Re: สรุปผลประกอบการ Q4/2560 หรือ ประจำปี 2560 สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อย (F45-3) บริษัท ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (หน่วย : พันบาท) งบการเงินรวม ประจำปี ตรวจสอบ สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม ปี 2560 2559 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 130,648 84,564 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 0.25 0.41 ต่อหุ้น (บาท) งบการเงินเฉพาะกิจการ ประจำปี ตรวจสอบ สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม ปี 2560 2559 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 144,156 68,958 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 0.28 0.34 ต่อหุ้น (บาท) ประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน ไม่มีเงื่อนไข หมายเหตุ โปรดดูรายละเอียดงบการเงิน รายงานของผู้สอบบัญชี และหมายเหตุประกอบ งบการเงินจากระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ "ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ พร้อมกันนี้บริษัทได้จัดส่งงบการเงิน ฉบับเต็มผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์และส่งต้นฉบับให้กับสำนักงาน ก.ล.ต. เรียบร้อยแล้ว" ลงลายมือชื่อ ___________________________ ( นายทักษิณ ตันติไพจิตร ) กรรมการผู้จัดการ ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ โดย นายช่างนักลงทุน อังคาร ก.พ. 20, 2018 11:14 pm

Re: สรุปผลการดำเนินงาน Q3/2558 สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อย (F45-3) บริษัท แอร์โรว์ ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) (หน่วย : พันบาท) งบการเงินรวม ไตรมาสที่ 3 งวด 9 เดือน สอบทาน สอบทาน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 30 กันยายน ปี 2558 2557 2558 2557 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 65,856 40,328 184,424 105,297 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 0.26 0.18 0.78 0.47 ต่อหุ้น (บาท) งบการเงินเฉพาะกิจการ ไตรมาสที่ 3 งวด 9 เดือน สอบทาน สอบทาน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 30 กันยายน ปี 2558 2557 2558 2557 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 43,652 21,931 140,627 75,037 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 0.17 0.10 0.60 0.33 ต่อหุ้น (บาท) ประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน ไม่มีเงื่อนไข หมายเหตุ โปรดดูรายละเอียดงบการเงิน รายงานของผู้สอบบัญชี และหมายเหตุประกอบ งบการเงินจากระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ "ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ พร้อมกันนี้บริษัทได้จัดส่งงบการเงิน ฉบับเต็มผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์และส่งต้นฉบับให้กับสำนักงาน ก.ล.ต. เรียบร้อยแล้ว" ลงลายมือชื่อ ___________________________ ( นายชโลธร พูตระกูล ) ผู้อำนวยการส่วนบัญชีและการเงิน ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ โดย นายช่างนักลงทุน พฤหัสฯ. พ.ย. 12, 2015 10:42 pm

Re: สรุปผลการดำเนินงาน Q3/2558 สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อย (F45-3) บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) (หน่วย : พันบาท) งบการเงินรวม ไตรมาสที่ 3 งวด 9 เดือน สอบทาน สอบทาน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 30 กันยายน ปี 2558 2557 2558 2557 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 69,436 21,327 140,799 60,928 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 0.14 0.06 0.33 0.18 ต่อหุ้น (บาท) งบการเงินเฉพาะกิจการ ไตรมาสที่ 3 งวด 9 เดือน สอบทาน สอบทาน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 30 กันยายน ปี 2558 2557 2558 2557 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 77,103 26,091 142,639 67,228 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 0.16 0.08 0.33 0.20 ต่อหุ้น (บาท) ประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน ไม่มีเงื่อนไขและมีข้อสังเกต หมายเหตุ โปรดดูรายละเอียดงบการเงิน รายงานของผู้สอบบัญชี และหมายเหตุประกอบ งบการเงินจากระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ "ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ พร้อมกันนี้บริษัทได้จัดส่งงบการเงิน ฉบับเต็มผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์และส่งต้นฉบับให้กับสำนักงาน ก.ล.ต. เรียบร้อยแล้ว" ลงลายมือชื่อ ___________________________ ( นายสัญญา จินดาพันธ์ ) ผู้จัดการฝ่ายบัญชี ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ โดย นายช่างนักลงทุน พฤหัสฯ. พ.ย. 12, 2015 10:29 pm

