VI รุ่น 2
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1603
- ผู้ติดตาม: 4
VI รุ่น 2
โพสต์ที่ 1
ในตลาดหุ้นที่แสนจะวุ่นวาน มีปริมาณการซื้อ-ขายในแต่ละวันเป็นมูลค่าหลายพันล้าน ทุกคนที่ซื้อขายหุ้นในตลาดแห่งนี้หวังในสิ่งเดียวกันนั้นคือ กำไร
แต่การจะได้มาซึ่งกำไรนั้นมีหลากหลายวิธีการ เช่น การเล่นหุ้นตามกราฟ เล่นตามข่าว เล่นตามขาใหญ่ และหนึ่งในวิธีการทำกำไรจากตลาดหุ้นคือ การลงทุนในธุรกิจ (แนวทางที่ VI เขาทำกัน)
การที่เราจะเลือกลงทุนในธุรกิจได้นั้นนอกจากจะต้องมีกำลังทรัพย์แล้วเราคงต้องเข้าใจธุรกิจว่าธุรกิจที่เราจะลงทุนนั้นเขาทำอะไร มีรายได้จากอะไร ความสามารถในการทำกำไรเป็นอย่างไร มีโอกาสเติบโตมากแค่ไหน จึงทำให้เราต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจที่เราต้องการจะลงทุนให้ดีก่อน ถ้าเรามีความรู้พื้นฐานในในธุรกิจนั้นๆ อยู่บ้าง คงไม่ใช่เรื่องยากที่จะต่อยอดหาความรู้เพิ่มเติม แต่ถ้าเราไม่มีความรู้ในธุรกิจนั้นๆ เลยแล้วเราจะทำยังไง
การเรียนรู้ข้อมูลของธุรกิจย้อยหลังจากผู้รู้จึงเป็นอีกทางหนึ่งที่ง่ายและรวดเร็ว แต่การเรียนรู้ข้อมูลจากบุคคลเหล่านี้เราต้องเข้าใจอย่างหนึ่งว่าข้อมูลที่เราได้รับนั้นเป็นข้อมูลที่มีทัศนคติของคนเหล่านั้นแฝงอยู่ด้วย และในหลายๆ ครั้ง ทัศนคติเหล่านั้นเองที่มีผลต่อการลงทุนของเรามากกว่าข้อมูล จนส่งผลให้เรากลายไปเป็นนักลงทุนรุ่น 2 และหลายๆ ครั้ง การลงทุนในธุรกิจที่เราคิดว่าเข้าใจมันก็ไม่ได้สวยงามอย่างที่เราคิด ถามว่าทำไม
1.เพราะการลงทุนในธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงของราคาแทบจะทุกวัน บางวันราคาหุ้นอาจจะขึ้นบางวันอาจลง ทำให้จิตใจของคนเหล่านี้หวั่นไหว โดยเฉพาะเวลาหุ้นลงนักลงทุนรุ่น 2 มักจะทำอะไรไม่ถูกเช่นไม่กล้าซื้อเพิ่มในราคาที่ถูกทั้งที่ธุรกิจยังดีอยู่ หรือไม่กล้าขายออกในกรณีที่ซื้อมาแพงจนเกินไป
2.เพราะเมื่อราคาหุ้นดีขึ้นซึ่งดูเหมือนจะไม่เป็นปัญหาแต่นักลงทุนรุ่น 2 กลับยิ่งมั่นใจรีบซื้อเพิ่มด้วยกลัวว่าจะตกรถหรือกลัวจะไม่ได้ของถูกจึงมักจะไล่ซื้อตามกันผลคือ ติดดอย อาจจะเป็นเดือนหรือเป็นปี ส่วนคนที่ทนไม่ได้ก็ชิงลงมือตัดขาดทุนไปก่อน ทั้งๆ ที่บางทีธุรกิจนั้นยังดีอยู่และยังไม่ได้แสดงความสามารถในการทำกำไรเท่านั้น
3.เพราะในกรณีที่หุ้นขึ้นแล้วไม่ได้ซื้อเพิ่มอาจเป็นเพราะเงินหมดหรือไม่กล้าตาม นักลงทุนเหล่านี้ก็มักจะไม่รู้ว่าราคาไหนควรจะขายจึงทำให้ไดกำไรไม่มากเท่าที่ควร (แต่อย่างว่าขายหมูยังงดีกว่าติดดอย)
4.เพราะในกรณีที่พื้อฐานธุรกิจเปลี่ยนนักลงทุนรุ่น 2 มักจะรับรู้ข้อมูลช้า คิดช้า ตัดสินใจช้าอาจเป็นเพราะต้องการความคิดเห็นมาช่วยยืนยันความคิดตน (หลายๆ ครั้งผมก็เป็น)
5.ข้อนี้สำคัญมาก เพราะหลายครั้งในการซื้อ-ขายหุ้นนักลงทุนรุ่น 2 หาเหตุหลไม่ได้ในการซื้อครั้งนั้นๆ ซื้อเพราะเชื่อที่จะเชื่อ ไม่ได้เชื่อข้อมูล ซื้อเพราะคิดว่าว่าดี
และมีเหตุผลอีกมากมายที่ทำให้นักลงทุนรุ่น 2 ไม่ประสบความสำเร็จในการลงทุนเท่าที่ควร แต่การเป็นนักลงทุนรุ่น 2 ยังดีกว่าการเป็นนักลงทุนรุ่นสุดท้ายที่เมื่อซื้อธุรกิจแล้วจะหาคนมารับช่วงต่อได้ยาก
