Re: เริ่มต้นควรถือหุ้นกี่ตัวดีครับ อย่าพึ่งคิดเรื่องจำนวนตัว หุ้นที่ชอบ 10 กว่าตัว ถ้าเชื่อว่าพื้นฐานดีแล้ว สามารถให้ราคาเหมาะสม(ในใจ)ได้หรือยัง ถ้าได้แล้ว ก็จะรู้ว่า ควรซื้อกี่ตัว ตัวไหน ซื้อเยอะซื้อน้อย เช่น มาวางเรียงกันแล้ว มี 7 ตัวที่อัพไซดสูงพอๆกัน ก็อาจะเลือก 7 ตัว หรือเห็นว่า อันดับ 1-2 อัพไซท์สูงปรี้ด ทิ้งห่างที่ 3 ก็อาจจะเน้นๆไป 2 ตัว ซึ่งโดยมากแล้ว เรามักจะ.....คิดผิด :D แต่ถ้ายังไม่มีราคาในใจ หรือไม่แน่ใจ ก็ช้าๆหน่อย ี้ยังมีเรื่องระยะเวลาด้วย เพราะหลายตัวในลิส เป็นพวกอสังหา อสังหา กลุ่มนี้มักจะคาดการณ์ได้เพียงสั้นๆ เพราะขายจบเป็นโครงการไป ราคาในใจ ก็มักจะเป็นเพียง ระยะ x เดือน ส่วนหุ้นกลุ่มโรงบาล สื่อสาร ค้าปลีก อาจจะมองยาวเป็นปีๆ ได้เหมาะสมกว่า โดย tn143 เสาร์ ส.ค. 11, 2012 6:34 pm

Re: "พระรามทรงกลด" กับ "ปักษาวายุภักษ์...รถไฟความเร็วสูงของไ เป็นสิ่งที่อยากให้มี เอาแค่มีความเร็วเชื่อถือได้ ก็บุญโข คนไม่ต้องแออัดกันอยู่แต่ กทม. ส่งของไม่พึ่งแต่รถบรรทุก แค่นี้ประเทศก็เปลี่ยนมโหราฬ แต่คงไม่สำเร็จง่ายๆ ประเทศไทยมีแต่คนขัดขากันเอง อย่างสนามบินเห็นๆว่า ความต้องการล้นหลาม แต่จะขยายเฟส2-3 ไม่ใช่เรื่องง่าย รัฐวิสาหกิจ ถ้าผูกติดกับระบบราชการ ก็ขยับตัวไม่ได้ ประสิทธิภาพก็ต่ำ ใครทำอะไรก็โกงหมดเลวหมด เลยเหลือแต่คนนั่งเฉยๆ แต่ถ้าจะแปรรูปออกมา ก็โดนข้อหา็ขายชาติอีก (ส่วนที่แปรรูปแล้วเจ๊งไม่นับ) อย่างรถไฟ แปรรูปตอนนี้ก็ไม่ได้ ขายไม่ได้ราคา จะเพิ่มทุน ลงทุนใหม่ๆองค์กรก็เละเทะ หรือถ้าจะตั้ง บ.ใหม่มาแย่งงานทำ รถไฟเดิมก็คงไม่ยอมอีก คงวนกันอีกนาน โดย tn143 จันทร์ ก.ค. 16, 2012 6:47 pm

Re: ถ้ามองหาหุ้นที่จะลงทุนที่มั่นใจมากๆ ไม่ได้ จะทำยังไง มันก็พอมีที่ผมมองว่าต่ำกว่ามูลค่า แต่ในจำนวนเหล่านั้นส่วนใหญ่ผมเกี่ยง MOS เลยยังไม่ซื้อ คือคิดว่า MOS ยังน้อยไป และอีกเหตุผลสำคัญคือส่วนใหญ่ราคามันปรับเพิ่มมามากแล้วในระยะเวลาสั้นๆที่ผ่านมา ถ้าให้เทียบตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนในตอนที่ดูหนังสงครามโบราณเรื่องนึงชื่อ Braveheart ที่ในขณะรบกันนั้น พระเอกให้ทหารซ่อนหอกยาวไว้เตรียมจัดการกับกองทหารม้าข้าศึกที่วิ่งมาอย่างเร็ว ในตอนนั้นทหารใจสั่นกันหมด เพราะอยากจะยกหอกที่ซ่อนขึ้นมาซัดม้าศึกของศัตรูเพราะมันวิ่งมาเร็วมาก แต่พระเอกได้แต่พูดว่า "Hold !!"...."Hold !!"...."Hold !!" ประมาณว่า ยังก่อนๆๆ เขา "รอ" อย่างเยือกเย็น จนม้าศึกศัตรูเข้ามาได้ระยะ ที่ใกล้มากๆ ซึ่งมั่นใจสุดๆว่า ถ้ายกหอกซัดเข้าไปแล้วมันจะตายเกลื่อน ตายอย่าง "ตีแตก" และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เขาชนะทหารอังกฤษที่มีกำลังมากกว่ามาก ด้วยการ "ตีแตก" เหลืิอกองซุ่ม ไว้ซัก 10% พอเคลื่อนที่เร็วสิครับ ทัพหลวง 50% วางไว้ในที่มั่น :D สงครามที่พึ่งผ่านไปเมื่อปีก่อน ผมยกหอกเร็วไปบ้่าง(เจ็บไปหลายนาย) ข้าศึกทะลวงเข้ามาเรื่อยๆ ผมก็เรียกทัพหลวงย้ายมาเสริมทีละนิด แต่ผลลัพธ์็น่าพอใจ ป่านนี้พลหอกผมก็ยังนอนประจำการอยู่ที่เดิม :D โดย tn143 พฤหัสฯ. ก.ค. 12, 2012 12:05 pm

Re: ถ้ามองหาหุ้นที่จะลงทุนที่มั่นใจมากๆ ไม่ได้ จะทำยังไง ไม่มั่นใจ ก็ไม่ซื้อครับ ปัญหาน่าจะเพราะัยังไม่มั่นใจพอ เป็นผมคงไปศึกษาซ้ำแล้วซ้ำอีก ถ้ามั่นใจว่า "ได้แน่" 20% ต่อปี ก็เอาแล้ว(เทียบกับเป้าหมาย20) ถ้า"ได้แน่ๆๆๆๆๆๆๆ" 10% ก็ซื้อแล้ว ถ้าเห็นโฮมรันตัวอื่น ค่อยย้าย หุ้นดีๆมันก็ไม่เคยถูก ถ้าหุ้นจะถูกสุดๆ มันก็ต้องเกิดเหตุเหมือนว่าพื้นฐานได้เปลี่ยนไปแล้ว ผมก็คงจะต่อราคาลงไปอีกอยู่ดี ตั้งแต่น้ำท่วมปีก่อน ผมยังไม่ได้ปรับพอร์ทเลย เดือนก่อนเพิ่มเงินเข้าพอร์ทไป 2-3% พอตลาดลงเพราะยุโรป ผมก็ซื้่อเลย ซื้อแต่ตัวเดิมๆที่รู้จักดี แล้วมันก็ลงต่อ :D แต่ตอนซื้อมองแค่ว่า ราคานี้ได้กำไรเท่าไหร่ ดูแล้วยังเกินเป้าระยะยาว ก็ไม่ต่อมาก โดย tn143 อังคาร ก.ค. 10, 2012 8:33 pm

