ผมมาอัพเดทครับ
ถ้าไปฟังในงาน ผมก็จะมีกลยุทธ์อยู่สามอย่าง คือ
Trapping คือ การดักรอหาจังหวะ "หุ้นถูก ๆ" ซึ่งการวาง Trap ที่ดี คือต้องรู้ให้กว้าง แต่ไม่ลึก
อาจจะต้องวาง Trap นาน หรือ แป๊ปเดียว ก็ขึ้นกับโชคพอสมควร แต่เราต้องวางในตำแหน่งที่คิดว่าถูกมากแล้ว
เช่นหุ้นเวียดนามรอบนี้ ผมก็ดักจังหวะ ซื้อและขาย ได้กำไรมาระดับนึง
และผมจะลงแบบ ETF หรือ DR เป็นหลัก เพราะผมต้องการเข้าและออกเมื่อมูลค่าเริ่มเหมาะสม
นักลงทุนหุ้นต่างประเทศที่เป็น VI เก่ง ๆ ผมคิดว่าเค้าชอบเล่นท่านี้ เพื่อชดเชยความเสียเปรียบจากนักลงทุนในพื้นที่
Hunting คือ การล่าของที่คนชอบกัน ปัจจัยในการล่าที่ดีคือ "ความเร็ว" การเล่นตามกระแส ในไทยก็คือเล่น Story
ผมคิดว่าอันนี้เราเสียเปรียบมาก ๆ ถ้าเราผิดทาง มีโอกาสโดนทำโทษค่อนข้างสูง แต่ผลตอบแทนมักจะสูงมากในระยะเวลาสั้น ๆ
ช่วงที่หุ้นเทคขึ้นเยอะ ๆ ผมเข้าไปเกม Hunt แต่กลับอยู่ Farm ต่อ ทำให้ขาดทุนเสียหายหนัก
หุ้น Hunting ผมคิดว่าผมจะเลิก หุ้นแพง ๆ ที่มีกระแสเยอะ ๆ ไม่ว่าจะขึ้นเร็วแค่ไหน จะไม่ลงทุนเพราะเราเสียเปรียบด้านความเร็ว
แต่ Hedge fund manager เก่ง ๆ ผมคิดว่าเค้าชอบเล่นท่านี้ เป็น thematic play / country play / fund flow / macroeconomic play
ผมเพิ่งได้พูดคุย fund manager ของ fund ที่ใหญ่ต้น ๆ ของโลก แกน่าจะเป็นยิว ดูฉลาดมาก ดังนั้นการเล่นเกมหุ้นต่างประเทศต้องระวัง ๆ ครับ
เพราะหุ้นที่ผลตอบแทนสูง (ในระยะสั้น ๆ) มักจะดึงดูดคนเก่ง ๆ เข้าไปจำนวนมาก
Farming คือ การหาถิ่นที่อยู่ ซื้อและถือยาว ๆ ซึ่งการ Farm ที่ดีคือต้องหาหุ้นที่ความสามารถในการแข่งขันดี
ดีแบบใครเทียบเคียงยาก เติบโตไปเรื่อย ๆ ซื้อแล้วถือยาว ๆ แบบบัฟเฟตต์ เอาจริง ๆ ผมว่าเราจะเจอหุ้น Farm ที่ดีได้
เราอาจจะต้องอยู่ในประเทศนั้น และมี edge เพื่อจะเห็นอะไรบางอย่างก่อน
รายย่อยเราก็ไม่ต้องหา Farm ที่ใหญ่ก็ได้ mkt cap 5000 ล้าน เราก็ซื้อได้สบาย และบริษัทก็มี run way ในการโตไม่ยากด้วย
ดังนั้นหุ้น Farm ผมอาจจะโฟกัสที่ตลาดหลักของผม ซึ่งน่าจะเป็นไทย
แต่หลายท่านไป Farm หุ้นแข็งแกร่งมาก ๆ ในต่างประเทศ ผมก็คิดว่าเป็นทางเลือกที่ดี ถ้าเราหาหุ้นเล็ก ๆ ในพื้นที่ไม่ได้จริง ๆ
เพราะ Farm ในต่างประเทศมันใหญ่มาก พอจะแบ่งปันอาหารกันได้ ถ้าเลือกถูกก็คาดหวังผลตอบแทนได้มากกว่าตลาดในระยะยาวได้
พอผม scope มาลักษณะนี้ พอร์ตผมทะยอยปรับเยอะมาก
และเป้าหมายการลงทุนหุ้นต่างประเทศผม จะเป็นเรื่องความรู้เป็นหลัก ประเทศไหนผมไปแล้วไม่ได้ความรู้ใหม่ ๆ ผมจะทะยอยลด
เพราะหุ้นต่างประเทศ ยังเป็นแหล่งที่ทำให้ผมได้ความรู้เยอะมากอยู่ตลอด และนำมาปรับใช้ในหุ้นไทยได้ดีพอสมควร
ผมแนบ transcript ของเทปปู่ชาลีไว้ แกพูดถึงหุ้นหลายตัว เช่น Hermes, Costco, Kraft heinz, BYD ด้วยมุมมองที่เฉียบคมเช่นเดิม
ไปต่างประเทศก็ยังได้ลับเลื่อยตัวเอง ผมก็ยังชอบตรงนี้