ถามตัวเองหรือยังคับ ว่าตอนนี้คุณเป็นนักลงทุนรุ่น 2 หรือเปล่า
แต่การจะได้มาซึ่งกำไรนั้นมีหลากหลายวิธีการ เช่น การเล่นหุ้นตามกราฟ เล่นตามข่าว เล่นตามขาใหญ่ และหนึ่งในวิธีการทำกำไรจากตลาดหุ้นคือ การลงทุนในธุรกิจ (แนวทางที่ VI เขาทำกัน)
การที่เราจะเลือกลงทุนในธุรกิจได้นั้นนอกจากจะต้องมีกำลังทรัพย์แล้วเราคงต้องเข้าใจธุรกิจว่าธุรกิจที่เราจะลงทุนนั้นเขาทำอะไร มีรายได้จากอะไร ความสามารถในการทำกำไรเป็นอย่างไร มีโอกาสเติบโตมากแค่ไหน จึงทำให้เราต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจที่เราต้องการจะลงทุนให้ดีก่อน ถ้าเรามีความรู้พื้นฐานในในธุรกิจนั้นๆ อยู่บ้าง คงไม่ใช่เรื่องยากที่จะต่อยอดหาความรู้เพิ่มเติม แต่ถ้าเราไม่มีความรู้ในธุรกิจนั้นๆ เลยแล้วเราจะทำยังไง
การเรียนรู้ข้อมูลของธุรกิจย้อยหลังจากผู้รู้จึงเป็นอีกทางหนึ่งที่ง่ายและรวดเร็ว แต่การเรียนรู้ข้อมูลจากบุคคลเหล่านี้เราต้องเข้าใจอย่างหนึ่งว่าข้อมูลที่เราได้รับนั้นเป็นข้อมูลที่มีทัศนคติของคนเหล่านั้นแฝงอยู่ด้วย และในหลายๆ ครั้ง ทัศนคติเหล่านั้นเองที่มีผลต่อการลงทุนของเรามากกว่าข้อมูล จนส่งผลให้เรากลายไปเป็นนักลงทุนรุ่น 2 และหลายๆ ครั้ง การลงทุนในธุรกิจที่เราคิดว่าเข้าใจมันก็ไม่ได้สวยงามอย่างที่เราคิด ถามว่าทำไม
1.เพราะการลงทุนในธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงของราคาแทบจะทุกวัน บางวันราคาหุ้นอาจจะขึ้นบางวันอาจลง ทำให้จิตใจของคนเหล่านี้หวั่นไหว โดยเฉพาะเวลาหุ้นลงนักลงทุนรุ่น 2 มักจะทำอะไรไม่ถูกเช่นไม่กล้าซื้อเพิ่มในราคาที่ถูกทั้งที่ธุรกิจยังดีอยู่ หรือไม่กล้าขายออกในกรณีที่ซื้อมาแพงจนเกินไป
2.เพราะเมื่อราคาหุ้นดีขึ้นซึ่งดูเหมือนจะไม่เป็นปัญหาแต่นักลงทุนรุ่น 2 กลับยิ่งมั่นใจรีบซื้อเพิ่มด้วยกลัวว่าจะตกรถหรือกลัวจะไม่ได้ของถูกจึงมักจะไล่ซื้อตามกันผลคือ ติดดอย อาจจะเป็นเดือนหรือเป็นปี ส่วนคนที่ทนไม่ได้ก็ชิงลงมือตัดขาดทุนไปก่อน ทั้งๆ ที่บางทีธุรกิจนั้นยังดีอยู่และยังไม่ได้แสดงความสามารถในการทำกำไรเท่านั้น
3.เพราะในกรณีที่หุ้นขึ้นแล้วไม่ได้ซื้อเพิ่มอาจเป็นเพราะเงินหมดหรือไม่กล้าตาม นักลงทุนเหล่านี้ก็มักจะไม่รู้ว่าราคาไหนควรจะขายจึงทำให้ไดกำไรไม่มากเท่าที่ควร (แต่อย่างว่าขายหมูยังงดีกว่าติดดอย)
4.เพราะในกรณีที่พื้อฐานธุรกิจเปลี่ยนนักลงทุนรุ่น 2 มักจะรับรู้ข้อมูลช้า คิดช้า ตัดสินใจช้าอาจเป็นเพราะต้องการความคิดเห็นมาช่วยยืนยันความคิดตน (หลายๆ ครั้งผมก็เป็น)
5.ข้อนี้สำคัญมาก เพราะหลายครั้งในการซื้อ-ขายหุ้นนักลงทุนรุ่น 2 หาเหตุหลไม่ได้ในการซื้อครั้งนั้นๆ ซื้อเพราะเชื่อที่จะเชื่อ ไม่ได้เชื่อข้อมูล ซื้อเพราะคิดว่าว่าดี
และมีเหตุผลอีกมากมายที่ทำให้นักลงทุนรุ่น 2 ไม่ประสบความสำเร็จในการลงทุนเท่าที่ควร แต่การเป็นนักลงทุนรุ่น 2 ยังดีกว่าการเป็นนักลงทุนรุ่นสุดท้ายที่เมื่อซื้อธุรกิจแล้วจะหาคนมารับช่วงต่อได้ยาก