Re: พอร์ตหุ้นและ ปันผล ธนาคารไม่ให้ค่าเลยหรือครับตอนขอกู้ พอร์ตหุ้น 8 หลัก และปันผลจากหุ้น หากไม่ได้ทำงานประจำ ยื่นขอกู้คอนโด ล้านกว่าบาทจะผ่านไหมครับ เห็นเพื่อนบอกว่า ธนาคารไม่ดูเลย ตีค่าเป็น 0 เลย ขอคำแนะนำหน่อยครับ ว่าจะทำยังไงให้กู้ได้ครับ ผมแนะนำว่าเจ้าของกระทู้ต้องเข้าไปคุยกับเจ้าของเงิน(แบงค์)ดีกว่าครับ เข้าไปคุยกับเขาตรงๆเลย ถามในนี้ที่บอกว่าวิธีนี้ไม่ได้ อาจจะได้ก็ได้ หรือวิธีที่เคยได้อาจจะไม่ได้ก็ได้ ถ้าคุยแล้วแบงค์นี้ไม่ได้ก็ไปคุยแบงค์อื่นหรือแบงค์เดียวกันแต่คนละสาขาก็ยังไม่เหมือนกัน ขอโชคดี สามรถกู้ได้ครับ โดย นายช่างนักลงทุน จันทร์ พ.ค. 25, 2015 5:07 pm

Re: ลงทุนอสังหานั้นยากเย็น ถ้ายังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง ผมว่าสิ่งแรกที่เราต้องทำคือหาความรู้ครับ อ่าน อ่าน แล้วก็อ่าน ซื้อหนังสือเกี่ยวกับอสังหามาอ่าน เก็บความรู้ไปเรื่อยๆ เช่น ลักษณะอสังหาที่ดีต้องเป็นยังไง ทำเลที่ดีเป็นอย่างไร ภาษีต่างๆ การคำนวณผลตอบแทน ประเมินมูลค่าของทรัพสินย์ที่จะซื้อ เป็นต้นพอมีความรู้พอสมควรแล้ว ก็ออกไปดูทรัพย์โดยเริ่มจากพื้นที่ที่เราคุ้นเคยก่อน รู้ที่มาที่ไป รู้กลุ่มลูกค้า พอไปดูเยอะๆจะทำให้เรามีประสบการณ์พอจะแยกออกว่า ทรัพย์ไหนดี ทรัพย์ไหนไม่ดี และต้องดูกลุ่มลูกค้าด้วยว่ากลุ่มลูกค้าเราคือใคร ใกล้แหล่งงานไหม โดยอาจจะเริ่มหาจากอินเตอเน็ต แล้วก็ดูข้อมูล การวิเคราะห์ในเน็ต เช่น thinkofliving จะได้ไม่เสียเวลาลงพื้นที่ ดูสักร้อยที่ แต่เอาจจะเข้าหลักเกณเราสักสิบที่ แล้วก็ออกไปดูสถานที่จริงแล้วอาจจะเลือกซื้อสักหนึ่งที่ ผมว่าหลังแรกจะยากหน่อย ต่อไปก็จะง่ายขึ้น เร็วขึ้น หลังจากเลือกได้แล้วก็เข้าไปคุยกับแบงค์เพื่อขอสินเชื่อ ถ้าคุยดีๆหรือซื้อได้ถูกเราแถบไม่ต้องใช้เงินทุนสักบาท เผลอๆอาจจะได้เงินเหลือมาลงทุนต่อด้วย การลงทุนในอสังที่มีลักษณะคล้ายๆ vi ก็คือเราลงทุนเพื่อให้ได้กระแสเงินสดเป็นบวกหลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว และเมื่อเวลาผ่านไป ถ้าเราเลือกทำเลได้ดีราคาก็ขึ้น เวลาขายก็ได้กำไร ที่เขาเรียกว่า ถือแล้วได้ตังค์ ขายก็ได้กำไร ถ้าเป็นอย่างนี้แล้ว เราก็ถืออย่างสบายใจ นอนหลับ และจะถือกี่ที่ก็ได้ ผมว่าการลงทุนอสังมีข้อดีกว่าหุ้นก็คือเราสามารถที่จะอาศัยเงินคนอื่นมาลงทุนได้ เช่น เงินจากธนาคาร บางทีเราไม่ต้องใช้เงินเราสักบาท แต่เราได้ทั้งกระแสเงินสดเข้ามาทุกเดือน มีคนผ่อนแทนเรา อนาคตทำเลดี ขายก็ได้กำไร โดยไม่ได้ใช้เงินเราสักบาทหรือใช้น้อยมาก โชคดีในการลงทุนครับ โดย นายช่างนักลงทุน พุธ พ.ค. 20, 2015 11:46 pm

