![Smile :)](./images/smilies/icon_smile.gif)
รบกวนขอรายชื่อหุ้นที่มีลักษณะเป็น Monopoly ด้วยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 511
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนขอรายชื่อหุ้นที่มีลักษณะเป็น Monopoly ด้วยครับ
โพสต์ที่ 1
ขอบคุณครับ ![Smile :)](./images/smilies/icon_smile.gif)
![Smile :)](./images/smilies/icon_smile.gif)
VI ฝึกหัด
-
- Verified User
- โพสต์: 14
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนขอรายชื่อหุ้นที่มีลักษณะเป็น Monopoly ด้วยครับ
โพสต์ที่ 4
EGAT khab :lol:
- harry
- Verified User
- โพสต์: 4200
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนขอรายชื่อหุ้นที่มีลักษณะเป็น Monopoly ด้วยครับ
โพสต์ที่ 8
หุ้น โมโนโปลี่ ผมก็ชอบอยู่หลายตัว และก็มีโพสต์อยู่ในนี้ด้วย
แต่ผมไม่ชอบที่รัฐชอบมาแทรกแซง การกำหนดราคา ซึ่งมีผลต่อการทำกำไร แม้ว่ารัฐจะชดเชยให้ และปริมาณการใช้หรือการขายเพิ่มขึ้นอย่างมากก็ตาม
แต่ผมไม่ชอบที่รัฐชอบมาแทรกแซง การกำหนดราคา ซึ่งมีผลต่อการทำกำไร แม้ว่ารัฐจะชดเชยให้ และปริมาณการใช้หรือการขายเพิ่มขึ้นอย่างมากก็ตาม
Expecto Patronum!!!!!!
-
- Verified User
- โพสต์: 232
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนขอรายชื่อหุ้นที่มีลักษณะเป็น Monopoly ด้วยครับ
โพสต์ที่ 11
ถ้าจะหา monopoly ของตลาดโลกในตลาดหุ้นไทย สงสัยยังหาไม่เจอครับaot แต่ต้องแข่งกับชาติอื่นๆ เพราะอยากจะเป็นศูนย์กลางการบิน
becl แต่ต้องเจอเรื่องระบบขนส่งมวลชนที่เป็น mega project
egat แต่ต้องเจอเรื่องสายส่งว่าจะเป็นของใคร
ใครเจอแล้วช่วยบอกบ้างก็ดีครับ
![Mr. Green :mrgreen:](./images/smilies/icon_mrgreen.gif)
"Much success can be attributed to inactivity. Most investors cannot resist the temptation to constantly buy and sell."
-
- Verified User
- โพสต์: 511
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนขอรายชื่อหุ้นที่มีลักษณะเป็น Monopoly ด้วยครับ
โพสต์ที่ 12
รบกวนขอความรู้ด้วยครับว่ามันต่างกันอย่างไรคุยหมายถึง monopoly หรือ monopoly power มันต่างกันมากนะครับ
VI ฝึกหัด
-
- Verified User
- โพสต์: 1474
- ผู้ติดตาม: 2
รบกวนขอรายชื่อหุ้นที่มีลักษณะเป็น Monopoly ด้วยครับ
โพสต์ที่ 14