Re: ความเห็นส่วนตัวกับ500บาท ไม่ปัญหากับเงิน 500 ผมคงรอสมัครออนไลน์ (คนนอกเมือง :wink: ) แต่ผมอยากให้ผู้สนใจลงทุน vi ใหม่ๆได้เข้ามาศึกษา การเก็บเงินสำหรับผมที่รู้คุณค่าแล้ว ย่้อมไม่แพง ผมเองคงไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมของสมาคม แต่อยากสนับสนุน เพื่อให้คนอื่นได้โอกาสรู้จักคำว่า vi บ้าง ผมคิดว่าเว็บควรจะฟรี แล้วก็มี class ให้สำหรับผู้บริจาค มีคะแนนไว้ดูเล่น คนที่ไปได้ดี แล้ว น่าจะยินดีบริจาค แต่สุดท้ายก็แล้วแต่คนทำงาน เพราะผมก็ไม่ได้ไปเหนื่อยอะไรเหมือนเขา โดย tn143 จันทร์ ก.ค. 02, 2012 12:35 pm

Re: ด่วน การรับสมัครสมาชิกของสมาคมอย่างเป็นทางการ ไม่มีปัญหากับ 500 บาท แต่กลัวคนน้อยลง ข้อมูลในร้อยหุ้น ดีเพราะมีคนเยอะๆมาแสดงความเห็น ทั้งด้านดีและไม่ดี เห็นด้วยกับ การแยกclassสมาชิก เช่น เป็น สมาชิกvip(คนที่จ่ายเงินสนับสนุน) อาจจะได้ห้อง/ข้อมูล เพิ่มเติม ก็แยกออกจากของเดิมไป ตัวผมยินดีสนับสนุน thaivi อยู่แล้วเพราะผมพอจะรู้คุณค่าของเว็บ แต่ถ้าเป็นตอนผมเริ่มต้นลงทุนใหม่ ก็คงไม่ได้เข้าเว็บนี้เพราะการเก็บค่าสมาชิก ผมอยากให้นักลงทุนหน้าใหม่ ได้โอกาสดีๆเหมือนผม อันนี้ผมคิดเล่นๆไม่ทราบข้อกฎหมายสมาคม หรือว่า มาทำแบบการลงทุน เสนอเป็นหน่วยลงทุนสมาคม (แต่ไม่มีการคืนเงินต้น) ถือเป็นจำนวนหน่วยไว้เฉยๆ รายได้จากเงินทุน ก็เข้าสมาคม (แล้วเราก็ตรวจงบกันตามถนัด :D ) โดย tn143 พฤหัสฯ. มิ.ย. 28, 2012 2:55 pm

Re: ทำไมเมื่อก่อนห้างเจ๊งครับ? ส่วนใหญ่ไปพร้อมๆกับวิกฤติปี 40 ซึ่งรวมทั้งเซ็นทรัล ที่ตอนนั้นเองก็เกือบเอาตัวไม่รอด เหตุผลหลักๆเกิดจาก 1. ธุรกิจห้างส่วนใหญ่ลงทุนมหาศาล กว่าจะคืนทุนใช้เวลาหลายปี การที่อยู่ดๆกำลังซื้อหดหายไปจนเกือบหมด ก็ทำให้ยอดขายลดลง 2. ห้างส่วนใหญ่ในขณะนั้น มีลักษณะเป็นห้างโดดๆมีส่วนพื้นที่เช่าไม่มากนัก เมื่อเกิดวิกฤติจึงลำบากมาก ต่างจากรูปแบบปัจจุบันที่ห้างมักมีส่วนเช่าอยู่ใน%ค่อนข้างมาก ทำให้บริหารจัดการได้ง่ายขึ้น 3. ผมไม่มีข้อมูลว่าห้างแต่ละห้างนั้นกู้เงินจากในและต่างประเทศเท่าไหร่ แต่บริษัทที่กู้จากต่างประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อม ย่อมได้รับผลกระทบจากการที่ค่าเงินอ่อนอย่างมาก จาก25-->50 กว่าๆ หนี้เพิ่มสองเท่ากว่า บริษัทไหนๆก็ลำบากแน่นอน ทั้งหมดนี้เป็นความทรงจำเท่าที่จำได้จากเมื่อ 15ปีก่อน ผมตอบเผื่อเลยละกัน ในปัจจุบันจะเกิดอะไรกับห้างเหล่านี้ ถ้าพรุ่งนี้ยุโรปเจ๊ง 1. ห้างทุกห้างยังคงลงทุนมากอยู่ในการเปิดแต่ละสาขา แต่ผมพบว่าพวกเขาดูไม่กล้าที่จะก่อหนี้มากมายพร้อมๆกัน พวกเขามีลักษณะอนุรักษ์นิยมมากขึ้นต่างจากก่อนปี40 ที่แต่ละคนเร่งเปิดสาขามากมายและใหญ่ๆทั้งนั้น ดังนั้นคงไม่ถึบกับต้องขอเลื่อนหรือพักชำระหนี้เหมือนเมื่อก่อน 2. ที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัดจากปี 40 คือ พื้นที่เช่า การที่มีพื้นที่เช่า ทำให้ห้างมีรายได้จากส่วนนี้ และเหมือนมีคนแบ่งรับหนี้ที่เกิดขึ้น เพราะพื้นที่เช่ามีการทำสัญญา ร้านค้าที่อยู่ในนั้นก็ย่อมไม่อยากปล่อยห้องหรือเลิกสัญญาถ้าไม่จำเป็นจริงๆ 3. ปัจจุบันเรา ไม่ได้มีหนี้ระยะสั้นมากเหมืิอนปี40 และโอกาสที่เกิดหนี้เพิ่มสองเท่าจากอัตราแลกเปลี่ยนอีกจึงไม่มี แม้ว่าห้างจะดูมีโอกาสเจ๊งเหมือนเมื่อก่อนค่อนข้างยาก แต่ห้างก็เป็นธุรกิจหนึ่งที่หลีกเลี่ยงผลกระทบไม่ได้ เมื่อความมั่นใจหดหายไป การบริโภคย่อมลดลงแต่คงไม่รุนแรงเท่าปี40ที่เราเป็นจุดกำเนิดวิกฤติ และที่สำคัญราคาหุ้นในปัจจุบันนั้นเหมาะสมที่คุณจะซื้อหรือไม่ ก็ขึ้นกับการประเมินของแต่ละคน ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผม และเงินที่ท่านลงทุนก็เป็นเงินของท่านและวิจารณญานของท่าน ขอให้ทุกท่านโชคดีในการลงทุนครับ (^o^) ผมลองคิดๆดูจากความทรงจำเก่าๆเลือนลาง เห็นด้วยกับ คุณ viหัดคลาน สรุปผมว่า 1.โมเดลธุรกิจ เปลี่ยน สมัยก่อน ห้างสรรพสินค้า ก็ตามชื่อเน้นขายของมากมาย แล้วก็แบ่งเป็นแผนกๆ เช่นเครื่องเขียน แผนกไฟฟ้า ธุรกิจครอบครัว สร้างห้างเอง ขายเอง กู้เอง สมัยนี้ แยกกันไป สร้างเก่งก็ไปสร้างให้เช่า ขายเก่งก็ไปเช่าขาย แผนกกีฬาเดิมๆก็ไปเปลี่ยนใหม่ แบ่งแยกให้ชัดเจน 2.พฤติกรรมคนเปลี่ยน สมัยก่อน ห้า่งเป็นของใหม่ กรุงเทพก็เล็กนิดเดียว ปิ่นเกล้าก็บ้านนอกแล้ว ห้างต้องไปวันหยุด เหมือนไปเที่ยว ซื้อของชิ้นใหญ่ๆ สมัยนี้ เมืองใหญ่ขึ้นมาก คนมีกำลังซื้อก็น่าจะเยอะขึ้น คนรุ่นใหม่ๆก็ชินกับการซื้อของในห้าง แพงหน่อยแต่สะดวกก็เอา (แต่ คนมีอายุก็ไม่ค่อยเปลี่ยน ขอให้ไปซื้อของใน tops เพื่อความสะดวก จับๆแล้วก็บ่นแพงทุกที) ที่หายไปเยอะัๆก็น่าจะตอนปี 40 ยุคนี้อาจจะกลับมาเป็นยุครุ่งเรืองของห้าง เหมือนอพาร์ตเมนท์ คอนโดที่แห่ผุดขึ้น ทุกวันนี้ซาลง แต่ก็ไม่ได้ขาดทุน เจ๊งยับ นอกจากพายุมาแล้วกิจการไม่แข็งจริง โดย tn143 เสาร์ มิ.ย. 23, 2012 3:05 pm

