หน้า 1 จากทั้งหมด 1

+ถ้าลดดอกเบี้ยอีกซัก 0.75%+

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 12, 2008 9:52 pm
โดย beammy
ถ้า FED ประกาศลดดอกเบี้ยอีกครั้ง ตูมเดียว 0.75% เพื่อประคองเศรษฐกิจสหรัฐฯ ให้รอดพ้นจากการถดถอยในครั้งนี้

ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรครับ อยากทราบความเห็นของพี่ๆ ครับ  :8)  ...

+ถ้าลดดอกเบี้ยอีกซัก 0.75%+

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 12, 2008 10:26 pm
โดย picatos
ก็ภาวนาขอให้แบงค์ชาติเราประกาศลดตู้มเดียว 0.75% บ้าง...

ดอกเงินกู้ผมจะได้ถูกๆ ...  :oops:

+ถ้าลดดอกเบี้ยอีกซัก 0.75%+

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 12, 2008 11:53 pm
โดย MindTrick
0.75ประกาศแน่ แต่1.0 เลยไหม ต้องลุ้น

ส่วนผลแสดงแล้วนี่ครับ เขียวกันใหญ่ คนลืมไปเฉยๆ ว่าเมื่อวานนี้ข่าว recession หาเหตุผลมาสุมจนหัวทิ่มกันอยู่ :lol:

+ถ้าลดดอกเบี้ยอีกซัก 0.75%+

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 13, 2008 1:31 am
โดย akekarat
ไม่ไหวมั๊งครับ แค่เงินเฟ้อตอนนี้ก็จะตายกันอยู่แล้ว แบงค์ชาติไม่ยอมลดหรอกครับ

+ถ้าลดดอกเบี้ยอีกซัก 0.75%+

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 13, 2008 7:19 am
โดย newbie_12
akekarat เขียน:ไม่ไหวมั๊งครับ แค่เงินเฟ้อตอนนี้ก็จะตายกันอยู่แล้ว แบงค์ชาติไม่ยอมลดหรอกครับ
เงินมันเฟ้อ ไม่ได้เป็นเพราะปริมาณเงินมากเกินไปครับ ตอนนี้เงินเฟ้อเพราะน้ำมันแพง ส่งผลให้ต้นทุนหลายๆอย่างสูงขึ้น

ดังนั้นจะคงดอกเบี้ยสูงไว้ ไม่ใช่ทางที่ถูกเลยครับ

+ถ้าลดดอกเบี้ยอีกซัก 0.75%+

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 13, 2008 7:35 am
โดย june1500
เป็นการกระตุ้น ศก ที่ ชะงัด

ความรู้สึกแรกที่คนจะรับรู้คือ

ความอยากจะทำธุรกิจ ลงทุนทำการค้ามากขึ้น
คนที่ทำการค้าด้วยเงินกู้ ก็จะมีกำลังใจ
จะการทำธุรกิจมากขึ้นเพราะภาระลดลง

ที่ตามๆมาก็เรื่องจิตวิทยาการใช้จ่ายมีมากขึ้น
เพราะคนคิดว่า ศก กำลังจะดี เงินฝากก็ได้
ดอกต่ำ ไม่อยากฝาก อยากใช้จ่าย
อยากเอาเงินมาลงทุนค้าขาย

และที่แน่ๆ หุ้นอสังหา มาแน่นอนครับ :D
เพราะคนจะมีโอกาศมีทีอยู่อาศัยมากขึ้น
กล้าซื้อ กล้าผ่อน

สำหรับเงินเฟ้อ ก็ต้องหามาตรการอื่น
มาแก้
แต่ผมว่าตอนนี้ ถ้าเฟ้อก็ดีนะ เพราะ ศก
ช่วงนี้ ฝืดเต็มที่เลย ไม่เคยเจออะไรอย่างนี้
คนค้าขาย เครียดกันทั้งเมือง
แต่ ธ ปท เขายังไม่รู้สึกเลย
เพราะมัวแต่ดูตัวเลข ไม่รับรู้ความจริง
ที่เกิดขึ้น
วันก่อนดูทีวีเขาบอกว่า สงสารคนฝากได้ดอกน้อย
เซ็ง...
แสดงว่าคนไทย เขามีลู่ทางการออมเงิน
ด้วยการฝากธนาคารอย่างเดียวหรือ

+ถ้าลดดอกเบี้ยอีกซัก 0.75%+

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 13, 2008 8:31 am
โดย beammy
MindTrick เขียน:0.75ประกาศแน่ แต่1.0 เลยไหม ต้องลุ้น

ส่วนผลแสดงแล้วนี่ครับ เขียวกันใหญ่ คนลืมไปเฉยๆ ว่าเมื่อวานนี้ข่าว recession หาเหตุผลมาสุมจนหัวทิ่มกันอยู่ :lol:
เด๋วเขียว เด๋วแดง

รายย่อยมึนครับ  :rofl:  ...

