย หมักเตา พุธ มี.ค. 23, 2011 6:30 pm

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity สวัสดีพี่โหน่งครับ ไม่ได้แวะมาคุยกับพี่ซะนาน แต่ยังตามอ่านบทความสม่ำเสมอครับ เร็วๆนี้ เดินไปสะดุดราคาประมูลภาพเขียนศิลปินดังครับ เลยเอามาฝากให้ดูกันเล่นๆ http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_most_expensive_paintings งานสาดสีอันยุ่งเหยิงของนายแจ็คสัน พอลล็อค รั้งตำแหน่งภาพเขียนราคาประมูลสูงสุดอยู่ที่...... หนึ่งร้อยสี่สิบล้านเหรียญสหรัฐ เอากราฟ... เอ๊ย... ภาพมาแปะให้ดูด้วยครับ No_5_1948.jpg นี่ถ้าพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ นึกอุตริเอาโมนาลิซ่าออกประมูล คงได้ตะลึงตาค้างกันอีกขนานใหญ่ ดูหลายภาพจากแกลเลอรี่ท้ายเว็บเพจ ก็สวยไม่หยอกทั้งนั้น แต่สงสัยจริงๆ ว่าคนประมูลเค้าเห็นอะไร ให้พีอีสิบก็ได้เอิร์นนิ่งสิบสี่ล้านเหรียญ อูยยย... ไม่เอาดีกว่า แบบนี้มันต้องให้พีอีเติบโตซักยี่ฉิบ เหลือเอิร์นนิ่งซักเจ็ดล้านเหรียญ ค่อยดูดีมีเหตุผลขี้นมาหน่อยมั๊ย ลองทำดีซีเอฟประกอบบ้าง ว่าแต่หาไงล่ะเนี่ย คงต้องไปถามคนที่ซื้อไปพิงฝาบ้าน จุดธูปเทียนบูชาเช้าเย็น ว่ามันพ่นกระแสเงินสดอิสระให้เค้าแค่ไหนกัน หรือจะโมเดลปันผล ก็ไม่รู้อีกว่าปันเงินสดเท่าไหร่ ถ้าปันผลเป็นภาพเขียนตามสมัยนิยมหกต่อหนึ่ง จะรีบไปสะสมให้ครบหกภาพ ไม่งั้นเด๋วได้เศษภาพมาต่อจิ๊กซอว์เล่น คอสท์รีเพลสเม้นท์ อันนี้ง่ายหน่อย ไปถามศิลปินแถวหน้าพระลานดูคงพอได้ ว่าแต่จะก็อปได้เหมือนเร้อ พีบีก็ยากอีก ค่าผ้าใบ ค่าแปรง ค่าสี อีกทั้งค่าสุราเสริมสร้างแรงบันดาลใจ แถมไม่รู้ว่าซื้ออุปกรณ์ปีไหน จะได้เอามาคิดบวกเงินเฟ้อเป็นฟิวเจอร์วาลูได้ถูก สรุปว่าประเมินไม่ออกครับ น่าเศร้าที่ศิลปินส่วนใหญ่ลาโลกไปแล้ว ถ้ายังมีชีวิตอยู่และเผอิญร่ำรวย อาจได้เห็นเหล่าศิลปินออกมากว้านซื้อสะสมภาพเขียนตัวเอง ไม่เกี่ยงราคาและไม่บันยะบันยัง ให้ได้ดูพอเป็นเรฟเฟอเร้นซ์บ้าง สงสัยอีกว่าโลกนี้จะมีกองทุนดัชนีภาพเขียนรึเปล่า แบบว่าซื้อขายตามอันดับศิลปิน ใครเข้าทำเนียบก็ซื้อผลงาน ใครหลุดทำเนียบก็ขายทิ้ง ถ้ามีก็คงดีนะครับ เผื่อจะได้มาอุดหนุนห้าสิบหรือร้อยศิลปินดังประเทศสารขัณฑ์บ้าง อาจเจียดเงินกองทุนมาเล็กน้อยซักไม่กี่เปอร์เซ็นต์ เอามาซื้อแบบเหวี่ยงแห ไม่ต้องประเมินมูลค่าอะไรให้วุ่นวายหรอกเนาะ เพราะกำไรหรือขาดทุนก็คงไม่มีนัยยะมากมาย ขออย่างเดียว ช่วยถือให้นานอีกหน่อยนึง ไม่ใช่เวลาได้กำไรพอสมควรแล้ว ก็เล่นเททิ้งหนีออกดื้อๆ พล่ามมาตั้งนาน ไม่เกี่ยวกับ Reflexivity ตามหัวข้อกระทู้เลย ขออภัยครับที่ทำกระทู้รก กำลังพยายามทำความเข้าใจอยู่ เลยขอเว้นที่ว่างไว้เป็นมาร์จิ้นออฟเซฟตี้ เผื่อมีใครสนใจจะมาช่วยดันกระทู้และสนทนากันในแบบสภากาแฟครับ ว่าไปแล้ว โชคดีนะครับ ที่วงการหุ้นไม่มีอะไรเหมือนวงการภาพเขียนแม้สักนิดเดียว ขอบคุณพี่โหน่งและคุณอี้ที่ช่วยเปิดโลกทัศน์ครับผม โดย หมักเตา เสาร์ มี.ค. 19, 2011 8:32 pm