Re: Rmf. Ltf. กองไหนยอดเยี่ยมดูเวปไหนครับ ขอสอบถามครับ ราคาหน่วยลงทุนของ LTF ขึ้นอยู่กับอะไรบ้างครับ 1. ขึ้นอยู่กับผลกำไรของบริษัทนั้น กำไรเพิ่ม ราคาหน่วยลงทุนก็เพิ่ม 2. หรือขึ้นอยู่กับการซื้อขายเหมือนหุ้น เมื่อมีความต้องการซื้อมากกว่าต้องการขายราคาก็จะขึ้นไปเรื่อยๆ ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว ถ้ามีการยกเลิกสิทธิ์ลดหย่อนภาษี ก็จะแรงเทขายเมื่อถือครองครบ 5 ปีและไปซื้อกองทุนอื่นๆที่ได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าและมีสภาพคล่องมากกว่า LTF ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว จะทำให้ราคาลดลงหรือเปล่าครับ ขอบคุณครับ http://www.tsi-thailand.org/index.php?option=com_content&task=view&id=1837 :D โดย นายช่างนักลงทุน จันทร์ มิ.ย. 30, 2014 12:30 am

Re: Rmf. Ltf. กองไหนยอดเยี่ยมดูเวปไหนครับ ขอสอบถามครับ ราคาหน่วยลงทุนของ LTF ขึ้นอยู่กับอะไรบ้างครับ 1. ขึ้นอยู่กับผลกำไรของบริษัทนั้น กำไรเพิ่ม ราคาหน่วยลงทุนก็เพิ่ม 2. หรือขึ้นอยู่กับการซื้อขายเหมือนหุ้น เมื่อมีความต้องการซื้อมากกว่าต้องการขายราคาก็จะขึ้นไปเรื่อยๆ ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว ถ้ามีการยกเลิกสิทธิ์ลดหย่อนภาษี ก็จะแรงเทขายเมื่อถือครองครบ 5 ปีและไปซื้อกองทุนอื่นๆที่ได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าและมีสภาพคล่องมากกว่า LTF ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว จะทำให้ราคาลดลงหรือเปล่าครับ ขอบคุณครับ โดย นายช่างนักลงทุน อาทิตย์ มิ.ย. 29, 2014 3:06 pm

