เป้าหมายส่วนตัวของผมซึ่งยึดมั่นเสมอมาตั้งแต่เริ่มต้นลงทุนก็คือ “อิสรภาพทางการเงิน”
....................
ยุคสมัยที่ผมเริ่มต้นลงทุนใหม่ๆ ประมาณปี 2004 เวลาจะซื้อหุ้นหรืออยากรู้ราคาหุ้นก็ต้องโทรหา ‘Marketing’ เมื่อไปนั่งในห้องค้า (หุ้น) ก็มีแต่พวกลุงๆป้าๆ ช่วงเวลานั้นหนังสือที่เกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นมีน้อยมาก ช่องทางการเรียนรู้หลักสำหรับนักลงทุนก็คือกระดานถามตอบในเว็บบอร์ด และการออกเดินทางไปเข้าร่วมงานสัมมนา เมื่อไปสัมมนาที่ไหนก็ต้องพกเครื่องอัดเสียงใส่กระเป๋าไปด้วย เพื่อจะได้นำสิ่งที่บันทึกไว้กลับมาทบทวนอีกครั้ง ส่วนงาน ‘Opp Day’ (บริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน) ก็ยังไม่มีการบันทึกให้ดูย้อนหลัง ใครได้ไปฟังสดๆจะกลายเป็นข้อได้เปรียบอย่างมากเลยทีเดียว
....................................................
ณ ช่วงเวลาแห่งอดีต หุ้นในตลาด ‘MAI’ มีค่า P/E ต่ำมาก 4-5 เท่าเป็นเรื่องปกติ หุ้นเติบโตที่จ่ายเงินปันผล 6-8% ต่อปีก็หาไม่ยากเลย ส่วนการออกไปลงทุนในหุ้นต่างประเทศนั้นยังไม่มีใครหาญกล้านึกถึง ต่อให้อยากลงทุนก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร คำว่า ‘นักลงทุนวีไอ’ ยังแทบไม่มีใครรู้จักเลย
....................................................
เมื่อครั้งยังวัยเยาว์ การฝากเงินไว้กับธนาคารเคยให้ผลตอบแทนถึงระดับ 15% ต่อปี ถ้าคุณมีเงินก้อนแล้วนำไปฝากบัญชีออมทรัพย์ ก็แทบไม่ต้องหางานทำแล้ว นอนกินดอกเบี้ยไปเรื่อยๆ สบายๆ ผู้คนไม่ได้สนใจเรื่องการลงทุนมากนัก (จะเสี่ยงไปทำไมกันล่ะ?) หากจำไม่ผิดในยุคสมัยที่ผมเริ่มต้นย่างเท้าเข้าไปยังตลาดหุ้นไทย ดอกเบี้ยเงินฝากน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2-3% ทั้งหมดนี้คือสภาพแวดล้อมด้านการเงินและการลงทุนของผมในยุคแรก
....................................................
สำหรับนักลงทุนมือใหม่ ณ ยุคสมัยปัจจุบัน
...
ผลตอบแทนตลาดหุ้นในระยะยาวค่อนข้างดำเนินไปตามทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจระดับมหภาคของประเทศ หากสถานที่แห่งนั้นมีสภาวะทางเศรษฐกิจเอื้ออำนวย ตลาดหุ้นก็คงมีอนาคตอันสดใส หากเศรษฐกิจย่ำแย่ การคาดหวังผลตอบแทนสูงๆในตลาดหุ้นนั้นคุณจำเป็นต้องมีความสามารถมากกว่า เก่งกว่าค่าเฉลี่ยของคนส่วนใหญ่ ซึ่งผมคิดว่าหากเราขยันและทุ่มเทมากเพียงพอก็ยังสามารถไขว่คว้าผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจได้ เช่น เราต้องขุดคุ้ย พลิกแผ่นดินหาหุ้นเติบโตสูงให้เจอเป็นคนกลุ่มแรก หรืออาจเข้าซื้อหุ้นที่คนส่วนใหญ่มีมุมมองในแง่ลบ แต่ความเป็นจริงแล้วมันไม่ได้แย่อย่างที่คิด
....................................................