Re: เคล็ดลับ VI คือ แค่การลงทุน หรือ การใช้ชีวิตทั้งชีวิต ? กูรูที่ผมนับถือท่านเป็นคุรุ สอนผมมาอย่างนี้ครับ ว่าให้มีตระกร้าใส่เงินสามใบ 1) ตระกร้าปลอดภัย หน้าตาเรียบๆไม่หวือหวา เงินที่ใส่ไว้ในตระกร้านี้จะพอกพูนอย่างมั่นคง แต่ข้อสำคัญคือ เงินมักจะไม่สูญหาย ตระกร้าใบนี้ให้ใส่เงินได้ทางเดียว คือ เข้าแล้วห้ามเอาออก 2) ตระกร้าเติบโต ใบนี้มักจะทำให้ประหลาดใจ วันดีคืนดีเงินก็พอกพูน วันร้ายคืนร้ายก็หดหาย 3) ตระกร้าความฝ้น ให้ทิ้งไว้เป็นตระกร้าเปล่าๆ ไม่ต้องใส่เงินไว้ เงินเริ่มต้นให้แบ่งไว้ในสองใบแรกตามความเหมาะสม วันดีคืนดีถ้าตระกร้าเติบโตมีเงินพอกพูนมาให้ประหลาดใจ ก็ให้เหลือบไปดูว่ามีเพิ่มมาเท่าไร แล้วแบ่งเงินที่เพิ่มออกเป็นสามส่วน ส่วนแรกโยนเพิ่มไปในตระกร้าปลอดภัย ส่วนที่สองโยนกลับไปในตระกร้าเติบโต ส่วนที่เหลือให้ดูว่าพอไหมที่จะถมตระกร้าความฝ้นจนเต็ม ถ้ายังถมไม่เต็มก็โยนกลับไปไว้ในตระกร้าเติบโต แล้วรอเหตุการณ์ประหลาดใจครั้งหน้า แต่ถ้าถมได้เต็มจะรอช้าอยู่ใย ถมไปเลยครับ แล้วเปลี่ยนตระกร้าความฝันเป็นตระกร้าว่างๆใบใหม่ เงินจะแบ่งสัดส่วนอย่างไร ตระกร้าแต่ละใบใหญ่เล็กแค่ไหน เหตุและผล ตามความชอบหรือความจำเป็น กูรูบอกว่าตัวเราเองจะรู้และตัดสินใจได้ดีที่สุดครับ และ Live with Passion!!! โดย หมักเตา เสาร์ มี.ค. 05, 2011 10:44 pm

Re: ค่า PE PBV YIELD ในพอร์ตของแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้างคร div yield 3.25% เทียบมูลค่าพอร์ทวันสิ้นปีครับพี่ ณ วันนี้ เวทตามมูลค่าในพอร์ท PE 10.54 PBV 2.87 !!! -_-" ครับ โดย หมักเตา จันทร์ ก.พ. 21, 2011 2:41 pm

Re: เบื่อมาม่า! มานั่งทบทวนแนวคิดของตัวเองดีกว่า ขอบคุณครับ อ่านแล้วได้แง่คิดเยอะเลย แถมฮาด้วย สำรวจตัวผมเองแล้วยังไม่รู้ว่าเป็นสายไหนเพราะสะเปะสะปะเหลือเกิน ขอยืนในมุมนักพนันต่อไปก่อนละกัน โดย หมักเตา พฤหัสฯ. ก.พ. 17, 2011 11:09 pm

Re: ช่อง Search ร้อยคนร้อยหุ้น ด้านบนขวา update แล้ว ขอบคุณมากๆครับ ขอเสริมด้วยว่า ถูกใจฟังก์ชั่น bookmark มากๆเลย อันนี้แหละที่อยากได้มาเป็นปีแล้ว ตอนนี้ทำไฟล์ลิ่งได้สะดวกและอิสระขึ้นมากเลยครับ โดย หมักเตา อังคาร ก.พ. 15, 2011 12:44 pm

Re: เหตุและผล เห็นด้วยทั้งหมดครับพี่ ยกเว้น 4.2 ที่ขอมีเงื่อนไขเพิ่มเติมนิดนึง นอนรอ ถ้าปัญหาเกิดแค่ระยะสั้นๆ และผบห.กำลังแก้ไขให้กลับมาดีเหมือนเดิม ไม่งั้น ผมขอ เผ่น(อย่างนิ่มนวล)เถอะโยม ครับพี่ โดย หมักเตา อาทิตย์ ก.พ. 13, 2011 12:30 pm

Re: ทำใจไม่ขายหุ้นได้ยังไงครับเวลาหุ้นมันตกเอาตกเอา ? คำตอบแบบไม่ตรงคำถามของคำถามที่ไม่ได้ถาม ทำใจขายหุ้นได้ยังไงครับเวลาหุ้นมันขึ้นเอาขึ้นเอา? วลีเด็ด โดยตรรกะเดียวกัน 1. พื้นฐานไม่เปลี่ยน 2. Mr. Market เสนอราคาสูงๆให้อย่างไม่มีเหตุผล 3. ถือโอกาสให้เป็นโอกาส 4. ขายเพิ่ม เพราะว่าสัดส่วน %yield ปรับตัวลดลง มนุษย์เราแตกต่างกัน จนบางครั้งเราก็แตกต่างแม้กระทั่งภายในต้วเราเอง มนุษย์หกพันล้านหน่วย มีความแตกต่างหกพันล้านแบบ ตลาดหุ้นมีมนุษย์กี่หน่วยกันหนอ? น่าสนุกดี เวลามีอีกหลายคำถามตามมาให้คิด ทำใจซื้อไม่ซื้อ ทำใจขายไม่ขาย ได้ยังไงครับเวลาหุ้นมัน... โดย หมักเตา อาทิตย์ ก.พ. 13, 2011 10:27 am