หน้ามืดสิครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 13, 2008 9:33 am
โดย songtham
ตอนนี้เงินเฟ้อมาก ถ้าลดดอกอีก เงินก็จะไหลออก ไปประเทศที่ดอกเบี้ยสูง ๆ เช่น เวียดนาม ออสเตรเลีย ขนาดเกาหลีออกพันธบัตร แค่ 4% ยังเต็มไปหลายกอง ถ้าไทยลดดอกอีก คราวนี้จะออกพันธบัตรเพื่อสร้างเมกะโปรเจค
จะมีคนซื้อมัยเนี้ย

ส่วนอเมริกาถ้าลดดอกเบี้ย ตลาดตราสารหนี้เตรียมตัวเดี้ยง เพราะแค่นี้เค้าก็เทขายพันธบัตรอเมริกากันหน้ามืด เพราะว่าค่าเงินดอลล่าห์จะอ่อนลงเรื่อย ๆ
แล้วเมื่อวานยังจะมีประมูลพันธบัตรอีกสองแสนล้านดอล มูลค่าหน้าตั๋วลดฮวบ ปัญหาการเงินตอนนี้วุ่นวายกว่าที่คิด

+ถ้าลดดอกเบี้ยอีกซัก 0.75%+

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 13, 2008 9:57 am
โดย june1500
อยากดูเหมือนกันว่า
ถ้า fed ลงอีก .75- 1
ประเทศที่บอกว่า ยืน
จะยืนได้สักกี่น้ำ ถ้าเงินไหลออกจาก usa

อีกเรื่องหนึ่ง ของไทย
คือ คนทำงานมักจะบ่นกันว่า
ค้าจ้าง ไม่พอกับค่าครองชีพ
ทำไมไม่คิดว่า สินค้าขายไม่ดี
ไม่มีคนซื้อ ธุรกิจไม่เคลื่อนไหว นิ่ง
แล้วนายจ้างจะเอาเงินที่ไหนมาขึ้นค่าแรง
เงินเดือน

เงินเฟ้อ ที่ขึ้นตอนนี้ไม่ได้เกิดจากการจับจ่าย
หรือการบริโภค แต่เกิดจาก น้ำมันแพงครับ

+ถ้าลดดอกเบี้ยอีกซัก 0.75%+

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 13, 2008 10:02 am
โดย beammy
june1500 เขียน:เงินเฟ้อ ที่ขึ้นตอนนี้ไม่ได้เกิดจากการจับจ่าย
หรือการบริโภค แต่เกิดจาก น้ำมันแพงครับ
เป็นปัญหาที่แก้ได้ยากมากด้วย ทำไงดีครับ  :roll:  ...

+ถ้าลดดอกเบี้ยอีกซัก 0.75%+

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 13, 2008 10:11 am
โดย june1500
คงจะต้องสนับสนุนพวกพลังงานทางเลือก
เช่น เอทานอล ไบโอดีเซล อย่างจริงจัง
คือ เอาจริงเป็นวาระของชาติเลย
เพราะจะได้ ไม่ต้องไปง้อพวกโอเปคมาก
เงินก็ไม่ไหลออก เข้ากระเป๋าเกษตรกร

ที่สำคัญคือ ควรลดดอกเพื่อกระตุ้น ศก
ก่อนครับ  ให้การค้ามีการหมุนเวียน มีชีวิตชีวา
กว่านี้

ดูๆอสังหากันบ้างหรือยัง :shock:

+ถ้าลดดอกเบี้ยอีกซัก 0.75%+

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 13, 2008 10:11 am
โดย chatchai
newbie_12 เขียน: เงินมันเฟ้อ ไม่ได้เป็นเพราะปริมาณเงินมากเกินไปครับ ตอนนี้เงินเฟ้อเพราะน้ำมันแพง ส่งผลให้ต้นทุนหลายๆอย่างสูงขึ้น