ถามตัวเองหรือยังคับ ว่าตอนนี้คุณเป็นนักลงทุนรุ่น 2 หรือเปล่า
อย่ามัวติดกับเรื่องในอดีต กังวลกับเรื่องในอนาคต จนลืมว่าปัจจุบันต้องทำอะไร
- Juninho
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1058
- ผู้ติดตาม: 20
VI รุ่น 2
โพสต์ที่ 4
เข้าใจดีเลยครับ
ไม่รู้จะอ่านหนังสืออะไรดี หากอยากเป็น วีไอ รุ่น 1
การจะเข้าใจธุรกิจเขาอย่างลึกซึ้ง แค่หนังสือตีแตก
หนังสือบัฟเฟตต์ ปีเตอร์ลินซ์ เกรแฮม คงยังไม่พอ
ใครโปรดช่วยแนะนำหนังสือให้กระผมหน่อยซิครับ
คงต้องหาหนังสือ พวก mba , หนังสือที่พวกบัญชีเรียนกัน หรือเปล่าหนอ
ไม่รู้จะอ่านหนังสืออะไรดี หากอยากเป็น วีไอ รุ่น 1
การจะเข้าใจธุรกิจเขาอย่างลึกซึ้ง แค่หนังสือตีแตก
หนังสือบัฟเฟตต์ ปีเตอร์ลินซ์ เกรแฮม คงยังไม่พอ
ใครโปรดช่วยแนะนำหนังสือให้กระผมหน่อยซิครับ
คงต้องหาหนังสือ พวก mba , หนังสือที่พวกบัญชีเรียนกัน หรือเปล่าหนอ
You Can Get It If You Really Want
But you must try, try and try
But you must try, try and try
- Pn3um0n1a
- Verified User
- โพสต์: 1935
- ผู้ติดตาม: 1
VI รุ่น 2
โพสต์ที่ 5
ผมว่า รุ่น 1 กะรุ่น 2 ต่างกัน มากโขอยู่นะครับ
และ ผมก็เชื่อว่า รุ่น 1 ก็ยังเป็นรุ่น 1 ต่อไป
และรุ่น 2 ก็ยังเป็นรุ่น 2 ต่อไป...
ยกเว้นแต่ว่า รุ่น 2 พยายามที่จะเป็นรุ่น 1
ผมไม่โทษใคร ไม่ซ้ำเติมใคร
แต่ใครจะเป็นรุ่น 1 หรือ 2 มันอยู่ที่ตัวเอง จะโทษฟ้าอย่างเดียว ไม่ได้แน่นอน
พี่กุหลาบ เขียนได้สุดยอดเลยครับ...
หวังว่าจะช่วยให้ ใครสักคน ไม่กี่คน หรือ มากคน ได้อยู่เหนือตัวเอง...
และ ผมก็เชื่อว่า รุ่น 1 ก็ยังเป็นรุ่น 1 ต่อไป
และรุ่น 2 ก็ยังเป็นรุ่น 2 ต่อไป...
ยกเว้นแต่ว่า รุ่น 2 พยายามที่จะเป็นรุ่น 1
ผมไม่โทษใคร ไม่ซ้ำเติมใคร
แต่ใครจะเป็นรุ่น 1 หรือ 2 มันอยู่ที่ตัวเอง จะโทษฟ้าอย่างเดียว ไม่ได้แน่นอน
พี่กุหลาบ เขียนได้สุดยอดเลยครับ...
หวังว่าจะช่วยให้ ใครสักคน ไม่กี่คน หรือ มากคน ได้อยู่เหนือตัวเอง...
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1603
- ผู้ติดตาม: 4
VI รุ่น 2
โพสต์ที่ 6
ผมว่าการจะเป็นรุ่น 1 หรือรุ่น 2 ยังไม่สำคัญเท่ากับเข้าใจและยอมรับความสามารถตนเอง โดยไม่ลำเอียง
อย่ามัวติดกับเรื่องในอดีต กังวลกับเรื่องในอนาคต จนลืมว่าปัจจุบันต้องทำอะไร
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 10
VI รุ่น 2
โพสต์ที่ 7
8) ผมเป็นวีไอรุ่น2ผสมกับรุ่น3
คือไม่เคยหาหุ้นเอง
หาจากรุ่น1นี่แหละ
แต่ผมรู้ว่าทีมผม ฝีเท้าผู้เล่นสู้รุ่น1เขาไม่ได้
เวลาเล่น ผมก็ไม่เปิดเกมบุกใส่ครับ
ผมก็ค่อยๆตั้งรับแล้วรอสวน ม่ายงั้นไม่มีพื้นที่ให้เล่น ให้ทำประตู
เพราะผมรู้ตัวว่าไม่มีดารา ก็เน้นทีมเวิร์ค เน้นฟิต ซ้อมหนัก
แท็คติอาจเป็นรอง แต่เรื่องแรง วิ่งได้120นาทีไม่มีหมด
ไม่เอาเปรียบกัน ช่วยกันเล่น
โอกาสแพ้เยอะ แต่โอกาสชนะก็มีไม่น้อย
ผมว่าที่แย่คือเราเป็นรุ่น2หรือรุ่น3แล้วไพล่ไปคิดว่าเก่งเหมือนรุ่น1เขา
นี่นะซีครับ
พอเปิดเกมมาก็บุกใส่เขาใหญ่...ฮ่า...อย่างนี้ละขนประตูกลับบ้านเป็นเข่งๆแน่เลย...