Re: ในภาวะตลาดแบบนี้ ท่านมีกลยุทธการลงทุนอย่างไรกันบ้างครับ แลกเปลี่ยนกันนะครับ เห็นต่างแย้งได้นะ นี่คือสิ่งที่ปรับในพอร์ทจากเมื่อต้นปี ราคาเกินเป้าหมายในใจแล้ว ที่ผ่านมาได้ลองปล่อยให้มันวิ่งเล่น --> ขายออกจากพอร์ท ได้มาขนาดนี้ก็พอใจแล้ว ราคายังไม่ถึงเป้าในใจ แต่อัพไซด์เหลือน้อยกว่า 10% ขณะที่ดาวน์ไซด์อาจจะ 20-30% อาจเป็นพวกที่ตลาดให้พรีเมี่ยม ในภาวะตลาดระเริง ยังน่าจะได้พรีเมี่ยมมากกว่านี้ --> ตัดใจยอมขายหมู อัพไซด์สูง ขณะที่ดาวน์ไซด์ต่ำ เพราะราคาถูกกดดัน โดยมีเงื่อนไขว่า เห็นแนวโน้มชัดเจนว่าในอนาคตอย่างน้อยอีกหนึ่งปี จะมีเหตุการณ์อะไรมาเพิ่มกำไรให้บริษัทได้บ้าง ข่าวดียังมีมากเมื่อเทียบกับข่าวร้าย --> ถ้าถือมากพอแล้วก็ถือต่อ ถ้าจะซื้อ ก็จะขอต่อราคา ไม่ถูกจริงไม่เอา ตกรถก็ยอม สมมติเกิดพลิกผัน ราคาหล่นจนถล่มทลายก็จะยอมติดหุ้น รอวันมันกลับมา อัพไซด์สูง แต่ดาวน์ไซด์ก็สูงด้วย ประเภทคิดถูกก็เฮ คิดผิดก็จุก --> ขายลดสัดส่วนในพอร์ทลง เหลือเท่าที่คิดว่าถ้ามันลง x% มูลค่าพอร์ทโดยรวมจะลดลงเท่าไหร่ แล้วยังพอกล้ำกลืนได้ ถ้าลงถึง x% จริงๆ ก็โยนทิ้งทั้งหมด เห็นว่าขายออกซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ผมไม่ได้มองว่าตลาดมันแย่นะ แค่รู้สึกว่ามันยากขึ้น เพราะเดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง เอาแน่เอานอนไม่ได้ สรุปว่า ขอพยายามรักษามูลค่าพอร์ทเป็นหลักก่อน เสียดายตัวเลขครับ โดย หมักเตา พุธ ก.พ. 09, 2011 1:58 pm

Re: ในภาวะตลาดแบบนี้ ท่านมีกลยุทธการลงทุนอย่างไรกันบ้างครับ ^ ^ ขอบคุณครับ โดนใจมาก กลยุทธย่อหน้าสุดท้ายอาจฟังแปร่งหู แต่ผมว่านั่นคือสภาำพความเป็นจริงในตลาด เจอสถานการณ์แบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนบอกตัวเองว่า ถึงไม่รู้ ถึงไม่ถนัด ก็ต้องหัดฝึกฝน ติดไม้ติดมือเอาไว้กันเหนียว บ่ายหน้าเข้าวัด ตามอ่านคัมภีร์เท่าที่หาได้ เสียดายหอคัมภีร์เก่าที่ถูกลั่นกุญแจ แต่ก็ต้องยอมรับและทำใจ โดย หมักเตา พุธ ก.พ. 09, 2011 10:36 am

รบกวน!!! เพื่อนๆ!!! ThaiVI อ่านก่อนโพสนะครับ.... (^-^)/ เสนอความเห็นอีกเรื่องนึง ว่าเอาปุ่ม new topic ออกจากหน้ากระทู้ย่อยดีไหมครับ ให้เหลือไว้แต่ปุ่ม post reply เพื่อป้องกันความสับสน ไม่แน่ใจว่ายากง่ายแค่ไหนในทางปฏิบัติ ฝากให้ทีมออกแบบเว็บไว้พิจารณาครับ ขอบคุณครับ โดย หมักเตา ศุกร์ ก.ย. 24, 2010 12:05 pm

The Quants:ValueWay วิบูลย์ พึงประเสริฐ แวะมาบอกว่า Resort World Sentosa เปลี่ยนกติกาแล้ว หลายเดือนก่อนยังแจกไพ่แบบโบราณอยู่ ตอนนั้นคนแน่นมาก ไม่มีที่นั่ง แถมวางชิพกันจนน่าเวียนหัว เลยขี้เกียจเข้าไปมุง ตอนนี้ใช้แค่ 4 สำรับนะครับ แต่ว่าเอาเครื่อง Shuffle Master มาคอยสับไพ่ตลอด ฉะนั้น ไม่ต้องเสียเวลาไปนับครับ สรุปว่า เหลือแต่ตาราง Blackjack Metrix ให้พึ่งพา ก็ยังพอเอาตัวรอดได้บ้าง Marina Bay Sands ไม่รู้ครับ ไม่ได้ไปนานแล้ว ไม่ประทับใจในบริการ (และที่สำคัญ คือ ฮวงจุ้ยไม่ค่อยถูกกัน) แต่ถ้ายังไม่ใช้เครื่องสับไพ่ อาจจะได้เจอกันเร็วๆ นี้ ป.ล. หากรักจะเป็นนักพนัน กรุณาเจียดเศษเงิน 110 บาท ซื้อหนังสือ โอกาสและความน่าจะเป็น (เดิมชื่อ หลักการพนัน) มาอ่านซะก่อน http://dekisugi.net/books เหมายกชุดก็แค่พันกว่าบาท ถ้าอยากไม่รักดี ต้องไม่รักดีแบบมีสติครับ โดย หมักเตา ศุกร์ ก.ย. 24, 2010 10:26 am

ออกมาแล้วครับ ระงับการประมูล 3 G 2G ไป 5G มันก็เท่ห์ดีนะครับ จะได้มีเรื่องไว้โม้เกทับเพื่อนบ้าน ว่าเรามีพัฒนาการแบบก้าวกระโดด  :? ไอ้โครงข่ายไยแ้ก้วของรัฐวิสาหกิจนี่ เอกชนเค้าจะมั่นใจกล้ามาเช่าหรือครับ? สมัยก่อน เวลาิลิงค์ไปต่างประเทศล่ม ได้ฟังมาจนเบื่อกับคำตอบประเภท "พี่อดใจรอนิดนะครับ ลิงค์ตรงส่วนนั้นอยู่ใต้การดูแลของ XXX ผมไล่บี้ให้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ยังไม่ได้คำตอบครับ" กินก๋วยเตี๋ยวจนอืดไปแล้วสองมื้อสองชาม ลิงค์มันก็ยังล่ม ไม่รู้เอาเงินภาษีเอางบประมาณไปปรับปรุงอะไรกันได้บ้าง เอ้า! มาโฮกันหน่อย RIP ครับ โดย หมักเตา พฤหัสฯ. ก.ย. 23, 2010 11:35 am

