ถามผมว่า"ไม่ทราบว่า คุณมนตรี ปีที่แล้วถึงชื้อ aprint คร การหาข้อมูลของผมขั้นแรกก็เอา56-1มาอ่านก่อน ทำความเข้าใจว่าบริษัททำธุรกิจสิ่งพิมพ์ มีรายละเอียดอะไรบ้าง รับพิมพ์งานหรือทำหนังสือเอง ปรากฎว่าทำหนังสือแพรว บ้านและสวน ซึ่งผมอ่านบ้านและสวนและชอบมาก หลังๆออกนิตยสารมาอีกหลายฉบับ สินค้าคือเรื่องความรู้ในการแต่งบ้าน เรื่องความงาม เรื่องอาหารเพื่อสูขภาพ มีสารส่งเองและรับจัดจำหน่ายเอง โครงสร้างรายได้มาจากค่าโฆษณา การจัดจำหน่ายที่ค่อนข้างสูง และหนังสือเล่มที่จะเป็นของนักเขียนดังๆ และที่สำคัญ ได้รับพระราชทานให้พิมพ์หนังสือของพระเจ้าอยู่หัวมาโดยตลอด ส่วนการประเมินมูลค่านั้นผมใช้วิธีเดียวกันกับของคุณสุรชัยครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา ศุกร์ เม.ย. 25, 2003 10:27 pm

อยากทราบและขอข้อมูลครับ 1)เรื่อง5forcesคุณหาอ่านได้จากหนังสือ กลยุทย์การแข่งขัน ของดร.สมคิดและคณะ เล่มPocket Bookปกสีแดง ราคาไม่น่าจะเกินสองร้อยบาท เขียนเอาไว้ละเอียดมากครับ 2) ผมว่าคุณเข้าใจผิดกระมั่งครับ ผมไม่เคยมีFileที่ว่านั้นเลย โดย มนตรี นิพิฐวิทยา ศุกร์ เม.ย. 25, 2003 10:18 pm

บริษัท ใน ตลท. ใดบ้างที่มีลักษณะเป็น Consumer Monopoly จริงๆผมก็อยากตอบครับแต่มันช่างกว้างมากจริงๆ เอาความหมายตามความเข้าใจผมก่อนนะครับ Consumer Monopoly ในความหมายก็น่าจะเป็นสินค้าที่ใช้แล้วทิ้ง แต่มีเพียงผู้ผลิตไม่กี่รายที่สามารถขายได้ สามารถขึ้นราคาได้โดยที่ผู้ซื้อไม่มีปัญหา มีความแตกต่างของสินค้าอย่างเด่นชัด เช่นเครื่องหมายการค้าที่เป็นที่ยอมรับ คุณภาพที่ดีมาโดยตลอด ผมคิดว่าบริษัทใดที่เข้าข่ายนี้ถือเป็น Consumer Monopoly หมด ที่นี้ก็หน้าที่เราจะไปค้นหาดูแล้วละครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา ศุกร์ เม.ย. 25, 2003 11:27 am

VI มือใหม่เหมือนกันครับ ฝากเนี้อฝากตัวด้วยครับ ยินดีมากที่สุดครับที่มีสมาชิกใหม่เข้าร่วมอุดมการณ์เดียวกัน ช่วงนี้ค่อนข้างยุ่งกับงานครับเลยไม่ค่อยมีเวลามาพบกับเพื่อนๆพี่ๆครับ มีอะไรก็บอกนะครับผมพร้อมจะแชร์ครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา ศุกร์ เม.ย. 25, 2003 10:55 am

การวิเคราะห์ทางเทคนิคใช้ได้จริงหรอ ในขณะที่.... ผมเองก็อาการเดียวกับคุณปรัชญาครับ ปวดตามากเลย โดย มนตรี นิพิฐวิทยา จันทร์ เม.ย. 21, 2003 11:12 pm

PEG ค่าPEเป็นตัวบอกให้ทราบว่าบริษัทนี้น่าจะเติบโตในอัตราเท่าใด เช่นPE = 10 หมายถึงว่าคุณยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อหุ้นบริษัทนี้ในอัตราสิบเท่าเมื่อเทียบกับผลกำไร ดังนั้นจึงหวังว่ามันน่าจะมีราคาสูงขึ้นตามผลกำไรในวันหน้า เช่นปีนี้ earning = 5 บาท PE = 10 ราคา = 50 บาท หากปีหน้าPEเท่าเดิม แต่earning = 6 บาท ราคาควรเป็น 60บาท ดังนั้นเพื่อหาตัววัดว่าราคาหุ้นนั้นจะเหมาะสมจริงตามที่คาดไว้หรือไม่จึงให้หาGrowthมาหารเพื่อให้ดูว่าตลาดตอบสนองต่อหุ้นนี้เป็นอย่างไร เช่น PEG = 1 ราคาพอดีกับการเติบโต PEG < 1หมายถึงหุ้นบริษัทนี้มีแนวโน้มว่าราคาควรจะขึ้นสูงกว่านี้ได้ หากPEG>1 แสดงว่าOverpriceครับ ส่วนตัวผมมักเลือกหุ้นที่PEGต่ำกว่า 0.5ครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา จันทร์ เม.ย. 21, 2003 11:07 pm