Re: มุมมองวิกฤติรอบนี้เทียบกับ subprime แล้วคิดว่าอันไหนหนัก ุผมว่า subprime หนักกว่าเยอะ เพราะเอาเศษกระดาษมาเสกเงินหลายชั้น ซ้อนไปมา แถมกระจายไปทั่วโลก ฟองสบู่ของแท้ ส่วน กรีซ แค่หนี้เยอะไม่มีจ่าย ถ้ากรีซไม่จ่ายหนี้ ก็เหมือน บ. ล้มละลาย เอาทรัพย์สินมาขายก็ได้ หรือจะให้เงินเพิ่มไปแก้ไขกิจการ แล้วก็รับรู้ปัญหากันมานานแล้ว ส่วน subprime เหมือนโดนต้มทั้งโลก โดย tn143 เสาร์ พ.ค. 26, 2012 12:14 pm

Re: ตลาดหุ้นตกหนัก เพื่อนสมาชิกท่านใดยังคงนโยบายลงทุน100% ตอนนั้นน่ากลัวกว่า เพราะมีน้ำท่วม กระทบไทยตรงๆ ุยุโรปรอบก่อน ผม 100% รอบนี้ก็ 100% ต่อไป ยุโรป เมกา เอเชียไม่เกี่ยง ไม่มีวิกฤตที่ไทยก็ุถือต่อไป โดย tn143 ศุกร์ พ.ค. 18, 2012 8:07 pm

Re: บางคนไม่กล้าซื้อหุ้น แต่กล้าถือเงินสด ต้นทุนเงินสด แค่ -3% ต่อปี อย่างมาก เอาไป 5% หุ้น -5% หาได้รายวัน หุ้น -20% หาได้รายเดือน หุ้น -50%+ หาได้......ไม่รู้เมื่อไหร่ แต่ผมไม่เคยมีเงินสดรอเลย :D โดย tn143 ศุกร์ เม.ย. 20, 2012 8:47 pm

Re: เหตุผลที่ "บัฟเฟตต์" บอกโลกว่าเป็นมะเร็ง ไม่เห็นแปลกตรงไหน บัฟเฟตต์ เคยประกาศไว้นานแล้วว่า ถ้าสุขภาพเขามีปัญหา จะแจ้งให้ทราบในทันทีที่รู้ รวมทั้ง แผนการหลังจากเขาตาย ก็มีพูดถึงเป็นระยะๆ ผมถอดความเองว่า แผนก็คือ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหลังจากเขาตาย :D บัฟเฟตตก็ตรงไปตรงมาตามแบบเดิมๆ คนเขียนยังไปสงสัยอะไรหว่า ปล.ไม่มีหุ้น โดย tn143 พฤหัสฯ. เม.ย. 19, 2012 7:44 pm

Re: เวลาท้อแท้ใจกับผลลัพธ์ของการลงทุน ควรทำอย่างไรดีครับ ? เวลาท้อแท้ใจกับผลลัพธ์ของการลงทุน ควรทำอย่างไรดีครับ ? 1 ทบทวนครับ ผิดตรงไหน ผิดยังไง ผิดเพราะปัจจัยภายนอก หรือภายในบ. ผิดหวังราคา หรือผิดหวังผลประกอบการ ก็ต้องแยกแยะเอามาเป็นบทเรียน หุ้นขึ้นไม่ได้แปลว่าคิดถูก หุ้นลงก็ไม่ได้แปลว่าคิดผิด 2 "เลือกหุ้นผิดบ่อยๆ" บางที อาจจะเพราะเลือกบ่อยเกินไป ปี54ผม ผมเลือกหุ้นในจำนวนไม่กี่ตัวที่สนใจ และซื้อขายไม่กี่ครั้ง ไม่กี่ตัว ซึ่งมันก็ไม่ได้ขึ้นเลย 8 เดือน กว่าจะเขียว มีบางครั้งท้อแท้ืัที่ไม่ได้ร่วมสนุกขาขึ้น อย่างคนอื่น พอกลับมานั่งคิดทบทวน ก็ไม่อยากขาย มีแต่อยากซื้อ เป็นหุ้นที่ซื้อด้วยความตั้งใจว่าจะไม่ขาย จบสิ้นปี พอร์ทผมรอดจากวิิกฤติ และผลตอบแทนสูงกว่า set มาก ผมได้บทเรียนว่า ผมคิดถูกว่ากำลังจะโต แต่ผมไม่คิดว่าจะต้องรอถึง 8 เดือน แล้วตอนสิ้นปี(ตอนนี้ด้วย)ผมก็ไม่คิดว่าราคามันจะสูงขนาดนี้ การเดาตลาดมันช่างยากเสมอ โดย tn143 ศุกร์ ก.พ. 24, 2012 2:59 pm