คือไม่เคยหาหุ้นเอง
หาจากรุ่น1นี่แหละ
แต่ผมรู้ว่าทีมผม ฝีเท้าผู้เล่นสู้รุ่น1เขาไม่ได้
เวลาเล่น ผมก็ไม่เปิดเกมบุกใส่ครับ
ผมก็ค่อยๆตั้งรับแล้วรอสวน ม่ายงั้นไม่มีพื้นที่ให้เล่น ให้ทำประตู
เพราะผมรู้ตัวว่าไม่มีดารา ก็เน้นทีมเวิร์ค เน้นฟิต ซ้อมหนัก
แท็คติอาจเป็นรอง แต่เรื่องแรง วิ่งได้120นาทีไม่มีหมด
ไม่เอาเปรียบกัน ช่วยกันเล่น
โอกาสแพ้เยอะ แต่โอกาสชนะก็มีไม่น้อย
ผมว่าที่แย่คือเราเป็นรุ่น2หรือรุ่น3แล้วไพล่ไปคิดว่าเก่งเหมือนรุ่น1เขา
นี่นะซีครับ
พอเปิดเกมมาก็บุกใส่เขาใหญ่...ฮ่า...อย่างนี้ละขนประตูกลับบ้านเป็นเข่งๆแน่เลย...
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- Pn3um0n1a
- Verified User
- โพสต์: 1935
- ผู้ติดตาม: 1
VI รุ่น 2
โพสต์ที่ 8
ประเด็นพี่กุหลาบนี่ แยกรุ่น 1 กะ 2 ยังไงเหรอครับ
ยังคลุมเครือ...
ในความเห็นผม เท่าที่อ่าน เข้าใจว่า
แต่รุ่น 1 ก็ไม่ได้จำเป็นต้องหาหุ้นเอง แต่ต้องเข้าใจในธุรกิจที่ซื้อจริงๆ
มี valuation ในใจที่แม่นยำ
ส่วนรุ่น 2 เข้าใจแค่ลวกๆ เข้าใจแค่ว่าดีก็ซื้อ
valuation บิดเบือนไปจากความรู้สึก จากการฟังมา จากการเข้าข้างตัวเอง
ไม่น่าจะแบ่งจากการหาหุ้นเองรึเปล่า
อย่างพี่พอใจนี่ในความเห็นผม ไม่นับเป็นรุ่นสองรุ่นสามแล้ว
เป็นรุ่นหนึ่งไปเรียบร้อย แต่ยังถ่อมตัวอยู่นั่น...
แต่เห็นด้วย ว่า จะแย่มาก ถ้าเป็นรุ่น2 ไปคิดว่าเก่ง เหมือนรุ่น1
(ผมเองก็เคยนะ ปัจจุบันก็ยังเป็นอยู่ แต่ก็พยายามไต่เต้าไปเรื่อย)
ว่ากันว่า หลงทางไม่น่ากลัว แต่หลงตัวสิน่าเกรง...
ยังคลุมเครือ...
ในความเห็นผม เท่าที่อ่าน เข้าใจว่า
แต่รุ่น 1 ก็ไม่ได้จำเป็นต้องหาหุ้นเอง แต่ต้องเข้าใจในธุรกิจที่ซื้อจริงๆ
มี valuation ในใจที่แม่นยำ
ส่วนรุ่น 2 เข้าใจแค่ลวกๆ เข้าใจแค่ว่าดีก็ซื้อ
valuation บิดเบือนไปจากความรู้สึก จากการฟังมา จากการเข้าข้างตัวเอง
ไม่น่าจะแบ่งจากการหาหุ้นเองรึเปล่า
อย่างพี่พอใจนี่ในความเห็นผม ไม่นับเป็นรุ่นสองรุ่นสามแล้ว
เป็นรุ่นหนึ่งไปเรียบร้อย แต่ยังถ่อมตัวอยู่นั่น...
แต่เห็นด้วย ว่า จะแย่มาก ถ้าเป็นรุ่น2 ไปคิดว่าเก่ง เหมือนรุ่น1
(ผมเองก็เคยนะ ปัจจุบันก็ยังเป็นอยู่ แต่ก็พยายามไต่เต้าไปเรื่อย)
ว่ากันว่า หลงทางไม่น่ากลัว แต่หลงตัวสิน่าเกรง...
- Juninho
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1058
- ผู้ติดตาม: 20
VI รุ่น 2
โพสต์ที่ 10
แต่ผมว่า พี่กุหลาบนี่ แยกรุ่น 1 กะ 2 ไม่น่าจะใช่อย่างที่
คุณ Pn3um0n1a บอกนะครับ น่าจะดูจากประโยคนี้
การเรียนรู้ข้อมูลของธุรกิจย้อยหลังจากผู้รู้จึงเป็นอีกทางหนึ่งที่ง่ายและรวดเร็ว แต่การเรียนรู้ข้อมูลจากบุคคลเหล่านี้เราต้องเข้าใจอย่างหนึ่งว่าข้อมูลที่เราได้รับนั้นเป็นข้อมูลที่มีทัศนคติของคนเหล่านั้นแฝงอยู่ด้วยและในหลายๆ ครั้ง ทัศนคติเหล่านั้นเองที่มีผลต่อการลงทุนของเรามากกว่าข้อมูล จนส่งผลให้เรากลายไปเป็นนักลงทุนรุ่น 2
ก็คือ หากแม้เข้าใจธุรกิจจริง ๆ แต่การเข้าใจในธุรกิจนั้นผ่านบุคคลซึ่งเป็นรุ่นที่ 1
และโดยเฉพาะหากทัศนคติของบุคคลรุ่นที่ 1 มีผลต่อ
ตัวเองอย่างมาก ก็น่าจะนับได้ว่าเป็นรุ่นที่ 2
ส่วนที่ คุณ Pn3um0n1a เขียนว่า
พวกที่เข้าใจแค่ลวกๆ เข้าใจแค่ว่าดีก็ซื้อ
valuation บิดเบือนไปจากความรู้สึก จากการฟังมา จากการเข้าข้างตัวเอง ผมว่า อาจจะไม่ใช่วีไอนะครับ
หรือถ้าใช่ก็น่าจะจัดเป็นรุ่นที่ 3 นู่นแน่ะครับ