VIท่านใดมีAPRINT กำไรโตน่าดูเลยครับ, S&Pไปไม่ไกล ผมมีตอน35บาท ถ้าคิดDividend Yield ผมได้ 14.28%ครับ capital gain = 165.71% รวมกับปันผลปีก่อนก็เกียบ200%นะครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา จันทร์ เม.ย. 21, 2003 10:58 pm

จะดูข้อมูลบริษัทตามแบบของเบน เกรแฮมได้ที่ไหนบ้างครับ ไปที่ห้องสมุดตลาดหลักทรัพย์ชั้นสองครับ ไปใช้ฐานข้อมูลระบบSIMSที่นั้นมีถึง10ปีครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา พุธ เม.ย. 02, 2003 9:57 pm

durable competitive advantage คุณ ระพินท์ ว่าไว้ได้ประเด็นสำคัญอย่าครบถ้วนผมว่าน่าจะลองหากันดูนะครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา พุธ เม.ย. 02, 2003 9:54 pm

ใครถือ tru บ้าง คลอดออกมาแล้วครับ ได้ข่าวว่างามมากทีเดียวคือผมตามอยู่นะครับกะว่าจะซื้อสักคัน ไม่ต้องห่วงครับเรื่องการเป็นสำนักออกแบบรถทางไทยรุ่งดำเนินการอยู่และมีศักยภาพมากพอที่จะเป็นด้วยครับ ผมได้เห็นเอารถNISSAN มาแต่งสวยมากครับ ตอนแรกนึกว่ารถอะไรพอดูใกล้เป็นNISSANครับ ออกแบบเองแต่งเองไปได้อีกไกลครับ ผมมีอยู่มากด้วยครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา พุธ มี.ค. 26, 2003 11:30 pm

สงสัยเกี่ยวกับการคำนวนมูลค่าหุ้นในบทความครับ ผมไม่ได้เป็นคนเขียนนะครับ แต่พอตอบได้ จริงแล้วให้ใช้หุ้นที่ชำระแล้วก็พอนะครับ ที่ยังไม่ชำระนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเลยไม่ควรนำมาคิด ส่วนพวกโบรกเขามักจะเผื่อเอาไว้ว่าหากมีการชำระเพิ่มมูลค่าจะเหลือเท่าไร จริงๆแล้วไม่น่ากังวลมากครับเราตรวจสอบได้ตลอดเวลา โดย มนตรี นิพิฐวิทยา พุธ มี.ค. 26, 2003 11:18 am

INVESTMENT GURU พี่หมอสรุปประเด็นได้ดีจริงๆครับ ได้ครบเครื่องจริงๆ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา พุธ มี.ค. 26, 2003 11:16 am

กระทู้เก่า 2003 : CM ประกาศปันผล 3 บาทต่อหุ้น ลงทุนหุ้นปันผลนี่ ผมเห็นมีลงกรุงเทพธุรกิจครับ หลักการน่าศึกษาเหมือนกันนะครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา พุธ มี.ค. 26, 2003 11:12 am

คุณว่าหุ้น TPIPL มีโอกาสโตอีกไหม ผมว่าลองหาตัวอื่นแถอะครับ SSC ก็น่าสนใจนะครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา จันทร์ มี.ค. 24, 2003 10:31 pm

กระทู้เก่า 2003 : CM ประกาศปันผล 3 บาทต่อหุ้น พี่ครรชิตนี่รับปันผลอย่างเดียวคงรวยมากเลยนะครับ ที่ปันผลมีเกียบทุกตัวเลย โดย มนตรี นิพิฐวิทยา จันทร์ มี.ค. 24, 2003 10:28 pm

GYT จะจ่ายปันผลเพิ่ม อีก 10 บาท หลังจากจ่ายไปแล้ว 30 บาท นอกจากซื้อยากแล้วราคายังห่างกันอีก อยากได้แต่บุญไม่ถึงครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา จันทร์ มี.ค. 24, 2003 10:27 pm

กรณีที่ P/E = 0 เกิดจากอะไรได้บ้าง เอแต่BAFเข้ามานานแล้วนะครับพี่ ทำไมยังไม่มีข้อมูล? โดย มนตรี นิพิฐวิทยา จันทร์ มี.ค. 24, 2003 10:25 pm