Re: ทำไมบริษัทดีๆและยอดเยี่ยมของไทยหลายบริษัทจึงไม่เข้าตลาดห ปัญหาหลัก ต้องถามกลับไปว่า เขาจะเอาเข้าตลาดทำไมมากกว่า การเข้าตลาด บ.ได้เงินครั้งเดียว ถ้าบ.ไม่ต้องใช้เงินก็ไม่รู้จะเอามาเข้าทำไม ได้เงินครั้งเดียว ต้องเป็นทาสผู้ถือหุ้นไปตลอด ตอบคำถามอีกมากมาย ส่วน บ.ที่ต้องใช้เงินเยอะๆ และเพิ่มทุนบ่อยๆ ก็ต้องจัดเป็น บ.ไม่ดีอีก(ผถห.สาปแช่งอีก) ถ้าเป็น บ.เกิดใหม่ แลกกับการขยายกิจการ สร้างความน่าเชื่อถือ มันก็คุ้มค่า อ่อ แล้ววันไหน ถ้า mk จะเข้าตลาด เราก็ควรจะสงสัยด้วยว่าเอาเงินไปทำอะไร หรือว่ากิจการ ไม่ดีอย่างที่เราคิด ใครจะเอาของดีมาขายถูก? เรื่องภาษี ผมว่ามองร้ายเกินไป กล่าวหากันเกินไป ธุรกิจดีๆไม่ได้แคร์เรื่องภาษีเลย เพราะมีจะจ่าย รวยแล้วใครจะอยากเสี่ยง ธุรกิจที่ต้องหลบภาษี ก็เพราะกำไรน้อย ภาษีขายตลาดไม่รับ(ผลักไม่ได้) อย่างนี้ก็ไม่ใช่กิจการยอดเยี่ยมอีก โดย tn143 จันทร์ ก.พ. 20, 2012 6:44 pm

Re: ขอทางสว่างล้านแรก มือใหม่ เป้าสูงจะกดดันเกินไป ผลตอบแทนเฉลี่ย บัฟเฟต 40 ปี อยู่ที่ประมาณ 20% ต่อปี ซึ่งปีที่ขาดทุนก็มี ดังนั้นตั้งเป้า ปีละ 15% ต่อเนื่อง เราก็น่าจะรวยเหลือใช้แล้ว เวลาเราฟังคนอื่นบอกว่า กำไรหลาย100% ก็มักจะเป็นช่วงที่ราคาพุ่งสูง พอราคาลดลงมาเราก็ไม่ได้ฟังต่อว่า กำไรยังเหลือ หรือขาดทุนตัวอื่นแทนหรือไม่ ผมเองช่วงที่หุ้นลงหนัก ลงเร็วมากก็ทำใจไม่ได้อยู่บ้าง แต่พอคิดว่า ในเมือต่อปี ยัง+เกินเป้าหมาย ราคาตรงนี้ก็มีแต่อยากซื้อ(แต่ไม่มีเงิน) ผมก็กล้าถือหุ้นต่อไปได้ แล้วมันก็กลับมาดีขึ้น ไม่รู้มาได้ยังไงภาวะแบบนี้ ใน 1 ปี ราคาหุ้นผันผวนมาก ถ้าเดาถูกจริง จะทำหลาย100% ก็ไม่แปลก แต่ชีวิตจริง ผมก็ไม่เคยเดาตลาดถูก หรือซื้อlow ขายhigh ได้ สรุปว่า ลองตั้งเป้าใหม่ อย่าไปเน้น% หรือตัวเงินมากเกินไป ลองเป็นว่า ใน 1 ปี จะค้นหาหุ้นที่จะทำเงินล้านให้เจอ ซึ่งคุณต้องบอกได้ว่า หุ้นตัวนี้จะทำให้คุณมีเงินล้านได้ ในปีที่.... เพราะอะไร และราคาไหนจึงน่าซื้อ โดย tn143 เสาร์ ต.ค. 15, 2011 11:51 am

Re: บางครั้งก็คิดว่าอยากซื้อหุ้นด้วย margin of safety แต่... อาจจะเป็นเพราะอยากจะซื้อไปขายมากกว่า พอเห็นราคาวิ่งเลยเสียดาย แต่ถ้าคิดแต่ในแง่ลงทุนแล้ว จะเห็นว่าราคานี้ผลตอบแทนเท่าไหร่ 10ปี จะได้ผลตอบแทนทบต้นถึงที่ต้องการไหม ถ้ามันยังไม่ถูกพอ มันก็ไม่รู้สึกอยากซื้อ ลองคิดว่าจะซื้อแล้ว ถูกห้ามขาย5-10ปี (ไปเปลี่ยนใจทีหลังได้) อาจจะช่วยให้เฉยๆกับราคา โดย tn143 ศุกร์ ต.ค. 07, 2011 6:08 pm

Re: สารคดีชีวิตสัตว์โลก :: Circuit Breaker ?!?! อ่านช่องแรกก็ขำ(ทั้งน้ำตา) :D โดย tn143 จันทร์ ต.ค. 03, 2011 8:43 am

Re: undervalue...??? ว่าด้วย Fundamental Analysis Fundamental Analysis วิเคราะห์โดยอาศัยปัจจัยพื้นฐานบริษัท เชื่อว่า ราคามักจะเข้าสู่มูลค่าตามผลประกอบการ บางอาจจะเรียกว่า Value investor ต่างกันกับ Fundamental analysis เหมือนหรือต่างอย่างไร โดยเนื้อผ้าการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเหมือนกัน แต่แก่นของ Value investor คืออะไร Undervalue อาจจะเป็นคำที่สามารถอธิบายได้ง่ายที่สุด ......... การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นคุณค่า ไม่ใช่ราคาหุ้น ราคาขึ้นไม่ได้แปลว่าถูก ราคาลงไม่ได้แปลว่าผิด ต้นตำรับvi วอเรน บัฟเฟต ซื้อแต่หุ้นที่ไม่คิดจะขาย (ที่ขายก็มีเพราะรู้ว่าคิดผิด) หลักการก็เรียบง่าย (แต่ทำยาก) ประเมินกำไร 10 ปี แล้วคิดย้อนกลับเป็นมูลค่าปัจจุบัน ก่อนซื้อ บัฟเฟต ขอ mos อีก เห็นราคาเข้าเป้า ก็ซื้อ จบ ตลาดช่างมัน แล้วก็สนใจแต่กิจการ ไม่ใช่ราคาหุ้น ส่วนมากที่เรา Fundamental analysis กัน ก็มีแค่ราคาเป้าหมาย กับกำไรปีหน้า แล้วก็ซื้อเพื่อจะขายมากกว่า เพื่อถือ โดย tn143 พุธ ก.ย. 28, 2011 6:48 pm

Re: +++คนตายขอพูดหน่อยครับ+++ อ่านแล้วซึ้งมาก ขอบันทึกไว้มั่ง ข้างหน้าไม่รู้จะเป็นยังไง จะได้เป็็นคนตายหรือไม่ก็ไม่รู้ 24/9/54 มีหุ้น +20% -2% -25% +78% พอร์ทรวมยัง+3% แต่ก็หดลงไปมากอย่างรวดเร็ว วันนี้มาถึงทางแยกที่ว่า จะเชื่อในคุณค่าที่เชื่อต่อไปไหวหรือไม่ ไม่ค่อยแน่ใจตัวเองเหอๆ โดย tn143 เสาร์ ก.ย. 24, 2011 4:26 pm