ไม่รู้จะตรงกับพี่กุหลาบหรือเปล่าครับ
คุณ Pn3um0n1a บอกนะครับ น่าจะดูจากประโยคนี้
การเรียนรู้ข้อมูลของธุรกิจย้อยหลังจากผู้รู้จึงเป็นอีกทางหนึ่งที่ง่ายและรวดเร็ว แต่การเรียนรู้ข้อมูลจากบุคคลเหล่านี้เราต้องเข้าใจอย่างหนึ่งว่าข้อมูลที่เราได้รับนั้นเป็นข้อมูลที่มีทัศนคติของคนเหล่านั้นแฝงอยู่ด้วยและในหลายๆ ครั้ง ทัศนคติเหล่านั้นเองที่มีผลต่อการลงทุนของเรามากกว่าข้อมูล จนส่งผลให้เรากลายไปเป็นนักลงทุนรุ่น 2
ก็คือ หากแม้เข้าใจธุรกิจจริง ๆ แต่การเข้าใจในธุรกิจนั้นผ่านบุคคลซึ่งเป็นรุ่นที่ 1
และโดยเฉพาะหากทัศนคติของบุคคลรุ่นที่ 1 มีผลต่อ
ตัวเองอย่างมาก ก็น่าจะนับได้ว่าเป็นรุ่นที่ 2
ส่วนที่ คุณ Pn3um0n1a เขียนว่า
พวกที่เข้าใจแค่ลวกๆ เข้าใจแค่ว่าดีก็ซื้อ
valuation บิดเบือนไปจากความรู้สึก จากการฟังมา จากการเข้าข้างตัวเอง ผมว่า อาจจะไม่ใช่วีไอนะครับ
หรือถ้าใช่ก็น่าจะจัดเป็นรุ่นที่ 3 นู่นแน่ะครับ
ไม่รู้จะตรงกับพี่กุหลาบหรือเปล่าครับ
You Can Get It If You Really Want
But you must try, try and try
But you must try, try and try
- Pn3um0n1a
- Verified User
- โพสต์: 1935
- ผู้ติดตาม: 1
VI รุ่น 2
โพสต์ที่ 11
อย่างนี้ ไม่สามารถเรียกได้ว่า เข้าใจจริงๆ ครับ แน่นอน ฟันธงfrog2 เขียน: การเรียนรู้ข้อมูลของธุรกิจย้อยหลังจากผู้รู้จึงเป็นอีกทางหนึ่งที่ง่ายและรวดเร็ว แต่การเรียนรู้ข้อมูลจากบุคคลเหล่านี้เราต้องเข้าใจอย่างหนึ่งว่าข้อมูลที่เราได้รับนั้นเป็นข้อมูลที่มีทัศนคติของคนเหล่านั้นแฝงอยู่ด้วยและในหลายๆ ครั้ง ทัศนคติเหล่านั้นเองที่มีผลต่อการลงทุนของเรามากกว่าข้อมูล จนส่งผลให้เรากลายไปเป็นนักลงทุนรุ่น 2
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 11
VI รุ่น 2
โพสต์ที่ 12
สวัสดีครับ บรรยากาสที่นาราธิวาสเป็นไงบ้างครับ
ที่โกลก ยังเงียบอยู่ไหม ไมได้ไปตั้ง 5 ปีแล้ว
ครั้งสุดท้ายไป ผมยังเห็นแกะมันคุ้ยถังขยะเหมือนหมาเลย
แต่ไม่เคยเห็นหมาสักตัวครับ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร
สำหรับบทความ นอกจากงานของป๋าพอใจแล้ว ไม่ได้อ่านบทความดีๆ ที่เขียนสมาชิกในเว็บนานแล้ว
ผมขอแซมสักหน่อยครับว่า เราจะรู้สึกอย่างไรถ้าคนนอกกล่อง Vi ที่มองลงมายังโลก Vi ของพวกเราแล้วเห็นในสิ่งที่เราไม่เคยเห็นเพราะเรามองกันแค่สามมิติเท่านั้น แต่ไม่เคยเห็นในมิติที่สี่เลย ในมิติที่สี่นั้น เขาจะพูดกันว่า พวก "VI 1 เป้นส่วนสำคัญในชีวิตของ V2 น้อยกว่าที่ V2 เป็นส่วนสำคัญในชีวิต V1 "
บางที เราไปในมิติที่สี่ เราจะเข้าใจอะไนเยอะขั้นครับ
บทความของท่านกุหลาบนี้จะอีกกี่ปีก็ไม่เคยล้าสมัย
ที่โกลก ยังเงียบอยู่ไหม ไมได้ไปตั้ง 5 ปีแล้ว
ครั้งสุดท้ายไป ผมยังเห็นแกะมันคุ้ยถังขยะเหมือนหมาเลย
แต่ไม่เคยเห็นหมาสักตัวครับ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร
สำหรับบทความ นอกจากงานของป๋าพอใจแล้ว ไม่ได้อ่านบทความดีๆ ที่เขียนสมาชิกในเว็บนานแล้ว
ผมขอแซมสักหน่อยครับว่า เราจะรู้สึกอย่างไรถ้าคนนอกกล่อง Vi ที่มองลงมายังโลก Vi ของพวกเราแล้วเห็นในสิ่งที่เราไม่เคยเห็นเพราะเรามองกันแค่สามมิติเท่านั้น แต่ไม่เคยเห็นในมิติที่สี่เลย ในมิติที่สี่นั้น เขาจะพูดกันว่า พวก "VI 1 เป้นส่วนสำคัญในชีวิตของ V2 น้อยกว่าที่ V2 เป็นส่วนสำคัญในชีวิต V1 "
บางที เราไปในมิติที่สี่ เราจะเข้าใจอะไนเยอะขั้นครับ