Re: ราคา IPO ราคาพาร์ คือ อะไร หลายคนคงสงสัย โดยเฉพาะคนที่เพิ่งเข้าตลาดหุ้น อาจจะเห็นผ่านหูผ่านตามาบ้าง หรือว่าอาจจะเคยอ่านในหนังสือพิมพ์ ซึ่งถ้าคนที่ไม่รู้ก็จะไม่เข้าใจว่าเค้าเอาไว้ใช้ทำอะไร หรือมันบอกอะไรได้บ้าง ราคาพาร์ คือ ราคาที่คนที่เริ่มต้นธุรกิจ หรือ ตั้งบริษัทขึ้นมาไปจดทะเบียนกับรัฐว่ามีทุนเท่าไหร่ จะแบ่งหุ้นเป็นกี่หุ้น ซึ่งจะได้ว่า ราคาพาร์ = ทุนจดทะเบียน / จำนวนหุ้นทั้งหมด เช่น สมมุติเราเป็นเจ้าของ Facebook และ เราจะไปตั้งบริษัท มีทุนเริ่มต้นที่ 10,000 ล้านบาท เราคิดว่าอยากให้มีหุ้น 1,000 ล้านหุ้น จะได้ ราคาพาร์ = 10,000 / 1,000 = 10 บาทต่อหุ้น ถ้าเราอยากให้มีหุ้น 10,000 ล้านหุ้น ก็จะได้ ราคาพาร์ เป็นดังนี้ ราคาพาร์ = 10,000 / 10,000 = 1 บาท ต่อหุ้น จะเห็นว่าพาร์มันบอกอะไรเราไม่ได้มากเท่าไหร่ บอกแค่ว่าเงินเริ่มต้นทำธุรกิจเป็นเท่าไหร่ และมีหุ้นทั้งหมดในบริษัทเท่าไหร่ ยิ่งราคาพาร์น้อยๆ จำนวนหุ้นมักจะเยอะ ส่วนใหญ่หุ้นพาร์น้อยๆ จะปั่นกันง่าย สังเกตุดูหุ้นในตลาดบ้านเราสิ หุ้นที่พาร์ไม่ถึง 10 สลึง ปั่นกันเป็นว่าเล่น และเปอร์เซ็นต์ในการขึ้นลงมันจะเยอะกว่า * เพิ่มเติมนะครับ ราคาพาร์ ไม่จำเป็นต้องเท่ากับ ราคา IPO * เครดิต จาก Toro ครับ ขอเสริมนิดหนึ่งครับ ผิดถูกอย่างไรแย้งได้ครับ หลังจากมีทุนตามข้างต้นแล้ว เริ่มต้นทำธุรกิจแล้ว ก็จะมีกำไรเกิดขึ้น หลังจากนั้นบริษัทก็นำไปซื้อทรัพย์สินขยายกิจการเพื่อขยายยอดขาย กำไร และอาจจะมีการเพิ่มทุนระหว่างช่วงดำเนินกิจการ เจ้าของก็เพิ่มทุนเข้าไปแล้วได้หุ้นเพิ่มในกรณีพาร์เท่าเดิม ดำเนินกิจการและมีกำไรสะสมไปเรื่อยๆ แล้วถึงตอนที่จะนำกิจการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แล้วก็กำหนดราคา IPO ถ้ากิจการขยายงานและเพิ่มทุนมาเรื่อยๆโดยกิจการมีกำไรสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆต้นทุนเขาไม่ใช่ราคาพาร์แน่นอนเพราะเขาเพิ่มทุนมาเรื่อยๆและสามารถที่จะบริหารให้บริษัทมีกำไรเพิ่มมากขึ้นจนถึงปัจจุบันต้องให้เครดิตเขา ซึ่งราคา IPO ก็ควรจะมากกว่าราคาพาร์ ส่วนราคา IPO จะถูกหรือแพง จะน่าลงทุนไหมขึ้นอยู่กับว่าอนาคตบริษัทจะเติบโตต่อไปในอนาคตมากน้อยแค่ไหนเมื่อเทียบกับราคา IPO อันนี้ก็แล้วแต่ละคนจะมอง ซึ่งมันไม่น่าจะเกี่ยวกับราคาพาร์ โดย นายช่างนักลงทุน เสาร์ พ.ค. 17, 2014 12:00 pm