P-FCB ปันผล 6 บาทต่อหุ้น ผมไม่ยอมหรอกครับแต่ผมไม่มีหุ้นเหล่านี้เลยครับ คุยเรื่อง APRINT กับTRU บ้างซิครับ ผมมีอยู่แยอะ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา จันทร์ มี.ค. 24, 2003 10:23 pm

ใครถือ AMATA บ้างเอย ผมรู้สึกคล้ายๆกันกับคุณBPTครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา อาทิตย์ มี.ค. 23, 2003 10:32 pm

ความเห็นเกี่ยวกับเว็บนี้ ที่ว่าไม่ค่อยมีคนโพสต์ คุณปรัชญาถามผมหรือคุณ mon moneyครับ? ถ้าถามผมละก็ ผมเป็นคนกรุงเทพฯครับ พ่อเป็นลูกจีนในไทย ส่วนแม่เป็นไทยแท้ครับ แต่ชอบไปโคราชครับ ไปด่านเกวียนซื้อของประดับบ้าน ไปเขาใหญ่นอนเล่นสองวันกลับ เมื่อก่อนใช้รถ4Wเลยชอบครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา อาทิตย์ มี.ค. 23, 2003 10:28 pm

One Up on Wall Street VS The New Buffettology ผมอ่านแล้วทั้งสองเล่ม หาซื้อได้ที่Asia book อย่างที่K.genie บอกนั้นละครับ ส่วนตัวผมชอบ one up มากกว่าครับ สำหรับเรื่องของBuffetผมแนะนำ The Warren Buffett Way ครับอ่านดีกว่ามาก มีเล่มอื่นๆให้ตามอีกมากครับ อ่านได้ความรู้สาระ เป็นแนวทางลงทุนที่ดีครับ ถ้าภาษาไทยผมแนะนำ "วาทะคนแถวหน้า วอเร็น บัฟเฟต" ของเกรียงศักดิ์ เจริญวงค์ศักดิ์ ที่พี่ครรชิตแกนำมาเผยแพร่บ่อยๆนั่นแหละครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา อาทิตย์ มี.ค. 23, 2003 10:20 pm

ยินดีต้อนรับน้องYOYOครับ มีอะไรแบ่งเพื่อนๆอ่านบ้างก็ดีนะครับ :D โดย มนตรี นิพิฐวิทยา ศุกร์ มี.ค. 21, 2003 10:56 pm

เข้ามาครั้งแรกครับ อยากทราบตัว DOI ครับ ขอพี่ vi แนะนำ ผมเห็นคล้ายๆกับคุณmon money ครับ ศึกษาให้ดีก่อนปลอดภัยกว่าครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา ศุกร์ มี.ค. 21, 2003 10:53 pm

Mr. Market ผมเองก็โดนแกมาวุ่นวายเหมือนกันครับ แต่หลังๆหนีแกได้ทันทุกทีครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา ศุกร์ มี.ค. 21, 2003 10:52 pm

เกร็ดเล็กๆน้อยๆจาก ตีแตก ของอ.นิเวศน์ ผมเองก็ไม่เคยคิดที่จะลงทุนกับกองทุนรวมครับ ดูแล้วกฎเกณฑ์บังคับผู้จัดการกองทุนมากทีเดียว ผมลงทุนในหุ้นเต็มวงเงินตลอดครับเป็นพรานเบ็ดที่ใจเย็นเอาการเลยล่ะครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา ศุกร์ มี.ค. 21, 2003 10:50 pm

คนใจดำ ต้องทำใจหน่อยครับตามคำสอนของท่านพุทธทาส "มันเป็นเช่นนั้นเอง" ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ผลประโยชน์ไม่เข้าใครออกใคร รอรับผลที่จะเกิดเถิดครับมันจะมีทั้งดีและร้าย โดย มนตรี นิพิฐวิทยา ศุกร์ มี.ค. 21, 2003 10:43 pm

MINOR มีใครสนใจมั้ยครับ ทั้งแม่ทั้งลูก ผมเคยแต่ถือ MFG ซื้อ33 ขาย60 ไม่เคยสนตัวMINORเลยครับ ผมว่าถ้าMFGลงมาแถวๆ50ต้นๆน่าเก็บครับ RGRก็ไม่เลวนะครับ น่าสนอีกตัวไม่เชื่อไปดูซิครับว่าผู้ถือหุ้นเป็นใครบ้าง แล้วจะทึ่ง โดย มนตรี นิพิฐวิทยา ศุกร์ มี.ค. 21, 2003 10:40 pm

