โลกในมุมมองของ VALUE INVESTOR ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรรกร บัญญัติ 10 ประการของการเล่นหุ้นแบบ VI

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
worchane
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 92
ผู้ติดตาม: 66

โลกในมุมมองของ VALUE INVESTOR ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรรกร บัญญัติ 10 ประการของการเล่นหุ้นแบบ VI

โพสต์ที่ 1

โพสต์

คือชอบบทความของ ดร.นิเวศน์ ที่พี่สุวิทย์แชร์มากๆๆ
อ่านซ้ำเป็น 10 รอบ
พยายามหาใน google ก็ไม่มีที่จะ copy เป็น text ได้ บวกกับ ความ low-tech ของตัวเอง

เลยพิมพ์เอาเองเลย
เผื่อจะมีประโยชน์กับคนที่ต้องการ copy เก็บไว้ครับ

………………………………………………………………

IMG_9197.jpeg
โลกในมุมมองของ VALUE INVESTOR
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรรกร

บัญญัติ 10 ประการของการเล่นหุ้นแบบ VI

พูดถึงเรื่องของการซื้อขายหุ้นแล้ว ผมคิดว่ามีเทคนิคหรือมีกฎต่างๆมากมายที่มีการคิดค้นและนำเสนอ
วิธีการหรือกลยุทธ์ที่ใช้ในแต่ละเรื่องนั้น มีหลากหลายแนวทางขึ้นอยู่กับว่าคนที่เสนอเป็นนักลงทุนแนวไหน
กลยุทธ์เหล่านั้นบ่อยครั้งขัดกันเอง
เช่น
ถ้าเป็นนักเก่งกำไร พวกเขาอาจจะบอกว่าการเล่นหุ้นต้องเล่น”ตามกระแส”
แต่ถ้าเป็นแบบ value investor บางพวก
เขาจะให้ซื้อขาย ”สวนกระแส”
วันนี้ผมขอนำเสนอหลักสำคัญบางประการของการซื้อขายหุ้นที่ผมเชื่อและใช้
เรียกให้เท่ว่า..
บัญญัติ 10 ประการ ของการเล่นหุ้น

ข้อ1) ศึกษาข้อมูลหุ้นให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อหุ้น :
อย่าซื้อหุ้นโดยใช้อารมณ์ อย่าโลภ อย่ารีบด่วนตัดสินใจซื้อหุ้นโดยเฉพาะในกรณีที่หุ้นกำลังวิ่ง
อย่าลืมว่านี่หุ้นที่กำลัง”วิ่ง” ทุกวัน
ถ้าเราซื้อ เราก็จะเป็นนักเล่นหุ้นรายวันที่มีโอกาสถูกผิด 50-50 ถ้าเราทำแบบนี้ในระยะยาว เราจะขาดทุนเสมอ

ข้อ2) อย่าสนใจข่าวลือ:
หรือ “หุ้นเด็ด” ที่เราได้ยินมา
ไม่ว่าจะมาจากเซียน คนใน หรือ insider ของบริษัท หรือจากคนแปลกหน้าในงานเลี้ยง
เชื่อเถอะว่าถ้าเราได้ยินก็คงมีคนอีกไม่น้อยที่ได้ยิน
ข่าว หรือข้อมูลแบบนี้ไม่มีความหมายอะไรนอกจากจะทำให้เราเสียเงิน