Re: มีท่านใดลงทุนอสังหาให้เช่าไหมครับ ในซอยบ้านผมนะครับ มีอพาร์เม้นต์ให้เช่าเยอะเลยครับ น่าจะมากกว่า 30 ตึก ที่ผมสังเกตุเห็นก็คือ แต่ละตึกนั้นมันถูกเปลี่ยนมือไปเรื่อยๆนะ ทำไมผมรู้ว่ามีการเปลี่ยนมือ ผมสังเกตุจากการเปลี่ยชื่อ และ มีป้ายติดว่าต้องการขาย เดิมทีผมก็คิดจะซื้อเหมือนกัน มีคนมาขายให้ผม 18.5 ล้าน 100 ตรว 32 ห้อง และชั้นบนมีเสาของ Dtac ติดอยู่ด้วย แต่เมื่อผมขอต่อ เหลือ 15 ล้าน เขาขอเป็น 15.5 ล้าน ผมก็เลยมานั่งคิดดูอีกที ว่าทำไมเขายอมลดเยอะจัง เลยตัดสินใจว่าไม่เอาดีกว่า ผมเคยเอาเรื่องนี้ไปคุยกับ Kbank เขาให้คำปรึกษาดีมากนะครับ เพราะเขาเจอเคสแบบนี้เป็นประจำ ท่านบอกว่าจำนวนห้องน้อยเกินไป ทางที่ดีหากเราสนใจเรื่องนี้ เราควรไปปรึกษาเรื่องนี้กับทางธนาคาร ก็ดีเหมือนกันนะครับ :D แต่ผมว่าบ้างที่ก็ไม่น่าจะเกี่ยวกับจำนวนห้องนะครับ บางทีที่เขาลดเยอะเราต้องไปวิเคราะห์ดูด้วยตนเองครับว่าเขาลดเยอะและขายเพราะอะไร เพราะโซนนั้นมันมีอพาร์ทเม้นเยอะหรือเปล่าแต่คนต้องการเช่าน้อย supply>demand ก็อาจจะทำให้มีการแข่งกันกันลดราคา ทำให้คนที่เช่าย้ายไปที่ถูกกว่าและดีกว่า การที่เปลี่ยนมือบ่อยอาจจะเป็นเพราะเขาอาจจะไม่ได้ศึกษามามากพอก่อนจะซื้อว่าการแข่งขันเป็นอย่างไร ลูกค้าของเราเป็นใคร อพาร์ทเม้นเยอะแล้วมีปัจจัยอะไรลูกค้าถึงเลือกที่จะเช่ากับเรา และการแข่งขันในอนาคตจะเป็นอย่างไรจะมีตึกใหม่สร้างเพิ่มไหม พอเราศึกษาการตลาดเสร็จแล้ว ก็มาดูเรื่องผลตอบแทนได้ตามที่เราคาดหวังไหม กระแสเงินสดเป็นอย่างไร เป็นบวกไหม และค่าใช้จ่ายแฝงมีอะไรบ้าง ภาษีเงินได้ ภาษีโรงเรือน แม่บ้าน ยาม ค่าซ่อมบำรุง etc. ผมว่าก่อนจะซื้อต้องดูและทำการบ้านเยอะๆ ลงพื้นที่เยอะๆ ดู 100 แห่ง เลือกมา 30 แห่งต่อรองราคา ยื่นแบงค์ 3 แห่ง เลือกซื้อที่ดีที่สุด 1 แห่ง โดย นายช่างนักลงทุน จันทร์ พ.ค. 05, 2014 9:49 am