ก่อนเริ่มต้นเยื้องย่างกรายเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น เราจำเป็นต้องมีเป้าหมายส่วนตัวอย่างชัดเจนก่อนว่าจะลงทุนไปเพื่ออะไร? เป้าหมายส่วนตัวของผมซึ่งยึดมั่นเสมอมาตั้งแต่เริ่มต้นลงทุนก็คือ “อิสรภาพทางการเงิน” อิสระของแต่ละปัจเจกบุคคลแตกต่างกันในแง่ของปริมาณเงินและเงื่อนไขต่างๆนาๆ เมื่อคุณแน่ใจแล้วว่าจำเป็นต้องมีเงินเท่าไหร่จึงจะเรียกว่ามี “อิสระ” จากนั้นก็สามารถวางแผนอย่างถูกทิศทางได้ว่าต้องออมเงินเท่าไหร่? ลงทุนเท่าไหร่? ต้องทำผลตอบแทนเท่าไหร่และใช้เวลาอีกนานเพียงใด? จึงจะสามารถเอื้อมมือถึงคำว่า “อิสรภาพทางการเงิน”
....................................................
เมื่อเราลงทุนในสิ่งใด อย่าคิดเพียงแค่ว่าเพื่อหาเงินค่าข้าว ค่ากาแฟ ไปวันๆ “การลงทุนคือ แผนการระยะยาวเพื่อซื้ออิสรภาพแก่ชีวิต” แน่นอนว่าการเดินทางไปสู่เป้าหมายมันจะยาก ยากมากๆ หากแต่มันจะค่อยๆง่ายดายขึ้นเมื่อผ่านพ้นช่วงแรกไปแล้ว
....................................................
การลงทุนต้องค้นหาจริตส่วนตัวของตนเองให้เจอ ผมชอบอ่านหนังสือตั้งแต่เด็กๆ ชอบตั้งคำถามเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมรอบตัว และพยายามค้นหาคำตอบ เลยคิดว่าอาชีพที่เน้นการอ่านและวิเคราะห์น่าจะเหมาะสมกับตัวตนมากที่สุด ในช่วงแรกของการศึกษาด้านการลงทุนนั้น คุณจำเป็นต้องเรียนรู้หลากหลายแนวทาง และเมื่อไหร่ที่พอจะจับทิศทางได้ก็ควรมุ่งเน้นไปยังเส้นทางนั้นเลย
....................................................
สิ่งที่อาชีพนักลงทุนแตกต่างจากอาชีพอื่นคือ การลงทุนมันไม่สนหรอกว่าคุณจะทุ่มเททรัพยากรให้มันมากน้อยเพียงใด หากสุดท้ายแล้วคุณขาดทักษะ ต่อให้ใช้เวลานั่งดูหุ้น ติดตามข่าวสารทั้งวันทั้งคืนก็อาจขาดทุนไปตลอดเส้นทาง ซึ่งแตกต่างจากงานประจำซึ่งคุณจะได้รับผลตอบแทนแน่นอนตามที่ตกลงกับนายจ้างไว้ตั้งแต่แรก
....................................................
ความยากของการลงทุนมักเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ย่ำแย่ มันตอกย้ำว่าคุณจะยังเชื่อมั่นหรือเปล่าว่าคุณมีศักยภาพมากพอที่จะหวนกลับมายืนในจุดซึ่งดีกว่าสิ่งที่เคยเป็น หากคุณเริ่มไม่มั่นใจในความสามารถของตนเอง ผมคิดว่านั่นแหล่ะจะทำให้ผลลัพธ์ที่บังเกิดขึ้นมากลายเป็นหนังคนละม้วน ที่สุดแล้วการอยู่ในสภาพแวดล้อมหรือสังคมที่ผู้คนมองโลกในแง่บวกเป็นเรื่องสำคัญมาก การลงทุนจะต้องมีช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างแน่นอน และทุกครั้งที่ขาดทุนไม่ได้หมายความว่าคุณจะพ่ายแพ้ในระยะยาว ซึ่งคนส่วนใหญ่มักถอดใจและล้มเลิกกลางคัน
....................................................