ดังนั้นจะคงดอกเบี้ยสูงไว้ ไม่ใช่ทางที่ถูกเลยครับ
แต่ถ้าคิดอีกแง่หนึ่ง  เมื่อสหรัฐลดดอกเบี้ยลง  ค่าเงินสหรัฐก็คงลงไปอีก  สิ่งที่อาจจะตามมาก็คือ  เงินทุนก็จะไหลไปสู่  ทองคำ  และน้ำมัน

ราคาน้ำมัน  ก็อาจจะแพงขึ้นไปอีก
june1500 เขียน:แต่ผมว่าตอนนี้ ถ้าเฟ้อก็ดีนะ เพราะ ศก
ช่วงนี้ ฝืดเต็มที่เลย ไม่เคยเจออะไรอย่างนี้
คนค้าขาย เครียดกันทั้งเมือง
ถ้าเฟ้อนิดหน่อยก็คงดีนะครับ  แต่ถ้าเฟ้อแบบนี้มีแต่แย่ครับ  รายได้ของคนชั้นกลางที่ทำงานรับเงินเดือนโตไม่ทันกับค่าใช้จ่ายครับ

+ถ้าลดดอกเบี้ยอีกซัก 0.75%+

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 13, 2008 10:23 am
โดย beammy
ชนชั้นกลางที่เงินเดือน fixed แต่ surplus expense ตลอด

ผมว่ามาตรฐานการครองชีพมันลดลงโดยที่เขาแทบไม่รู้ตัวเลยนะครับ

ลดดอกเบี้ยแรงๆ ค่าเงินก้อกลับอ่อนค่าลงอีก เหอๆ

วิกฤตครั้งนี้เราจะผ่านมันไปได้โดยที่เราเจ็บตัวน้อยที่สุด ยังไงครับพี่ฉัตรชัย  :cry:  ...

+ถ้าลดดอกเบี้ยอีกซัก 0.75%+

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 13, 2008 10:27 am
โดย Dimsum
ผมค้าขาย มีแต่คนบ่นว่าตอนนี้แย่กว่าเมื่อปี 40 - 41 อีก
ตอนปี 40 คนไม่ได้เป็นหนี้ จ่ายดอกเบี้ยบานเหมือนตอนนี้ ข้าวของก็ไม่ได้ขึ้นราคามากและเร็ว
ผมยังสงสัยว่า ปีนี้จะกระตุ้นให้มีการบริโภคมากขึ้นได้อย่างไร ก็เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ได้มีเงินเหลือ (คนชั้นกลางที่เงินเดือนต่ำ + รากแก้ว) หรือจะต้องให้ก่อหนี้เพิ่มอีก รอเป็น NPL ในอนาคต  :?: รู้สิกว่าตัวเลขที่ออกมามันแย้งกับความจริง ความรู้สึก
ผมคิดว่าจะให้สินค้าโภคภัณฑ์ทั้งหลายลงราคาได้คงจะต้อง ให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ทุกคนเริ่มไม่มั่นใจในการเติบโต ราคาคงจะตก (สูงสุดคืนสู่สามัญ) เพื่อปรับสมดุลย์กันใหม่ ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้ว่ามันจะลงยังไง กว่าพลังงานทดแทนจะใช้กันมากพอให้ราคาน้ำมันลง ผมว่าอีกหลายปีครับ

+ถ้าลดดอกเบี้ยอีกซัก 0.75%+

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 13, 2008 10:37 am
โดย beammy
ราคาน้ำมันขายปลีกสำเร็จรูป ผมว่ายังอยู่ในระดับสูงแบบนี้ไปอีกหลายปี ครับ

พลังงานทดแทนที่ออกมา ก้อเป็นเพียงกระแส แต่ออกมาเป็นระยะๆ แต่จะให้คนเปลี่ยนมาใช้กันเป็นส่วนใหญ่ คงอีกนานทีเดียว

อย่าง E20 ก้อไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมีทุกปั๋ม หรือการลงทุนติดตั้ง NGV สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เขาก้อยังยึดติดภาพแท็กซี่ต่อคิวเติมยาวเหยียด ทั้งนี้ยังไม่ได้พูดถึง E85 หรือ E100 ที่คงไม่มีโอกาสได้เกิด