แนวทางการลงทุนกับแนวทางการเล่นตามตลาด เริ่มลังเล และ ไม่แน่ใจ ครับ เว็บบอร์ดมันมีสเน่ห์ในตัวเอง ที่ทำให้มันแตกต่างจากหนังสือ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร วารสาร ฯลฯ ตลาดหุ้นก็เป็นสถานที่ที่มีสเน่ห์ไม่แพ้กัน พอจับมารวมกันเข้า เว็บบอร์ดที่เป็นเสมือนกระจกสะท้อนภาพทุกมุมของตลาดหุ้น เลยยิ่งมีความน่าสนใจเป็นทวีคูณ แต่ก็ไม่ว่ากันครับ ได้อย่างเสียอย่าง ถ้ามีไว้อ่าน แล้วทำให้อ่านได้รื่น อ่านได้เร็ว มันก็ประหยัดเวลาดีครับ โดย หมักเตา จันทร์ ก.ย. 20, 2010 1:15 am

วิธีการหาผลกำไรเฉลี่ยในรอบหลายปีที่ผ่านมา ถ้าจะดู EPS ให้ระมัดระวังการคำนวณด้วยนะครับ ในบริษัทที่จำนวนหุ้นมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ ในรอบหลายปีที่ผ่านมา เช่น เพิ่มทุน แตกพาร์ ออกวอร์แรนท์ ออก ESOP/EJIP ฯลฯ ค่า EPS อาจจะเพี้ยน ดูกำไรสุทธิที่เป็นกำไรปกติประกอบด้วยก็ดีครับ โดย หมักเตา ศุกร์ ส.ค. 27, 2010 11:14 pm

มุมมองลงทุนสไตล์ Sai น้องนี่โครตขยันเลยนะครับ ไปทุกที่เห็นทุกที่ :P เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมมากเลยนะครับ ขยันได้แบบน้อง neo_potato_Th เนี่ย  :bow: เรื่องเรียนก็หนักแล้ว ยังสามารถจัดเวลาให้การลงทุนได้ด้วย ผมเห็นติดตามข่าวสารบริษัท ตามอ่านบทความ ขยันวิเคราะห์ ขยันซักถาม ฯลฯ ทำได้แบบนี้ฟันธงว่ารวยแน่ๆ ครับผม "เก่งไม่กลัว กลัวขยัน" เป็นจริงเสมอในทุกวงการครับ โดย หมักเตา เสาร์ มี.ค. 27, 2010 1:53 pm

มุมมองลงทุนสไตล์ Sai [quote="DevilCupid"]เข้ามาเชียร์ให้พี่เล็กช่วยกันตอบกับพี่ sai อีกคนครับ ผมรู้สึกโชคดีมากๆเลยที่เมื่อจิบเบียร์คราวก่อนนู้นนนนนบังเอิญได้ร่วมโต๊ะกับพี่ๆทั้งสอง ตอนนั้น(และตอนนี้)ก็ไม่ค่อยมีความรู้อะไรเท่าไหร่ ได้แต่อาศัยนั่งฟังพี่ๆวิเคราะห์หุ้นตัวนู้นตัวนี้ ทำให้กลับมาทำการบ้านมากขึ้นกว่าเดิม แล้วก็ได้อานิสงค์จากคำแนะนำของพี่ๆ ช่วยทำให้พอร์ตผมขยายตัวครับ โดย หมักเตา จันทร์ มี.ค. 22, 2010 4:15 pm

กระทิง ???? กระทิงฝรั่ง ตามมาขวิดสีแดง......... หรือ... แดร๊กคิวล่า ตามกลิ่นเลือดมาฝังคมเขี้ยว... เหอเหอเหอ สยองขวัญ   :twisted:  :twisted:  :twisted: โดย หมักเตา ศุกร์ มี.ค. 19, 2010 1:09 pm

มุมมองลงทุนสไตล์ Sai มาคารวะให้คุณ sai หมดหัวใจเลยครับ :bow:  :bow:  :bow:  :bow:  :bow:  :bow:  :bow:  :bow:  :bow:  :bow: โดย หมักเตา พฤหัสฯ. มี.ค. 18, 2010 10:25 pm

P/BV P/BV ก็มีที่มาจาก P ราคาในตลาด ณ เวลาหนึ่ง BV มูลค่าหุ้นทางบัญชี ณ เวลาหนึ่ง ถ้าเป็นคนละบริษัทจะรู้ได้อย่างไรครับ ว่าสองบริษัทมีการบันทึกมูลค่าทางบัญชีในแบบเดียวกัน และมูลค่าทางบัญชีนั้นตรงกับสภาพความเป็นจริงถ้าจะมีการประเมินราคาทรัพย์สินในปัจจุบันหรือไม่ ยังตอบไม่ได้ครับ เพราะเป็นการมองจากจุดเล็กๆ จุดเดียว ต้องลองมองจุดอื่นๆ ที่เหลือมาเปรียบเทียบด้วยครับ ลองหารายละเอียดด้านอื่นเพิ่มดูนะครับผม ปล. ถ้าเป็นบริษัทเดียวกัน ซึ่ง BV ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก อันนี้จะดีทั้งคู่เลยครับ ตัวเลขน้อยดีตอนซื้อ ตัวเลขมากดีตอนขาย (แซวเล่นนะครับ) โดย หมักเตา พฤหัสฯ. มี.ค. 18, 2010 4:03 pm