บทความของท่านกุหลาบนี้จะอีกกี่ปีก็ไม่เคยล้าสมัย
- Juninho
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1058
- ผู้ติดตาม: 20
VI รุ่น 2
โพสต์ที่ 13
สำหรับผมมีปัญหาในการตีความคำว่า เข้าใจจริง ๆ
คำว่า เข้าใจจริง ๆ มันแค่ไหนครับ
เช่น นาย ก. เป็นคนที่ลงทุนเก่งที่สุดในเว็บ(วีไอรุ่น 1)
จะเข้าใจในธุรกิจนั้นจริง ๆ เหมือนผู้บริหารหรือไม่
(สำหรับผมนาย ก. วีไอรุ่น 1 เข้าใจจริง ๆในธุรกิจ
แต่สำหรับผู้บริหาร นาย ก. อาจเข้าใจแค่กลาง ๆ)
นาย ข. รู้ว่าบริษัททำอะไร ต้นทุนเท่าไร ขายเท่าไร
มาร์จิ้นเท่าไร ทรัพย์สิน หนี้สิน มีอะไรบ้าง
การเติบโตเป็นอย่างไร จะถือได้ว่านาย ข.
เข้าใจจริง ๆ ได้หรือยัง
แต่อย่างไรก็ตามทัศนคติของนาย ก. มีผลต่อนาย ข.
นาย ข. เป็นวีไอรุ่น 1 หรือ รุ่น 2 ครับ
เริ่มงง :oops:
คำว่า เข้าใจจริง ๆ มันแค่ไหนครับ
เช่น นาย ก. เป็นคนที่ลงทุนเก่งที่สุดในเว็บ(วีไอรุ่น 1)
จะเข้าใจในธุรกิจนั้นจริง ๆ เหมือนผู้บริหารหรือไม่
(สำหรับผมนาย ก. วีไอรุ่น 1 เข้าใจจริง ๆในธุรกิจ
แต่สำหรับผู้บริหาร นาย ก. อาจเข้าใจแค่กลาง ๆ)
นาย ข. รู้ว่าบริษัททำอะไร ต้นทุนเท่าไร ขายเท่าไร
มาร์จิ้นเท่าไร ทรัพย์สิน หนี้สิน มีอะไรบ้าง
การเติบโตเป็นอย่างไร จะถือได้ว่านาย ข.
เข้าใจจริง ๆ ได้หรือยัง
แต่อย่างไรก็ตามทัศนคติของนาย ก. มีผลต่อนาย ข.
นาย ข. เป็นวีไอรุ่น 1 หรือ รุ่น 2 ครับ
เริ่มงง :oops:
You Can Get It If You Really Want
But you must try, try and try
But you must try, try and try
- Pn3um0n1a
- Verified User
- โพสต์: 1935
- ผู้ติดตาม: 1
VI รุ่น 2
โพสต์ที่ 14
ถ้าตามที่ผมคิด ข้อมูลแค่นี้ไม่เพียงพอfrog2 เขียน:
นาย ข. รู้ว่าบริษัททำอะไร ต้นทุนเท่าไร ขายเท่าไร
มาร์จิ้นเท่าไร ทรัพย์สิน หนี้สิน มีอะไรบ้าง
การเติบโตเป็นอย่างไร จะถือได้ว่านาย ข.
เข้าใจจริง ๆ ได้หรือยัง
แต่อย่างไรก็ตามทัศนคติของนาย ก. มีผลต่อนาย ข.
นาย ข. เป็นวีไอรุ่น 1 หรือ รุ่น 2 ครับ
ผมต้องถามต่อว่า นาย ข ซื้อหุ้นบริษัทนั้น
บริษัททำอะไร - ค่าใช้จ่ายมีอะไรบ้าง วัตถุดิบคืออะไรบ้าง มีอะไรมากระทบต่อต้นทุนส่วนนี้บ้าง ขั้นตอนการผลิตผลิตมายังไง ต้องใช้คนกี่คน ผลิตคนยากง่ายแค่ไหน ถ้าใช้เครื่องจักรใช้ได้กี่ปี ต้องมีการลงทุนใหม่บ้างหรือไม่
ราคาขายมีอะไรมากระทบบ้าง คู่แข่งคือใคร มีข้อได้เปรียบเสียเปรียบยังไง
ทัษนะคติของผู้บริหารเป็นอย่างไร การตลาดทำอะไรบ้าง
โอย มากมายไม่รู้จบ แล้วแต่ว่า บริษัทนั้น ทำอะไร คำถามก็คงต้องเปลี่ยนแปลงไป
ผมยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างพี่พอใจ รู้จัก snc ยังกะบริหารเอง ยกให้ได้ว่า เป็นรุ่น 1 (ไม่ต่ำกว่า 2 แน่ๆ) opp day ก็ไปประจำ วิสิทก็ไป โรงงานก็เห็นมาแล้ว รู้จักผู้บริหารมากพอ (น่าจะ อันนี้แล้วแต่คนนะครับ)
อย่างผมนี่ ก็คงเป็นระดับ 3 พยายามก้าวสู่ 2 พยายามเรียนรู้ให้มากที่สุด
ส่วนจะเป็น 1 ได้ คงอีกเป็นสิบปี ไม่รู้ชาตินี้จะได้เป็นรึเปล่า
อย่างนาย ข ที่บอกมานี่ เท่าที่ผมอ่าน เห็นรู้แต่ตัวเลข
ส่วนตัว ผมจัดให้เป็นแค่ รุ่น 3-4 เลย (ถ้ารู้แค่เท่าที่โจทย์ให้มานะครับ)
เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ใครแบ่งระดับยังไงด้วยมาตรฐานไหนไม่สำคัญหรอกครับ
ผมเห็นด้วยกับพี่ๆ เลย การแบ่งระดับ หรือ รุ่น ก็คงไม่มีประโยชน์เท่ากับการรู้จักตัวเองให้มากก่อน ไม่งั้นมีเจ็บหนัก....