ดอกเบี้ยเงินฝากต่ำเตี้ยเรี่ยดิน แต่ยอดเงินฝากในระบบธนาคารกลับไม่เคยลดลง / พ.ร.บ. ประกันเงินฝากมีผลใช้บังคับ ยอดเงินคงไหลไปที่ตราสารหนี้

ตลาดทุนเริ่มแข็งแกร่งขึ้น บริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในระยะเติบโตได้ต่อเนื่องก้อมีเพิ่มขึ้น แต่นักลงทุนกลับมีน้อยนิด ทั้งๆ ที่สถิติก้อบอกอยู่ว่า ที่นี่เป็นแหล่งพักเงินระยะยาวที่ดีที่สุด

bla bla bla  :lol:

คนเราบางคนไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงครับ รับกรรมกันต่อไป  :8)  ...

+ถ้าลดดอกเบี้ยอีกซัก 0.75%+

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 13, 2008 11:08 am
โดย june1500
นั่นซิ

เฝ้าหน้าจอกันดีกว่า

เรื่องไรค้าขาย ให้ปวดกบาลปล่าว

+ถ้าลดดอกเบี้ยอีกซัก 0.75%+

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 13, 2008 11:28 am
โดย chatchai
Dimsum เขียน:ผมค้าขาย มีแต่คนบ่นว่าตอนนี้แย่กว่าเมื่อปี 40 - 41 อีก
ตอนปี 40 คนไม่ได้เป็นหนี้ จ่ายดอกเบี้ยบานเหมือนตอนนี้ ข้าวของก็ไม่ได้ขึ้นราคามากและเร็ว
ผมไม่เชื่อว่าแย่กว่าปี 40 ครับ  เพราะสมัยปี 40  เราจะเห็นคนตกงานมากมาย  อาคารและหมู่บ้านร้างที่สร้างได้แค่ครึ่งเดียวอยู่ทั่วกรุงเทพ

แต่ตอนนี้  คอนโดมิเนียมก็ยังคงสร้างกันอยู่  ห้างสรรพสินค้าผู้คนก็ยังแน่นอยู่เลย  ยอดขายรถยนต์ก็ยังคงดีอยู่

สินค้าแพง  ผมไม่เชื่อว่าบริษัทใหญ่ๆลดราคาไม่ได้  เพราะยังคงเห็นกำไรอยู่ทุกบริษัท  แถมกำไรโตอีกต่างหาก  แต่ที่ไม่ลดราคาก็เพราะ  ขึ้นราคาแล้วก็ยังขายได้  แล้วจะลดราคาทำไม

+ถ้าลดดอกเบี้ยอีกซัก 0.75%+

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 13, 2008 11:46 am
โดย Dimsum
ผมหมายถึง ชนชั้นกลางที่มีเงินเดือนไม่ถึงสองหมื่น + ชนชั้นแรงงาน คนงาน พวกช่าง รับจ้างทั่วไป ครับพี่ chatchai ผมขายอุปกรณ์ก่อสร้าง ตอนนี้คนพวกนี้ลำบากมาก ค่าแรงวันไม่ถึงสองร้อย ทำงานตั้งแต่ 8 - 17
พวกชนชั้นกลางกินเงินเดือน จ่ายค่าห้อง ส่งให้พ่อแม่ ค่ารถเมล์ รถไฟฟ้า + รถใต้ดิน ค่ากินอีก 3 มื้อ อยู่ในกรุงตอนนี้น่วมเลย ซื้อของใช้ของกินขึ้นราคาหมด
พวกชั้นนักธุรกิจที่ทำคอนโด ขายรถเค้าอยู่สบายอยู่แล้ว ต่อให้ของจะแพงกว่านี้ น้ำมันลิตรละ 50 ก็ไม่สะเทือน คนส่วนใหญ่ในประเทศนี้เป็นคนรายได้น้อยน่ะครับ
คนที่จำเป็นจริง ๆ ต้องซื้อบ้าน ซื้อรถ ก็ก่อหนี้ไปแล้วทั้งนั้น แล้วจะกระตุ้นให้บริโภคมากขึ้นได้อย่างไร ถ้ารายได้เค้าไม่เพิ่ม

+ถ้าลดดอกเบี้ยอีกซัก 0.75%+

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 13, 2008 11:58 am
โดย chatchai
เศรษฐกิจตอนนี้ลำบากครับ  เพียงแต่ไม่แย่กว่าตอนปี 40

