หุ้นโรงไฟฟ้า (RATCH, EGCOMP, GLOW)

[MarginofSafety]

หุ้นโรงไฟฟ้าจัดว่าอยู่ในกลุ่ม Defensive Stock
เนื่องจากผลประกอบการแทบจะไม่ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจ
และความผันผวนทางการเมือง
ถ้าจับไปยืนเป็นแบ๊คก็คงไม่เสียประตูง่ายๆ

ถ้าให้เลือกมาหนึ่งตัวจากสามตัวดังกล่าว
ท่านคิดว่าจะเลือกตัวไหน เพราะอะไร
เชิญแสดงความคิดเห็น วิเคราะห์ เจาะลึก ได้เต็มที่ครับ

[MarginofSafety]

ขอโทษทีครับ
ตั้งใจจะ Post ในห้องหุ้น รบกวนช่วยย้ายให้ด้วยครับผม

[plamuek76]

ธุรกิจโรงไฟฟ้า:อนาคตความต้องการใช้เพิ่ม
Source - ทันหุ้น
Monday, 08 January 2007 10:23
ที่มา : ทันหุ้น
         โดย บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์ เฮียน(ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน)
         จากการคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังคงขยายตัวในระดับ4.5-5% ในปี2550 จะส่งผลให้ปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในอัตราเฉลี่ยประมาณ 1.1 เท่าของการเติบโตผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ปัจจุบันปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าเฉลี่ยที่ประมาณ 20,000 เมกะวัตต์ต่อวัน ซึ่งคาดว่าปี2550 จะเพิ่มขึ้นเป็น 21,021 เมกะวัตต์ต่อวันอ้างอิงการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมปี2550 ที่5.0%
         จากการเติบโตของปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องทุกปี ขณะที่ปริมาณการผลิตปัจจุบันเริ่มเข้าสู่ ภาวะสมดุล(ธุรกิจโรงไฟฟ้าจะต้องมีการสำรองไฟฟ้าประมาณ 15% ของความต้องการใช้ทั้งหมดกรณีฉุกเฉิน) ทำให้คาดว่าการประมูลโรงไฟฟ้ารอบใหม่ที่มีการพูดถึงตั้งแต่ปี 2546 จะเข้าใกล้ความจริงในปี 2550 เนื่องจากแผนเดิมปริมาณความต้องการใช้จะตึงตัวตั้งแต่ปี 2554
         ซึ่งการก่อสร้างจะใช้เวลาประมาณ 3 ปีก่อนการดำเนินการ(เสนอชื่อเข้าประมูล ประกาศรายชื่อ ผู้รับเหมา รับมอบงาน เริ่มทดลองผลิต ผลิตเชิงพาณิชย์) ปริมาณกำลังผลิตใหม่คาดการณ์ล่าสุดที่ 10,000 เมกะวัตต์ และชนิดของเชื้อเพลิงที่จะใช้ในการผลิตชัดเจนมากขึ้นคือ ก๊าซธรรมชาติ 40% ถ่านหิน 40% และพลังน้ำ 20%(จากต่างประเทศ)
         จากการคาดการณ์การลดลงของราคาน้ำมันดิบในปี2550 จึงคาดว่าจะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ(ปรับเพิ่มขึ้น29.01 สตางค์ต่อหน่วยในช่วงปี 2549) ซึ่งเป็นผลจากการที่ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว 33%(เทียบครึ่งแรกของปี 2549ต่อปี 2548) อีกทั้งปริมาณเชื้อเพลิง(ก๊าซธรรมชาติ) จากท่อเส้นที่ 3 คาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ไตรมาส1/2550 จึงคาดว่าไฟฟ้าอัตโนมัติในปี2550 จะไม่ปรับขึ้นจากปัจจุบันที่ 75.84 สตางค์ต่อหน่วย
         คำแนะนำการลงทุน:
         กลุ่มธุรกิจโรงไฟฟ้าซึ่งสร้างรายได้จาการขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยมีสัญญาซื้อระยะยาว และมีโครงสร้างด้านรายได้ที่ชัดเจน โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจ เช่น เงินเฟ้อ และอัตราแลกเปลี่ยนจะถูกคำนวณเข้าสู่การคิดค่าไฟฟ้าและผลักดันให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ จึงเป็นเครื่องชี้วัดได้ว่าถ้าเศรษฐกิจผันผวนจะไม่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้า การประมูลIPP รอบใหม่คาดว่าจะชัดเจนมากขึ้นในปี2550 และจะได้ข้อสรุปในปี 2551 ซึ่งจะส่งผลกระทบเชิงบวกต่อกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากมีความพร้อมด้านการเงิน และประสบการณ์ทำงาน คำแนะนำซื้อลงทุน เมื่อราคาอ่อนตัวEGCOMP,RATCH,GLOWและ BANPU
         ราคาหุ้น EGCOMP(5 ม.ค.50) ราคาเปิดที่ระดับ 94.00บาท และปิดที่ระดับ 92.50 บาท เปลี่ยนแปลง-1.50 บาท หรือ -1.60% มูลค่าการซื้อขาย 79.28 ล้านบาท
         ราคาหุ้น RATCH ราคาเปิดที่ระดับ 42.00 บาท และปิดที่ระดับ 41.00 บาท เปลี่ยนแปลง -0.75 บาทหรือ -1.80 % มูลค่าการซื้อขาย 175.58 ล้านบาท
         ราคาหุ้นGLOW ราคาเปิดที่ระดับ 33.25 บาท และปิดที่ระดับ 32.00บาท เปลี่ยนแปลง -0.50 บาทหรือ -1.54 % มูลค่าการซื้อขาย 78.15 ล้านบาท
         ราคาหุ้น BANPU เปิดที่ระดับ 171.00 บาท และปิดที่ 167.00 บาท เปลี่ยนแปลง -7.00 บาทหรือ -4.02 % มูลค่าการซื้อขาย 397.25 ล้านบาท