อยากรู้เรื่องtraf พี่หมอทิ้งท้ายแบบน้อยใจ อย่าโกรธกันนะครับ ผมพยายามรวบรวมข้อมูลที่วิเคราะห์ได้เขียนอย่างตรงไปตรงมาครับ จริงๆแล้วผมเป็นคนที่ค่อนข้างอนุรักษ์นิยมครับ แต่ถ้ามั่นใจผมจะไม่รอช้า กลัวตกรถครับ หากคิดผิดผมจะยอมรับและเริ่มใหม่ครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา อาทิตย์ มี.ค. 09, 2003 10:12 pm

อยากรู้เรื่องtraf ไม่รู้ว่าปิยะมิตรที่พี่หมอว่าเนี้ยผมหรือเปล่า? วันนี้ต้องขออนุณาติเห็นคนละมุมกับพี่หมอสักหน่อยครับ ผมมีTRAFมากไม่แพ้K.Mon Money ครับ มีแยอะจริงๆ ที่แยอะขนาดนี้เพราะผมมองว่าผมถือยาวจริงๆ ธุรกิจของTRAFในความเห็นของผมว่าเป็นธุรกิจในอนาคตเลยก็ว่าได้ การนำข้อมูลจากสิ่งที่ทำอย่างหนึ่งมาหารายได้ในอีกส่วนหนึ่ง การขยายงานออกไปในธุรกิจที่มีSynergyซึ่งกันและกัน หรือมองว่าเป็นการIntegration ทั้งแบบแนวนอนและแนวตั้ง การวางแนวธุรกิจสำหรับวันนี้เพื่ออนาคตอันไม่ไกลนัก เพราะทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงเร็วมากครับ พี่หมอเอาTRAFไปเปรียบกับ GRAMYไม่ได้หรอกครับ เพราะทั้งสองทำธุรกิจคนละเรื่องกันเลย TRAF ทำธุรกิจซื้อขายข้อมูลที่เน้นไปในการบันเทิง ส่วนGRAMYทำธุรกิจบันเทิงตรงๆเลย ทั้งสองเหมื่อนจะทำธุรกิจที่แข่งขันกันแต่จริงๆแล้วไม่ใช่ แทบจะไม่ได้แข่งกันเลยครับ คือคนหนึ่งต้องการขายหนังขายเพลง อีกคนหนึ่งต้องการขายเวลาโฆษณาและข้อมูล เพียงแต่ใช้ช่องวิทยุและโทรทัศน์เหมื่อนกัน TRAF ขายเวลาโฆษณาทั้งตรงสู่เจ้าของสินค้าและผ่านAgency แต่เน้นที่เจ้าของสินค้า และที่สำคัญแนวโน้มจะมาที่ตรงสู่เจ้าของสินค้า ขณะนี้agencyเก่งๆอย่าง ดร.เสรี วงค์มณฑา ยังต้องเลิกเพราะเจ้าของสินค้าติดต่อตรงกับผู้ขายเวลา อีกข้อหนึ่งใครมีข้อมูลมากนับว่าเป็นต่อในทุกทางครับ นี่คือการสรุปจุดแข็งคร่าวๆ สำหรับจุดอ่อนนั้น เขามองว่าอาศัยผู้บริหารมากไปหน่อย มีส่วนถูกครับ แต่ผมไม่เคยเห็นว่าที่ไหนจะขาดใครไม่ได้ อาจเป๋อยู่พักหนึ่งพอหามือดีๆได้ก็กลับมาใหม่ ส่วนเรื่องเป็นธุรกิจที่เพิ่งเริ่มก่อตั้งอาจมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจน้อยผมไม่เถียง แต่มาได้ขนาดนี้ผมว่าไม่ธรรมดาครับ การแจกWarrantมาก ผมว่าเพิ่งเป็นการแจกครั้งแรก และเป็นการระดมทุนเพื่อขยายงานเข้าสู่ธุรกิจใหม่ๆที่มีSynergyดังกล่าว เปรียบไม่ได้กับCPFที่เพียรแจกWarrentเพื่อขยายโรงงานในรูปแบบเดิมเพียงเพื่อหวังEconomic Of Scaleเพียงอย่างเดียวทำให้มีFIXED COSTสูง แต่TRAFขยายยังไงFIXED COSTก็ไม่สูงมากนัก และระดมทุนคราวนี้ยังมีเงินสดเหลืออีกมากไม่น่ามีรอบสองรอบสามเหมือนCPFครับ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ผมวิเคราะห์ไว้และทำให้ผมมั่นใจแม้ว่าจะลงเอาๆ ผมก็เผ้าตามเก็บอย่างไม่หยุดยั้งครับ หวังว่าพี่หมอและเพื่อนๆคงได้แนวในการมองธุรกิจบ้างไม่มาก็น้อยครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา ศุกร์ มี.ค. 07, 2003 11:12 pm

ผมมีความเห็นว่า Webmaster ควรจะเชิญอาจารย์ นิเวศน์ ......... เท่าที่ทราบ อาจารย์ท่านแวะเข้ามาอ่านเหมื่อนกันนะครับ ท่านยังเคยบอกว่าหากมีอะไรจะแนะนำท่านจะตอบให้ครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา อังคาร มี.ค. 04, 2003 10:18 am