Re: อมริกา และ ยุโรป จะดีขึ้นได้อย่าง ของเราตอนนั้นเงินหมดคลัง(สู้ค่าเงินหมด) เหมือนธุรกิจไม่มีเงินสดจ่าย ก็กู้ imf เจ้าหนี้มาใหม่ ก็บอกว่าเราต้องทำโน่น นี่นั่น ถึงจะให้เงินไปหมุน เจ้าหนี้ฝรั่งก็ให้เราขาย บ.ถูกๆให้ฝรั่ง แล้วเขาก็ขายคืนเจ้าของเดิมแพงๆ ส่วนเมกา โกงกว่า เงินหมดพิมพ์แบงค์เพิ่ม ติดเพดาหนี้ก็ขยายเพดานหนี้ กรีซ ส่วนถ้าเพื่อนไม่ช่วยต่อ ก็ต้องรอดูว่าจะทำไงต่อ ถ้าวิธีการ imf ดีจริง เขาก็ทำไปแล้ว แต่ก็อย่างที่เห็นไปหลอกประเทศโน้นนี้นั่น พอเมกา ยุโรปโดนเอง ก็ไม่เห็นเอาของมาขายเลหลังถูกๆมั่งเลย ไทยตอนนั้นหลังจากมีเงินแล้ว เศรษฐกิจก็ยังเน่าๆ อยู่เพราะฉีดเงินกระตุ้นผิดที่ ธนาคารตอนนั้นก็ไม่ยอมปล่อยกู้ เหมือนเมกาตอนนี้ ไทยมากระเตื้องจริงๆ ก็รัฐบาลที่ฉีดเงินลงไปถูกที่ ฉีดไปที่รากหญ้า คนรายได้น้อยมี100ต้องใช้100 เงินหมุนไว หมุนในประเทศหลายรอบ ก็ไม่รู้ว่า เมกาจะทำถูกรึยัง แต่จากที่ฉีด QE ใส่เงินลงในภาคการเงิน มันก็เอาไปเก็งโน่นนี่นั่น ส่วนภาคการผลิตจริงตกงานเหมือนเดิม โดย tn143 พฤหัสฯ. ก.ย. 15, 2011 12:08 am

BOJ เตรียม QE ญี่ปุ่น 62,000 ล้านเหรียญ QE เป็นของสำหรับ ประเทศที่เศรษฐกิจซบเซา เหมือนไทยปี 40 มาหว่านเงินแล้วหว่านอีก เพื่อกระตุ้น (แต่หากใส่เงินผิดที่ ก็แทบไม่มีผลอะไร) อนาคต us จะเป็นอย่างไร ก็ดูไทยปี 40 เทียบไปได้ ส่วนจีน กลับตรงข้าม จีนขึ้นดอกเบี้ย เพื่อชะลอเศรษบกิจไม่ให้ร้อนเกินไป ดังนั้น QE กับจีน เป็นเรื่องไกลกันมาก ช่วงนี้เห็นคนบ่นเรื่องหุ้นตัวเล็กลง หุ้นใหญ่ขึ้นๆ ผมมองว่า เงินทั้งหลายที่ไม่มีที่ไป เดี๋ยวก็หาทีชอบๆได้เอง (หุ้น พันธบัตร ทอง น้ำมัน ที่ดิน บ้าน) อย่างเช่น คนที่ขายบลูชิพทำกำไรแล้ว จะเข้าต่อก็แพงเกิน ส่วนจะไปไหน ก็แล้วแต่วิสัยทัศน์ แต่คนที่ขายไปกำเงินเฉยๆ รอหุ้นลง น่าจะคิดผิด เพราะเงินสดมีแต่จะด้อยค่า ตั้งแต่ก่อนมี QE ดอกเบี้ยหักเงินเฟ้อก็ติดลบมาหลายปี หลังจากนี้ น่าจะยิ่งด้อยค่าหนักขึ้น โดย tn143 เสาร์ พ.ย. 06, 2010 5:44 pm

หุ้น VI ไม่ขึ้น ขึ้นแต่ตระกูล ป. กับแบงค์ เอาไงดีครับพี่น้อง ถือเต็มพอร์ท รองบออก ไม่เห็นต้องทำไร งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เมื่อไม่ได้นั่งอยู่ในงาน ก็รอเขามาจัดงานที่บ้านเรา อิอิ โดย tn143 ศุกร์ พ.ย. 05, 2010 9:31 pm

ถ้าหากตลาดหุ้นมีแต่นักลงทุนแนว VI แล้วมันจะเป็นอย่างไร vi 10 คน ก็มอง 10 ราคา ตลาดคงผันผวนน้อยลง ถือกันยาวๆ ปีนึงเทรด 4 ครั้ง vi ที่มองได้แม่นกว่า ก็มีกำไรมากกว่า vi ที่คิดผิด ก็เจ็บตัว โดย tn143 ศุกร์ ต.ค. 29, 2010 1:32 pm

For Your Information บรรยายได้เป็นฉากๆ แต่เดาว่าประสพการณ์จริงไ่ม่มี เริ่มคิดถึง ทฤษฎีงานค๊อกเทล แต่คิดว่ายังไปต่ออีกพักใหญ่ๆ โดย tn143 อาทิตย์ ก.ย. 26, 2010 12:38 am

หุ้นตัวแรกของพี่ๆคืออะไรอะครับ MCOT ตอน ipo ราคากับจำนวนเท่าไหร่จำไม่ได้ อยู่ครบถึงวันนี้ เพราะทำใบหุ้นหายไปแล้ว   (ถ้าไม่ได้ปันผลคงไม่รู้ว่ามีอยู่) โดย tn143 พฤหัสฯ. ก.ย. 16, 2010 6:15 pm

ดอกเบี้ยผ่อนบ้านกับการลงทุน ที่เห็นเยอะๆ เข้าใจว่าผ่อนยาวหลาย 10 ปี อย่าไปคิดมากครับ คำนวนดอกเบี้ย/ปีมาได้เท่าไห่ร ก็เอามาเทียบ ผมยังไม่เคยเอาตัวเลขจริงๆมาคิดนะ เท่าที่ฟังโครงการ เขาบอกผม mlr-2 ก็ 4% เผื่อค่าธรรมเนียม เผื่ออื่นๆ ได้ต้นทุนประมาณ 5% ต่อปี ก็ลองคิดดูว่า ทำอะไรได้มากกว่า 5% ไหม ถ้ามั่นใจว่าทำได้มากกว่า ซัก 6-7%(เผื่อดอกขึ้น) ก็ยังไม่ต้องโปะหนี้ครับ ถ้าไม่มั่นใจก็ เอาเงินไปทำกำไร 4-5% จากการลดหนี้ ถ้าเซียนกว่านั้น ต้องเอาเงินโปะ แล้วเอาบ้านเข้าโอดี อิอิ โดย tn143 ศุกร์ ก.ย. 03, 2010 1:10 pm