Re: มีท่านใดลงทุนอสังหาให้เช่าไหมครับ ผมชอบที่พี่สุมาอี้ เคยทำเป็น excel ไว้ครับ ผมว่าทำให้เราเห็นภาพ ของ ผลตอบแทนแบบชัดเจนสุดๆๆ ครับ http://www.dekisugi.net/archives/26361 ชอบงานเขียนของพี่สุมาอี้ทุกชิ้นรวมถึงเป็นคนหนึ่งที่ใช้แนวคิดของพี่สุมาอี้ในการลงทุนด้วยครับ 7thLTG ตาม excel พี่สุมาอี้บอกว่าเป็นแค่สมมุติฐานครับ ไม่ใช่ว่าโดยทั่วไปอสังหาหรือคอนโดจะได้ผลตอบแทนเฉลี่ยเท่านี้ ถ้าเราลองเปลี่ยนสมมุติฐานแล้วลองใส่ใน excel ดูครับ ถ้า 1. เราซื้อได้ถูกกว่า 2,400,000 หล่ะ 2. ถ้าซื้อ 2,400,000 แต่เราสามารถเก็บค่าเช่ามากกว่า 96,000 ต่อปีหล่ะ 3. ถ้าซื้อในทำเลที่มีศักยภาพเติบโตในอนาคตแล้วมูลค่าเพิ่มมากกว่า 3% ต่อปีหล่ะ 4. ถ้าเราซื้อถูกกว่าราคาประเมินมากๆโดยซื้อโดยไม่ใช้เงินเราสักบาทแถมมีเงินเหลือไปทำอย่างอื่นอีกต่างหาก แล้วยังมี cash flow ต่อเดือนเป็นบวกหล่ะ ซึ่งเคสอะไรพวกนี้มันสามารถที่จะเกิดขึ้นได้หมดครับ ซึ่งมันอยู่ที่ความรู้ความชำนาญของเรา อาจจะหายากสักหน่อย ถ้าเป็นมือหนึ่งเพราะมันเป็นราคาตลาดและบวกพรีเมี่ยมไปแล้ว แต่ก็มีคนทำได้นะครับ แต่ถ้าเป็นมือสองเราสามารถที่จะหาของถูกได้ง่ายกว่า แต่ผมว่าสิ่งสำคัญคือความรู้ในเรื่องที่เราจะลงทุนครับ บางคนอาจจะเก่งเรื่องหุ้นแต่ไม่ถนัดอสังหา บางคนเก่งอสังหาแต่ไม่ถนัดหุ้น แต่สุดท้ายคือกาลามาสูตร อย่าเพิ่งเชื่อจนกว่าที่เราจะได้ศึกษา เรียนรู้ และลองมือทำเองครับ โดย นายช่างนักลงทุน ศุกร์ พ.ค. 02, 2014 9:44 pm

Re: มีท่านใดลงทุนอสังหาให้เช่าไหมครับ ผมก็กำลังศึกษาอยู่เหมือนกันครับ ซื้อหนังสือมาอ่านแล้วก็เข้าไปอ่านในเว็ปบอร์ด http://www.richdadthai.com/rdtboard/ ที่คิดจะลงทุนในอสังหานอกจากหุ้นเพราะว่าผมคิดว่าอสังหามันมีพลังทวีคูณของการ leverage ผมก็คิดว่าเป็นอีกการลงทุนหนึ่งที่น่าสนใจครับ แล้วลงทุนมานานหรือยังครับหรือว่ากำลังเริ่มศึกษาเหมือนกัน :D โดย นายช่างนักลงทุน ศุกร์ พ.ค. 02, 2014 6:04 pm

Re: ขอความรู้เพื่อนๆพี่ๆเรื่องการปันผลเป็นหุ้นค่ะ ขอบคุณ พี่ๆทุกคนครับ กำลังสงสัยเช่นกัน ผมเข้าใจถูกหรือครับ สรุปคือถ้าบริษัททำได้อย่างมากแค่เสมอตัวไม่ได้ดีขึ้น สุดท้ายแล้วราคาก็จะ dilute ลงมาตามจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นแต่ระยะสั้นราคาอาจไม่ตกลงมาทันที ผมสงสัยต่อไปว่า ถ้าผมค่อนข้างแน่ใจว่าบริษัทที่ผมถือไม่น่าจะทำกำไรได้ดีขึ้นและผมคิดว่าจะไม่ถือต่อแล้ว ผมควรขายหุ้นก่อน XD หรือเปล่าครับเพราะค่อยขายทั้งหมด แบบไหนจะดีกว่ากัน :D ขอตอบตามความเข้าใจและความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ 1. ราคาจะไดลูททันทีในวัน XD เลยครับ ส่วนจะราคาจะเท่าหรือใกล้เคียงไดลูท 2. หลังไดลูทแล้วกิจการยังทำกำไรได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ราคาก็จะเพิ่มขึ้นตามกำไร ถ้ากำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราคาอาจจะมากกว่าตอนก่อนไดลูทอีก ส่วนถ้าคุณ kit556 ค่อนข้างแน่ใจว่าบริษัทที่ถือไม่น่าจะทำกำไรได้ดีขึ้นและคิดว่าจะไม่ถือต่อแล้ว ถ้าเป็นผมจะขายทันทีเพราะถ้ากิจการกำไรไม่ดีขึ้น สุดท้ายแล้วราคาก็คงจะอยู่ที่ราคาไดรูทหรือราคาอาจจะลดลงเรื่อยๆ ถ้าในอนาคตกำไรของบริษัทแย่ลงเรื่อยๆ โดย นายช่างนักลงทุน เสาร์ เม.ย. 19, 2014 11:02 am