ถามความเห็นคุณ Mon Money เกี่ยวกับ GFPT หน่อยครับ พี่ประจวบมีแยอะช่วยวิเคราะห์หน่อยก็ดีครับจะได้มีความคิดหลากหลาย โดย มนตรี นิพิฐวิทยา อังคาร มี.ค. 04, 2003 10:15 am

สวัสดีครับ ผมเป็นสมาชิกใหม่ที่คุณ Mon Money แนะนำ web นี้ ผมอีกคนที่ยินดดีต้อนรับเข้าครอบครัว Value Investor ครับ คิดว่าคุณเอกคงรับข้อมูลของทุกคนนะครับไม่เพียงแต่ของคุณMon Money ของ พี่ประจวบ พี่ครรชิต และท่านอื่นๆอีกมากมายก็น่าสนใจครับ ผมเองมีหุ้นTRU อยู่มากพอสมควร รู้มาว่าพี่ประจวบก็มีแถมยังเป็นลูกค้าTRUอีกต่างหาก ดังนั้นผมจึงขออนุณาติตอบก่อนนะครับ TRUจัดเป็นหุ้นในหมวดCyclicalคือขึ้นลงเป็นรอบตามอุตสาหกรรมรถยนต์ การกระจายกลุ่มสินค้าก็มีหลายส่วน สินค้าที่ขายดีป็นที่รู้จักคือรถแวน แต่ยังมีรถLand Rover มีชิ้นส่วน อุปกรณ์จับยยึด มีเงินสดมาก จ่ายปันผลสมำเสมอ มีมูลคาตลาดเพิ่ขึ้นตลอดในอัตราที่ใช้ไดดีทีเดียว ความเสี่ยงก็มีคือตราสินค้ายังอ้างอิงถึงรถเพียงยี่ห้อเดียว เป็นCyclical ที่ราคานี้ผมว่าน่าลงทุนมากครับ ส่วนRATHผมไม่มีแต่พี่จวบน่าจะมีเดียวคงมาให้ความเห็นครับ ส่วนเรื่องความรู้เรื่องบัญชีนั้นอ่านและสอบถามจากพรรคพวกในนี้ได้ครับ หรืออ่าน รู้บัญชีมีประโยชน์ อ่านงบการเงินให้เป็น บัญชีศรีธนชัย ทั้งสามเล่มนี้ของ อ.ภาภร เอกอัถรพร ครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา อังคาร มี.ค. 04, 2003 10:12 am

หุ้นที่ออกปันผลแล้ว ทั้งหมด ที่ผมรวบรวมได้ เรียงตาม ปันผลงวด ผิดนิดหน่อยเองครับ ผมแอบเอาข้อมูลมาใช้บ้างลวตอนนี้กำลังปรรับportใหม่อยู่ครับ พอดีญาติเห็นดอกเบี้ยมันลดจนน่าใจหายเลยแห่กันเอาเงินมาให้ผมช่ยบริหาร ผมไม่กล้าเอาเงินเขามาเสี่ยงมากคิดว่าจะเอาไปลงหุ้นปันผลมากๆหน่อยมาเห็นข้อมูลพี่รรชิตเข้ากำลังอยากได้อยู่พอดีเชียว โดย มนตรี นิพิฐวิทยา อังคาร มี.ค. 04, 2003 9:55 am

VIท่านใดมีAPRINT กำไรโตน่าดูเลยครับ, S&Pไปไม่ไกล สำนวนคุณโค่วจงผมว่าผมคุ้นๆว่าจเป็นใครที่ผมรู้จักดีซักคน ผมว่าAPRINTคงโตได้อีกมากครับ ผมเคยคำนวณIntrisic Value มา ราคาน่าจะเกินร้อยในระยะยาวครับ ส่วนS&Pกำไรก็โตใช้ได้นะครับ ประมาณ 18% แต่ไปติดที่มีหุ้นเพิ่มเข้ามามากนั่นเอง รอรับปันผลก็น่าจะใช้ได้ครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา อังคาร มี.ค. 04, 2003 9:50 am

ตามหาตัวพี่ครรชิตครับ จะตอบตั้งแต่เมื่อคืนแล้วครับพอดีลูกชายตื่นขึ้นมาเลยต้องหยุด ผมเเห็นพี่ครรชิตเอาเรื่งที่เปนประโยชน์ไปลงในtaladhoonหลายเรื่องคือผมตามไปอ่าน คุยบ้าง บางทีก็อยากจะแบ่งให้เพื่อนทางนี้ด้วยครับ พี่ครรชิตลงทุนมานานมีประสบการณ์มากมีอะไรก็ช่วยแบ่งปันน้องๆด้วยนะครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา อังคาร มี.ค. 04, 2003 9:43 am