มือใหม่ ตีแตก และความเสี่ยง ขอบคุณทุกท่านสำหรับความคิดเห็นนะครับ ผมได้มุมมองใหม่ๆ เพิ่มเติมเยอะมากจริงๆ ทั้งเรื่องลงทุน ทั้งเรื่องชีวิต ฯลฯ (เพราะฉะนั้น คิดถึงทะเลก็แล่นเรือเลยครับ ผมจะติดสอยห้อยตามไปด้วย  :oops: ) อ้อ ขอบคุณ winkung ด้วยนะครับ ที่ช่วยระดมความคิดจากเพื่อนๆ ที่สินธรมาเพิ่มให้ด้วย เยี่ยมครับผม จนถึงวันนี้ ผมก็ยังไม่มีคำตอบให้ตัวเองว่าใครเสี่ยงกว่า เพราะความเสี่ยงมันก็อยู่ในหลายๆ จุด มากน้อยต่างกันไป งั้นมาฟังนิทานสบายๆ ดีกว่า เจ้านายกะลูกน้องคู่เดิม บังเอิญไปนั่งสนทนากันระหว่างอาหารกลางวัน คุยไปคุยมาก็เลยได้รู้ว่าถือหุ้นตัวเดียวกันอยู่ ก็เลยติดลม ถกกันถึงหุ้นตัวต่างๆ เจ้านายก็เล่ามุมมองธุรกิจให้ฟัง เล่าเรื่องจำนวนหุ้นที่ถือ เรื่องขนาดพอร์ท (ลูกน้องคงไม่กล้าละลาบละล้วงไปถามถึงสถานะทางการเงินในครอบครัวหรอกนะคร้าบ ก้อเป็นลูกน้องนี่นา) ฟังจบลูกน้องก็คิดในใจว่า "เจ้านายเรานี่เก่งจัง ที่กล้าทุ่มขนาดนี้ กล้าเสี่ยงขนาดนี้ แปลว่ามั่นใจมากกับการตีแตกหุ้นตัวนี้แน่ๆ" ฝ่ายเจ้านายก้อ "อ๋อ ไอ้แบบที่เราทำนี่เค้าเรียกตีแตกเหรอ ไม่เคยรู้มาก่อนเลย ยังดีว่าตีแตกพอร์ทหุ้นแต่ไม่ได้ตีแตกสถานะทางการเงิน" ว่าแล้วช่วงบ่าย ลูกน้องก็รีบไปคีย์คำสั่ง เทขายตัวอื่นทิ้งหมด ระดมสรรพกำลังมาตีแตกหุ้นตัวเดียวกะเจ้านาย พลางคิดในใจ "โชคลาภเอ๋ย ฉันกำลังรอคอยเธออยู่ด้วยความกระ หายนะ จ๊ะ" เป็นเวลาเดียวกับที่เจ้านายวางสายจากมาร์ หลังจากสั่งให้ขายลดสัดส่วนเหลือแค่ 20% แล้วเอาเงินไปแบ่งซื้อหุ้นอีกสี่ตัว ถ้าพรุ่งนี้ สองคนนี้มาคุยกันอีก ก็คงได้ฮากลิ้ง แล้วก็ได้แต่ยิ้มให้กันแบบเขินๆ ปล. ขออนุญาตฝากไว้สองลิงค์ครับผม http://www.thaivi.com/2010/03/460/ http://dekisugi.net/2006/10/0006-%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%88%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%87/ โดย หมักเตา พฤหัสฯ. มี.ค. 18, 2010 2:27 pm

มือใหม่ ตีแตก และความเสี่ยง เอ้า! หักหัวเรือคร้าบ ใครเป็นคนซื้อเข็มทิศมาเนี่ย ซื้อผิดอันแหงม ชี้ลงใต้ตลอดเลย  :D   มิน่าสาวๆ ถึงไม่ค่อยกล้ามาโพสท์  :'O โดย หมักเตา พฤหัสฯ. มี.ค. 11, 2010 10:43 pm

มือใหม่ ตีแตก และความเสี่ยง :rofl: โดย หมักเตา พฤหัสฯ. มี.ค. 11, 2010 10:30 pm

เซียนหุ้คำนวณต้นทุนเฉลี่ยของนักลงทุนต่างชาติพบSETอยู่ที่ 723 ปล.แต่ได้ได้เมลล์มาว่าครั้งนี้สู้ครั้งสุดท้าย....ถ้าเป็นงั้นจริงก็....เก้บศพผมด้วยนะครับ 555+ เอาด้วยครับ ผมก็ไม่หนี คนตายได้พูด... สองศพ  :x โดย หมักเตา พฤหัสฯ. มี.ค. 11, 2010 10:00 pm

#ย้ายสถานที่จิบเบียร์วันที่12มีิค.นี้ไปที่ภ.จันทร์เพ็ญครับ# [quote="sorawut"][quote="AuI_a VI"]ปล.2 เรื่องชมนมไม่เกินห้าคนนี่ คนไม่รู้กฎหมายอย่างผมอยากให้ผู้รู้ทั้งหลาย ช่วยขยายความด้วยว่า ไม่เกินห้าคนนั้น หมายถึงจำนวนผู้ชม หรือจำนวนนม โดย หมักเตา พฤหัสฯ. มี.ค. 11, 2010 6:55 pm

เราจะทราบได้อย่างไรว่าเรามีสิทธิ์ในการร่วมประชุมผู้ถือหุ้นคร ถ้าใจร้อนก็ดูประกาศใน www.set.or.th ครับ ในหน้าข้อมูลของหุ้นแต่ละตัว จะมีแถบ (= แท็บ tab ???) ข้อมูลสิทธิประโยชน์ ซื้อก่อนวันขึ้นเครื่องหมาย XM ก็ได้สิทธิ์เข้าประชุมครับ โดย หมักเตา พฤหัสฯ. มี.ค. 11, 2010 4:16 pm

ช่วงนี้ ทำอะไรกันบ้างครับ สำหรับมือใหม่ ลงทุนหรือนั่งดูครับ [quote="m_mummie"]:P ขอบคุณอีกทีคะ สำหรับคำตอบแจ่มๆ ปัญหาสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เข้าใจ ตีโจทย์ไม่แตก บางครั้งก็หลงลืมไปบ้าง สงสัยหน้าตาไม่ดี เลยไม่ค่อยดึงดูดเท่าไร โดย หมักเตา พุธ มี.ค. 10, 2010 9:24 pm