สอบถามข้อสงสัยในหนังสือลงทุนอย่างปีเตอร์ ลินซ์ ที่อ่านใน one up เขายก บ. ฟอร์ด แล้วเอารายการในงบดุล ช่อง"เงินสด" กับรายการเทียบเท่าเงินสด (พวกพันธบัตร หน่วยลงทุนมั้ง) ลบหนี้ระยะยาว แล้วหารด้วยจำนวนหุ้น ได้ออกมาเป็นเงินสดต่อหุ้น โดย tn143 จันทร์ ส.ค. 16, 2010 11:01 pm

แท็กซี่แนะนำหุ้นผมอีกแล้ว จะทำให้กลัวถึงไหน สมมุติเจอ แท๊กซี่แนะนำหุ้นด้วยเหตุผลว่า "เชื่อผมสิ แท๊กซี่ทุกคันใช้ไอ้นี่กันทั้งนั้น" เขาอาจจะบอก หุ้น 10เด้งคุณอยู่ก็เป็นได้ บอกผมด้วยละ โดย tn143 จันทร์ ส.ค. 09, 2010 1:33 pm

แท็กซี่แนะนำหุ้นผมอีกแล้ว จะทำให้กลัวถึงไหน I don't think there is anything wrong with Taxi drivers talking about stocks. There might be taxi drivers who are ambitious and wanted to learn more about stocks ni. There are many people in our webboard who started out in ordinary jobs but decided to make life better for themselves by investing in the stock market. I understand your point as in Peter Lynch's way that investors should get out of the market when everyone else is talking about stocks, but should we give a little bit more respect to taxi drivers? Like you and i, i think they deserve a right to invest in the stock market too. Maybe they (the taxi drivers) too can think that they should get out of the market because their customers (us) are talking about stocks in their cars. What do you guys think??? :wink: อืมม จขกท ก็ระมัดระวังหน่อยละกัน ผมพอเข้าใจประเด็นจขกท. และก็คิดว่าไม่ได้ดูถูกอาชีพ (ปีเตอร์ ลินช์ เขายกหมอฟันเลยรอดตัวไป) เอาเป็นว่าอย่าไปเน้น ว่าคนพูดทำอาชีพอะไร แต่เน้นเหตุผลที่เขาให้มาจะดีกว่า โดย tn143 จันทร์ ส.ค. 09, 2010 1:26 pm

เปลี่ยนสัมปทาน 2G เป็นใบอนุญาติ ดีไม่ดีอย่างไรกับหุ้นสื่อสาร ถึงแม้ว่าในสัญญาจะเขียนไว้อย่างนั้น แต่ สุดท้ายแล้วสถานีก็จะเป็นของเอกชนอยู่ดี เพราะอะไร เพราะว่า AIS ไม่ได้ซื้อที่ดิน อาคาร เพื่อก่อสร้างสถานี้ แต่เป็นการเช่า(AIS เช่า SC ) ทำให้เมื่อหมดสัญญา ทาง CAT หรือ TOT คงไม่ได้อะไรมาก เรื่องใบอนุญาต มาประมูลกี่ราย ก็มีให้แค่ 3 ใบ 3x15 = 45 tot cat ได้โครงข่าย 2g ทั่วประเทศไทยไง ถึงจะตกรุ่น แต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ถ้ามีปัญญาบริหาร หรือแม้แต่ ให้คนอื่นเช่าสิทธิ์ ก็ยังได้เงินฟรีๆ ไม่ต้องลงทุนอะไรนี่ แค่ซ่อมบำรุง ส่วนอาคาร ที่ดิน ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงข่าย ก็แค่ต่อสัญญาเช่าออกไป ก็ รัน 2g ได้ทันที (ที่ติดเสา ก็เช่ากันทั้งนั้นครับ ไม่มีใครซื้อตึกทุกอำเภอมาติดเสา) โดย tn143 เสาร์ ก.ค. 24, 2010 8:12 pm

เปลี่ยนสัมปทาน 2G เป็นใบอนุญาติ ดีไม่ดีอย่างไรกับหุ้นสื่อสาร [quote="ayethebing"]อ่านดูเต็มๆ ได้ที่ http://www.siamintelligence.com/korbsak-2g-concession-before-3g/ แต่ปัญหาคือผมอ่านแล้วยังไม่เข้าใจอยู่ดีครับ โดย tn143 เสาร์ ก.ค. 24, 2010 7:39 pm

Re: เปลี่ยนสัมปทาน 2G เป็นใบอนุญาติ ดีไม่ดีอย่างไรกับหุ้นสื่ [quote="ayethebing"]ออกตัวก่อนว่าไม่ได้มีหุ้นสื่อสารเลย แต่อยากรู้ผลกระทบที่มีกับธุรกิจ ใครมีความรู้ช่วยแชร์หน่อยครับ 1. โดย tn143 เสาร์ ก.ค. 24, 2010 7:31 pm

Re: มีปัญหาคาใจครับเรื่องในหนังสือ One up on wall street จำได้ว่า One up on wall street เขาพูดเรื่องพื้นๆไม่ซับซ้อน ผมเข้าใจว่างี้ เมื่อใหร่มันจะหยุดโต ก็ดูจำนวนสาขา เช่น 7 เต็มประเทศรึยัง ถ้าเต็มแล้วมันก็ไม่ใช่โตไว ดูขนาดรายได้/กำไร เช่น กำไรปีละ 10,000ล้าน จะโตเป็น 100,000ล้าน มันยากกว่า กำไร 100 ล้าน ไป 1000ล้าน ต้องจ่ายเท่าใหร่เพื่อซื้อ การเจริญเติบโตนั้น PEG  pe เทียบ growth market cap ขนาดนี้ เอาเงินไปสร้างใหม่ แพงหรือถูก โดย tn143 อังคาร ก.ค. 20, 2010 7:09 pm

ซื้อคืน THCOM ในงบ 1,000 ลบ. เป็นแค่กระแสปั่น หรือเอาจริง ผมว่า เจ็บตัวกันแหงๆ ถ้ารัฐบาลจะซื้อจริง ก็กะซื้อถูกๆ ฟังมุมมอง ศ. ให้สัมภาษณ์ เขามองว่า  รัฐบาลไม่ยึด ก็ดีแล้ว ถ้าคุณ ก. คิดแบบเดียวกัน ดีลนี้คงไม่รอด ผมว่านะเอกชนเขาก็ช่วยขาดทุนให้อยู่ดีๆ จะเอา รัฐวิสาหกิจ ที่แย่ๆอยู่แล้ว ไปแบกแทน ซื้อกันจริงก็ขอส่ง มุทิตาจิตให้คนใจกล้า รวยถ้วนหน้า โดย tn143 อังคาร มิ.ย. 15, 2010 6:21 pm