การเพิ่มขึ้นของมูลค่าตลาด ความสามารถของกิจการในที่นี้คงหมายถึงความสามารถในการสร้างผลกำไรให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง(หากตีความหมายผิดก็บอกด้วยนะครับ) ถ้าเป็นดังที่ผมกล่าวมาก็จะเกี่ยวเนื่องกับมูลค่าตลาดแน่นอน มูลค่าตลาดก็คือ ราคาหุ้นคูณด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมด ถ้าจำนวนหุ้นไม่เพิ่มขึ้นหรือลดลง ตัวที่จะเปลี่ยนแปลงก็คือราคาหุ้น ราคาหุ้นในระยะยาวจะเปลี่ยนแปลงขึ้นลงก็จะมาจากความสามารถของกิจการ เห็นหรือยังว่ามันเกี่ยวข้องกัน ถึงตอนนี้ให้นำคำของคุณโค่วจงมาอธิบายต่อได้ครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา อังคาร ก.พ. 25, 2003 10:59 pm

การดูสินทรัพย์ที่แฝงอยู่ในบริษัท ให้สังเกตุในงบดุลให้ดี อ่านหมายเหตุประกอบงบให้ละเอียด เราจะเห็นภาพสินทรัพย์ที่แฝงไว้อย่างชัดเจน โดย มนตรี นิพิฐวิทยา อังคาร ก.พ. 25, 2003 10:50 pm

ขอถามเรื่อง 5 force ผมว่าน่าจะมีตัวอย่างจริงมาให้พวกเราได้ลองดูเป็นแนวทางบ้างก็ดีนะครับ เชื่อไม่เชื่อนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งครับ การวิเคราะห์พลังขับดันทั้ง5 (Five force Model) นั้นสามารถนำมาวิเคราะห์สถานะการณ์ของกิจการที่เราจะลงทุนได้จริงครับ ผมใช้อยู่ตลอด แต่ไม่เคยเขียนเป็นเรื่องเป็นราวซักครั้ง การที่เราเข้าใจว่ากิจการมีอำนาจต่อรองเหนือคู่แข่งและลูกค้ามากน้อยเป็นอย่างไรนั้นเป็นเรื่องที่ดี เพราะเราสามารถมองวิธีที่ผู้บริหารจะดำเนินการอย่างไรในการเสริมข้อได้เปรียบและลดข้อเสียเปรียบ การเข้าใจกิจการนั้นต้องเผชิญกับสินค้าทดแทนอะไรบ้างก็จะเป็นการดีไม่น้อยที่จะคอยสอดส่องดูว่าบริษัทจะพัฒนาสินค้าหรือบริการเพื่อหนีอย่างไรหรือดำเนินการตามชาวบ้านเขาจนเข้าข่ายตามกันลงคลอง การที่เราสังเกตุว่าบริษัทมีป้อมค่ายประตูเมืองแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือกับผู้ที่เข้ามาใหม่ได้ดีหรือไม่ก็จะช่วยให้เห็นทางหนีทีไล่ในการลงทุนได้เป็นอย่างดี การแข่งขันภายในอุตสาหกรรมเองก็สำคัญที่เป็นอยู่แข่งกับคู่แข่งได้ดีหรือไม่ การวิเคราะห์การวิเคราะห์พลังขับดันทั้ง5 เป็นบทสรุปของการวิเคราะห์เชิงคุณภาพที่สำคัญครับ Value Investorไม่ควรมองข้ามนะครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา อังคาร ก.พ. 25, 2003 10:48 pm

ถามนิดนึงครับ เกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์ การตลาดเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนครับ การวิเคราะห์การลงทุนนั้นเราต้องวิเคราะห์ตลาดได้ หลักการทางการตลาดที่สำคัญๆนักลงทุนก็ควรจะทราบ เช่นกลยุทธการตลาด 4Ps การวิเคราะห์การแข่งขัน จบลงที่ว่าบริษัทสามารถทำตลาดมาสร้างผลตอบแทนดีๆในระยะยาวได้หรือไม่ ผมว่าเด็กไทยเรามองอะไรเป็นจุดๆไปหน่อยนะครับ มองภาพองค์รวมไม่ค่อยออก ทำให้เราเข้าใจภาพรวมได้ไม่ค่อยชัดเจน ผิดกับเด็กต่างชาติ ในยุคถัดจากนี้ไปคนที่จะรวยได้คือคนที่ใช้ความรู้แบบองค์รวมได้อย่างมีประสิทธิภาพนะครับ :? โดย มนตรี นิพิฐวิทยา อาทิตย์ ก.พ. 23, 2003 10:59 pm