ใครเคย ลงทุน ใน MACO บ้าง (ฉบับเป็นกลอน) ออกตัวก่อนว่ามิได้เป็นผู้รู้ กวาดตาดูเห็น PE เก้ากว่าๆ รู้คร่าวๆ บ. นี้ทำโคสะนา ต้องไปหา 56-1 มาผึ่งดู ยังแอบเห็นกรอสมาร์จิ้นว่าสูงลิบ NPM ดันต่ำสิบได้ไงหว่า SGA ท่าจะสูงทะลุฟ้า รอคอยท่าเซียนมากหน้าเข้ามาเปรย ให้วิเคราะห์แบบเป็นกลอนคงไม่ไหว กว่าจะได้เป็นคำตอบคงหอบหนา เกิดเป็นหุ้นสุดแสนดีมีคุณค่า ราคาพุ่งไม่มีเรานั่งเศร้าเอย  :( โดย หมักเตา พุธ มี.ค. 10, 2010 10:35 am

อยากทราบว่าเพื่อนๆพี่ๆชาว VI เริ่มลงทุนตอนอายุเท่าไหร่ครับ? ตาสว่างจากการเปิดหน้าแรกของ Rich Dad Poor Dad ตอนอายุยี่สิบ.... เอ้อ ยี่สิบปลายๆ เน้นว่าปลายมากๆๆๆๆๆ ต่อด้วยการเป็นแมงเม่าอยู่ปีเต็มๆ ไม่ช้าเกินไปเลยครับ เพราะผมวางแผนจะอายุยืนถึง 150 ฮ่าฮ่าฮ่า  :doi: โดย หมักเตา จันทร์ มี.ค. 08, 2010 11:12 pm

แมงเม่าเอาเปรียบผู้ถือหุ้นรายใหญ่เช่นไร? แมงเม่าสามารถลดน้ำหนักตัวลงได้อย่างรวดเร็ว จากการเข้าซื้อขายหุ้นโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ ส่งผลให้แมงเม่าผอมเพรียวเพราะกินไม่ได้นอนไม่หลับ ในขณะที่รายใหญ่อ้วนท้วนจนเกิดปัญหาน้ำหนักตัว... ส๊าาาาธุ  :pray: โดย หมักเตา จันทร์ มี.ค. 08, 2010 4:08 pm

secret millionaire ผมคำนวณผิดครับ ต้องแก้ไข มิน่า ซื้อหุ้นทีไรดอยทุกที แก้ไขแล้ว ตัวเลขก็ยังรู้สึกแปร่งๆ แฮะ มันน่าจะใกล้เคียงกับ 11.23% ทบต้น :? ไม่เอาแล้ว ไปดู Opp Day ต่อดีกว่า [quote="หมักเตา"]แหะๆ ไม่ชนะขาดลอยมากขนาดนั้นครับ เพราะมีบางปีที่เงินเฟ้อพุ่งไปถึง 10% แต่บางปีก็ค่าติดลบ เฉลี่ยออกมาแล้วอยู่ที่ 3.77% ทบต้น ในเว็บเงินเฟ้อที่ให้ไป มันมีเครื่องคิดเลขสำหรับเงินเฟ้อ (Inflation Calculator) อยู่ด้วยครับ พวกบักสีดานี่เค้าแน่จริงๆ จาก January 1935 - January 2010 เงินเฟ้อในอเมริกาเท่ากับ 1,493% หรือ ของแพงขึ้นอีก ~15 เท่า ของ 1 USD กลายเป็น 1 + 15 = ~16 USD มูลค่าหุ้นเติบโตขึ้น 7M/180 = ~38,888 เท่า สรุปแล้ว มูลค่าหุ้นเติบโตขึ้นจริง ~38,888/~ 16 = ~ 2,430 เท่า หรือเทียบเท่า ~ 437,400 USD นี่ผมคิดแบบกะๆ ทั้งหมดนะครับ โดย หมักเตา อาทิตย์ มี.ค. 07, 2010 6:22 pm

secret millionaire อ้อ จากข่าวของพี่ vivitawin (ขอบคุณครับพี่) นี่รวมปันผลเข้าไปด้วยแล้วครับ ได้ปันผลมาก็ลงทุนเพิ่ม She bought three $60 shares of specially issued Abbott stock in 1935 and never sold them. As shares split she reinvested the dividends. คุณยายเนี่ย VI พันธุ์แท้เลย  :bow: โดย หมักเตา อาทิตย์ มี.ค. 07, 2010 5:48 pm

secret millionaire แหะๆ ไม่ชนะขาดลอยมากขนาดนั้นครับ เพราะมีบางปีที่เงินเฟ้อพุ่งไปถึง 10% แต่บางปีก็ค่าติดลบ เฉลี่ยออกมาแล้วอยู่ที่ 3.67% ทบต้น ในเว็บเงินเฟ้อที่ให้ไป มันมีเครื่องคิดเลขสำหรับเงินเฟ้อ (Inflation Calculator) อยู่ด้วยครับ พวกบักสีดานี่เค้าแน่จริงๆ จาก January 1935 - January 2010 เงินเฟ้อในอเมริกาเท่ากับ 1,493% หรือ ~15 เท่า มูลค่าหุ้นเติบโตขึ้น 7M/180 = ~38,888 เท่า สรุปแล้ว มูลค่าหุ้นเติบโตขึ้นจริง ~38,888/~15 = ~2,593 เท่า หรือเทียบเท่า ~466,740 USD นี่ผมคิดแบบกะๆ ทั้งหมดนะครับ  :D โดย หมักเตา อาทิตย์ มี.ค. 07, 2010 5:42 pm