คำว่า monopoly จะเป็นคุณลักษณะของธุรกิจนั้นๆที่มีการผูกขาดโดยผู้บริการรายเดียวและไม่มีตัวเล่นทดแทน เช่น การไฟฟ้า การประปา กองสลาก เป็นต้น แต่ในคำว่า monopoly power คือศักยภาพในการผลิตหรือบริการอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่ไม่สามารถหาผู้เลียนแบบได้หรือหาคู่เปรียบมิได้ เช่น microsoft intel เป็นต้น ซึ่งในกรณีอย่างหลังอาจหาใกล้เคียงได้ง่ายกว่าอย่างแรก ซึ่งในนัยของ monopoly power อาจเรียกอีกอย่างว่า Distintive Compitency หรือศักยภาพที่แตกต่าง(และเหนือกว่า)คู่แข่ง ซึ่งศักยภาพที่ลอกเลียนแบบไม่ได้นี้อาจจะอยู่ในหลายรูปแบบเช่น ภูมิศาสตร์ ความภักดีในตราสินค้า ความเชื่อ หรือความสามารถในการผลิตที่หาคู่แข่งได้ลำบาก เช่น ห้างcentral หรือ มาบุญครอง ที่มี location ที่หาคู่แข่งเปรียบไม่ได้ กาแฟสตาร์บั๊กที่คนยอมจ่ายแก้วละร้อยในขณะที่ตราไทยแก้วละยี่สิบ คุณเชื่อว่าบัตรพลาสติกที่คุณถืออยู่ใช้ชำระเงินได้ หรือ ผู้ผลิตหลอดไฟรถยนต์อย่างแสตนด์เลย์ที่หาคู่แข่งผลิตเทียบยาก สิ่งเหล่านี้ล้วนถือได้ว่าเป็น Distintive Compitency หรือ Monopoly Power ทั้งสิ้นครับ ![Wink :wink:](./images/smilies/icon_wink.gif)
![Wink :wink:](./images/smilies/icon_wink.gif)
-
- Verified User
- โพสต์: 1474
- ผู้ติดตาม: 2
รบกวนขอรายชื่อหุ้นที่มีลักษณะเป็น Monopoly ด้วยครับ
โพสต์ที่ 20
เห็นด้วยอย่างที่พี่CKเตือนครับ เพราะหุ้นที่มี monopoly power โดยมากมักจะมี Premium Markup ค่อนข้างสูง คือทุกๆคนรู้และทำให้ราคาหุ้นของบริษัทนั้นๆพลอยมี Premium Price ดังนั้นBuffett เลยยอมรอมันถล่มซัมเมอร์เซลล์ถึงจะซื้อ อย่าง CPN MBK หรื STANLEY พวกนี้ดูตอนช่วง 2-3 ปีก่อนสิครับตอนที่ห้องค้าตบยุง ซื้อขายกันไม่กี่พันล้าน กับราคาตอนนี้ พูดได้คำเดียวครับ โอ้พระเจ้าจ้อด ![ขำกลิ้ง :rofl:](./images/smilies/icon_rofl.gif)
![ขำกลิ้ง :rofl:](./images/smilies/icon_rofl.gif)
-
- Verified User
- โพสต์: 1474
- ผู้ติดตาม: 2
รบกวนขอรายชื่อหุ้นที่มีลักษณะเป็น Monopoly ด้วยครับ
โพสต์ที่ 21
อ้ะ ลืมบอกไปอีกอย่าง ในหลักการของ monopoly power จะเห็นได้ง่ายในตลาด monopolistic ซึ่งการวัดระดับของ monopoly power จะสามารถดูได้จาก margin ระหว่าง ราคาขาย กับต้นทุนเฉลี่ย ที่ตำแหน่งการผลิตที่ ต้นทุนการผลิตหน่วยสุดท้าย = ต้นทุนผลิตเฉลี่ย หรือจุดminimum cost นั่นเอง โดยถ้าmarginระหว่าง price กับ จุดminimum cost ยิ่งกว่าแสดงให้เห็นถึง ค่าความนิยมยิ่งสูง และยิ่งปริมาณการผลิตยิ่งใกล้จุด minimum cost ก็แสดงถึงการมีอำนาจควบคุมตลาดมากหรือมีmonopoly powerมากนั่นเอง เอ....... เราพูดหนักวิชาการไปรึเปล่าเนี่ย ![Confused :?](./images/smilies/icon_confused.gif)
![Confused :?](./images/smilies/icon_confused.gif)
-
- Verified User