Re: ขอความรู้เพื่อนๆพี่ๆเรื่องการปันผลเป็นหุ้นค่ะ ขอบคุณ พี่ๆทุกคนครับ กำลังสงสัยเช่นกัน ผมเข้าใจถูกหรือครับ สรุปคือถ้าบริษัททำได้อย่างมากแค่เสมอตัวไม่ได้ดีขึ้น สุดท้ายแล้วราคาก็จะ dilute ลงมาตามจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นแต่ระยะสั้นราคาอาจไม่ตกลงมาทันที ผมสงสัยต่อไปว่า ถ้าผมค่อนข้างแน่ใจว่าบริษัทที่ผมถือไม่น่าจะทำกำไรได้ดีขึ้นและผมคิดว่าจะไม่ถือต่อแล้ว ผมควรขายหุ้นก่อน XD หรือเปล่าครับเพราะค่อยขายทั้งหมด แบบไหนจะดีกว่ากัน :D ขอตอบตามความเข้าใจและความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ 1. ราคาจะไดลูททันทีในวัน XD เลยครับ ส่วนจะราคาจะเท่าหรือใกล้เคียงไดลูท 2. หลังไดลูทแล้วกิจการยังทำกำไรได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ราคาก็จะเพิ่มขึ้นตามกำไร ถ้ากำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราคาอาจจะมากกว่าตอนก่อนไดลูทอีก ส่วนถ้าคุณ kit556 ค่อนข้างแน่ใจว่าบริษัทที่ถือไม่น่าจะทำกำไรได้ดีขึ้นและคิดว่าจะไม่ถือต่อแล้ว ถ้าเป็นผมจะขายทันทีเพราะถ้ากิจการกำไรไม่ดีขึ้น สุดท้ายแล้วราคาก็คงจะอยู่ที่ราคาไดรูทหรือราคาอาจจะลดลงเรื่อยๆ ถ้าในอนาคตกำไรของบริษัทแย่ลงเรื่อยๆ โดย นายช่างนักลงทุน เสาร์ เม.ย. 19, 2014 10:58 am

Re: หุ้นแนะนำ TR ขอคำแนะนำ ขอแนะนำเข้าไปอ่านในร้อยคนร้อยหุ้นครับ จะมีคนทีติดตามหุ้นตัวนั้นๆค่อยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน โดย นายช่างนักลงทุน จันทร์ มี.ค. 10, 2014 2:49 pm

Re: ยื่นแบบภาษีเงินได้ ปีภาษี 2556 จำนวนเงินภาษี 0.00 นี่คืออะไรครับ แต่ผมยื่นแล้วได้เงินภาษีคืน ก็เลยงงๆนิดหน่อย โดย นายช่างนักลงทุน ศุกร์ ก.พ. 07, 2014 9:47 pm