หลังจาก port ติดลบมา 1ปี วันนี้ กำไรแล้ว แต่ขอปรึกษาว่าจะทำย น่าจะขายลดสัดส่วนลงมาหน่อยนะ ถือ 90% เป็นผมทำใจไม่ค่อยได้ถ้ามันตก โดย tn143 เสาร์ มิ.ย. 05, 2010 3:18 pm

ผมแปลกใจทำไม เจ้าสัว cp ถึงบอกว่า 2สูง จะช่วยชาติครับ 1.สูงเกษตรกร ดีแน่ๆ เห็นด้วย เพราะ การใส่เงินไปให้คนรายได้น้อย ได้ผลต่อเศรษฐกิจมากกว่า คนรายได้มาก ชาวนารายได้สูง ก็จ่ายหมดไม่เหลือเก็บ หมุนเวียนในตลาดสด กินข้าวแกง แม่ค้าก็ยังใช้จ่ายวนเวียนระดับล่างอีกหลายรอบ ส่วนคนรายได้สูง ได้เงิน 2000 บาท อาจจะใช้ 1000 ออมไว้ 1000 เงินที่ใช้ก็อาจจะซื้อของในห้าง ซื้อของนอก ซื้อหุ้น หมุนเวียนในระบบได้ไม่กี่รอบก็หมดไป ส่วนจะกระทบราคาสินค้าเกษตร ก็แล้วแต่ ศิลปะการใช้เงิน ของแต่ละรัฐบาล ประกันราคา กับจำนำ มันก็ให้ผลต่างกัน การให้เงินกู้ กับให้ขาดมันก็ให้ผลต่างกัน 2.สูงเงินเดือนราชการ ไม่คิดว่าจะดีเท่าไหร่ ทุกวันนี้เงินเดือนราชการ ก็80% ของงบประมาณแล้ว บริษัทไหน มีโสหุ้ย 80% เหลือเศษๆไปลงทุนได้หน่อยนึง ขืนเพิ่มอีก จะกลายเป็นหนี้ท่วม จะเพิ่มได้ต้องลดคน เพิ่มประสิทธภาพ ซึ่งผมว่าแตะต้องยากมาก อย่าฝันเลย โดย tn143 เสาร์ มิ.ย. 05, 2010 3:09 pm

งบออกแล้ว เจอหุ้นตีแตกไหมครับ ผ่านมาเกือบ 1 เดือน หลายตัวก็แตกไปแล้ว ลิ่งไปบ้าง(เพราะข่าวหรือเพราะงบไม่แน่ใจ) ขอเสนอ DSGT สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่1(F45-3)                        บริษัท ดีเอสจี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)                                                          สอบทาน                                                      (หน่วย : พันบาท)                                            สิ้นสุดวันที่  31 มีนาคม งบการเงินรวม                                                ไตรมาสที่ 1               ปี                            2553             2552      กำไร (ขาดทุน) สุทธิ                    136,038          49,257      กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท)          0.47              0.16  งบการเงินเฉพาะกิจการ                                                ไตรมาสที่ 1               ปี                            2553              2552      กำไร (ขาดทุน) สุทธิ                    91,449            42,898      กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท)            0.32              0.14 ผลประการหรูขนาดนี้ แต่ราคาไม่ไปไหน เพราะว่า 1.บริษัทกำลัง ขายหุ้นที่ซื้อคืน จำนวนหุ้นที่ซื้อคืนที่ยังมิได้จำหน่าย 9,356,100 หุ้น ร้อยละ 3.12 ของทุนชำระแล้ว วันที่ครบกำหนดระยะเวลาที่ต้องจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน 7 เมษายน 2555 (ไม่เกิน 3 ปี นับแต่วันที่ซื้อหุ้นคืนเสร็จแล้ว) 2.ผู้บริหาร ก็ขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง ขายมาตลอดตั้งแต่ก่อนงบออก ก็ขาย ถ้าตามผลประกอบการแล้ว ผมมองว่าถูกมาก ลักษณะสินค้า ดีมาก ของใช้แล้วทิ้ง(ผ้าอ้อม) โอกาสโตมีอีกมาก แต่มองด้าน supply แล้วมีของอีกมากยังไม่ได้ขาย ราคาไม่ไปไหน ก็ไม่รู้ว่า นี่คือยอดดอย หรือไหล่เขา ตัดสินใจอย่างไรดีครับ โดย tn143 เสาร์ มิ.ย. 05, 2010 1:46 pm

ฝรั่งยุโรป จะขนเงินกลับบ้านแบบตอน แฮมเบอร์เกอร์หรือป่าวครับ ซัพไพรม กระทบยอดขาย บ.ในไทยมาก ผลประกอบการบ.ไทยโดยรวม ก็เลยโดนไปด้วย ไม่เหมือนวิกฤติยูโร ไทยไม่ได้ส่งออกไปยูโรมากเท่าไหร่ สรุปก็คือ รอบที่แล้ววิกฤติหนักกว่า ฝรั่งขนกลับไป แสนหกหมื่นล้าน รอบนี้ หักที่ขนๆออกไปแล้ว ก็น่าจะเหลือซัก 3-4 หมื่นล้าน แต่ไม่น่าจะมีของมากเหมือนรอบแสนหก โดย tn143 พฤหัสฯ. พ.ค. 27, 2010 7:22 pm

งบออกแล้ว เจอหุ้นตีแตกไหมครับ ถามได้ตรงใจจัง อยากรู้เหมือนกัน รอคอยอย่างใจจดใจจ่อ ผมสัญญาว่าจะไม่บ่นด้วยคน :D โดย tn143 เสาร์ พ.ค. 15, 2010 7:11 pm

Marketing ของกิมเอ็งบอกว่า ย้ายโบรกง่ายกว่า ผมเคย ซื้อไป 4-5 พัน เห็นคอม 7 บาท ขาดทุน 43 นี่หว่า เลยขายตัวอื่นอีก 3 หมื่น ตลกตัวเองดี เสียดาย 43 บาท เลยขาย 3 หมื่น :D โดย tn143 เสาร์ พ.ค. 15, 2010 12:32 pm

หุ้นดีอนาคตเยี่ยมฐานแกร่ง แต่PEสูง ชาว VI วิเคราะห์ยังไงครับ ผมก็ดูๆ พื้นฐานดี มีอนาคต แบรนด์แข็ง คู่แข่งยังหาไม่เจอ ซื้อแล้วลืมๆไปเลยก็น่าจะดี วิเคราะห์จบแค่นี้ หันมาดู p/e20++ ก็ไม่กล้าซื้อ ก็add ไว้ก่อน แล้วก็รอ ถ้ามันไม่ลงมา ชาตินี้เราึคงไม่มีวาสนา ถ้าไม่ได้ราคาที่มั่นใจ ก็รอต่อไป ปล. ผมเคยซื้อตอน 22 บาท แล้วขายไป 23 เพราะกลัว กลัวว่าpe 18 ก็แพงแล้ว กลัวที่เขียวๆจะแดง กลัวฝรั่ง กลัว set   จนไม่อยากถือ โดย tn143 เสาร์ พ.ค. 15, 2010 11:12 am