- โพสต์: 511
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนขอรายชื่อหุ้นที่มีลักษณะเป็น Monopoly ด้วยครับ
โพสต์ที่ 22
ได้ความรู้มากๆเลยครับ ขอบคุณครับ ![Smile :)](./images/smilies/icon_smile.gif)
![Smile :)](./images/smilies/icon_smile.gif)
VI ฝึกหัด
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 222
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนขอรายชื่อหุ้นที่มีลักษณะเป็น Monopoly ด้วยครับ
โพสต์ที่ 23
รบกวนคุณ genie ช่วยขยายความตรงนี้อีกนิดได้มั้ยครับ? แล้วข้อมูลพวกต้นทุนผลิตหน่วยสุดท้าย กับ ต้นทุนเฉลี่ยนี่จะดูได้จากใน งบการเงินหรือเปล่าครับ?อ้ะ ลืมบอกไปอีกอย่าง ในหลักการของ monopoly power จะเห็นได้ง่ายในตลาด monopolistic ซึ่งการวัดระดับของ monopoly power จะสามารถดูได้จาก margin ระหว่าง ราคาขาย กับต้นทุนเฉลี่ย ที่ตำแหน่งการผลิตที่ ต้นทุนการผลิตหน่วยสุดท้าย = ต้นทุนผลิตเฉลี่ย หรือจุดminimum cost นั่นเอง โดยถ้าmarginระหว่าง price กับ จุดminimum cost ยิ่งกว่าแสดงให้เห็นถึง ค่าความนิยมยิ่งสูง และยิ่งปริมาณการผลิตยิ่งใกล้จุด minimum cost ก็แสดงถึงการมีอำนาจควบคุมตลาดมากหรือมีmonopoly powerมากนั่นเอง
![Confused :?](./images/smilies/icon_confused.gif)
พอดีว่ากำลังสนใจเรื่องนี้อยู่ แต่ไม่มีความรู้มากพอครับ
![Sad :(](./images/smilies/icon_sad.gif)
ขอบคุณครับ
expect unexpected
-
- Verified User
- โพสต์: 1474
- ผู้ติดตาม: 2
รบกวนขอรายชื่อหุ้นที่มีลักษณะเป็น Monopoly ด้วยครับ
โพสต์ที่ 24
![รูปภาพ](http://cepa.newschool.edu/het/essays/product/image/cost6.gif)
จากกราฟเราจะเห็นเส้นสองเส้น เส้นนึงคือ MC คือ เส้นmarginal cost ซึ่งเป็นการแสดงถึงส่วนเพิ่มขึ้นของต้นทุนอันเกิดจากการเพิ่มปริมาณการผลิตขึ้นอีก 1 หน่วย ง่ายๆก็คือจะผลิตสินค้าอีก 1 ชิ้น(อาจจะเป็น 1 ล็อต เป็น 1 กระสอบ หรืออะไรก็แล้วแต่ คือเป็น 1 หน่วยผลิตละกัน) ต้นทุนจะเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ ซึ่งจะเห็นได้ว่าMCจะลดลงเรื่อยๆในช่วงแรกแล้วก็จะเพิ่มขึ้น (คิดง่ายๆก็มีคนเพิ่มขึ้นงานก็ผลิตได้มากขึ้น แต่พอมากไปก็เป็นมากคนก็ยิ่งมากความอะไรประมาณนั้น...) ในขณะที่ AC คือเส้น Average Cost หรือต้นทุนถัวเฉลี่ยต่อหุ้น เอ้ยต่อหน่วยนั่นเอง ง่ายๆก็เอาต้นทุนทังหมดหารจำนวนผลิตก็ตัวนั้นแหละ แล้วเจ้าจุดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการผลิตก็คือจุดที่ MC = AC ซึ่งจะเป็นจุดที่ AC ต่ำที่สุดด้วย (ด้วยทฤษฏี ณ จุดนี้ผมเลยบอกอยู่เรื่อยว่า Economic of Scale ไม่ใช่ผลิตยิ่งมากยิ่งดี แต่ต้องเป็นการผลิตที่ MC จะต้องน้อยกว่าหรือเท่ากับ AC เท่านั้นถึงจะเป็น Economic of Scale และที่จุด MC = AC คือจุดสุดเสียว เฮ้ยจุดสุดยอดนั่นเอง)