Re: เมื่อพูดถึง Geico ผมไม่ใช่เซียนครับ แต่ขอตอบนะครับ เมื่อพูดถึง Geico ผมนึกถึง SMK ครับ เป็นบริษัทประกันภัยรถยนต์เหมือนกัน โดย นายช่างนักลงทุน อาทิตย์ ม.ค. 26, 2014 2:57 pm

Re: ธุรกิจที่น่าสนใจ ตอนนี้กำลังคิดอยู่ว่าทำธุุกิจออนไลน์ เพราะไม่จำเป็นต้องมีสต๊อคหรือหน้าร้าน ค่าใช้จ่ายค่อนข้างน้อย และอีกอย่างทำงานประจำด้วย และกำลังดู product ที่จะขายอยู่ว่าจะขายอะไร คุณ anubist คิดว่าธุรกิจออนไลน์เป็นอย่างไรบ้างครับ โดย นายช่างนักลงทุน พฤหัสฯ. ม.ค. 23, 2014 3:29 pm

Re: Re: ถ้าได้ล้านที่ 2 แล้วมาตั้งกระทู้เล่าให้ฟังอีกนะครับ เสี่ยยักษ์เคยบอกว่า ล้านแรกเป็นล้าน 2  ช่วงนี้ยากมาก แต่จากล้าน2ไป4ล้านเริ่มง่าย จาก 4 ไป 8 ยิ่งง่ายกว่า   จะรออ่านและเชื่อว่าคุณต้องทําได้ เป็นกําลังใจให้ครับ  :D ล้านที่ 2 ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาที่ผ่านมาแล้วครับ :D ล้านที่ 2 นี้มาแล้วมาแบบมั่นคง เกินขึ้นมาเยอะกว่าที่หวังไว้ครับ ยืนยันว่า 1 ล้านบาทแรกนั้นยากที่สุดครับ ยากจริงๆ โดยเฉพาะคนที่เงินเดือนไม่กี่หมื่นอย่างผม จาก 0 เป็น 1 ล้านใช้เวลา 10 ปี ทั้งออมทั้งลงทุน แต่จาก 1 ล้านเป็น 2 ล้านนั้นแค่ปีเดียว เติมเงินเข้าไปประมาณ 2 แสน ถือว่ามาเร็วกว่าที่คิดมาก ซึ่งเดิมผมวางเป้าไว้ว่าจะต้องได้ล้านที่ 2 ภายในเวลาประมาณ 3 ปีหลังจากได้ล้านแรก แสดงว่าผมจะไปสู่ฝันได้เร็วขึ้นอีก 2 ปี :D ใน 1 ปีที่ผ่านมานั้นผมได้กำไรหลักๆจากหุ้นเพียง 2 ตัวเท่านั้น พอร์ตผมไม่หวือหวานัก หลังจากพอร์ตทะลุ 1 ล้านบาทมาได้ พอร์ตผมก็แกว่งขึ้นแก่วงลงบ้างประมาณเกือบครึ่งปี อยู่ระหว่าง 1.1 ล้าน ถึง 1.3 ล้าน และไม่เคยหลุด 1 ล้านบาทเลย หุ้นที่ผมลงทุนนั้นเป็นหุ้นเติบโต ไม่เคยติดอันดับหุ้นซื้อขายสูงสุด เลือกเองโดยเลือกธุรกิจที่มีภูมิต้านทานต่อภาวะเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงพอสมควร เน้นถือแล้วสบายใจ โดยตั้งใจว่าจะถือไปตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะมีเหตุให้ปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนอย่างรุนแรง และหวังว่าจะได้โพสต์แชร์ประสบการณ์แบบเต็มๆหลังจากได้ 8 หลักมาแล้ว :D หวังว่าจะได้ 8 หลักภายใน 5 ปี ข้างหน้าครับ :D สู้ๆๆ มาร่วมเดินทางไปสู่หลักกิโลต่อไปกัน ปักหมุดไว้และเดินทางไปสู่ 8 หลักภายใน 5 ปี ข้างหน้าด้วยคนครับ โดย นายช่างนักลงทุน เสาร์ ม.ค. 12, 2013 9:49 pm