S&P กับ APRINT บริษัทไหนน่าลงทุน เป็นบริษัทที่ดีทั้งสองบริษัทครับ แต่ราคานี้ผมว่าคุณจะไม่ได้อะไรมากมายนักครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา อังคาร ก.พ. 18, 2003 11:38 pm

ไซฟ่อน ถ้าความโลภไม่มาบังตาเราสามารถใช้แนวทางตามที่ลงในInvestor Guide ประกอบกับการวิเคราะห์เงาการเงินประกอบ จะช่วยให้เห็นถึงความผิดปกติได้ครับ ดังตัวอย่างENRONมีผู้รู้ทางบัญชีกล่าวว่า"หากความโลภไม่มาบังตานักลงทุนมากอย่างที่เห็น การวิเคราะห์งบการเงินจะทำให้คุณเห้นภาพที่ชัดเจน" เพราะยอดขายโต 200%แต่กำไรโตเพียง 2%เท่านั้น กระแสเงินสดติดลบตลอดหลายปีที่ผ่านมาพอจะบอกอะไรเราได้บ้างไม่มากก็น้อยครับ คงพอใจน้องgenieนะครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา อังคาร ก.พ. 18, 2003 11:36 pm

sithai คิดว่าทางพื้นฐานตอนนี้และต่อไปเป็นยังไงครับ โดยปกติผมไม่เชื่อแนวคิดทางเทคนิคนะครับ แต่ถ้าถามว่าพื้นฐานเป็นอย่างไรพอจะตอบได้ครับ ศรีไทยเป็นบริษัทที่มีตราสินค้าที่แข็งแกร่งในระดับโลก คุณภาพเป็นที่ยอมรับ จัดเป็นหุ้นturn around ที่กำลังไปได้สวย หากซื้อได้ในราคาที่เหมาะๆและถือแบบอึดๆอย่างที่มาร์เก็ตติ้งผมบ่นน่าจะได้ผลตอบแทนไม่น้อยทีเดียว ผมมีหุ้นSITHAIอยู่มากพอสมควรซื้อมาตั้งแต่ 3บาท 4บาท 5บาท 6บาท เฉลี่ยแล้วประมาณ 5 บาทกว่าๆ เคยขายทำกำไรแถว9บาทไปสองรอบเห็นจะได้ ที่ทำอย่างนี้ไม่ได้อาศัยการวิเคราะหืทางเทคนิคเลยสักครั้งครับ มันขึ้นอยู่กับความพอใจในอัตราผลตอบแทน และรารคลงมาที่จุดที่น่าสนใจครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา อังคาร ก.พ. 18, 2003 11:30 pm

ขอความรู้ค่ะ ราคาที่แท้จริงของหุ้นนั้นสามารถหาได้จาก การปรับกระแสเงินสดที่คาดว่าจะเกิดขึ้นตลอดอายุของธุรกิจด้วยอัตราคิดลดที่เหมาะสม ก่อนที่จะประเมินกระแสเงินสดที่คาดว่าจะเกิดขึ้นได้ เราต้องทราบและเข้าใจธุรกิจที่จะเข้าไปลงทุนนั้นดีเสียก่อนนะครับ ลองอ่านเรื่อง Business man like Investor ที่เขียนโดยคุณ Surachai Chepchareonrat ในInvestor Guide ดูอีกทีนะครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา อังคาร ก.พ. 18, 2003 11:21 pm

การลงทุนในหุ้นHITECH ใช้แนวทางของValueได้หรือไม่ ผมคิดว่าน่าจะใช้กันได้ หากเข้าใจธุรกิจและมองเห็นอนาคตพอสมควร โดย มนตรี นิพิฐวิทยา อังคาร ก.พ. 18, 2003 12:22 am

ถามValue Investor คะ ผมมองเยือ้งมุมกับคุณโค่วจงนิดหน่อยนะครับ 1 LHเป็นผู้นำในธุรกิจนี้ มีแนวคิดที่นำคู่แข่งเสมอ มีการปรับตัวในธุรกิจที่ชาญฉลาด แม้จะเป็น Cyclical แต่น่าสนใจครับหากราคาลงมาแถว 7 บาทต้นๆ 2 TRAF แม้จะเป็นบริษัทเกิดใหม่ก็จริง แต่มีGrowthที่สูง มีความแตกต่างเหนือคู่แข่งอย่างชัดเจน ฐานะทางการเงินดีพอสมควร แต่ความเสี่ยงสูงถ้าจะลงทุนไม่ควรมีมากครับ 3 ATC เป็นกลุ่ม Commodity + Cyclical ต้องเข้าถูกเวลาครับถ้าไม่คุ้นเคยอย่าลองครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา อังคาร ก.พ. 18, 2003 12:21 am