สมัยนั้น  การก่อสร้างหยุดเกือบหมดทั้งงานรัฐบาล  งานเอกชน  คนงานก่อสร้างก็ตกงานต้องกลับบ้านต่างจังหวัดไปทำไร่ไถนากันเกือบหมด  โรงงานผลิตวัสดุก่อสร้างลดกำลังการผลิตลงเกือบครึ่ง  คนงานก็ตกงาน

คอนโดมิเนียมยังคงมีการก่อสร้างก็แสดงว่า  บริษัทอสังหาริมทรัพย์ยังมีสภาพคล่องที่ดีอยู่  คนงานก็ยังมีงานทำอยู่  สถาบันการเงินก็ยังคงปล่อยสินเชื่ออยู่

+ถ้าลดดอกเบี้ยอีกซัก 0.75%+

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 13, 2008 12:13 pm
โดย beammy
Dimsum เขียน:พวกชั้นนักธุรกิจที่ทำคอนโด ขายรถเค้าอยู่สบายอยู่แล้ว
ยอดแย่ลงกว่าเดิมเยอะครับพี่ แต่ Margin เพิ่มขึ้น เพราะได้ประโยชน์จากอัตราแลกเปลี่ยน

ก้อไม่ถือว่าสบาย ครับ  :8)  ...

+ถ้าลดดอกเบี้ยอีกซัก 0.75%+

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 13, 2008 12:47 pm
โดย Dimsum
เศรษฐกิจตอนนี้ลำบากครับ  เพียงแต่ไม่แย่กว่าตอนปี 40

สมัยนั้น  การก่อสร้างหยุดเกือบหมดทั้งงานรัฐบาล  งานเอกชน  คนงานก่อสร้างก็ตกงานต้องกลับบ้านต่างจังหวัดไปทำไร่ไถนากันเกือบหมด  โรงงานผลิตวัสดุก่อสร้างลดกำลังการผลิตลงเกือบครึ่ง  คนงานก็ตกงาน

คอนโดมิเนียมยังคงมีการก่อสร้างก็แสดงว่า  บริษัทอสังหาริมทรัพย์ยังมีสภาพคล่องที่ดีอยู่  คนงานก็ยังมีงานทำอยู่  สถาบันการเงินก็ยังคงปล่อยสินเชื่ออยู่
อันนี้เห็นด้วยครับ ว่าไม่แย่เท่าปี 40 แต่ถ้าพูดใหม่ว่าความรู้สึกมันแย่กว่าจะเป็นไปได้ไหมครับ
คือ กลางปี 40 ทุกอย่างหยุดหมด คนตกงาน เงินหมุนไม่ทันเป็นหนี้ แต่เหมือนกับมันรู้พร้อมกันหมด ในจังหวะเดียว ประมาณว่า ช็อก แล้วค่อย ๆ เริ่มทำใจยอมรับความจริง หาทางหนีหนี้ หรือแก้ไข
แต่ ช่วงที่ผ่านมา 2 - 3 ปี รายได้เพิ่มไม่ทันรายจ่าย ของขึ้นมากและเร็ว เมื่อมันเป็นมาหลายปี จึงรู้สึกว่าแย่ เพราะมีแต่ข่าวว่าของอันนั้นอันนี้ขึ้นรายวัน ประกอบกับช่วงหลายปีก็ก่อหนี้ไว้มากอยู่แล้ว เลยมีความรู้สึกว่าแย่กว่าเมื่อปี 40
เลยคิดว่า รัฐเพิ่มรายได้ให้ปชช. อย่างเดียวไม่พอต้องเพิ่มความเชื่อมั่นด้วยครับ ส่วนตัวคิดว่าควรลดดอกเบี้ยน่ะครับ เพราะจะกระตุ้นให้มีการลงทุน ลดต้นทุนของเงินกู้ พอมีการลงทุนแล้วก็จะมีการจ้างงาน ก็จะเป็นการเพิ่มรายได้ เพิ่มการบริโภค ของขายดีมากขี้น มีความมั่นใจมากขึ้นตามมา และเงินบาทก็จะได้ไม่แข็งมากขึ้นด้วย (ไม่ทราบว่าคิดถูกไหม ช่วยชี้แนะด้วยครับ)

+ถ้าลดดอกเบี้ยอีกซัก 0.75%+

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 13, 2008 3:02 pm
โดย picatos
newbie_12 เขียน: เงินมันเฟ้อ ไม่ได้เป็นเพราะปริมาณเงินมากเกินไปครับ ตอนนี้เงินเฟ้อเพราะน้ำมันแพง ส่งผลให้ต้นทุนหลายๆอย่างสูงขึ้น