วกกลับมาที่ว่า จะรู้ได้ไงว่าหุ้นตัวไหนจะผลิตได้มีประสิทธิภาพสูงสุด คำตอบคือ "ต้องปล้น" ครับ อันนี้พูดไม่ผิดครับคุณต้องไปปล้นข้อมูลภายในบริษัทถึงจะรู้ว่า MC = AC รึเปล่า แต่อย่างไรก็ดีเราอาจสามารถใช้วิธีเทียบเคียงได้โดย ใช้สูตร Cost Mark Up ซึ่งก็คือ {ยอดขาย(เอาเฉพาะยอดขายหลักนะครับ) - ต้นทุนผลิต} / ต้นทุนการผลิต เราก็จะรู้ว่าบริษัทนี้มีกำไรขั้นต้นกี่เปอร์เซ็น หลังจากนั้นก็ไปเทียบเคียงกับค่าของอุตสาหกรรมหรือคู่แข่วหลายๆที่ดู ตัวที่ยิ่งมี Margin สูงตัวนั้นยิ่งมีเปรียบมาก หากหุ้นตัวไหนมี Margin สูง แต่กำไรต่ำ สันนิฐานก่อนได้เลยบริหารงานห่วย อันนี้เวลาเข้าประชุมผู้ถือหุ้นเอาไปฉะกรรมการได้เลยว่าบริหารยังไงกำไรต่ำทั้งๆที่ผลิตภัณฑ์มี margin สูง แต่ตอนกลับบ้านก็ระวังหัวหน่อยละกันนะครับ โดนอะไรเขวี้ยงมาผมไม่รับประกันนาครับ
![Mr. Green :mrgreen:](./images/smilies/icon_mrgreen.gif)
-
- Verified User
- โพสต์: 1474
- ผู้ติดตาม: 2
รบกวนขอรายชื่อหุ้นที่มีลักษณะเป็น Monopoly ด้วยครับ
โพสต์ที่ 25
อ๊ะๆ เดี๋ยวจะหลุดไป ต้นทุนในที่นี้คือต้นทุนทั้งหมดที่เกิดงานนะครับ เพราะในกรณีธุรกิจประเภทบริการ ต้นทุนสำคัญคือต้นทุนดำเนินการ ดังนั้นเราต้องแยกด้วยว่าต้นทุนไหนสร้างงาน ต้นทุนไหนสนับสนุนงาน ยกตัวอย่างเช่น ค่าจ้างแพทย์สำหรับโรง'บาล ถือเป็นต้นทุนผลิตงานนะครับ แต่ค่าจ้างภารโรงนี่สนับสนุนงานครับ ถ้าหมายเหตุงบแยกไว้อันนี้ก็จะสบายแฮครับ ![Mr. Green :mrgreen:](./images/smilies/icon_mrgreen.gif)
![Mr. Green :mrgreen:](./images/smilies/icon_mrgreen.gif)
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 18408
- ผู้ติดตาม: 81
รบกวนขอรายชื่อหุ้นที่มีลักษณะเป็น Monopoly ด้วยครับ
โพสต์ที่ 26
เอ๋ในงบ(รายงานประจำปี หรือไตรมาส)มันไม่ได้บอกนิว่างบตัวไหนมัน ทำให้เกิดงานต้นทุนในที่นี้คือต้นทุนทั้งหมดที่เกิดงานนะครับ
หรืองบตัวไหนทำให้เกิดการสนับสนุนของงาน
เราจะรู้ได้ไหม ???
![Smile :)](./images/smilies/icon_smile.gif)
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 222
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนขอรายชื่อหุ้นที่มีลักษณะเป็น Monopoly ด้วยครับ
โพสต์ที่ 27
ขอบคุณมากครับ แบบนี้ต้อง save ^^ ... พอดีว่ากะลังมองๆการทำธุรกิจบางอย่างอยู่ครับ
expect unexpected