ข้อ3) ให้ความสำคัญกับตัวกิจการ:
หรือตัวหุ้นมากกว่าสภาพตลาด หรือเศรษฐกิจโดยทั่วไป เพราะถึงแม้สภาพทางเศรษฐกิจอาจจะไม่ดี แต่ตัวบริษัทอาจจะดีได้ นอกจากนั้นถึงกิจการอาจจะไม่ดีนักแต่ราคาหุ้นอาจจะต่ำกว่าพื้นฐานมาก ดังนั้นอย่าให้ภาพของตลาดหรือเศรษฐกิจมาหันเหการตัดสินใจซื้อหุ้นของเรา
ข้อ4.) หุ้นนั้นมักจะดูแย่กว่าที่คิดในช่วงที่ตลาดตกต่ำถึงพื้นในช่วงตลาดหมีและดูดีกว่าที่คิดในช่วงที่ตลาดวิ่งถึงจุดสูงสุดในช่วงตลาดกระทิง:
มีความกล้าหาญที่จะซื้อเมื่อทุกอย่างดูเร็วร้ายและขายเมื่อทุกอย่างดูดีจนไม่น่าเชื่อ
ข้อ5.) จำไว้ว่ามันเป็นเรื่องยาก ที่เราจะสามารถซื้อหุ้นที่พื้นพอดีและขายหุ้นได้ที่จุดสูงสุด:
ในยามที่ตลาดเลวร้ายมากๆนั้นหุ้นอาจจะตกต่ำลงไปเกินกว่ามูลค่าพื้นฐานจริงได้มาก
เช่นเดียวกันในยามที่ทุกคนกำลังมองโลกในแง่ดีมากๆหุ้นอาจจะขึ้นไปเกินพื้นฐานได้มากเหมือนกัน
ดังนั้นอย่าคาดหวังว่าเมื่อซื้อหุ้นแล้วราคาจะต้องขึ้นทันที หรือขายหุ้นแล้วก็หวังว่ามันจะลง
ถึงแม้เราจะเชื่อมั่นกับการวิเคราะห์หามูลค่าของเรา
ข้อ6.) ถ้ามั่นใจว่าบริษัทที่เราลงทุนมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมีอนาคตในการเติบโตที่ดีมากอย่าขายเพียงเพราะว่าราคาหุ้นอาจจะดูเหมือนว่าสูงเกินไปหรือหุ้นวิ่งขึ้นมาเร็วเกินไปชั่วคราว :
เพราะถ้าเราพลาด เราอาจจะไม่สามารถซื้อมันกลับมา และทำให้เราพลาดที่จะได้ผลตอบแทนที่ดีเยี่ยมในอนาคต
ข้อ7.) อย่า “หลงรักหุ้น” จน “ตาบอด”:
เพราะมันจะทำให้เราไม่สามารถวิเคราะห์กิจการได้อย่างเป็นกลางไม่มีความลำเอียง
หุ้นนั้นรักได้แต่อย่าหลง
เราจะต้องตรวจสอบและประเมินดูฐานะและความคุ้มค่าอยู่ตลอดเวลา และเมื่อถึงเวลาเราก็อาจจะต้องมีความ “โหดร้าย” พอที่จะ “ตัดรัก” หรือขายทิ้งได้ถ้าพิจารณาดูแล้วว่ามัน “หมดเสน่ห์” แล้ว
ข้อ8.)อย่าสนใจว่าหุ้นเคยอยู่ในจุดไหนมาก่อน:
จงสนใจว่าหุ้นจะไปที่ไหน
กิจการอาจจะเคยกำไร 100 ล้านบาท ราคาหุ้นอาจจะเคยอยู่ที่ 10 บาทต่อหุ้น
แต่ขณะนี้กำไรเหลือเพียงหลัก 10 ถึง 20 ล้านบาท ราคาหุ้นตกลงมาเหลือเพียง 2 บาทต่อหุ้นอย่าไปคิดว่ากิจการและหุ้นจะต้องกลับไปที่เดิมหรือใกล้ใกล้กับที่เดิม
อย่าลืมว่าของเดิมอาจจะเป็นปรากฏการณ์ที่ผิดปกติก็ได้ “ตัวเลขใหม่คือของจริง”
ดังนั้นลืมตัวเลขเก่าแล้วมองไปข้างหน้า
หุ้นราคา 2 บาทอาจจะยังแพงเกินไปก็ได้
ข้อ9.) เน้นการลงทุนในหุ้นคุณภาพสูง :
หุ้นคุณภาพต่ำนั้น บางครั้งอาจจะให้ผลตอบแทนที่ดีและเร็วมาก แต่ความสำเร็จในระยะยาวนั้นมีโอกาสสูงกว่าที่จะเกิดกับพอร์ตของหุ้นที่เน้นการลงทุนในหุ้นคุณภาพสูงเป็นหลัก
value investor จำนวนมากหลีกเลี่ยงหุ้นดีประเภทซุปเปอร์สต๊อค และชอบเล่นหุ้นคุณภาพต่ำที่มีโอกาสทำกำไรหวือหวารวดเร็ว
การทำแบบนี้ถ้าทำเป็นครั้งคราวก็คงไม่เสียหายอะไรนะ แต่ถ้าเริ่มต้นก็ทำแล้ว จนในที่สุดติดเป็นนิสัย “โอกาสที่เค้าจะประสบความสำเร็จในระยะยาวก็จะยาก” พอร์ตที่ประกอบไปด้วยหุ้นของกิจการที่มีคุณภาพต่ำนั้น ยากที่จะทำให้เรารวย
ตรงกันข้าม “พอร์ตของกิจการที่มีคุณภาพสูงนั้นสามารถทำให้เรารวยได้และด้วยความเสี่ยงที่ต่ำกว่ามาก “
ข้อ 10.) ใช้เวลากับการลงทุน:
ตรวจสอบกิจการและหุ้นอย่างสม่ำเสมอ
ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงไป เราต้องปรับการลงทุนเพื่อให้สะท้อนกับการเปลี่ยนแปลง
ตัดหุ้นที่อ่อนแอลงออก ซื้อหุ้นที่ดีกว่าเข้ามา
แต่นี่ไม่ใช่การเทรดหรือซื้อขายหุ้นรายวันรายเดือนหรือแม้แต่รายปี
มันขึ้นกับสถานการณ์และตัวหุ้น
โดยเฉลี่ยแล้วถ้าเราซื้อหุ้นแล้วถือไม่ถึงปี
วิธีการลงทุนของเราคงไม่ใช่การเน้นหุ้นคุณภาพในการลงทุนเป็นหลัก

ทั้งหมดนั้นก็เป็นเพียงบางส่วนของกฎในการซื้อขายหุ้นลงทุนที่ผมคิดว่าดี และสอดคล้องกันเป็นชุด
แน่นอนมีกฎอื่นๆอีกมากมายนับไม่ถ้วนและอาจจะตรงกันข้ามกับที่ผมพูดถึง
นักลงทุนคงต้องเลือกเองว่า จะเชื่อแนวความคิดหรือวิธีไหน
แต่ขอบอกว่านี่คือวิธีการที่นักลงทุนเอกของโลกอาทิ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ใช้อยู่และประสบความสำเร็จอย่างงดงาม
Toomsupachai
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1
ผู้ติดตาม: 0

Re: โลกในมุมมองของ VALUE INVESTOR ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรรกร บัญญัติ 10 ประการของการเล่นหุ้นแบบ VI

โพสต์ที่ 2

โพสต์

อนุญาติสอบถามครับ ทำไมเห็นให้สัมภาษณ์บอยๆ อ.นิเวศน์ และ พี่โจ ลูกสานถึงไม่เลือกหุ้นแบงค์ครับ
โพสต์โพสต์