หุ้น Value Stock มีลักษณะที่สังเกตุได้อย่างไรบ้างครับ เห็นด้วยครับ ว่าการแยกประเภทจัดหมวดหมู่ ทำให้มือใหม่เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น จับจุดได้ง่ายขึ้น ส่วนตัวผม ผมแยก 6 ประเภทตามปีเตอร์ ลินช์ ในหนังสือ One Up On Wall Street 1. โตช้า 2. โตปานกลางแต่มั่นคง 3. โตเร็ว 4. วัฏจักร ( Cyclical  :wink: ) 5. เทิร์นอะราวน์ด 6. ทรัพย์สินแฝง (Asset Play) หุ้นทุกตัวเปลี่ยนประเภทไปๆ มาๆ ได้ แล้วแต่สภาวะบริษัทในขณะนั้น บางตัวก็อยู่มากกว่าหนึ่งประเภทในขณะเดียวกัน ตั้งแต่ 2-in-1 ไล่ไปจนถึง 4-in-1 พวกนี้เลยต้องมองแยกเป็นหลายๆ มุม ตัวไหนจ่ายปันผล ก็มี dividend เป็นของแถม ตัวไหนราคาถูกกว่ามูลค่า ก็เป็น value ทั้งนั้น  :D โดย หมักเตา อาทิตย์ มี.ค. 07, 2010 4:41 pm

#ย้ายสถานที่จิบเบียร์วันที่12มีิค.นี้ไปที่ภ.จันทร์เพ็ญครับ# ไปลยได้มั้ย โดยไม่ต้องจอง ถ้าผมไปถึงแล้ว ไม่มีโต๊ะว่างเลย ผมก็จะกลับบ้านโดยไม่บ่นสักคำ ถ้าคิดว่าจะไปแน่ๆ ก็ลงชื่อจองไว้เลยดีกว่ามั๊ยครับ พี่ blueplanet คนเป็นแม่งานจะได้จัดเตรียมปริมาณอาหารไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ยกเว้นว่ายอมเสียหนึ่งพันแลกกับการนั่งฟังความรู้ ซึ่งผมว่าคุ้มนะ โดย หมักเตา อาทิตย์ มี.ค. 07, 2010 2:34 pm

คำถามเกี่ยวกับช่วงเวลาปันผล กับ การยื่น ภงด 90 ครับ นั่นหมายความว่า ถ้าผมได้ปันผลจริง ช่วงเดือน มกรา กุมภา ผมก็ต้องรอปีหน้าเหรอครับ? ใช่ครับ ถ้าสังเกตุ ปันผลที่ได้รับมาในเดือนมกรา กุมภา ส่วนใหญ่จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้แล้ว 10% (ยกเว้นบางบริษัทที่เป็นกรณีพิเศษ) บางตัวก็ไม่สามารถนำไปขอเครดิตภาษีได้ แต่ก็ยังต้องนำไปแสดงเป็นรายได้รวมกับตัวอื่นๆ ทุกตัว ถ้าต้องการขอเครดิตภาษี หลักฐานพวกนี้ ต้องเก็บเอาไว้ แล้วรอไปจนต้นปีหน้า ถึงจะขอเครดิตภาษี หรือขอคืนภาษีได้ครับ โดย หมักเตา เสาร์ มี.ค. 06, 2010 4:01 pm

ช่วงนี้ ทำอะไรกันบ้างครับ สำหรับมือใหม่ ลงทุนหรือนั่งดูครับ แอ้ก... คำถามนี้ตอบลำบากเหมือนกัน เอาเป็นว่า มองให้เหมือนการซื้อรถดีกว่าครับ ซื้อรถมือหนึ่ง เงินเข้าบริษัทผู้ผลิตรถ = ถ้าเราซื้อหุ้น IPO หรือซื้อหุ้นเวลาบริษัทประกาศเพิ่มทุน หรือ อะไรก็ตามแต่ที่เงินเข้าบริษัทให้เค้าเอาไปทำประโยชน์ ซื้อรถมือสอง เงินเข้าผู้ใช้รถมือหนึ่ง = เราซื้อขายหุ้นในตลาดทุกวันนี้ ถ้ารถไม่ว่ามือหนึ่งหรือมือสอง ใช้แล้วมีปัญหาเกินจะซ่อม จะไม่ขายทิ้งเหรอครับ? โดย หมักเตา เสาร์ มี.ค. 06, 2010 3:09 pm

ช่วงนี้ ทำอะไรกันบ้างครับ สำหรับมือใหม่ ลงทุนหรือนั่งดูครับ ขอแจมด้วยคนคะ มือใหม่เหมือนกัน สงสัยคะ คือ ให้มองการลงทุนเป็นเหมือนการทำธุรกิจใช่ไหมคะ แสดงว่า ถ้าเราซื้อหุ้น(หมายถึงซื้อกิจการ) ก็คือเราเสมือนเป็นเจ้าของที่จะต้องร่วมหัวจมท้ายไปด้วยกัน ไม่ว่าจะดีหรือร้ายแค่ไหน แล้วการที่เราซื้อขายหุ้นนี้ อาจจะด้วยเหตุผลว่าหุ้นแพงเกินไปแล้ว หรือกิจการประสบปัญหาขาดทุน หรืออื่นๆ คล้ายๆกับว่าเรากำลังไม่ซื่อสัตย์ต่อกิจการหรือเปล่าคะ เหมือนกับเราเป็นเจ้าของร้าน พอขายไม่ดี ก็ขายร้านทิ้ง ไปทำอาชีพอื่น อยากให้พี่ๆช่วยให้ความกระจ่างหน่อยคะ แอ้ก... คำถามนี้ตอบลำบากเหมือนกัน เอาเป็นว่า มองให้เหมือนการซื้อรถดีกว่าครับ ซื้อรถมือหนึ่ง เงินเข้าบริษัทผู้ผลิตรถ = ถ้าเราซื้อหุ้น IPO หรือซื้อหุ้นเวลาบริษัทประกาศเพิ่มทุน หรือ อะไรก็ตามแต่ที่เงินเข้าบริษัทให้เค้าเอาไปทำประโยชน์ ซื้อรถมือสอง เงินเข้าผู้ใช้รถมือหนึ่ง = เราซื้อขายหุ้นในตลาดทุกวันนี้ ถ้ารถไม่ว่ามือหนึ่งหรือมือสอง ใช้แล้วมีปัญหาเกินจะซ่อม จะไม่ขายทิ้งเหรอครับ?  :wink: โดย หมักเตา เสาร์ มี.ค. 06, 2010 2:16 pm