- Juninho
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1058
- ผู้ติดตาม: 20
VI รุ่น 2
โพสต์ที่ 16
โห ยากจังนะครับ วีไอรุ่น 1
จริง ๆ ก่อนซื้อหุ้นทุกตัวผมจะอ่าน 56-1 จนจบ
อ่านกระทู้ในร้อยคนร้อยหุ้นทุกหน้า แต่รู้สึกว่ายังไงก็ไม่สามารถ รู้ได้เท่าพี่ ๆ รุ่น 1
แต่จะพยายามเลื่อนชั้นของตนโดยการศึกษามาก ๆ
ปัญหาคือศึกษาอย่างไรดี
อ่านแค่หนังสือคอนเซ็ปต์วีไอคงไม่พอ ใครพอมีแนวทาง
แนะนำไหมครับ
จริง ๆ ก่อนซื้อหุ้นทุกตัวผมจะอ่าน 56-1 จนจบ
อ่านกระทู้ในร้อยคนร้อยหุ้นทุกหน้า แต่รู้สึกว่ายังไงก็ไม่สามารถ รู้ได้เท่าพี่ ๆ รุ่น 1
แต่จะพยายามเลื่อนชั้นของตนโดยการศึกษามาก ๆ
ปัญหาคือศึกษาอย่างไรดี
อ่านแค่หนังสือคอนเซ็ปต์วีไอคงไม่พอ ใครพอมีแนวทาง
แนะนำไหมครับ
You Can Get It If You Really Want
But you must try, try and try
But you must try, try and try
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1603
- ผู้ติดตาม: 4
VI รุ่น 2
โพสต์ที่ 17
ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีสำหรับบทความแรกที่เขียนในเว็บนี้อิอิ
สำหรับผมแล้วการจะแบ่ง vi 1 กับ vi 2 ที่ชัดเจนคงเป็นเรื่องความเข้าจัยในตัวธุรกิจที่เราจะลงทุนเป็นสำคัญ เช่น การอ่านงบการเงินผมคิดว่าเป็นเรื่องพื้นฐานที่ vi ส่วนใหญ่ทำกันแต่เราทำได้ดีขนาดไหน หรือโครงสร้างธุรกิจเปลี่ยนเรารู้และเข้าใจมากแค่ไหนเช่น จีนที่ส่งออกถ่านหินเป็นอันดับ 1 ของโลกในปีที่ผ่านมาอยู่ๆออกมาประการจะไม่ส่งออกถ่านหินและจะนำเข้าด้วยส่งผลอย่างไรต่อหุ้นเรา ถือ BANPU UMS LANNA ต่างกันอย่างไรเมื่อมีข่าวนี้ คิดและวิเคราะห์ได้มาน้อยเพียงใด
น่าจากความเข้าจัยแล้วยังมีเรื่อง valuation ก็สำคัญรู้รูปแบการทำธุรกิจแล้วต้องรู้ราคาไม่นั้นก็ขายหมูอยู่ลำไป
สำหรับผมแล้วการจะแบ่ง vi 1 กับ vi 2 ที่ชัดเจนคงเป็นเรื่องความเข้าจัยในตัวธุรกิจที่เราจะลงทุนเป็นสำคัญ เช่น การอ่านงบการเงินผมคิดว่าเป็นเรื่องพื้นฐานที่ vi ส่วนใหญ่ทำกันแต่เราทำได้ดีขนาดไหน หรือโครงสร้างธุรกิจเปลี่ยนเรารู้และเข้าใจมากแค่ไหนเช่น จีนที่ส่งออกถ่านหินเป็นอันดับ 1 ของโลกในปีที่ผ่านมาอยู่ๆออกมาประการจะไม่ส่งออกถ่านหินและจะนำเข้าด้วยส่งผลอย่างไรต่อหุ้นเรา ถือ BANPU UMS LANNA ต่างกันอย่างไรเมื่อมีข่าวนี้ คิดและวิเคราะห์ได้มาน้อยเพียงใด
น่าจากความเข้าจัยแล้วยังมีเรื่อง valuation ก็สำคัญรู้รูปแบการทำธุรกิจแล้วต้องรู้ราคาไม่นั้นก็ขายหมูอยู่ลำไป
อย่ามัวติดกับเรื่องในอดีต กังวลกับเรื่องในอนาคต จนลืมว่าปัจจุบันต้องทำอะไร
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 182
VI รุ่น 2
โพสต์ที่ 19
เหมือนประโยคที่บอกว่า "แมวสีอะไรก็ไม่สำคัญ ถ้าจับหนูได้" เลยครับpor_jai เขียน:ส่วนตัวชอบมดเขียว V3 ครับ
สีมันไม่เหมือนมดแดง V1กับV2
แล้วท่าแปลงกาย ท่าต่อสู้ เท่ห์กว่ามากมาย
เป็นVไหนก็ได้ครับ ขอให้ชนะพวก ช็อกเก้อร์ได้ก็ละกัน
แต่ของพี่พอใจเท่ห์กว่ากันเยอะ
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 10
VI รุ่น 2
โพสต์ที่ 20
คนเท่ห์ก็มักโพสอะไรเท่ห์ๆแต่ของพี่พอใจเท่ห์กว่ากันเยอะ
เป็นทำมะดา
............................