ข่าวการฟ้องร้องบริษัทกลุ่มสื่อสาร ADVANC/DTAC/TRUE อยากโหวตว่า ไม่กระทบพื้นฐาน โดย tn143 อังคาร เม.ย. 27, 2010 5:54 pm

ปรึกษาเรื่องพอร์ทการลงทุนหน่อยครับ ถ้าผมมั่นใจมาก หุ้นตัวที่ถืออยู่ สมมุติซื้อไว้ 5 แสน แล้วมั่นใจมากกว่าทอง ก็ลดพอร์ททอง มาซื้อหุ้นอีก 5 แสน พอหุ้นขึ้นกลับไปเกิน"ทุนชุดแรก" ก็ขายออก (กำไร2-3ช่องก็เอา) เหลือทุนหลัง เก็บไว้ดูสบายตา แต่ชีวิตจริงผม หุ้นอย่างเดียว เก็บเพิ่มก็ลงหุ้น แต่ช่วงนี้น่าซื้อ และก็น่าหวาดเสียว โดย tn143 เสาร์ เม.ย. 24, 2010 5:35 pm

ทําไมกลุ่มธนาคารไม่เป็นที่นิยมของชาว VI ครับ เพราะธนาคาร รับความเสี่ยงของทุกกลุ่มธุรกิจไว้ในสินเชื่อ แต่หุ้นตัวอื่น มีแค่ความเสี่ยงของธุรกิจตัวเอง (vi เลือกได้ว่างั้น) โดย tn143 พฤหัสฯ. เม.ย. 22, 2010 10:45 am

สั่งสอนเด็กใหม่หน่อยครับชาว VI กำไรต่อหุ้น/ปี 1.44 บาท p/e 10-11 ก็คืนทุน 11ปี(ที่รายได้เท่าเิดิมตลอด 11ปี) ก็ถูกครับ eps 1.44 เป็นเงินทั้งหมดที่บริษัทหามาได้/ต่อหุ้น ถ้าเขาไม่ปัน ก็เก็บไว้ในบริษัท ผมว่ามูลค่านี้ครบถ้วนแล้ว เป็นเงินจริงๆแค่ไม่ได้แจกออกมา แต่ถ้าจะนับแต่เงินปัน ก็นับได้เหมือนกัน แต่พอคิดงั้นแล้ว คุณก็คงจะสนซื้อหุ้นปันผลสูงมากกว่า (ตัวเลข47ปี ไม่ใช่ถอนทุนนะ นั่นกำไร 100%แล้ว) การจ่ายปัน ก็แล้วแต่บริษัทนั้นจะกำหนดใน นโยบายการจ่ายปัน โดย tn143 อังคาร เม.ย. 20, 2010 3:42 pm

CPN ราคาน่าลลทุนหรือยัง ผมว่าน่าสนใจนะ ราคา 17-18  (ถ้า 16 จริงก็ยิ่งแจ่ม) ม๊อบปิดราชประสงค์ ผมว่ามันก็กระเทือนยอดไปไม่เท่าไหร่หรอก คนก็ไปสาขาอื่นได้ คงประมาณปิดห้างซ่อมแซม พักหลังมานี้ เซ็นทรัลพระราม 2 ก็หาที่จอดรถยากเย็นขึ้นทุกที ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ยิ่งหนักกว่าจะจอดได้ จะกินข้าวยังต้องไปรอคิวอีก ตอนเปิดใหม่ๆ โคตระกว้าง เดี๋ยวนี้จะเหยียบกันอยู่แล้ว ผมว่าคนกลัวเรื่องปิด เซ็นทรัลเวิลด มากเกินไปนะ มันแค่ 30วัน จาก 365 ของ 1 ใน xx สาขาเอง รายได้ก็หายไปประมาณ รายได้/xx/365*30 (ต้องลองไปคำนวนดู) โดย tn143 จันทร์ เม.ย. 19, 2010 6:47 pm

พรุ่งนี้หุ้นจะลงถึง 50 จุดไหมมาทายกัน เมื่อวาน (16/4/2010) โดย tn143 เสาร์ เม.ย. 17, 2010 10:35 am

กระทิง ???? อาจจะต้องเปลี่ยนชื่อกระทู้ หมี????  :shock: โดย tn143 เสาร์ เม.ย. 10, 2010 2:14 pm

กระทิง ???? ผมว่า ลงแรงเกิน สถาบันขายซะนึกว่ามีปฎิวัติ พรุ่งนี้คงรู้ว่า panic หรือของจริง โดย tn143 พฤหัสฯ. เม.ย. 08, 2010 7:30 pm

ถ้า CPALL 20 จะขายไหมครับ หุ้นเทพ แพงกับแพงกว่า ตอนลงมาเหลือ 23 ยังว่าแพง นึกในใจ ใึครกัน big lot ไป1000ล้าน แล้วปล่อยให้ร่วง ลงมาเมื่อไหร่ จะกลั้นใจรับมาถือมั่ง เธอไม่ลงมา วาสานาเราคงไม่มี โดย tn143 อังคาร เม.ย. 06, 2010 5:07 pm

เส้นทางสาย VI อีกหน่อยน่าจะมี ห้องประวัติเซียน ผมชอบอ่านความเป็นมาหลายๆท่านในนี้ แล้วเรื่องของคุณ leonleon อย่าพึ่งจบสิครับ ตกลงซื้อยัง เปิดพอร์ทแล้ว เป็นยังไง กำลังลุ้นเลย ส่วนเรื่องพนันบอล ขอเสริมนิดนึงว่า โอกาสไม่ใช่ 50% เพราะค่าน้ำจิ้ม หายไปประมาณ 10-20% คนแทงได้ 80-90% หายไป10%เป็นค่าดำเนินการ เจ้ามือ รับเนื้อๆ 10% ทุกคู่ที่จับชนได้ ที่เหลือส่งไปโต๊ะใหญ่ ได้ 1% ส่วนเจ้ามือที่เจ๊งคือโลภ รับไว้เอง และบทสรุปของทีมวิจัย พบว่า เพื่อนผมเสียเงินไป 250,000 จากการเล่นอัดทบต้นเพื่อกลบหนี้บอล แล้วมันก็แทงผิด 6 วันติดต่อกัน ส่วนผมตามไปดู 3หมื่น และเพื่อนอีก 4-5 คน ก็โดนเรียบ 2-8 หมื่น/คน เพราะไม่เชื่อว่าเพื่อนจะซวย ผมเอาเงินฝากประจำทั้งหมดไปจ่าย แล้วเลิกขาด ส่วนเพื่อนผม สารภาพบาปกับพ่อ แล้วอีก2ปีให้หลัง มันโดนไปอีก 2แสน แบบเดิมเลย โดย tn143 อังคาร เม.ย. 06, 2010 4:17 pm