#ย้ายสถานที่จิบเบียร์วันที่12มีิค.นี้ไปที่ภ.จันทร์เพ็ญครับ# ถ้าห้ามชมนมเกิน 5 คน ก็นั่งแยกห่างๆ กัน (ป้องกันงูผมกัดกะงูพี่ด้วย) ต่างคนต่างนั่ง จิบเบียร์เชียร์หุ่นตามที่พี่หมอว่าก็แฮปปี้แล้วคร้าบ  :oops: โดย หมักเตา เสาร์ มี.ค. 06, 2010 1:43 pm

secret millionaire :D ค่าของเงินกับเวลามันน่ากลัวมากๆๆๆครับ อือม์ จริง... ขอบคุณครับ ช่วยให้คิดถึงเรื่องของค่าเงินเฟ้อ 7 ล้านในวันนี้อาจซื้อบ้านได้หนึ่งหลัง 180 เมื่อเจ็ดสิบห้าปีก่อนซื้ออะไรได้บ้าง? (ม่ายรุเฟ้ย เกิดมะทัน) เลยไปค้นประวัติเงินเฟ้อของเมกา ย้อนไปได้ถึงปี 1914 http://inflationdata.com/inflation/inflation_Rate/historicalinflation.aspx สรุปว่า 15% ต่อปียังชนะเงินเฟ้อขาดลอยครับ โดย หมักเตา เสาร์ มี.ค. 06, 2010 12:23 pm

สอบถามเกี่ยวกับการลดพาร์ - ลดทุน เท่าที่พอนึกออก "น่าจะ"เป็นการที่ต้องกันกำไรสะสมที่จัดสรรแล้วมาสำรองตามกฏหมายเป็นมูลค่า 10% ของทุนจดทะเบียน ทุนจดทะเบียนที่สูงเกินไป ไม่ตรงกับความต้องการใช้งานจริง ก็ทำให้เงินจมครับ ไม่แน่ใจว่าถูกต้องรึเปล่า รอผู้รู้มาให้ความเห็นเพิ่มเติมครับ โดย หมักเตา เสาร์ มี.ค. 06, 2010 11:23 am

เป็น VI แล้ว FCF น้อยลง?? เอ... เหล่า Alpha-Male อย่าง แจ็ค นิโคลสัน, โดนัลด์ ทรัมพ์, ไมเคิล ดักกลาส หรือ ปธน. นิโคลาส ซาร์โคซี ตอนนี้ก็มีเหล่า Alpha-Female มาเทียบรุ่น ไม่น้อยหน้ากันนะ ที่พอนึกออกก็อย่าง เดมี่ มัวร์ หรือ ไดแอน คีตัน โลกทุกวันนี้ ทัดเทียมเสมอภาคกันแล้วครับ โดย หมักเตา เสาร์ มี.ค. 06, 2010 10:55 am

secret millionaire พอจับใจความได้ว่า คุณยาย Grace Groner ซึ่งเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อเดือนมกราคม ด้วยอายุ 100 ปี เธอเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่อายุสิบสอง ครอบครัวที่รับอุปการะ ส่งเสียเธอให้เข้าเรียนที่ Lake Forest College พอเรียนจบมา เธอก็ทำงานเป็นเลขานุการที่บริษัท Abbott Lab และใช้เงินเก็บมาลงทุนเล็กน้อย โดยซื้อหุ้นของบริษัท Abbott Lab เป็นจำนวนสามหุ้น เธอใช้ชีวิตเรียบง่ายมาทั้งชีวิต พอเธอเสียชีวิต ก็เลยบริจาคหุ้นเหล่านั้นให้ Lake Forest College ใช้เป็นทุนการศึกษาให้นักศึกษาได้ไปศึกษาในต่างประเทศ หุ้นสามหุ้นในราคาหุ้นละหกสิบเหรียญ รวมเป็นเงิน 180 เหรียญ ซื้อในปี 1935 ปัจจุบันมีมูลค่าเป็น 7 ล้านเหรียญ การเติบโตของมูลค่ายังไม่เท่าการเติบโตของจิตใจ ขอคารวะคุณยาย    m(_ _)m 15% ทบต้นเป็นเวลา 75 ปี ที่นี้เชื่อกันหรือยังครับ? โดย หมักเตา เสาร์ มี.ค. 06, 2010 10:40 am

เป็น VI แล้ว FCF น้อยลง?? ผมใจร้อนอ่ะครับพี่ ไม่ชอบรอนาน เลยเพียรจีบแต่สาวรุ่น สะสวย รวยน้ำใจ ใช้เฟอรารี่ เสป็คเลย รักนะ รักนะ จุ๊บๆ โดย หมักเตา เสาร์ มี.ค. 06, 2010 9:16 am

การเครดิตภาษี กับแหล่งที่มาของเงินลงทุนจากบิดา ก็บอกเค้าไปว่าขายบ้าน ขายรถ ถูกหวย ฯลฯ เลยเอาตังค์มาซื้อหุ้น เค้าคงไม่ติดใจอะไรครับ น่าอิจฉาครับ ผมเจอมาตรงกันข้าม มีปีนึงไปยื่นปันผลหกพันกว่า ขอเครดิตภาษีสองพันกว่า ไม่มีรายได้อื่น สรรพากรถามทันทีเลยว่า แล้วพอใช้หรือคะ (เค้าคงคิดอยู่ในใจว่า ไอ้นี่ แก่ปูนนี้แล้ว ทำไมไม่เป็นโล้เป็นพายเลยฟะ) ผมก็แค่ตอบยิ้มๆ ว่า กินข้าวมื้อเดียว ไม่พอก็แบมือขอตังค์พ่อแม่ครับ (คิดในใจเหมือนกันว่า แล้วมายุ่งอะไรกะชีวิตตรูฟะ  :evil: ) โดย หมักเตา เสาร์ มี.ค. 06, 2010 8:29 am