ดังนั้นจะคงดอกเบี้ยสูงไว้ ไม่ใช่ทางที่ถูกเลยครับ
เห็นด้วยครับ... เงินเฟ้อที่เกิดขึ้นเกิดจากพลังงานที่สูง น่าจะเหมือนสมัยก่อนที่เกิดวิกฤตน้ำมัน ส่งผมให้เศรษฐกิจเกิดสภาวะที่เรียกว่า Stagflation นั่นก็คือ เงินเฟ้อสูง แต่เศรษฐกิจถดถอย

ถ้าจำไม่ผิดที่เรียนมา เค้าบอกว่าสมัยนู้นก็แก้ปัญหาด้วยการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อคุมเงินเฟ้อเหมือนกัน ซึ่งไม่ใช่ทางแก้ที่ถูกเลย กลับทำให้ปัญหาเลวร้ายลงไปอีก

ทางแก้ที่ถูกต้องนักเศรษฐศาสตร์มองว่า น่าจะทำโดยการลดดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจมากกว่า (ส่วนการจะขึ้นดอกเบี้ยเพื่อคุมเงินเฟ้อควรจะเมื่อ demand มากกว่า supply และมีสัญญาณว่าจะเกิดภาวะฟองสบู่)

เราก็เลยเห็นสหรัฐฯ ลดดอกเบี้ยเอาลดเอา ก็หวังว่าบ้านเราน่าจะลดดอกเบี้ยกับเค้ามั่งเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และลดแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินบาท

+ถ้าลดดอกเบี้ยอีกซัก 0.75%+

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 13, 2008 11:09 pm
โดย BHT
เท่าที่รู้ ถ้าเฟดลดดอกเบี้ยลง เงินน่าจะไหลเข้ามาทางเอเชียเยอะขึ้นอีกครับ

ส่วนเงินเฟ้อ คือตอนนี้ภายในประเทศเริ่มดีขึ้น ถ้าไปลดดอกเบี้ยตาม จะยิ่งไปเพิ่มอุปสงค์ในประเทศ ทำให้ข้าวของแพงหนักขึ้นไปอีก แต่ก็ดีอย่างคือภาพรวมการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น

ถ้าน้ำมันยังราคาขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้แย่ครับ และความแย่ๆแบบนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่ด้วย

+ถ้าลดดอกเบี้ยอีกซัก 0.75%+

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 14, 2008 10:12 pm
โดย mambo
BHT เขียน:เท่าที่รู้ ถ้าเฟดลดดอกเบี้ยลง เงินน่าจะไหลเข้ามาทางเอเชียเยอะขึ้นอีกครับ
ไม่แน่หรอกครับ
ส่วนเงินเฟ้อ คือตอนนี้ภายในประเทศเริ่มดีขึ้น ถ้าไปลดดอกเบี้ยตาม จะยิ่งไปเพิ่มอุปสงค์ในประเทศ ทำให้ข้าวของแพงหนักขึ้นไปอีก แต่ก็ดีอย่างคือภาพรวมการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น
การจ้างงานอาจเพิ่มในทางทฤษฎี แต่ในทางปฏิบัติไม่เห็นจะเป็นแบบนั้นสักเท่าไหร่
ถ้าน้ำมันยังราคาขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้แย่ครับ และความแย่ๆแบบนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่ด้วย
ถูกต้องครับ แย่แน่ๆ

+ถ้าลดดอกเบี้ยอีกซัก 0.75%+

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 19, 2008 8:10 am
โดย beammy
ลดแล้วครับ ตามคาด  :8)
เฟดประกาศลดดอกเบี้ย0.75% กู้วิกฤตซับไพร์ม

19 มีนาคม พ.ศ. 2551 06:48:00

ธนาคารกลางสหรัฐประกาศลดดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% เหลือ 2.25% จากเดิมอยู่ที่ 3% กู้วิกฤตซับไพร์ม ป้องกันเศรษฐกิจถดถอย ดันดัชนีดาวโจนส์พุ่งกว่า 420 จุด

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงอีก0.75% เพื่อแก้ไขวิกฤติของสถาบันการเงิน ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยจะลงมาเหลือเพียง 2.25% เท่านั้น
http://www.bangkokbiznews.com