คนอ่าน.........แหวะแอ่ะๆ
............................
อีตาพอใจ.....อ้าวๆพี่อย่าขว้างของมาบนเวทีสิครับ
หมั่นไส้ก็ต้องเก็บไว้ในใจ
ที่โน๊สเล่นเดี่ยวคุยคนเดียวตั้ง3ชั่วโมงยังไปฟังเขาโม้ได้
...............................................
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- ก้อนหิน
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2344
- ผู้ติดตาม: 0
VI รุ่น 2
โพสต์ที่ 21
นักลงทุนแนว แอร์โร่ไดนามิค ชมกันเองนี่นาpor_jai เขียน: คนเท่ห์ก็มักโพสอะไรเท่ห์ๆ
เป็นทำมะดา
............................
คนอ่าน.........แหวะแอ่ะๆ
............................
อีตาพอใจ.....อ้าวๆพี่อย่าขว้างของมาบนเวทีสิครับ
หมั่นไส้ก็ต้องเก็บไว้ในใจ
ที่โน๊สเล่นเดี่ยวคุยคนเดียวตั้ง3ชั่วโมงยังไปฟังเขาโม้ได้
...............................................
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 182
VI รุ่น 2
โพสต์ที่ 22
ไม่ได้ว่าอะไรนะพี่... แต่ว่าเวลา quote นี่น่าจะ quote ให้มันครบๆประโยคหน่อย...por_jai เขียน: คนเท่ห์ก็มักโพสอะไรเท่ห์ๆ
เป็นทำมะดา
............................
คนอ่าน.........แหวะแอ่ะๆ
............................
อีตาพอใจ.....อ้าวๆพี่อย่าขว้างของมาบนเวทีสิครับ
หมั่นไส้ก็ต้องเก็บไว้ในใจ
ที่โน๊สเล่นเดี่ยวคุยคนเดียวตั้ง3ชั่วโมงยังไปฟังเขาโม้ได้
...............................................
quote แค่นี้
เดี๋ยวใครมาอ่านจะคิดกันไปไกล ผมเสียหายแย่เลย :twisted:แต่ของพี่พอใจเท่ห์กว่ากันเยอะ
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 10
VI รุ่น 2
โพสต์ที่ 23
พี่มือล่องหน เขียน: 19. ในตลาดที่ผันผวนช่วง 1-2 ปีนี้ การถือเงินสดในพอร์ตไว้เสียหน่อย หรือหาหุ้นที่คล้ายๆ การถือเงินสดไว้บ้าง ก็น่าจะเป็นความคิดที่ดี การที่หุ้นผันผวนนั้นเรื่องภาวะจิตใจในการลงทุนนั้นมีความสำคัญมากขึ้น ตามบางส่วนของโคลง 4 สุภาพที่ว่าไว้ว่า
ฝูงชนกำเนิด คล้าย คลึงกัน
ใหญ่ย่อมเพศผิวพรรณ แผกบ้าง
ความรู้อาจเรียนทัน กันหมด
ยกแต่ชั่วดีกระด้าง อ่อนแก้ ฤาไหว
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 2
VI รุ่น 2
โพสต์ที่ 24
มีพี่ที่แสนดีแนะนำมา
จึงขออนุญาติ ขุดมาให้อ่านกันอีกครั้งนะครับ :D
จึงขออนุญาติ ขุดมาให้อ่านกันอีกครั้งนะครับ :D
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
- baby-investor
- Verified User
- โพสต์: 312
- ผู้ติดตาม: 0
VI รุ่น 2
โพสต์ที่ 27
ไม่ว่ากี่ปี ผมว่าบทความนี้ก็ทันสมัยไม่เสื่อมคลายเลยครับ
- Jnos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 97
- ผู้ติดตาม: 0
VI รุ่น 2
โพสต์ที่ 28
อ่านแล้วเหมือนโดนตีแสกหน้าเลย นับถือครับ เขียนได้ดีมาก ทำให้ได้กลับมาทบทวนตัวเองว่าจริงๆแล้วยังห่างไกลกับคำว่า Value Investor ที่แท้จริง หลายหมื่นลี้
"ผู้ที่ยืนเขย่งเท้า จะยืนได้ไม่มั่นคง
ผู้ที่ก้าวเท้ายาวเกินไป จะเดินได้ไม่ไกล"
ผู้ที่ก้าวเท้ายาวเกินไป จะเดินได้ไม่ไกล"
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 22
VI รุ่น 2
โพสต์ที่ 30
เอ....ผมไปอยู่ไหนมา พึ่งได้อ่าน
ขอบคุณหมอ ฝนครับ
ขอแสดงความนับถือ พี่กุหลาบงามครับ
บทความอมตะ น่าชมเชยครับ
ขอบคุณหมอ ฝนครับ
ขอแสดงความนับถือ พี่กุหลาบงามครับ
บทความอมตะ น่าชมเชยครับ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"