Businessman like Investor ผมเคยเข้าไปหลายรอบแล้วครับ ไม่อยากจะบอกว่าเป็นห้องสมุดที่แย่มาก หนังสือให้อ่านน้อย ข้อมูลบริษัทก็น้อย รายงานประจำปีก็เก็บไม่เป็นระเบียบหาอยากไปหมดทุกอย่าง ผมนึกว่าไปแล้วจะได้ข้อมูลครบ กลับได้มาเพียงนิดเดียว ผมเคยcommemtไปแล้วแต่ก็ไม่เห็นปรับปรุงอะไร ไม่รู้ว่าจะส่งเสริมให้เป็นนักลงทุนประเภทไหนกันแน่ก็ไม่รู้ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา เสาร์ ก.พ. 15, 2003 9:22 pm

ผมเป็นนักลงทุนฝึกหัดอยากถามคำถามท่านผู้รู้กรุณาช่วยด้วยครับ คุณเอกไม่ต้องกังวลหรอกครับ การซื้อขายหุ้นที่ได้รับใบหุ้นนั้นจะใช้ก็ต่อเมื่อซื้อหุ้นIPO แต่ไม่มีการเปิดบัญชีซื้อขายกับบล. หุ้นของคุณเอนั้นจะถูกเก็บรักษาไว้ที่ทะเบียนผู้ถือหุ้นซึ่งบ.ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์จะเป็นผู้ดูแลครับ ส่วนใบเสร็จนั้นควรเก็บไว้เป็นหลักฐานหากมีข้อผิดผลาด คุณเอกเริ่มลงทุนโดยอาศัยแนวของValue Investor หรือเปล่าครับ ถ้ายังไม่แน่ใจลองอ่านกระทู้ที่พี่ครรชิดลงไว้ให้อ่านนะครับ จะได้อาศัยเป็นบทเรียนที่ดีเพราะมีทั้งล้มเหลวและสำเร็จ การเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้อื่นจะทำให้เราเรียนรู้ได้เร็วและ ผิดพลาดน้อยครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา เสาร์ ก.พ. 15, 2003 9:18 pm

จดหมายถึงลุงขวด และ ความคิดเห็นของเพื่อนๆ EPISODE 2 ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เหล่าValue Investorร่วมกันเล่าประสบการณ์ชีวิตที่มีค่า มาแบ่งบันกันครับ หาอ่านยากมากทีเดียว พี่ครรชิตมีอีกก็อย่ายั้งนะครับผมชอบอ่านครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา ศุกร์ ก.พ. 14, 2003 11:37 pm

Businessman like Investor ที่จริงผมกบฎต่อวิชาชีพมานานมากแล้วละครับ ผมเป็นวิศวกรจริงๆแค่3ปีก็มาเป็นSales ไม่กล้าไปสู้หน้าครูบาอาจารย์ คุณสุรชัย ครับจะกลับมาอาทิตย์หน้าหนีบหนังสือดีๆจากสิงค์โปมาฝากบ้างซิครับ เมืองไทยบางเล่มหายากมาก เช่นของJannet Lowe หรือของ Phil Fisherหาไม่ได้เลยครับ ได้อ่านแล้วผมอาจจะนำมาเขียนแบ่งให้เพื่อนๆอ่านทางwebเหมือนคุณสุรชัยบ้างครับ โดย มนตรี นิพิฐวิทยา ศุกร์ ก.พ. 14, 2003 11:33 pm

จดหมายเก่า ถึงลุงขวด วันนี้ผมมาดึกหน่อยครับ กว่าจะเสร็จธุระ(เดินทางฝ่ารถติด...พีจวบกับ พี่ครรชิตคงอิจฉาผมมากเลย) มาถึงบ้านก็เกียบ4ทุ่ม กว่าไอ้ตัวเล็กจะหลับก็เกียบ5ทุ่ม เพิ่งทานข้าวเสร็จนี่ละครับ ผมได้ตามไปอ่านตามที่พี่ครรชิตบอกแล้วครับ ผมว่าเราน่าจะเชิญลุงขวดมาคุยกันที่นี่บ้างนะครับ ผมเห็นในtaladhoon.comมีเรื่องหลากหลายมากไม่แพ้pantip.com แต่พอมาที่นี่มีแต่Value Investor ล้วนๆเลย และผมว่าคนในนี้น้อยมาก หรือValue Investorแท้จะมีน้อยจริงๆ ผมเองก็เคยเป็นแบบพันธ์ทางมาก่อน พอเห็นหุ้นตกมากๆอย่าง2วันนี้ก็ตามขาย แล้วกลับมาเสียใจทุกทีเลยเลิก ผมว่าคล้ายกันหมดละครับ มีน้อยที่เริ่มก็เป็นเลย โดย มนตรี นิพิฐวิทยา ศุกร์ ก.พ. 14, 2003 11:26 pm