การลงทุนในหุ้นควรมองภาพรวมของพอร์ตทั้งหมด การถือครองหุ้นที่ขาดทุนบ้างไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย หากสามารถทำผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายในระยะยาว เมื่อคุณคาดหวังที่จะทำให้อาชีพการลงทุนสามารถเลี้ยงชีพได้จริง คุณต้องลงทุนในความรู้ให้มากที่สุด จนถึงวันหนึ่งความรู้บางอย่างที่ได้ลงแรงเอาไว้จะมอบผลตอบแทนอันคุ้มค่าคืนกลับมาอย่างคาดไม่ถึง วินัยและความรู้คือเครื่องมือการันตีว่าในระยะยาวคุณจะประสบความสำเร็จในโลกแห่งการลงทุน
.........
องค์ประกอบที่จะทำให้การลงทุนประสบผลสำเร็จในระยะยาว ประกอบด้วย 4 อย่างคือ
...
การเลือกหุ้น (Stock Selections)
...
การจัดพอร์ต (Portfolio Management)
...
จังหวะเวลา (Timing)
...
จิตวิทยา (Psychology)
...
คุณสมบัติ 3 ข้อแรกเป็นเรื่องที่ฝึกฝนได้ เชี่ยวชาญตามประสบการณ์ที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนเรื่องของสภาพจิตใจนั้นยากมาก ผมมีมุมมองว่าจิตวิทยาเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถฝึกฝนหรือพัฒนาได้อย่างลื่นไหลทั้งหมด การฝึกฝนสติและสมาธิก็ช่วยได้ในระดับหนึ่ง สุดท้ายการสร้างพอร์ตลงทุนให้เติบโตได้ในระยะยาวนั้นผมคิดว่าคุณต้องมีคุณสมบัติโดยรวมให้ครบทั้ง 4 ข้อนี้ และหมั่นฝึกฝนทบทวนความรู้ตลอดเส้นทางการเป็นนักลงทุน ตลอดเส้นทางแห่งชีวิต
.....................
ฮง : สถาพร งามเรืองพงศ์, 2021
...
ขอให้มีความสุขกับการลงทุน ในทุกๆวัน นะครับ
....................................................
Recap. 2024
...
ปัจจุบัน “ฮง : สถาพร งามเรืองพงศ์” ครอบครองพอร์ตการลงทุนในหุ้นไทย (ไม่รวมเงินสด อสังหาฯ กองทุน หุ้นต่างประเทศ หุ้นที่ไม่ติดอยู่ในรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ และสินทรัพย์อื่นๆนอกตลาดหุ้น) มูลค่ากว่า 4,040 ล้านบาท
...
ประกอบด้วยหุ้นจำนวน 14 บริษัท (IVL, DITTO, BE8, STA, MALEE, NEO, TKN, TEAMG, MOSHI, MICRO, TRP, TAN, BVG, PROUD)
...
เขาได้รับเงินปันผลจากหุ้นไทย เฉพาะในปี 2023 เป็นจำนวนเงินประมาณ 127 ล้านบาท หรือเฉลี่ยรายรับจากเงินปันผลประมาณ 10 ล้านบาทต่อเดือน
...
สังเกตได้ว่า พอร์ตการลงทุนของคุณฮง ณ ปัจจุบัน ยังคงมุ่งเน้นให้ความสำคัญไปที่กระบวนการแสวงหาการเติบโตของมูลค่าหุ้น มากกว่าการได้รับเงินปันผลเพื่อหล่อเลี้ยงชีพอย่างมีนัยสำคัญ
🔥เป้าหมายซึ่งยึดมั่นเสมอมาตั้งแต่เริ่มต้นลงทุนก็คือ “อิสรภาพทางการเงิน” : เซียนฮง
- Introverted investor
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 122
- ผู้ติดตาม: 284
🔥เป้าหมายซึ่งยึดมั่นเสมอมาตั้งแต่เริ่มต้นลงทุนก็คือ “อิสรภาพทางการเงิน” : เซียนฮง
โพสต์ที่ 1
Try to be : Full Time Investor, Reader, Writer, Learner & Cultural observer.
......................................
I have a passion for keeping things simple.
......................................
https://www.facebook.com/Introverted.investor
......................................
I have a passion for keeping things simple.
......................................
https://www.facebook.com/Introverted.investor